เอามาฝาก woody นะ อย่าลืม น้องเค้่ารออยู่ อิอิอิ 8)
คุยกับสาวมั่น "พะแพง"
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2550 14:45 น.
เรื่องของความชื่นชอบและความนิยมในตัวของนักแสดง นักร้อง ดารา ฯลฯ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคลว่าจะชื่นชอบคนคนนั้นที่ส่วนไหน บ้างก็ชอบที่บทบาทการแสดง บ้างก็ชอบที่เสียงร้อง บ้างก็ชอบที่ความเป็นตัวของตัวเอง อย่างรายการประเภทเรียลลิตี้ โชว์ อะคาเดมี เเฟนตาเซีย ในแต่ละปีนั้น ผู้ที่ติดตามเฝ้าหน้าจอจะชอบหรือไม่ชอบผู้เข้าแข่งขันคนใด โดยส่วนมากแล้วก็จะขึ้นอยู่กับบุคลิกของแต่ละคน
อย่าง "พะแพง - ศุภรดา เต็มปรีชา" ผู้ครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับสองจากเวทีเอเอฟ 4 เองก็มีทั้งผู้ที่ชื่นชอบเป็นอย่างมากและผู้ที่มีความคิดเห็นในทิศทางตรงข้าม
พะแพงก่อนเข้าบ้านเอเอฟ (ชุดสีชมพู) กับ หลังออกจากบ้านเอเอฟ (ชุดสีดำ)
"ตอนออกมาจากบ้านเอเอฟไม่รู้ความเป็นไปอะไรเลย ก็งง ๆ แปลกใจว่ากระแสนอกบ้านเกี่ยวกับเรื่องของหนูจะเยอะมากขนาดนี้"
นั่นคือเสียงที่ออกมาจากปากของสาววัยแรกแย้มที่เอ่ยปากบอกถึงความรู้สึกหลังจากหมดสิ้นภาระกิจการแข่งขันให้บุคคลทั่วๆ ไปตามดูก็ใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมงมาเป็นเวลากว่า 3 เดือน
"ตอนนี้มีงานเข้ามาเยอะมากๆ เรื่องเรียนก็คงต้องหยุดไว้ก่อน ที่จริงหนูไปสมัครเรียนที่คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหงไว้ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเรียนเลย ก็พอดีกับหนูผ่านการคัดเลือกให้เข้าบ้านเอเอฟก่อน พอออกจากบ้านมาก็มีงานเข้ามาเยอะอย่างที่บอกค่ะ หนูเลยตัดสินใจดรอปไว้ก่อน มีโอกาสเมื่อไหร่จะรีบกลับไปเรียนแน่นอนค่ะ"
เเม้ว่าการผ่านการคัดเลือกให้เข้าบ้านเอเอฟจะทำให้เธอต้องเก็บเรื่องเรียนปริญญาตรีไว้ก่อน หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มาจากโรงเรียนนารีวิทยา จังหวัดราชบุรี แต่การที่เธอเข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟนั้น ถือเป็นการที่พะเเพงเลือกเดินตามความฝันที่มีมาตั้งแต่วัยเยาว์
"หนูชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเล็์ก แต่หนูไม่ค่อยมีพื้นฐานหรือเทคนิคการร้องเพลงเท่าไหร่ คือมีงานหระกวดร้องเพลงก็ไปประกวด ไปร้องเพลง เพราะเราชอบ แต่สำหรับเอเอฟเนี่ย ไม่เคยคิดมาก่อนค่ะ พี่ชายของหนูเขาชวนให้ไปสมัครก็เลยลองดู ปรากฏว่าผ่านเข้ารอบได้เข้ามาอยู่ในบ้าน ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นและมองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรา ก็ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตก็เลยตัดสินใจหยุดเรื่องเรียนไว้ก่อน แล้วคว้าโอกาสที่ได้มาไว้ก่อน"
นอกจากนี้สาวน้อยตัวเล็กคนนี้ยังบอกอีกด้วยว่าสำหรับบางคนอาจจะมองการร้องเพลงเป็นเพียงงานอดิเรก แต่สำหรับตัวของพะเเพงแล้วความสุขของเธอมาจากการร้องเพลงก็คือการได้ร้องเพลงให้คนอื่นๆ ได้ฟังและเห็นผู้ที่ฟังมีความสุขจากเสียงเพลง
"ในบ้านเอเอฟพะแพงได้เรียนเทคนิคการร้องเพลง ได้เรียนแอคติ้งเยอะมาก ทำให้เรากล้าแสดงออกมากขึ้น และทำให้เข้าใจว่าเราควรจะสื่อสารเนื้อหาของเพลงให้คนดูเข้าใจได้อย่างไร อาจารย์จะบอกเสมอว่ามันไม่ใช่การแสดง แต่เป็นการทำความเข้าใจในเนื้อหาของเพลง และสื่อความรู้สึกนั้นๆ ออกไปถึงคนดู อย่างบางอาทิตย์ได้เนื้อเพลงภาษาอังกฤษก็จะกลุ้ม ต้องรบกวนพี่นัทให้ช่วยแปลให้ เพราะหนูไม่ถนัดภาษาอังกฤษเลย
การอยู่ในบ้านเอเอฟทำให้พะแพงได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างนะคะ อย่างเช่นเรื่องการคิดก่อนพูด เมื่อก่อนจะเป็นคนคิดอะไรก็พูดออกมาเลย แต่พอเราได้เจอคนหลากหลายขึ้น เราก็จะระวังการพูดมากขึ้น หรืออย่างอาจารย์เวลาสอน หรือแนะนำ หนูฟังแล้วก็ไม่ได้โกรธ หรือไม่พอใจนะคะ เราเป็นเด็ก ก็ต้องฟังคนที่มีประสบการณ์มากกว่า"
ลองรักการร้องเพลงขนาดนี้เชื่อได้เลยว่าพะแพงเองก็ต้องมีนักร้องต้นแบบในดวงใจเหมือนกับคนอื่นๆ และนักร้องในดวงใจของเธอก็คือสาว ปาล์มมี่ โดยพะแพงให้เหตุผลว่าชอบที่ปาล์มมี่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และสามารถทำให้คนดูชอบได้ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
"พะแพงไม่ได้อยากเป็นเหมือนพี่เขานะคะ พะแพงอยากเป็นแบบพะแพงมากกว่า"
สาวร่างเล็กในชุดเสื้อกล้ามสีดำตัดกับสีผิวขาวนวล สวมกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบสีแดง ยืนยันตามสไตล์สาวมั่นขาลุย พร้อมทั้งบอกต่อไปว่าในเรื่องของการแต่งตัวนั้นเธอเองก็เหมือนกับคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ชอบสวมใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ไปไหนมาไหน
"เป็นคนชอบแต่งตัวง่ายๆ จะชอบแต่งตัวเป็นแนวผู้หญิงหนักแน่นหน่อยๆ แต่บางทีก็แต่งตัวหวานบ้าง เปรี้ยวบ้าง แล้ววันไหนอยากเป็นอย่างไรค่ะ”
เรื่องเสื้อผ้าที่เจ้าตัวสวมใส่ สถานที่ที่เธอมักจะไปเลือกซื้อหามาสวมใส่นั้นก็คือเเหล่งช้อปปิ้งดังอย่างจตุจักร หรือเจเจนั่นเอง
"คนที่ไม่เคยไปจตุจักรจะไม่รู้ว่ามันมีของมือสอง พวกเสื้อผ้าสวยๆ เยอะ เวลาหนูไปสยามฯ ดูๆ ไป เฮ้ย! เหมือนกับที่เราเห็นที่จตุจักรเลยนี่ แล้วราคาก็สูงกว่าที่จตุจักรเยอะเลย ที่จตุจักรถูกกว่าเยอะเลย แล้วที่จตุจักรก็มีรองเท้า สวยเยอะมากด้วย หนูก็เลยชอบไปเวลาเครียดๆ พอได้ไปเดินดูนู่นดูนี่ก็หายเครียดไปเยอะเลย
แล้วถ้าไม่ได้เป็นนักร้องก็อยากขายผ้าที่จตุจักร หนูชอบขายของ ได้เจอคนหลายคน ปกติก็ช่วยพี่ขายของที่จตุจักรอยู่แล้ว การขายของดีนะ หลายคนแซวว่าเดี๋ยวพอเข้าวงการมาแล้วคงไม่กลับไปขายแล้ว ไม่จริงค่ะ ถ้ามีเวลาพะแพงก็กลับไปทำเหมือนเดิม หนูชอบ”
สุดท้ายกับคำถามที่ว่าพะแพงประทับใจการร้องเพลงใดมากที่สุดในช่วงที่ต้องขึ้นเวทีโชว์คอนเสิร์ตในบ้านเอฟ
เจ้าตัวตอบเสียงดังฟังชัดว่า เธอประทับใจกับการร้องเพลง กังหันสวาท และเพลง Toxic
"เพลงกังหันสวาท เป็นเพลงเก่าและร้องยาก ทำให้อยากร้องออกมาให้ดีที่สุด ส่วนเพลง Toxic เน้นความเซ็กซี่... ก็ไม่ค่อยเหมือนตัวเราเท่าไหร่ เพราะแพงค่อนข้างเป็นคนซนๆ ง่ายๆ สบายๆ มากกว่า พอมาเปลี่ยนลุคเป็นสาวเซ็กซี่ก็เลยลองทำให้เต็มที่ดูน่ะค่ะ"
/////////////////////////////
ศุภรดา เต็มปรีชา (พะแพง)
เกิดวันที่ 20 ก.พ.2532 อายุ 18 ปี
การศึกษา จับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนนารีวิทยา
สีที่ชอบ ดำ แดง น้ำเงิน
ความใฝ่ฝัน อยากอยู่กับครอบครัว, ร้องเพลง
ทีมา: http://www.manager.co.th/Campus/ViewNew ... 0000113384