หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 10:17 pm
คาดการณ์ผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมประกันภัยที่จะถึงนี้ครับ
http://www.iprbthai.org/new/news/news.aspx?newsID=11172
เชื่อประกันปิดหีบ 3 กำไรพุ่ง อานิสงส์ลูกค้าแห่ใช้บริการ
นายสุพชัย เปียแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (KPI) เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีเบี้ยรับประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ คาดว่าถึงสิ้นปีนี้ไม่น่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากปรับสินค้า และช่องทางจำหน่ายให้เหมาะสมกันอยู่เพื่อรักษายอดขายและตำแหน่งทางการตลาด
อย่างไรก็ดี แม้เบี้ยจะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่กำไรดี คาดว่าถึงสิ้นปีกำไรน่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 300 ล้านบาทเศษ เนื่องจากกำไรจากการรับประกันภัยและการลงทุนดีเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นกำไรเป็นหลัก โดย 8 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรประมาณ 110 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีเงินลงทุนรวมประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ขณะที่มีเงินกองทุนมากถึง 3,400 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายสูงถึง 680% เมื่อดูจากเบี้ยรับและศักยภาพของเงินกองทุนที่มีอยู่ยังไม่สอดคล้องกันน่าจะมีเบี้ยมากกว่านี้ พยายามจะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ เพิ่มยอดขายอยู่ แต่ต้องดูเกณฑ์ดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้าด้วย
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2553 ประมาณ 9,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 59.86% แยกเป็นธุรกิจประกันชีวิตจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 6,588 ล้านบาท และธุรกิจประกันวินาศภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 2,933 ล้านบาทสำหรับผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากที่คาดว่าไตรมาส 3 นี้ธุรกิจประกันภัยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 13.68% หรือมีเบี้ยรับรวมประมาณ 1.06 แสนล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตประมาณ 7.67 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 14.46% และเป็นเบี้ยประกันวินาศภัยประมาณ 2.99 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 11.74% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องต่อจากไตรมาส 2
ดังนั้น รวม 9 เดือนแรกของปี 2553 คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.03 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12.05% เป็นกำไรจากธุรกิจประกันชีวิตประมาณ 15,324 ล้านบาท และเป็นกำไรจากธุรกิจประกันวินาศภัยประมาณ 5,069 ล้านบาท
ด้านสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันภัย คาดว่าจะมีประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.61% มีเงินสำรองประกันภัยประมาณ 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.01% มีสินทรัพย์ลงทุนประมาณ 1.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.10% คิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อเงินสำรองประมาณ 126% สูงกว่ายอด ณ เดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 124.77% และคิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อสินทรัพย์ รวมประมาณ 94.62% สูงกว่าเดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 92.94%
www.banmuang.co.th
http://www.iprbthai.org/new/news/news.aspx?newsID=11172
เชื่อประกันปิดหีบ 3 กำไรพุ่ง อานิสงส์ลูกค้าแห่ใช้บริการ
นายสุพชัย เปียแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (KPI) เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีเบี้ยรับประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ คาดว่าถึงสิ้นปีนี้ไม่น่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากปรับสินค้า และช่องทางจำหน่ายให้เหมาะสมกันอยู่เพื่อรักษายอดขายและตำแหน่งทางการตลาด
อย่างไรก็ดี แม้เบี้ยจะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่กำไรดี คาดว่าถึงสิ้นปีกำไรน่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 300 ล้านบาทเศษ เนื่องจากกำไรจากการรับประกันภัยและการลงทุนดีเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นกำไรเป็นหลัก โดย 8 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรประมาณ 110 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีเงินลงทุนรวมประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ขณะที่มีเงินกองทุนมากถึง 3,400 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายสูงถึง 680% เมื่อดูจากเบี้ยรับและศักยภาพของเงินกองทุนที่มีอยู่ยังไม่สอดคล้องกันน่าจะมีเบี้ยมากกว่านี้ พยายามจะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ เพิ่มยอดขายอยู่ แต่ต้องดูเกณฑ์ดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้าด้วย
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2553 ประมาณ 9,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 59.86% แยกเป็นธุรกิจประกันชีวิตจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 6,588 ล้านบาท และธุรกิจประกันวินาศภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 2,933 ล้านบาทสำหรับผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากที่คาดว่าไตรมาส 3 นี้ธุรกิจประกันภัยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 13.68% หรือมีเบี้ยรับรวมประมาณ 1.06 แสนล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตประมาณ 7.67 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 14.46% และเป็นเบี้ยประกันวินาศภัยประมาณ 2.99 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 11.74% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องต่อจากไตรมาส 2
ดังนั้น รวม 9 เดือนแรกของปี 2553 คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.03 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12.05% เป็นกำไรจากธุรกิจประกันชีวิตประมาณ 15,324 ล้านบาท และเป็นกำไรจากธุรกิจประกันวินาศภัยประมาณ 5,069 ล้านบาท
ด้านสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันภัย คาดว่าจะมีประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.61% มีเงินสำรองประกันภัยประมาณ 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.01% มีสินทรัพย์ลงทุนประมาณ 1.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.10% คิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อเงินสำรองประมาณ 126% สูงกว่ายอด ณ เดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 124.77% และคิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อสินทรัพย์ รวมประมาณ 94.62% สูงกว่าเดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 92.94%
www.banmuang.co.th