หน้า 117 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 6:06 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:พูดถึงเรื่อง short หุ้น
พี่ก็ศึกษาอยู่
และลองทำมาหลายที
ก็ได้ประสบการณ์แต่ไม่ค่อยได้ตังค์
ส่วนใหญ่จะเท่าทุนหรือกำไรเล็กน้อย

แต่ของพี่จะเป็น Fundamental Short
ถ้าหุ้นมัน overvalue ถึงจะ Short
เคย short หุ้นตัวหนึ่งที่ราคา 40 บาทดัชนี 490 จุดเมื่อปลายเดือนเมษายน
มันพุ่งต่อไปที่ 60 บาท ดัชนีลากกันไป 630 จุด
แต่ไม่ได้ Cover เพราะอยากลองของ
ผ่านไปสองเดือน ราคาหุ้นกลับมาที่ 40 บาทดัชนีอยู่ที่ 570 จุด
รอบนี้ได้ความรู้เยอะ
และเป็นการทดสอบจิตใจอย่างมาก
และเพิ่งเริ่ม Cover กลับ

ถ้าตกใจ Cover กลับตอนเพื่อนกำลังลากหุ้นไปหกสิบ
คงขาดทุนน่วมเลย
แต่สุดท้ายก็เท่าทุน
และกำไรนิดหน่อยที่ short เพิ่มไปอีกที่ 60 บาท

งานนี้ได้ความรู้และประสบการณ์เยอะมาก
ใครใจไม่ถึงและวิเคราะห์ธุรกิจไม่เป็น
อย่าลองดีกว่า
แล้วจะหาว่าไม่เตือน
ถ้าให้เดาหุ้นที่ว่าน่าจะเป็น pttch


ผม short หุ้นจะดูว่า fundflow จะไหลออก

แล้วดูว่าภาพใหญ่เป็น theme ไหนแล้วเลือก short

กลุ่มที่เสียประโยชน์

ทำแบบนี้ก็ยังไม่ได้กำไรอยู่ดี

เพราะผิดจังหวะรอจนมันลงติดกันหลายวันเกิน

แล้วพอมันเด้งก็ตกใจรีบ cutloss



รอบหน้าเอาใหม่


ว่าแต่ short pttch มีเหตุผลทางพื้นฐาน support ยังไงบ้างครับ

และทำไมถึงปล่อยให้ขาดทุนตั้ง 50% เลยล่ะครับ



จะรอฟังครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 10:24 pm
โดย Linzhi
แหะ ๆ ขอแจมเฉพาะเรื่อง short แล้วกันครับ

แนว VI ผมว่า short หุ้นแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ถูกฝึกเรื่องจิตวิทยาหรือวินัยการลงทุนด้วยล่ะก็
เพราะอย่างมากก็ได้ผลตอบแทน 10-20% เอาแบบสุด ๆ เลย ก็ไม่เกิน 50% แบบตลาดผันผวนอย่างนี้

แต่โอกาสที่จะสูญเสียหุ้นหลายเด้งไปตลอดกาลมีสูง เพราะคนเราไม่กล้าซื้อหุ้นกลับ

มันเป็นกลไกพื้นฐานของสมอง คือการกลัวความพ่ายแพ้

ยกตัวอย่างถ้าราคามันเกินตรงที่เรา short ไปนิดเดียว เช่น short ที่ 40
ราคาวิ่งไป 10% = 44 โอกาสที่จะซื้อกลับนั้นยาก และถ้าวิ่งต่อ โอกาสซื้อกลับจะลดลงอีก

เพราะคนเรากลัวโง่ หรือกลัวความพ่ายแพ้ (ที่ตัวเองคิดผิด)

มันเป็นอารมณ์เดียวกับ ถ้าเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่เต็ม แต่หุ้นนั้นลงไปนิดเดียว เช่นลงไปเหลือ 36 คนกลับมีแนวโน้มถือต่อ และไม่ขายตัดขาดทุน

เพราะกลัวโง่เหมือนกัน

แต่ทางนี้กลับดีกว่า เพราะถ้าวิเคราะห์ดีว่าระยะยาวหุ้นนั้นมีพื้นฐานดี
ความกลัวตรงนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจนั้น ๆ เลย เพราะราคาหุ้นจะกลับมาในที่สุด

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 10:52 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:

ผม short หุ้นจะดูว่า fundflow จะไหลออก

แล้วดูว่าภาพใหญ่เป็น theme ไหนแล้วเลือก short

กลุ่มที่เสียประโยชน์

ทำแบบนี้ก็ยังไม่ได้กำไรอยู่ดี

เพราะผิดจังหวะรอจนมันลงติดกันหลายวันเกิน

แล้วพอมันเด้งก็ตกใจรีบ cutloss



รอบหน้าเอาใหม่


ว่าแต่ short pttch มีเหตุผลทางพื้นฐาน support ยังไงบ้างครับ

และทำไมถึงปล่อยให้ขาดทุนตั้ง 50% เลยล่ะครับ



จะรอฟังครับ
พอดีร้อนวิชา
เพิ่งไปศึกษาเกี่ยวกับการShortหุ้นมา
เลยเอามาลองดู
แต่ทำมาสักระยะหนึ่งแล้วหละ

ในตำราบอกว่าพวก Short Seller
ต้องเป็นพวกที่มั่นใจในตัวเองมาก
ขณะเดียวกันต้องละลายอีโก้ตัวเองได้ด้วย
หมายความว่า
คนส่วนใหญ่เวลา Short แล้วหุ้นกลับขึ้น
มักทำอะไรไม่ถูกและต้องรีบซื้อCoverหุ้นคืน
เพราะกลัวขาดทุนมาก
อย่างที่เกิดกับฮงนั่นหละ

แต่สำหรับพวกนักShort มืออาชีพแล้ว
จะรอคอยอย่างอดทนถึงแม้ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น
เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์ของตนเอง
มีตัวอย่างมากมายในตลาดต่างประเทศ
ที่บริษัทที่ถูกShort แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เพราะตลาดกำลังมาแรง
และข่าวต่างๆผลักดันราคาหุ้นให้ขึ้นตามกระแส

แต่สุดท้ายบริษัทนั้นก็แทบจะล้มละลาย
เพราะพื้นฐานกิจการมันกำลังแย่
ราคาหุ้นก็ลดลงจนคนที่อึดเท่านั้นถึงจะทำกำไรได้
ส่วนพวกไก่อ่อน(ไม่ได้ว่าฮงนะ)ก็ต้องจ่ายค่าวิชากันไป

ส่วนที่บอกว่าต้องละลายอีโก้นั้น
เพราะถ้าพบว่าตัวเองคิดผิด
ต้องรีบ"มอบตัว"ทันที
เพราะการShort หุ้นได้กำไรสูงสุดแต่ร้อยเปอร์เซนต์
(เมื่อหุ้นเหลือศูนย์หรือบริษัทล้มละลาย)
แต่การขาดทุนมันไม่จำกัด
เพราะราคาหุ้นขึ้นไปเท่าไหร่ก็ได้

นี่ยังไม่ได้พูดถึงการShort Future
ที่ต้องวางเงินกันวันต่อวันเลยทีเดียว
ถ้าShort ผิดทาง

ส่วนเคศที่เพิ่งทดลองทำShort ไป
ไม่ได้ขาดทุนนะ ตอนนี้ก็ได้กำไร
ที่ฮงถามว่าทำไมปล่อยให้ขาดทุน(ทางบัญชี)ตั้ง 50%
ก็เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์
และตัวอย่างในเมืองนอกก็มีมากมาย

จากการประเมินราคาหุ้นพื้นฐานได้ประมาณ 35-40 บาท
ราคาที่เกินกว่านี้คือโอเวอร์แวลู
ปรากฏว่าพอShort ไปแล้ว
ผู้บริหารดันออกข่าวจะมีการควบรวม
ราคาหุ้นเลยขึ้นไปเรื่อยๆ
รวมทั้งตลาดเป็นกระทิงดุอีกด้วย
จนราคาขึ้นไปกว่า 60 บาท

จากการวิเคราะห์อีกเหมือนกัน
การควบรวมไม่ได้เป็นผลดีต่อบริษัทนี้สักนิด
เพราะต้นทุนการดำเนินงานจะสูงขึ้น
จากวัตถุดิบจากแก๊สจะเปลี่ยนเป็นแนฟทามากขึ้น
แต่ตลาดไม่สนใจ ราคาหุ้นก็เลยขึ้นเอาๆ

สุดท้ายสูงสุดคืนสู่สามัญ
ราคาหุ้นก็กลับมาที่พื้นฐานเดิม
คนที่อึดเท่านั้นถึงจะได้กำไรในธุรกิจการShort หุ้น
ตำราบอกไว้อย่างนั้นนะ
ซึ่งตรงตามตำราบอก
เราไม่ลองก็ไม่รู้

รอบนี้ได้ประสบการณ์มาอีกเพียบ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 11:00 pm
โดย VIB007
Linzhi เขียน:แหะ ๆ ขอแจมเฉพาะเรื่อง short แล้วกันครับ

แนว VI ผมว่า short หุ้นแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ถูกฝึกเรื่องจิตวิทยาหรือวินัยการลงทุนด้วยล่ะก็
เพราะอย่างมากก็ได้ผลตอบแทน 10-20% เอาแบบสุด ๆ เลย ก็ไม่เกิน 50% แบบตลาดผันผวนอย่างนี้

แต่โอกาสที่จะสูญเสียหุ้นหลายเด้งไปตลอดกาลมีสูง เพราะคนเราไม่กล้าซื้อหุ้นกลับ

แต่ทางนี้กลับดีกว่า เพราะถ้าวิเคราะห์ดีว่าระยะยาวหุ้นนั้นมีพื้นฐานดี
ความกลัวตรงนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจนั้น ๆ เลย เพราะราคาหุ้นจะกลับมาในที่สุด
อย่างที่บอก
การShort หุ้นได้กำไรสูงสุดแค่ร้อยเปอร์เซนต์
(เมื่อหุ้นเหลือศูนย์หรือบริษัทล้มละลาย)
แต่การขาดทุนมันไม่จำกัด
เพราะราคาหุ้นขึ้นไปเท่าไหร่ก็ได้

มีข่าวนักธุรกิจหมื่นล้านชาวเยอรมันฆ่าตัวตาย
โดยกระโดดให้รถไฟทับเมื่อปลายปีที่แล้ว
สาเหตุมาจากการShort หุ้นบริษัทโฟล์คสวาเกนไว้
เพราะคิดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังแย่
แต่ปรากฏว่าบริษัทปอร์ชดันมาตีท้ายครัว
เข้ามาเก็บหุ้นเพื่อเทคโอเวอร์
ทำให้ราคาหุ้นพุ่งพรวด
นักธุรกิจรายนี้ต้องขาดทุนจากการShortมหาศาล
เลยฆ่าตัวตาย

ถ้าไม่แน่ใจ ไม่มีความรู้จริง
อย่าเล่นกับShortเลย
มันเสี่ยงเกินไป

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:19 am
โดย hongvalue
คุยแล้วชักมันนะครับ เพราะหลังๆพี่วิบูลย์พิมพ์ยาวๆทั้งนั้นเลย แล้วก็ใช้คำพูดให้เกียรติผู้สนทนาดีด้วย
คุยแล้ว happy ดีครับ
VIB007 เขียน: ส่วนพวกไก่อ่อน(ไม่ได้ว่าฮงนะ)ก็ต้องจ่ายค่าวิชากันไป

5555

พูดได้ครับ ไม่เป็นไร

หลังๆผมอ่านหนังสือธรรมะแล้วปลงกับชึวิตหลายอย่าง

ตะก่อนเวลามีคนเห็นไม่ตรงกันก็จะรู้สึกว่าเราจะอยากออกมาชนกับเขา

แต่พอทำๆไปแล้วรู้สึกว่า มันไม่เห็นได้อะไรขึ้นมาเลย

พยายามฝึกให้ตัวเองเป็นคนใจเย็น และควบคุมอารมณ์ครับ

แซวกันได้นะครับ

เพราะว่าผมก็ไก่อ่อนสำหรับสนาม short หุ้นจริงๆนั้นแหละ




VIB007 เขียน:

แต่สำหรับพวกนักShort มืออาชีพแล้ว
จะรอคอยอย่างอดทนถึงแม้ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น
เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์ของตนเอง
มีตัวอย่างมากมายในตลาดต่างประเทศ
ที่บริษัทที่ถูกShort แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เพราะตลาดกำลังมาแรง
และข่าวต่างๆผลักดันราคาหุ้นให้ขึ้นตามกระแส
ผมว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์ครับ

ผมว่า vi มีสายเลือดของการเป็น contrarian อยู่สูงครับ

ผมเคยคุยกับ vi หลายๆคน พวกเขากล้าซื้อหุ้นตอนตัวแดง

ยิ่งแดงเขายิ่งชอบ

ผมบอกผมไม่เอาเลยตัวแดง

ผมซื้อตอนตัวเขียว ขายตอนตัวแดง

ถ้าหุ้นเป็นขาขึ้น 100% วันแรกที่ขึ้นแรง 10% เราซื้อไป

แล้วรอขายวันที่ลงแรงวันแรก ยังได้กำไร 70-80% ได้เลย

ใครเล่นหุ้นโรงกลั่นรอบที่ผ่าน

ซื้อวันที่บวกแรงๆวันแรกแล้วมารอขายวันลงแรงวันแรก

ได้กำไรเยอะมากครับ ผมก็ใช้สูตรนี้ขายหุ้นครับ

(ซื้อแล้วถือหลายเดือนนะ)

ผมมีแนวคิดของนักเล่นแบบ momentum play อยู่ในสายเลือดครับ

ฉะนั้นหุ้นแดงผมไม่เล่นครับ

VIB007 เขียน:ส่วนเคศที่เพิ่งทดลองทำShort ไป
ไม่ได้ขาดทุนนะ ตอนนี้ก็ได้กำไร
ที่ฮงถามว่าทำไมปล่อยให้ขาดทุน(ทางบัญชี)ตั้ง 50%
ก็เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์
และตัวอย่างในเมืองนอกก็มีมากมาย

อันนี้ก็คนละปรัชญากับผมครับ

(ชาว vi อย่าเพิ่งรุมยำผมนะครับที่ผมมีความเห็นไม่ตรงกับความเชื่อของท่าน แต่ผมขี้เกียจ fake ว่าตัวเองมีหลักการแบบเดียวกับที่คนส่วนใหญ่เชื่อกันน่ะ เพื่อจะได้กลมกลืนเข้ากับคนอื่น ถ้าแบบนั้นอย่าโพสเลยดีกว่า)



ปรัชญา vi บอกว่าใช้ประโยชน์จากนายตลาดใช่ไหมครับ

ผมเห็นด้วยครับ

แต่ vi ชอบบอกว่าตลาดมันจะผิด

แต่ผมไม่เห็นด้วย(ครึ่งเดียว)เพราะผมเห็นว่า

market alway right

อย่างเช่น ตอนเกิดวิกฤติใหม่ๆq3 ปีที่แล้ว ทำไมใครๆก็คิดว่าโอกาศซื้อหุ้น โอกาศทอง
ปรากฏยิ่งซื้อยิ่งลง แล้วสุดท้ายเดือนตุลาลงแรง

แล้ว สุดท้าย gdp ก็ออกมาติดลบ

ถามว่านายตลาดถูกไหมครับ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดจริงไหมครับ

แต่คนส่วนใหญ่เลือกหลอกตัวเองแล้วบอกว่า

นายตลาดไม่มีเหตุผล

แล้ว late q1 เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นแต่หุ้น bottom ไปแล้ว

และเริ่มเป็นขาขึ้นตอนต้น q2

แล้วตัวเลขเศรษฐกิจ q2 ก็ค่อยๆดีขึ้น

สรุป นายตลาดโง่หรือเปล่าครับ

100 คน ชนะนายตลาดกี่คนครับ

ถึง 10 หรือเปล่า



ปรัชญาของผมเป็นการผสมระหว่าง

นายตลาดมักจะอารมณ์ไม่ดีและนายตลาดถูกเสมอ

ซึ่งมันขัดกันเองครับ


พูดแล้วฮา


แต่ผมเชื่อว่านายตลาดถูกเสมอมากกว่าครับ


vi หลายคนอ่านแล้วคง anti


ก็อย่าเก็บไปเป็นอารมณ์ครับ

เดี่ยวจะเป็นโรคเส้นเลือดในสมองระเบิดซะเปล่าๆครับ

VIB007 เขียน:
สุดท้ายสูงสุดคืนสู่สามัญ
ราคาหุ้นก็กลับมาที่พื้นฐานเดิม
คนที่อึดเท่านั้นถึงจะได้กำไรในธุรกิจการShort หุ้น
ตำราบอกไว้อย่างนั้นนะ
ซึ่งตรงตามตำราบอก
เราไม่ลองก็ไม่รู้

รอบนี้ได้ประสบการณ์มาอีกเพียบ

ดูแล้วเป็นการ short ที่เหมาะกับปรัชญาของ vi จริงๆครับ

ทั้งอึด ทั้งเน้นพื้นฐาน ทั้งอย่าตามนายตลาด

แต่ก็อย่างที่บอกปรัชญาของผมตรงข้ามหมดเลย

ดู momentum ว่าเป็นยังไง และเลือกตัวที่พื้นฐานแย่ในการ short

แต่ผมคิดวิธี short ที่ดีกว่าเดิมได้แล้วล่ะครับ

ถ้าผมต้องเสียค่าโง่ ผมจะไม่ยอมเสียค่าโง่ในรูปแบบเดิมๆแน่นอน

จะเป็นยังไงก็ลองติดตามกันไปก่อนครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:21 am
โดย hongvalue
Linzhi เขียน:แหะ ๆ ขอแจมเฉพาะเรื่อง short แล้วกันครับ

แนว VI ผมว่า short หุ้นแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ถูกฝึกเรื่องจิตวิทยาหรือวินัยการลงทุนด้วยล่ะก็
เพราะอย่างมากก็ได้ผลตอบแทน 10-20% เอาแบบสุด ๆ เลย ก็ไม่เกิน 50% แบบตลาดผันผวนอย่างนี้

แต่โอกาสที่จะสูญเสียหุ้นหลายเด้งไปตลอดกาลมีสูง เพราะคนเราไม่กล้าซื้อหุ้นกลับ

มันเป็นกลไกพื้นฐานของสมอง คือการกลัวความพ่ายแพ้

ยกตัวอย่างถ้าราคามันเกินตรงที่เรา short ไปนิดเดียว เช่น short ที่ 40
ราคาวิ่งไป 10% = 44 โอกาสที่จะซื้อกลับนั้นยาก และถ้าวิ่งต่อ โอกาสซื้อกลับจะลดลงอีก

เพราะคนเรากลัวโง่ หรือกลัวความพ่ายแพ้ (ที่ตัวเองคิดผิด)

มันเป็นอารมณ์เดียวกับ ถ้าเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่เต็ม แต่หุ้นนั้นลงไปนิดเดียว เช่นลงไปเหลือ 36 คนกลับมีแนวโน้มถือต่อ และไม่ขายตัดขาดทุน

เพราะกลัวโง่เหมือนกัน

แต่ทางนี้กลับดีกว่า เพราะถ้าวิเคราะห์ดีว่าระยะยาวหุ้นนั้นมีพื้นฐานดี
ความกลัวตรงนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจนั้น ๆ เลย เพราะราคาหุ้นจะกลับมาในที่สุด

ดีครับ ช่วยๆกันแชร์ประสบการณ์ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:37 am
โดย hongvalue
ว่าแต่พี่วิบูลย์ก็เป็น vi ที่แปลกดีนะครับ

เพราะทำอะไรนอกกรอบที่ vi ส่วนใหญ่ทำด้วย

ถึง concept และปรัชญาจะไม่เหมือนกัน

แต่ก็เป็นการเล่น short ที่มีข้อมูลพื้นฐาน

และมีจิตใจนักแน่น

สมเป็นการเล่น short ของ vi ตัวจริง



แต่ผมว่าการที่พี่บอกว่าคนที่ไม่ได้ทำแบบที่พี่ทำ

เป็นไก่อ่อน(ไม่ได้โกรธอะไรนะ)

ก็ไม่ถูกนะครับ

มันเหมือนกับเราคิดว่าถ้าสิ่งที่เราทำได้เงิน

คนที่ทำไม่เหมือนเรา มันอ่อนกว่า

แต่ถ้าเราได้คุยกับคนในตลาดหุ้นหลายแนว

คนที่มีปรัชญาไม่เหมือนเรา

และวิธีการไม่เหมือนเรา

ก็ได้ตังค์กันเยอะแยะไม่แพ้เรา

เราอ่านบทสัมภาษเสี่ยยักษ์บอกว่าดู volume

ดูกราฟ ดูจิตวิทยาตลาด

เขาอาจไม่ได้มานั่งแกะบัญชีแบบ vi

ไม่ได้ศึกษา economic อย่าง fundflow

แต่เขารวยเป็นพันล้าน

เราจะบอกว่าเขาเป็นไก่อ่อนเลยดีหรือไม่

ถ้าเขาไม่คิดเหมือนเรา และวิธีคิดของเขาอาจจะขาดทุน

ในขณะที่เรากำไร ในบางสถานการณ์ของตลาด


ถนนแห่งการทำกำไร มีทางมุ่งหน้าไปทางเดียวกระนั้นหรือ?

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 8:52 am
โดย hongvalue
ผมอ่านบทความพี่แล้วนะ

คำเตือนของ greenspan

พี่วิบูลย์ก็ติดตามข้อมูลมหภาคเยอะเลยนี้ครับ

แหม มีทีเด็ดซ่อนเอาไว้เยอะจังเลย

ทั้งวิธี short หุ้นเอย

แนวคิดมหภาคเอย

ข้อมูลเชิงสถิติเอย



วันนี้ผมต้องให้พี่ปล่อยทีเด็ดที่ซ่อนเอาไว้ออกมาบ้างแล้วล่ะครับ

เอ้า ใครอยากให้คุณวิบูลย์ปล่อยทีเด็ดออกมาเยอะๆบ้าง

ขอเสียงหน่อย  :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 9:05 am
โดย hongvalue
มีคำถามมาถามพี่วิบูลย์ครับ

ช่วยตอบตามความเป็นจริงหน่อยนะครับ

อยากทำวิจัยน่ะครับ



1.พี่คิดว่าจุดแข็งของตัวพี่ในการลงทุนคือเรื่องอะไร

โดยมีทั้งหมด 4 ข้อดังนี้ครับ

ช่วยเรียงจากที่พี่คิดว่าสำคัญมากไปน้อยพร้อมเหตุผลให้ดูหน่อยครับ

(พี่ต้องให้ความร่วมมือกับผมนะ เพราะผมทำเพื่อช่วยพี่ปั้นกระทู้ให้มีคนอ่านถึง ล้านครั้งนะครับ)

1. มีการควบคุมอารมณ์ที่ดี  

2.ลงทุนในอุตสาหกรรมที่ตัวเองเข้าถึงข้อมูลได้ลึกกว่าผู้อื่น

3.ประสบการณ์ลงทุนเยอะกว่าผู้อื่น

4.มีความรู้และหลักการลงทุนในด้าน vi อย่างลึกซึ่งผมศึกษามานาน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 10:11 am
โดย smith_sanguan
VIB007 เขียน: อ้าว ไหนบอกจะมาช่วยปั่น(กระทู้)

ไหนๆก็มาแล้วคุณสมิทธ (เห็นน้องๆเรียกกัน)
ช่วยทำงานหน่อยแล้วกัน

ถามว่า
ในมุมมองของเทคนิค
มองตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างไร
ช่วงไหนเรียกสั้น กลาง ยาวให้คิดเอาเองเลยไม่ได้จำกัดเวลา

รอฟังอยู่
เทคนิค คือ timing ถ้ามหภาค ไม่ดี คือ ขาลง timing ก็ยากที่จะลงทุน เล่น ช็อตได้ แต่ก็ไม่ทำให้รวย เล่นให้รวยต้องเล่น ขาขึ้นครับ

ส่วนตัวคิดว่า จุดต่ำสุด ผ่านไปแล้วครับ ไม่ได้เห็นโลเดิมครับ

ระยะสั้น ตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ถึง 1 เดือนครับ ตอนนี้ บอกว่า ผันผวนครับ ที่บอกจะลงไป 550 530 จริงครับ แต่ที่ผมเอ๋ใจและไม่มั่นใจ fund Flow ยังไม่หมด ครับ ถ้า ฟันโฟ มา จะสวืงขึ้นทำนิวไฮใหม่ครับ ต้องรอดู 70% ลง แต่ไม่ปักใจเชื่อครับ

ระยะกลาง 1 เดือน ถึง 1 ปี พักฐานครับ

ระยะยาว 1 ปี ขึ้นไป พักฐาน จะเป็นขาขึ้นครับ ผมรออยู่ครับ จะเล่นเอารวยครับ

เล่นก็ต่อเมื่อ มีบวก ระดับ สี่สิบจุดขึ้นครับ รอบที่ผ่านมา ผมได้กำไร พอๆ กับตลาด แต่เวลาลง ผมจะไม่ติดหุ้นครับ ขาลงที่ผ่านผมก็ไม่ติดครับ

ทุกสิ่งทุกอย่าง คือ สิ่งไม่เที่ยง อย่าเชื่อมั่นกับตัวเองมากจนเกินไปครับ ขอแค่นี้ครับ โดยมากในนี้ จะไม่ค่อยเชื่อเทคนิค ผมโดนอัดบ่อย ผมก็เลือกเงียบดีกว่า แต่ที่ผมเห็นว่า vi ส่วนมากขาด คือ การปรับเปลี่ยนตามสภาวะแวดล้อม คือ ชอบยึดติด กับอดีตมากเกินไป แต่ จริงๆ Finance โดยมาก ต้องคาดการณ์ ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่ใช้ดูแค่งบดุล ต้องดูได้หมดครับ

ผมเรียนจบ finance specialist (CPI) ครับ จริงๆ Technical Analysis เป็นบทนึงที่ถูกสอนด้วยครับ คนเชื่อเรื่อง CML เบต้า แกมม่า กับ theory มากมาย จริง มัน ก็ คือ สถิติ technical analysis ก็คือ สถิติ เหมือนกันแต่ไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ต้องรู้ครับ แต่ส่วนมากจะเลือกไม่สนใจเลย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:55 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:ว่าแต่พี่วิบูลย์ก็เป็น vi ที่แปลกดีนะครับ

เพราะทำอะไรนอกกรอบที่ vi ส่วนใหญ่ทำด้วย

ถึง concept และปรัชญาจะไม่เหมือนกัน

แต่ก็เป็นการเล่น short ที่มีข้อมูลพื้นฐาน

และมีจิตใจนักแน่น

สมเป็นการเล่น short ของ vi ตัวจริง
นี่เขาเรียกลูบหลังแล้วตบหัว  ฮา
ชมก่อนแล้วค่อยติ

การshort แบบนี้ทำมากไม่ดี
ใครไม่แข็งแรง ไม่แนะนำ
เพราะหัวใจจะวายเอา


hongvalue เขียน:แต่ผมว่าการที่พี่บอกว่าคนที่ไม่ได้ทำแบบที่พี่ทำ

เป็นไก่อ่อน(ไม่ได้โกรธอะไรนะ)

ก็ไม่ถูกนะครับ

มันเหมือนกับเราคิดว่าถ้าสิ่งที่เราทำได้เงิน

คนที่ทำไม่เหมือนเรา มันอ่อนกว่า

แต่ถ้าเราได้คุยกับคนในตลาดหุ้นหลายแนว

คนที่มีปรัชญาไม่เหมือนเรา

และวิธีการไม่เหมือนเรา

ก็ได้ตังค์กันเยอะแยะไม่แพ้เรา

เราอ่านบทสัมภาษเสี่ยยักษ์บอกว่าดู volume

ดูกราฟ ดูจิตวิทยาตลาด

เขาอาจไม่ได้มานั่งแกะบัญชีแบบ vi

ไม่ได้ศึกษา economic อย่าง fundflow

แต่เขารวยเป็นพันล้าน

เราจะบอกว่าเขาเป็นไก่อ่อนเลยดีหรือไม่

ถ้าเขาไม่คิดเหมือนเรา และวิธีคิดของเขาอาจจะขาดทุน

ในขณะที่เรากำไร ในบางสถานการณ์ของตลาด


ถนนแห่งการทำกำไร มีทางมุ่งหน้าไปทางเดียวกระนั้นหรือ?
พูดถึงเรื่อง"ไก่อ่อน"
พี่ว่าฮงคงเข้าใจผิด
พี่ไม่ได้หมายความว่าใครทำไม่เหมือนเราแล้วจะผิดนะ

ในเวปก็อย่างนี้หละ
เขียนอะไร
คนตีความกันไปร้อยแปด

พี่ไม่เคยคิดว่าคนอื่นทำไม่เหมือนเรา
แล้วจะไม่ใช่วิธีที่ถูก
พี่พูดเสมอ
แมวสีอะไรก็จับหนูได้

ในตลาดหุ้นไม่มีวิธีที่ถูกหรือผิด
มีแต่วิธีไหนที่เหมาะกับเรามากกว่า

ยกตัวอย่างเสี่ยยักษ์
ก็มีคนที่เหนือกว่าเสี่ยยักษ์อยู่ดี
เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า
ดังนั้นใครใช้วิธีอะไรเหมาะ
ก็ใช้วิธีนั้นเถอะ
อย่าไปคิดว่าใครไม่เหมือนเราแล้ว"ผิด"
ไม่เคยมีในหัวเลยนะ

ส่วนที่ว่าไ่ก่อ่อน
หมายถึงคนที่เริ่มshort หุ้นใหม่ๆ
พอshort ไปแล้วหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
ต้องตาหลีตาเหลือก cover short กลับ
เพราะความกลัว
นั่นหมายถึงแค่นั้นจริงๆ
สุดท้ายก็มองหุ้นนั้นล้มละลายไปต่อหน้า
พี่เอามาจากตำรานะ

ถ้ามืออาชีพจะ cover short ด้วยหลักการ
ไม่ใช่ด้วยความกลัว

เฮ้อ ไม่ได้พูดเลยว่าใครไม่เหมือนเราจะผิด
ฮงคิดไปเองมากกว่า

ส่วนข้ออื่นจะเข้ามาตอบทีหลัง
ไปทำธุระก่อนหละ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 3:26 pm
โดย Amadeus
สุดยอดวิชาทั้งนั้นเลย  การเรียนรู้ไม่มีจบจริงๆ

พวกเซียนนี่เท่าที่สังเกตุดู ทุกคน flexible มากๆ

ขอซูฮก

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 7:06 pm
โดย hongvalue
smith_sanguan เขียน: แต่ที่ผมเห็นว่า vi ส่วนมากขาด คือ การปรับเปลี่ยนตามสภาวะแวดล้อม คือ ชอบยึดติด กับอดีตมากเกินไป แต่ จริงๆ Finance โดยมาก ต้องคาดการณ์ ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่ใช้ดูแค่งบดุล ต้องดูได้หมดครับ

อืม คมบาดใจดีครับ

จุดอ่อนของผมอยู่ตรงที่หัวใจ

เฮ้ย เกี่ยวไรว่ะ ไม่ใช่เคนธีรเดชนะ  บ้าเป่า

:lol:


คุยกันเรื่องเนื้อหาต่อครับ

เห็นด้วยครับเรื่อง finance จะต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลา

คนที่ทำ dcf ก็บอกผมครับว่าเขาต้องคอย update dcf

ตลอดครับ บางทีผ่านไป 6 เดือนก็มาทำใหม่

ด้วยซ้ำเพราะได้ข้อมูลใหม่ๆมาหลายอย่าง

การลงทุนของบริษัท การทำนุ่นทำนี้เปลี่ยนไปครับ



อย่างตะก่อนคนดูงบก็เน้นดูแค่กำไรสุทธิกันใช่ไหมครับ

ผมเรียนมากขึ้นก็บอกให้ดูงบกระแสเงินสดเพิ่มครับ

และก็หัดอ่านหมายเหตุประกอบงบครับ



ตอนผมเรียน creative accounting ของอาจารย์วรศักดิ์

ยากมากครับ ต้องทวนแล้วทวนอีกกว่าจะรู้ ลูกเล่นของบริษัทจดทะเบียน

แต่สุดท้ายงบก็เป็นแค่ส่วนนึงของราคาหุ้น

เพราะงบคืออดีต แต่งบที่ดีบอกเราถึงแนวโน้มที่น่าจะดี

ของบริษัทจดทะเบียนได้

พูดตรงๆ รอบนี้ผมได้กำไร ไม่ได้อ่านงบเลย

ไม่ได้อ่านนี้คือ ไม่โหลดมาอ่านหลายเดือนมากๆ

ดูแค่ผ่านๆ สินทรัพย์หนี้สิน  ไม่ได้แกะงบลึกแบบตะก่อนแล้ว

กลัวจะลืมวิชาที่เคยเรียนเหมือนกัน

บางทีมีไปอบรมบ้างของ cns เชิญจารย์วรศักดิ์มาพูด

ก็ไปนั่งฟังที่ sasin ฟังเสร็จก็ไม่ได้ทวน

มาดู fundflow ต่อ

ทุกวันนี้ fundflow ก็จะเน้นอะไรที่เป็น leading indicator ให้มากที่สุด

smith_sanguan เขียน: จริง มัน ก็ คือ สถิติ technical analysis ก็คือ สถิติ เหมือนกันแต่ไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ต้องรู้ครับ แต่ส่วนมากจะเลือกไม่สนใจเลย

ผมว่า techinc ก็คล้ายๆกับ fundflow ในแง่ว่า

เข้าใจวัฏจักรของสิ่งต่างๆ ศึกษาย้อนไปถึง crisis รอบต่างๆ ว่าตลาดทุนตลาดพันธบัตร commodity

จะมี พฤติกรรมยังไง

แล้วประเมินความน่าจะเป็นออกมาให้ได้มากที่สุด






อย่าล่าสุด เพิ่งได้ทฤษฏีใหม่ล่าสุดมา

เดือนสิงหาคม หุ้นเละแน่นอน

ผมก็อยากพิสูจน์ทฤษฏีนี้เหมือนกันว่าจะจริงไหม

สถิติเพียวๆ

มารอดูกัน

(โปรดอย่าถามว่าทฤษฏีอะไรเพราะผมคำนวณไม่เป็น
และคงไม่สามารถนำมาอธิบายต่อได้ ถือว่าเดาเล่นกันสนุกๆเท่านั้นนะ)

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 7:13 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
นี่เขาเรียกลูบหลังแล้วตบหัว  ฮา
ชมก่อนแล้วค่อยติ

อ้าวรู้ทันได้ไงอะ

:lol:


VIB007 เขียน:พูดถึงเรื่อง"ไก่อ่อน"
พี่ว่าฮงคงเข้าใจผิด
พี่ไม่ได้หมายความว่าใครทำไม่เหมือนเราแล้วจะผิดนะ

ในเวปก็อย่างนี้หละ
เขียนอะไร
คนตีความกันไปร้อยแปด
ดีครับ ท่อยทีท่อยอาศัยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 7:14 pm
โดย hongvalue
[quote="Amadeus"]สุดยอดวิชาทั้งนั้นเลย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 7:52 pm
โดย hongvalue
ไปตามพี่พอใจให้มาแจมแล้ว



พี่พอใจเข้ามาอ่านปุ๊ป

ผมก็มีคำถามมาถามปั๊ป


พี่พอใจสนิทกับนักลงทุนรายใหญ่ขอถามหน่อยครับว่า

เท่าที่ทราบมารายใหญ่ออกกันแพงกว่า 620 ซะอีก

แถมออกหมด port ด้วย

โอ้ จอร์ด คุณยอดมาก


พี่พอใจครับ

พวกเขาดูยังไงเหรอครับ

ถึงออกได้ตอนนั้น



พี่ตอบแบบ childๆ และสบายใจจะตอบก็พอนะครับ

ไม่ได้คาดคั้นเอาเป็นเอาตายครับ

แค่อยากให้มาร่วมวงสนทนาด้วยกันเฉยๆน่ะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 8:13 pm
โดย naris
ชอบคำนี้มากๆเลยครับพี่วิบูลย์ :cool:
"ในตลาดหุ้นไม่มีวิธีที่ถูกหรือผิด  มีแต่วิธีไหนที่เหมาะกับเรามากกว่า"

ช่วงนี้มีคนถามผมหลายคนเรื่องแนวอื่นๆ แต่ผมบอกว่าผมไม่รู้ และส่วนตัวผมไม่ไปสนใจ แนวอื่นนอกจากแนวคัดสรรบริษัทที่เราคิดว่าดี ในราคาที่เหมาะสม เพราะตัวผมมีความเชื่อว่า ราคาคือผล พื้นฐานคือเหตุครับ ส่วนจะรอนานแค่ไหน ความจริงก็คือความจริง ไม่อาจปฏิเสธได้

ถ้าจะมีพลาดก็มีอยู่อย่างเดียวคือ เรามองพื้นฐานเขาผิดพลาดครับ ซึ่งเป็นความผิดของเรา ไม่ใช่ของนายตลาดครับ อย่างน้อยๆเราก็รู้ว่าเราคิดผิดเพราะอะไร

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 11:13 pm
โดย por_jai
hongvalue เขียน:
พี่พอใจสนิทกับนักลงทุนรายใหญ่ขอถามหน่อยครับว่า

เท่าที่ทราบมารายใหญ่ออกกันแพงกว่า 620 ซะอีก

แถมออกหมด port ด้วย

โอ้ จอร์ด คุณยอดมาก


พี่พอใจครับ

พวกเขาดูยังไงเหรอครับ

ถึงออกได้ตอนนั้น

:8) ไม่ได้เข้าไปที่กิมเอ็งเกือบครึ่้งปีแล้วมั๊ง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 11:37 pm
โดย hongvalue
พี่วิบูลย์ครับ

มีคนบอกมาหลังไมค์ครับ

ว่าเรื่อง short หุ้นดูแล้วน่าจะมัน

เดี่ยวเขาจะไปศึกษาบ้างน่ะครับ



ผมว่า ผมกับพี่ต้องไปขอแบ่ง % โบรกที่ได้เงินจากการ short   ในรูปแบบ sbl จากคนที่มาอ่านเราคุยกันแล้วจะไปเล่นบ้างแล้วล่ะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 11:51 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]พี่วิบูลย์ครับ

มีคนบอกมาหลังไมค์ครับ

ว่าเรื่อง short หุ้นดูแล้วน่าจะมัน

เดี่ยวเขาจะไปศึกษาบ้างน่ะครับ



ผมว่า ผมกับพี่ต้องไปขอแบ่ง % โบรกที่ได้เงินจากการ short

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 11:52 pm
โดย VIB007
[quote="naris"]ชอบคำนี้มากๆเลยครับพี่วิบูลย์ :cool:
"ในตลาดหุ้นไม่มีวิธีที่ถูกหรือผิด

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 11:57 pm
โดย VIB007
smith_sanguan เขียน:
ระยะสั้น ตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ถึง 1 เดือนครับ ตอนนี้ บอกว่า ผันผวนครับ ที่บอกจะลงไป 550 530 จริงครับ แต่ที่ผมเอ๋ใจและไม่มั่นใจ fund Flow ยังไม่หมด ครับ ถ้า ฟันโฟ มา จะสวืงขึ้นทำนิวไฮใหม่ครับ ต้องรอดู 70% ลง แต่ไม่ปักใจเชื่อครับ

ระยะกลาง 1 เดือน ถึง 1 ปี พักฐานครับ

ระยะยาว 1 ปี ขึ้นไป พักฐาน จะเป็นขาขึ้นครับ ผมรออยู่ครับ จะเล่นเอารวยครับ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
smith_sanguan เขียน:ทุกสิ่งทุกอย่าง คือ สิ่งไม่เที่ยง อย่าเชื่อมั่นกับตัวเองมากจนเกินไปครับ ขอแค่นี้ครับ โดยมากในนี้ จะไม่ค่อยเชื่อเทคนิค ผมโดนอัดบ่อย ผมก็เลือกเงียบดีกว่า แต่ที่ผมเห็นว่า vi ส่วนมากขาด คือ การปรับเปลี่ยนตามสภาวะแวดล้อม คือ ชอบยึดติด กับอดีตมากเกินไป แต่ จริงๆ Finance โดยมาก ต้องคาดการณ์ ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่ใช้ดูแค่งบดุล ต้องดูได้หมดครับ
ดูงบดุลอย่างเดียว
ก็เหมือนขับรถมองแต่กระจกหลัง
บอกได้เท่านี้หละ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 12:01 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
อย่าล่าสุด เพิ่งได้ทฤษฏีใหม่ล่าสุดมา

เดือนสิงหาคม หุ้นเละแน่นอน

ผมก็อยากพิสูจน์ทฤษฏีนี้เหมือนกันว่าจะจริงไหม

สถิติเพียวๆ

มารอดูกัน

(โปรดอย่าถามว่าทฤษฏีอะไรเพราะผมคำนวณไม่เป็น
และคงไม่สามารถนำมาอธิบายต่อได้ ถือว่าเดาเล่นกันสนุกๆเท่านั้นนะ)
ได้ทฤษฏีใหม่มาเหมือนกัน(ว่ะ)
ไตรมาศสามนี้ กค-สค-กย หุ้นจะตกหัก
เพราะหมอดูบอกมา....อิ

ส่วนของฮง
ช่วยอธิบายสักเล็กน้อยได้ไหมว่ามาจากไหนเป็นอย่างไร
ไม่ต้องละเอียด
เอาแค่เลาๆก็พอถ้าทำได้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 12:09 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
อันนี้ก็คนละปรัชญากับผมครับ

(ชาว vi อย่าเพิ่งรุมยำผมนะครับที่ผมมีความเห็นไม่ตรงกับความเชื่อของท่าน แต่ผมขี้เกียจ fake ว่าตัวเองมีหลักการแบบเดียวกับที่คนส่วนใหญ่เชื่อกันน่ะ เพื่อจะได้กลมกลืนเข้ากับคนอื่น ถ้าแบบนั้นอย่าโพสเลยดีกว่า)



ปรัชญา vi บอกว่าใช้ประโยชน์จากนายตลาดใช่ไหมครับ

ผมเห็นด้วยครับ

แต่ vi ชอบบอกว่าตลาดมันจะผิด

แต่ผมไม่เห็นด้วย(ครึ่งเดียว)เพราะผมเห็นว่า

market alway right

อย่างเช่น ตอนเกิดวิกฤติใหม่ๆq3 ปีที่แล้ว ทำไมใครๆก็คิดว่าโอกาศซื้อหุ้น โอกาศทอง
ปรากฏยิ่งซื้อยิ่งลง แล้วสุดท้ายเดือนตุลาลงแรง

แล้ว สุดท้าย gdp ก็ออกมาติดลบ

ถามว่านายตลาดถูกไหมครับ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดจริงไหมครับ

แต่คนส่วนใหญ่เลือกหลอกตัวเองแล้วบอกว่า

นายตลาดไม่มีเหตุผล

แล้ว late q1 เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นแต่หุ้น bottom ไปแล้ว

และเริ่มเป็นขาขึ้นตอนต้น q2

แล้วตัวเลขเศรษฐกิจ q2 ก็ค่อยๆดีขึ้น

สรุป นายตลาดโง่หรือเปล่าครับ

100 คน ชนะนายตลาดกี่คนครับ

ถึง 10 หรือเปล่า



ปรัชญาของผมเป็นการผสมระหว่าง

นายตลาดมักจะอารมณ์ไม่ดีและนายตลาดถูกเสมอ

ซึ่งมันขัดกันเองครับ


พูดแล้วฮา


แต่ผมเชื่อว่านายตลาดถูกเสมอมากกว่าครับ


vi หลายคนอ่านแล้วคง anti


ก็อย่าเก็บไปเป็นอารมณ์ครับ

เดี่ยวจะเป็นโรคเส้นเลือดในสมองระเบิดซะเปล่าๆครับ
อย่าไปเหมาว่านายตลาดผิดเสมอ

บัฟเฟตบอกว่าทฎษฎีตลาดมีประสิทธิภาพนั้น
มันถูกต้อง 90% ของเวลา
แต่มีบางครั้งที่ตลาดผิด
ดังนั้นเราหาประโยชน์ได้จากความผิดพลาดของตลาดตรงนั้น

สรุปว่าเข้าใจผิดทั้งคนพูดและคนฟัง

hongvalue เขียน:
ดูแล้วเป็นการ short ที่เหมาะกับปรัชญาของ vi จริงๆครับ

ทั้งอึด ทั้งเน้นพื้นฐาน ทั้งอย่าตามนายตลาด

แต่ก็อย่างที่บอกปรัชญาของผมตรงข้ามหมดเลย

ดู momentum ว่าเป็นยังไง และเลือกตัวที่พื้นฐานแย่ในการ short

แต่ผมคิดวิธี short ที่ดีกว่าเดิมได้แล้วล่ะครับ

ถ้าผมต้องเสียค่าโง่ ผมจะไม่ยอมเสียค่าโง่ในรูปแบบเดิมๆแน่นอน

จะเป็นยังไงก็ลองติดตามกันไปก่อนครับ
สู้ต่อไปไอ้มดแดง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 12:25 am
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:


ส่วนของฮง
ช่วยอธิบายสักเล็กน้อยได้ไหมว่ามาจากไหนเป็นอย่างไร
ไม่ต้องละเอียด
เอาแค่เลาๆก็พอถ้าทำได้

เป็นการนับ performance ของ dowjone มากกว่า 11 ปี

ว่าจะมีผลตอบแทนยังไงในเดือนสิงหาคม

และแต่ละอาทิตย์

แล้วสรุปออกมาเป็นความน่าจะเป็นว่า

โอกาศได้ตังค์น้อยไปหน่อยน่ะ

อันนี้เป็นแค่ความน่าจะเป็นคร่าวๆนะครับ

แต่จริงๆแล้วมันมีข้อมูลในเชิงเหตุผลอื่นๆ support อีกหลายอย่างน่ะครับ





ว่าแต่พี่ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนา

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 12:30 am
โดย hongvalue
ถามหน่อยครับ

อ่าน research ช่วงก่อนคนชอบเชียร์ bcp

ดูเหมือนจะให้เหตุผลว่า

spread ปิโตรไม่ดีเพราะมี supply เยอะ

แต่ว่า bcp ไม่มีปิโตร เขาเลยแนะ

คนเล่น bcp กันมากกว่า



ถ้าเป็นเหตุผลแบบนี้พี่วิบูลย์มีความเห็นว่าไงครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 12:59 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน: พี่ต้องให้ความร่วมมือกับผมนะ เพราะผมทำเพื่อช่วยพี่ปั้นกระทู้ให้มีคนอ่านถึง ล้านครั้งนะครับ
คิดได้ไง.....อ่านใจออกหรือ
งั้นเราเป้าหมายเดียวกัน
ล้านครั้ง ล้านครั้ง ล้านครั้ง
ตอนนี้แปดแสนกว่าแล้ว
อีกหน่อยเดียวไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซนต์
จะได้ไปบอกท่านดร.นิเวศน์ได้ว่าล้านแล้วจ้า
hongvalue เขียน:มีคำถามมาถามพี่วิบูลย์ครับ

ช่วยตอบตามความเป็นจริงหน่อยนะครับ

อยากทำวิจัยน่ะครับ



1.พี่คิดว่าจุดแข็งของตัวพี่ในการลงทุนคือเรื่องอะไร

โดยมีทั้งหมด 4 ข้อดังนี้ครับ

ช่วยเรียงจากที่พี่คิดว่าสำคัญมากไปน้อยพร้อมเหตุผลให้ดูหน่อยครับ

1. มีการควบคุมอารมณ์ที่ดี

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 1:08 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:ถามหน่อยครับ

อ่าน research ช่วงก่อนคนชอบเชียร์ bcp

ดูเหมือนจะให้เหตุผลว่า

spread ปิโตรไม่ดีเพราะมี supply เยอะ

แต่ว่า bcp ไม่มีปิโตร เขาเลยแนะ

คนเล่น bcp กันมากกว่า



ถ้าเป็นเหตุผลแบบนี้พี่วิบูลย์มีความเห็นว่าไงครับ
ไม่น่าใช่
จริงๆ TOP PTTAR ได้กำไรจากปิโตรพาราไซลีนเยอะนะ

เหตุผลจริงๆที่ bcp น่าสนใจนั้น
เพราะมีการขยายโรงกลั่น
และเพิ่มขบวนการกลั่นเข้าไป
จากระบบการกลั่นแบบ Basic กลายเป็น Complex
ทำให้ผลิตน้ำมันที่มีมูลค่ามากขึ้น เช่น ดีเซลและเจ๊ท
ซึ่งเมื่อก่อนบางจากผลิตได้แต่นำ้มันเตาซึ่งมีราคาต่ำๆ
น่าจะเป็นเหตุผลนี้มากกว่า

Research ไหนที่บอกว่าไม่มีปิโตรดีกว่าเลยน่าลงทุน
ช่วยบอกที
นักวิเคราะห์ชื่ออะไรจะได้จำไว้
วิเคราะห์ผิดประเด็นอย่างแรง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 6:23 am
โดย Amadeus
hongvalue เขียน:
แล้วจะไม่เล่าวิชาที่ไปเรียนรู้มาจาก

บ.ล.ไอร่า ตั้งหลายเดือนให้ฟังกันบ้างเหรอครับ

ผมรอฟังอยู่นะครับ

(มัดมือชกแล้วนะอย่าหนีไปไหนล่ะ)
ไปฟังเพราะว่าชอบความคิดบางอย่างครับ
ภาษาวัยรุ่นเค้าเรียกว่า "โดน"  :lol:
เช่น ช่วงนี้ข่าวจะบอกว่า เครื่องยนต์ไทยดับไปสามเครื่องแล้ว
ทั้งการส่งออก การบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนภาคเอกชน
ความหวังอยู่ที่การลงทุนภาครัฐ
แต่ที่ ไอร่าเค้าบอกว่า รัฐมีทางเลือกคือ หนึ่งรับเงินลงทุนจากจีน
สอง ออกพันธบัตร  เลือกทางที่สองเมื่อไหร่เครื่องนี้ก็จะดับสนิท

ความหวังในการฟื้นตัวจะไปอยู่ที่ประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทย
ฟังแล้วเข้าท่า น่าเอาไปคิดต่อ

มองภาพใหญ่กลับมาที่ภาพเล็ก
สรุปว่าระยะยาวไปจนรอบของ ศก.กลับมาฟื้นตัว-รุ่งเรือง
ให้เลือกหุ้นที่พื้นฐานไปขึ้นอยู่กับประเทศที่จะนำพา ศก.ในอนาคต

พูดถึงเรื่องไตรมาศสาม ผมเคยอ่านเอกสาร กลยุทธ์รลงทุนใน 1Q52
เมื่อประมาณเดือนกุมภา ของ บล.กิม เข้าเขียนเหตุการณ์ในอนาคต
ไว้ด้วยแฮะ

2Q52 สถาบันการเงินเพิ่มทุนและเกิดแผนกระต้นศก.ทั่วโลก--> Commodity ฟื้นตัวชั่วคราว :shock:
ปลาย3Q52 ศก.ชะลอตัวทั่วโลกรุนแรงอีกครั้ง--> new low เงินกลับเซฟเฮฟเว่น
4Q52-1Q53 ศก.เอเชียถึงจุดต่ำสุด ยังไม่เห็นการฟื้นตัว
อ่านขำๆครับ อย่าซีเรียส บางอย่างก็อาจจะไม่ตรงเพราะบางคนเชื่อว่า
fundamental ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 6:52 am
โดย Amadeus
เซียนคนนึงเคยพูดว่า
"เล่นหุ้นเหมือนค้าขาย ผมเป็นพ่อค้า ซื้อมาขายไป
ดังนั้นผมจะซื้อของที่ขายได้ มีคนซื้อแน่นอน ขายได้ราคา"

อาศํยไปฟังเค้ามาแล้วลองสร้าง criteria ดู จะเหลือหุ้นไม่กี่ตัวเอง
อย่างนี้พอไหว  ย้อนไปดูช่วงวิกฤตปี 40 ช่วงนั้น ศก.ขับเคลื่อนด้วยเมกา
หุ้นไทยส่วนใหญ่ลง ประเทศเรากระทบ แต่หุ้นที่ไปขึ้นกับ ศก.เมกา
ขึ้นไปเรื่อยๆ นับเป็นดาวเด่นในรอบ 10 ปีได้เหมือนกัน


รูปภาพ

กลยุทธ์ที่ดี ทำให้คนประสพความสำเร็จได้
แต่กลยุทธ์ที่ดี ถ้าทำไม่ได้ก็ ไม่มีประโยชน์
เห็นด้วยกับพี่วิบูลย์นะครับ ว่าการควบคุมอารมณ์นี่สำคัญจริงๆ

โม้มาก เดี๋ยวกระทู้เลอะครับ ผมเป็นผู้อ่านดีแล้ว
ตัวเองอาศัยตัดตรงโน้นมาแปะตรงนี้ สังเคราะห์อะไรยังไม่ได้ครับ
อ่านเจอคำว่า ไก่อ่อน สองสามครั้ง ก็สะดุ้งทุกครั้ง
พี่ๆก็ชอบเรียกผมว่าแมงเม่าจนติดปากแล้ว
ดีนะที่ชื่อผมไม่ไปตรงกับชื่อวิทยาศาสตร์ของเม่าเค้า
ไม่งั้นอาจโดนเอาไปแทนที่ได้  :lol: