Thai VI

[quote="Voldtrest"]



เรามีคำถามบ้างนะ...

hongvalue เขียน:

มาตอบให้โวต่อ

หลังจาก pe แล้วให้ดูพวกสภาพคล่องอะอย่างเช่น
เทียบกำไรสุทธิกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ถ้าใกล้เครียงกันหรือเงินสดมากกว่าก็โอเค

pbv ดูบ้างนะอย่างปลายปีที่แล้ว tpipl ลงไปจน
pbv 0.10 คือราคาประมาณแค่ 10% ของผู้ถือหุ้นอะ
มันก็เหมือนถูกเวอร์ไงแต่ pbv มันไม่ได้สะท้อนการทำกำไรและอนาคตบริษัทนะ

แล้วก็ดู roe ถ้า roe สูงก็ดีและสูงขึ้นเรื่อยๆนี้ยิ่งดี
ถ้าอย่าไปดูกับหุ้นวัฏจักรนะ


ดู marketcap/sale ด้วยบางทีเหมือนดูประกอบว่า
ขนาดธุรกิจเท่านี้ทำยอดขายได้เท่าไหร่แล้วดูย้อนหลัง

แล้วก็ดู ev/ebitda เพิ่มในแง่ของการดู adjust ค่าเสื่อมได้แล้วสะท้อนหนี้สินด้วย



ถ้าจะละเอียดจะไปเขียนที่ blog นะแต่คงไม่ใช่ช่วงนี้
เพราะช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่เกิน เดือนตุลาคมจะเขียนแบบละเอียดๆให้อ่านเลย

[quote="Voldtrest"]

เดาว่าเป็นคนนั้น เพราะกล้าแสดงออกกว่าคนอื่นบนโต๊ะ แววตาเชื่อมั่น
จากที่สัมผัสได้จากกระทู้

por_jai เขียน:
ฮงเองแม้ได้หล่อเหลาขนาดวิบูลย์

ประโยคนี้ขอประท้วงครับท่านนนนนนนนนนนนน


ฮา ล้อเล่นนะครับ ขำๆ

hongvalue เขียน: ประโยคนี้ขอประท้วงครับท่านนนนนนนนนนนนน


ฮา ล้อเล่นนะครับ ขำๆ

ความจริงก็คือความจริงนะฮง
มันปฏิเสธไม่ได้หรอก อิ อิ

romee เขียน:

ปล. พล่ามมาซะยาวววววว เอาเป็นว่า ถามพี่วิบูลย์ กับน้องฮงดีกว่าครับ ว่าปกติ เวลาซื้อหุ้นนะครับ ปกติซัดทีเดียวหมดไม้เลยมั้ย หรือทยอยซื้อ ?...โดยปกติ ผมมีเงินเติมเข้าพอร์ตทุกเดือน เดือนละ เกือบๆหมื่นเท่านั้นละครับ

ตอนแรกๆลงทุนใหม่ๆก็ไม้เดียวหมดเลย
เสร็จก็นั่งดูหุ้นลงต่อไปต่อหน้าต่อตา
ได้แต่ทำตาปริบๆ

หลังๆฉลาดขึ้น
เลยค่อยๆทยอยซื้อ
แต่ซื้อไม้แรกดันขึ้นแบบไม่กลับหลังหันซะนี่

แล้วแบบไหนดีกว่าละ
ทยอยซื้อน่าจะเวิร์คกว่านะ
เพราะถ้าลงก็ซื้อเพิ่มได้
ถ้าขึ้นก็ยังมีหุ้นในมือบ้าง

ของอย่างนี้มันต้องลองเองนะครับ
ถึงจะได้รสชาด

hongvalue เขียน:ผมว่าคนเล่นหุ้นนี้มันแปลกนะ แปลกมากถึงมากที่สุด
ไม่รู้มีคนเป็นแบบผมไหม ผมรู้สึกว่าทุกวันนี้ถ้าคุยกับคนอื่นแล้วไม่ได้คุยกันเรื่องหุ้นมันจะเหมือนคนละคอยังไงไม่รู้ จะมีก็ต้องเป็นแบบว่าเพื่อนเก่าสมัยมัธยมหรือหมาลัยถึงจะคุยกันรู้เรื่อง ทุกวันนี้ถ้ารู้จักหรือเจอคนใหม่ๆจะรู้สึกว่า
ถ้าไม่คุยเรื่องหุ้นก็ไม่รู้จะคุยอะไรกันจริงๆ ทำไมมันเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ก่อนมาเล่นหุ้นก็ไม่เห็นจะเป็นเลย

ทุกวันนี้พี่ไม่ได้คุยกับใครเรื่องหุ้นเลยน่ะ
ยกเว้นแต่คนที่สนิทจริงๆ

ตอนนี้คนรอบข้างพูดถึงการเล่นหุ้นเป็นเรื่องกล้วยๆ
ซื้อยังไงก็กำไร
เห็นพูดถึงได้กำไรกันง่ายๆ
แถมโบรกเริ่มปรับประมาณการไป 700-800 จุดกันแล้ว

จากประสบการณ์
พี่ว่าตลาดกำลังจะถึงยอดดอยก็เร็วๆนี้หล่ะ

por_jai เขียน:
ฮ่า...ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ
เจ้าฮงก็ว่าไป
วิบูลย์หน้าตายังกับพระเอกหนังฮ่องกง
ผมยังเคยสงสัยอยู่ว่า
คนอย่างนี้ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไรมา
ทั้งความคิดความอ่านเกินคน
เรียนสูง
ทำงานเป็นเจ้าคนนายคน
ทั้งหน้าตาดี
จิตใจงดงาม
ทั้งเป็นคนเผื่อแผ่
รักเพื่อนฝูง
เป็นหัุึวหน้าครอบครัวชั้นเลิศ
เป็นลูกที่พ่อแม่รัก วางใจ
แถมยังเล่นหุ้นเก่งอีก
อูยย...
ถ้าเทียบกับผมยังกับเทพ กับ อสูร เชียวครับ ]

สาธุ...................

por_jai เขียน: ฮงเองแม้ได้หล่อเหลาขนาดวิบูลย์
แต่ก็มีความสดใสสมวัย
เวลาอยู่ใกล้ๆเหมือนมีออร่า
เฉลียวฉลาดทันคน ช่างคิด
เล่นหุ้นเก่ง
มีเสน่ห์ไปไหนมักมีคนรักใคร่
เผื่อแผ่ ไม่เคยหวงวิชา
จิตใจดีงาม
ด้านครอบครัวผมไม่รู้จักเลย
ยังไม่อาจวิจารณ์ได้
]

 :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :lol:  :lol:  :lol:

เรื่องครอบครัวของฮง
คงมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วละครับ พี่ป้อม
เห็นตอนนี้ชอบฟังเพลงแนวรักวัยหวาน

[quote="VIB007"][

ว่าแต่ว่าการบ้านที่ให้มาผมยังไม่ได้ทำเลย อิ อิ

VIB007 เขียน:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :lol:  :lol:  :lol:

เรื่องครอบครัวของฮง
คงมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วละครับ พี่ป้อม
เห็นตอนนี้ชอบฟังเพลงแนวรักวัยหวาน

จัดให้ พรหมลิขิต ของ สุนทราภรย์

http://www.imeem.com/people/9-EMNOg/music/HI0Mc5jh//

หลังๆผมคิดว่าเพลงเก่าๆนั้นเพราะกว่าเพลงใหม่ๆมาก
เนื้อหาและทำนองที่แต่งในความนัยลึกซึ้งกินใจฟัง

ส่วนเรื่องความรักผมคิดว่าอยู่ที่ฟ้าลิขิตมากกว่าตัวเรา
ทำได้แค่ทำดีที่สุดแล้วก็ปล่อยให้โชคชะตาดำเนิน
ไปตามทางของมัน

VIB007 เขียน:
ทุกวันนี้พี่ไม่ได้คุยกับใครเรื่องหุ้นเลยน่ะ
ยกเว้นแต่คนที่สนิทจริงๆ

ตอนนี้คนรอบข้างพูดถึงการเล่นหุ้นเป็นเรื่องกล้วยๆ
ซื้อยังไงก็กำไร
เห็นพูดถึงได้กำไรกันง่ายๆ
แถมโบรกเริ่มปรับประมาณการไป 700-800 จุดกันแล้ว

จากประสบการณ์
พี่ว่าตลาดกำลังจะถึงยอดดอยก็เร็วๆนี้หล่ะ

นั้นสิ ช่วงนี้ยิ่งได้ยินคำว่า v shape บ่อยๆอยู่ด้วย
ผมว่า set ตอนนี้มีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับตอน
860-880 ที่ peak เมื่อปีที่แล้วเหมือนกันนะอย่างเช่น
volume ที่ไม่หนุนการปรับตัวขึ้นของดัชนีเท่าไหร่
แต่ที่ไม่เหมือนคือ headline cpi ไม่ได้สูงขนาดนั้น

Voldtrest เขียน:
นี่แหละ คนที่เป็นตัวของตัวเอง

เข้าเรื่องดีกว่า

คือจริงๆแล้วมีคนเล่นหุ้นเก่งๆที่ไม่เปิดเผยตัวเองเยอะนะ
แบบว่าได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเวลาคุยกับคนอื่นก็เงียบๆ
ไม่ค่อยพูดค่อยจารับฟังสิ่งที่คนอื่นคิด พอเจอคนแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าไม่รู้จะมานั่งสำแดงวิชากันทำไมอะ สมมุติว่า
ไปสำแดงวิชาแล้วชนะคนอื่นแล้วได้อะไรขึ้นมาจริงไหม
มันมีต้นทุนทางเวลาอะที่จะทำแบบนั้น ถ้าคิดกลับกันเอาเวลาตรงนั้นมานั่งศึกษาเรื่องหุ้นมากขึ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้นมันจะไม่ดีกว่าเหรอ จริงไหม สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ว่าสิ่งที่ทำมันคุ้มกับเวลาที่เสียโอกาศจะไปทำอย่างอื่นไหม ถ้าดูแล้วมันไม่ได้อะไรเท่าไหร่ก็ไม่ทำดีกว่า

การสำแดงวิชาของฮง และท่านพี่ท่านอื่น ๆ  เป็นประโยชน์อย่างมากกับพวกความรู้น้อยอย่างผมนะครับ

สำแดงวิชาต่อไปเถอะครับ ถือเป็นวิทยาทาน สร้างบุญกุศล

คุณพี่ขอร้อง

hongvalue เขียน: คือจริงๆแล้วมีคนเล่นหุ้นเก่งๆที่ไม่เปิดเผยตัวเองเยอะนะ
แบบว่าได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเวลาคุยกับคนอื่นก็เงียบๆ
ไม่ค่อยพูดค่อยจารับฟังสิ่งที่คนอื่นคิด พอเจอคนแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าไม่รู้จะมานั่งสำแดงวิชากันทำไมอะ สมมุติว่า
ไปสำแดงวิชาแล้วชนะคนอื่นแล้วได้อะไรขึ้นมาจริงไหม
มันมีต้นทุนทางเวลาอะที่จะทำแบบนั้น ถ้าคิดกลับกันเอาเวลาตรงนั้นมานั่งศึกษาเรื่องหุ้นมากขึ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้นมันจะไม่ดีกว่าเหรอ จริงไหม สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ว่าสิ่งที่ทำมันคุ้มกับเวลาที่เสียโอกาศจะไปทำอย่างอื่นไหม ถ้าดูแล้วมันไม่ได้อะไรเท่าไหร่ก็ไม่ทำดีกว่า

เรามองว่า คำว่า สำแดง ต่างกับ แสดง ตรงที่ความมั่นใจในความถูก
ต้องของข้อมูลที่ศึกษาและคิดคงเส้นคงวา   ไม่บิดเบือน เปลี่ยนไปมา ปุ๊บ ปั๊บตามความรู้สึก

 อยู่ที่เจตนาแรกเริ่มของคนพูดมากกว่า  ถ้าเจตนาเป็นเพื่อเอาชนะคนอื่นอย่างที่ฮงยกตัวอย่าง ก็เสียเวลา, ego เพิ่มอีก  ทำให้มี bias เวลา
ตัดสินใจอะไรต่อไปภายหน้า  

 การแสดง/สำแดง จะได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อมี 2 คนขึ้นไปถกกัน เพื่อมอง
หาความแตกต่างของความคิด มากกว่าหาความเหมือน  แต่หากคนนึงเงียบไปนั่งฟังอย่างเดียว (มีทั้งที่ blank จริงๆ+ไม่ชอบพูด) อีกคนที่พูดก็เบื่อเหมือนกัน..  

 เรื่องไหนที่เราพอเข้าใจ ควรสำแดงออกมาบ้าง นอกจากช่วยทบทวนตัวเองได้ (เวลาลืมก็กลับมาอ่านใหม่ได้)  ยังช่วยระบายเนื้อที่ในสมองไม่ให้อึดอัดเกินไป  จะได้รับเรื่องใหม่ๆได้ดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง  
จะว่าไปแล้ว โดยพื้นฐานของการสำแดง มีคุณมากกว่าโทษนะ  
 
ปล. กระทู้ที่ฮงช่วยตอบเรา  แต่เรายังไม่ได้ทำอะไร ขอไปอ่านเพิ่มก่อนนะ  เรา blank จริงๆ  เหมือนนักมวย ออกหมัดทั้งที จังหวะต้องได้ น้ำหนักหมัดต้องดี

zesar เขียน:การสำแดงวิชาของฮง และท่านพี่ท่านอื่น ๆ  เป็นประโยชน์อย่างมากกับพวกความรู้น้อยอย่างผมนะครับ

สำแดงวิชาต่อไปเถอะครับ ถือเป็นวิทยาทาน สร้างบุญกุศล

คุณพี่ขอร้อง

Voldtrest เขียน:


เรามองว่า คำว่า สำแดง ต่างกับ แสดง ตรงที่ความมั่นใจในความถูก
ต้องของข้อมูลที่ศึกษาและคิดคงเส้นคงวา

ฮา  ขอบคุณครับ  :lol:

กระทู้นี้เข้าใกล้ 900,000 ครั้งแล้วฮง
ล่าสุดตอนนี้ 899,562 ครั้ง
เหลืออีกแสนเดียวได้กินฟรีแล้ว... :lol:  :lol:  :lol:

แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงเป้าล้านครั้ง
มาเดากันไหม
พี่ว่าอีกสักหกเจ็ดเดือนก็ประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า 2010 อิ อิ อดทนหน่อยนะ

[quote="VIB007"]กระทู้นี้เข้าใกล้ 900,000 ครั้งแล้วฮง
ล่าสุดตอนนี้ 899,562 ครั้ง
เหลืออีกแสนเดียวได้กินฟรีแล้ว... :lol:

[quote="VIB007"][quote="VIB007"][

ว่าแต่ว่าการบ้านที่ให้มาผมยังไม่ได้ทำเลย อิ อิ

[quote="hongvalue"][quote="Voldtrest"]

เดาว่าเป็นคนนั้น เพราะกล้าแสดงออกกว่าคนอื่นบนโต๊ะ แววตาเชื่อมั่น
จากที่สัมผัสได้จากกระทู้

[quote="Voldtrest"]


ก่อนหน้านี้ นายบอกว่ารูปที่ถ่ายดูแก่กว่าตัวจริงใช่ป่ะ

คุณฮงสุดยอด เว็ปเยี่ยม น่าจะมีการเขียนเรื่องลงทุนอย่างเทพ fundflowฮงไม่ใช่ขี้ๆนะจ๊ะ  :lol:

ปล. สไตส์การลงทุนของปีเตอร์ ลินซ์เมืองไทยเป็นไงบ้างครับน่าสนใจๆ

[quote="ศิษย์เซียน007"]คุณฮงสุดยอด เว็ปเยี่ยม น่าจะมีการเขียนเรื่องลงทุนอย่างเทพ fundflowฮงไม่ใช่ขี้ๆนะจ๊ะ

ชอบพี่โจ หาเวลาลงมาหาดใหญ่สิจ้ะ น้องฮง

ถ้าจะให้พี่เค้าขึ้นกรุงเทพ พี่โจมีลูกเล็กๆทั้งนั้น อาจยากนิดนึงนะสำหรับซามูไรพ่อลูกอ่อน

krisy เขียน:ชอบพี่โจ หาเวลาลงมาหาดใหญ่สิจ้ะ น้องฮง

ถ้าจะให้พี่เค้าขึ้นกรุงเทพ พี่โจมีลูกเล็กๆทั้งนั้น อาจยากนิดนึงนะสำหรับซามูไรพ่อลูกอ่อน

ถ้าครั้งหน้ามี meeting ที่หาดใหญ่อีกพี่กบช่วยบอก หลังไมค์ด้วยนะครับ กันเหนียวครับเผื่อผมลืมเข้าไปดู

ตั้งใจว่าถ้ามีเวลาครั้งหน้าจะขอไปแอ๊บแบ๊ว (ศัพท์สมัยใหม่)นั่งฟังพี่โจ lecture ด้วยคนครับ

[quote="ศิษย์เซียน007"]
น่าจะมีการเขียนเรื่องลงทุนอย่างเทพ fundflowฮงไม่ใช่ขี้ๆนะจ๊ะ

[quote="Voldtrest"]

ถ้าเขียนเอง ก็คงจะเป็น คัมภีร์วิทยายุทธ หรือ ไม่ก็บันทึกส่วนตัว (มีใน blog อยู่แล้ว) อืม..

วันนี้เสี่ยวิบูลย์นอนดึกนะครับเที่ยงคืนกว่าแล้วยังไม่นอนเหรอครับ เห็นหน้าแรกยัง log in online อยู่เลย
มาทำไรดึกๆดื่นๆครับ
แอบมาเล่น hi 5 กับสาวหรือ

อิอิ  :lol:

ช่วงนี้นอนดึกเพราะนั่งฟังเพลงเกี่ยวกับความรักตลอดเวลาสมองแล่นได้ดี อิอิ

ขอคุยเรื่องชีวิตหน่อย

ผมดูหนังเรื่อง yes man ของ jim carry แล้วได้แง่คิดเยอะดี คือ เรื่องมีอยู่ว่าแต่เดิม carl หรือ jim carry นั้นเป็นคนที่มักจะปฏิเสธคนรอบข้างเสมออะไรๆก็พูดแต่ no no เพื่อนของ carl จะชวนไปข้างนอกก็ปฏิเสธแล้วโกหนุ่นๆนี้ๆตลอดเวลา ชีวิตขของ carl เอาแต่พูดคำว่า no no no อยู่นั้นแหละ จนวันนึงชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยนเพราะว่า
carl ได้ไปอมรมงานแห่งนึกชื่อว่า yes ซึ่งงานนี้จะให้ทุกคนต้องพูดว่า yes ตลอด พอเริ่มงานวิทยากรถามว่ามีใครเป็นคนใหม่บ้าง เพื่อนของ carl ก็ชี้ไปที่เขาแล้ว carl ก็ได้คุยกับวิทยากรตัวต่อตัวซึ่งวิทยกรบอกว่า ต้อง carl พูดแต่คำว่า yes ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

หลังจากจบงานอบรม carl ก็ say yes กับทุกอย่างในชีวิตของเขาซึ่งทำให้เขาได้พบกับคนรักของเขาชื่อ allisa
แล้วเรื่องก็จบอย่าง happy ending
ดูจบแล้วก็แอบมีไฟว่าจริงๆแล้วถ้าคนเรา say yes แล้วมองโลกในแง่ดีคนเราจะก้าวหน้าได้มากจริงๆมันก็ดีกว่า
นั่งจับเจ่าอยู่กับบ้านจริงๆนั้นแหละ

ผมมีความเชื่อว่าชีวิตของเราเราลิขิตเองไม่ใช่ใครหน้าไหนทั้งนั้นมาลิขิต ใครจะบอกว่าคุณห่วย คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จ ไม่มีผลหรอกถ้าใจคุณสู้และเชื่อว่าคุณทำได้ ผมเชื่อของผมแบบนี้

hong เขียน:ผมไม่อยากเป็นเหมือนบางคนอะ เก่งมากแต่ไม่เคยเปิดเผยตัวเพราะโจทย์เยอะเนื่องจากไปปั่นหุ้นชาวบ้านเอาไว้ เยอะ รู้อะไรก็เก็บไว้คนเดียวไม่มีเพื่อนฝูง ชีวิตแบบนั้น
สำหรับผมมันไม่ถือว่าประสบความสำเร็จอะ

นกไร้ขน คนไร้เพื่อน
มิอาจขึ้นสู่ที่สูงได้