news13/10/07
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 13, 2007 12:06 pm
ธปท. หมดทางจ่ายหนี้ 1 ล้านล้าน [ ฉบับที่ 836 ประจำวันที่ 13-10-2007 ถึง 16-10-2007]
> ครม.ตัดมาตรา 16 เล็งออกก.ม.ล้างขาดทุน
ครม.อนุมัติตัดมาตรา16 พ.ร.บ.เงินตรา คลังห่วงธปท.เข้าตาจน หมดทางชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ 1 ล้าน ล้านบาท แถมดอกเบี้ยอีกปีละ 6 หมื่นล้านบาท กลายเป็นภาระงบประมาณของประเทศ ระบุที่ผ่านมาจ่ายดอกแทนธปท.ไปแล้ว 4.5 แสนล้านบาท ด้านแบงก์ชาติเสนอออกกฎหมายล้างขาดทุน หรือเพิ่มทุนธปท. ซึ่งเคยทำมาแล้วเมื่อปี 45 โดยใช้เงินทุนสำรองพิเศษของฝ่ายออกบัตรล้างหนี้
นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม คณะ รัฐมนตรีอนุมัติให้ถอนร่าง พ.ร.บ. เงินตราออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสนช. เพื่อปรับปรุงถ้อยคำในกฎหมายให้เหมาะสมและครอบคลุมสถานการณ์มากขึ้น โดยเฉพาะให้ตัดมาตรา 16 ตาม ที่ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการตัดมาตรา 16 ตามร่าง พ.ร.บ.เงินตรา ในส่วนเพิ่มเติมมาตรา 34/3 และ 34/4 ออกไป และมาตรา 34/2 ที่ตัดออกไปก่อนหน้านี้ จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของแบงก์ชาติอย่างมาก โดยเฉพาะแผนล้างหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 6 หมื่นล้านบาท โดยที่ผ่านมาคลังต้องตั้งงบประมาณชำระหนี้ดังกล่าวแทนแบงก์ชาติมาตลอด เนื่องจากธปท.ประสบ การขาดทุนจากการเข้าไปแทรกแซงค่าเงิน
ที่ผ่านมาเราต้องจ่ายดอก เบี้ยแทนแบงก์ชาติไปแล้วกว่า 4.5 แสนล้านบาท โดยปีนี้ตั้งงบใช้หนี้ 6 หมื่นล้านบาท และปี 51 ก็ต้องตั้งอีก 6 หมื่นล้านบาท โดยแบงก์ชาติไม่มีความสามารถ ใช้คืนหนี้เลย หากไม่แก้ไขกฎหมายเงินตรา เนื่องจากถูกล็อก ด้วยกฎหมายฉบับเดิม โดยบัญชี สำรองพิเศษให้รับแต่กำไร แต่ถ้าขาดทุนให้ใส่บัญชีผลประโยชน์ แหล่งข่าวกล่าว
ก่อนหน้านี้ธปท.วางแผนว่าจะหาเงินมาชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ให้ได้ตามแผน โดยแก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา เนื่องจากที่ผ่าน มาแบงก์ชาติขาดทุนมาตลอด จากการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ทำให้ไม่มีเงินไปใช้หนี้ ดังนั้นจึงเสนอให้แก้ไขพ.ร.บ.เงินตรา เพิ่มมาตรา 34/2 เข้ามา ซึ่งกรณีนี้ให้อำนาจธปท.โอนสินทรัพย์จากบัญชีสำรองพิเศษ หรือบัญชีที่เก็บเงินบริจาคของหลวงตามหาบัวเข้ามาไว้ในบัญชีทุนสำรองเงินตรา หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อหาเงินมาใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ หากแบงก์ชาติไม่มีกำไรจากบัญชีผลประโยชน์ ประจำปี
ส่วนมาตรา 34/3 และ 34/4 ที่แบงก์ชาติเสนอก็เพื่อช่วยให้สามารถนำเงินทุนสำรองไปหาผลประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม โดยการใช้สินทรัพย์ในบัญชีทุน สำรองเงินตรา บัญชีผลประโยชน์ประจำปี และบัญชีสำรองพิเศษ และการซื้อขายเงินตราล่วงหน้า เพื่อนำเงินไปชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ก็กำลังจะถูกตัดออกไป หลังจากที่ครม.อนุมัติแล้ว แบงก์ชาติก็จะไม่สามารถหาผลประโยชน์จากทุนสำรองได้เพิ่มขึ้นตามที่ตั้งใจไว้ ทำให้คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงาน ของธปท.จะขาดทุนต่อไปอีกปี ทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ลดลง
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วย ผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่าเสนอ วิธีแก้ไขเพื่อ ไม่ให้แบงก์ชาติขาดทุนสะสม คือ 1.การออกกฎหมายเพื่อล้างขาดทุนหรือรัฐเข้ามาเพิ่มทุนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท. เคยขาดทุนต่อเนื่อง กันประมาณ 5 ปีจนถึงปี 2545 ที่ได้มีการออกพระราชกำหนดให้นำเงินจากบัญชีทุนสำรองพิเศษ ของฝ่ายออกบัตรมาชดเชยส่วนที่ขาดทุนของฝ่ายการธนาคาร จึงสามารถล้างขาดทุนสะสมของ ธปท.ได้หมด นางสุชาดากล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2549 แบงก์ชาติมีผลขาดทุนทั้งสิ้น 1.73 แสนล้านบาท แยกเป็น 2 ส่วน คือ ฝ่ายการธนาคาร ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ในการแทรกแซงดูแลค่าเงินบาท มีผลขาดทุน 99,727.5 ล้านบาท และที่เหลืออีก 73,272.5 ล้านบาท เป็นผลขาดทุนจากการตีราคาอัตราแลกเปลี่ยน ที่เกิดขึ้นในฝ่ายออกบัตรธนาคาร ซึ่งเกิดผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการตีราคาทุนสำรองเงิน ตราที่ใช้ค้ำประกันการออกธนบัตร ส่วนในปี 50 ผู้บริหารธปท.ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะขาดทุนต่อกันอีกปี จากการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ขณะที่พ.ร.บ.เงินตราก็ถูกตัดมาตราสำคัญออกไปทำให้เป็นการยากที่ธปท.จะสร้างกำไร
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน หลังจากผ่านวาระแรกจากสนช. แล้ว คาดว่าจะมีการแก้ไขบางมาตราในชั้นกรรมาธิการ ที่หลายฝ่ายเรียกร้องโดยเฉพาะบทลงโทษกรรมการธนาคาร ที่ค่อนข้างรุนแรง อาทิ จำคุก 3 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขให้ปรับลดโทษลงมาให้เหมือนเดิม ขณะที่พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากและพ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสนช.ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยคาดว่ากฎหมายการเงินส่วนใหญ่จะสามารถ พิจารณาทันภายในรัฐบาลนี้
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าว ถึงร่างแก้ไขพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ว่า แม้ ธอส. จะไม่เข้าข่ายพระราชบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากเป็นธนาคารของรัฐ แต่ในฐานะที่ตนทำงานกับธนาคารพาณิชย์ เห็น ว่า มีการประกันเงินฝาก นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะ จะทำให้สถาบันการเงินมีความรับผิดชอบในการดำเนินงานและส่งผลให้สถาบันการเงินมีความมั่นคงและจำเป็นต้องใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูง เพื่อเป็นการจูงใจ เนื่องจากอาจกลาย เป็นปัจจัยเสี่ยงได้
http://www.siamturakij.com/home/news/di ... ws_id=7674
> ครม.ตัดมาตรา 16 เล็งออกก.ม.ล้างขาดทุน
ครม.อนุมัติตัดมาตรา16 พ.ร.บ.เงินตรา คลังห่วงธปท.เข้าตาจน หมดทางชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ 1 ล้าน ล้านบาท แถมดอกเบี้ยอีกปีละ 6 หมื่นล้านบาท กลายเป็นภาระงบประมาณของประเทศ ระบุที่ผ่านมาจ่ายดอกแทนธปท.ไปแล้ว 4.5 แสนล้านบาท ด้านแบงก์ชาติเสนอออกกฎหมายล้างขาดทุน หรือเพิ่มทุนธปท. ซึ่งเคยทำมาแล้วเมื่อปี 45 โดยใช้เงินทุนสำรองพิเศษของฝ่ายออกบัตรล้างหนี้
นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม คณะ รัฐมนตรีอนุมัติให้ถอนร่าง พ.ร.บ. เงินตราออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสนช. เพื่อปรับปรุงถ้อยคำในกฎหมายให้เหมาะสมและครอบคลุมสถานการณ์มากขึ้น โดยเฉพาะให้ตัดมาตรา 16 ตาม ที่ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการตัดมาตรา 16 ตามร่าง พ.ร.บ.เงินตรา ในส่วนเพิ่มเติมมาตรา 34/3 และ 34/4 ออกไป และมาตรา 34/2 ที่ตัดออกไปก่อนหน้านี้ จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของแบงก์ชาติอย่างมาก โดยเฉพาะแผนล้างหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 6 หมื่นล้านบาท โดยที่ผ่านมาคลังต้องตั้งงบประมาณชำระหนี้ดังกล่าวแทนแบงก์ชาติมาตลอด เนื่องจากธปท.ประสบ การขาดทุนจากการเข้าไปแทรกแซงค่าเงิน
ที่ผ่านมาเราต้องจ่ายดอก เบี้ยแทนแบงก์ชาติไปแล้วกว่า 4.5 แสนล้านบาท โดยปีนี้ตั้งงบใช้หนี้ 6 หมื่นล้านบาท และปี 51 ก็ต้องตั้งอีก 6 หมื่นล้านบาท โดยแบงก์ชาติไม่มีความสามารถ ใช้คืนหนี้เลย หากไม่แก้ไขกฎหมายเงินตรา เนื่องจากถูกล็อก ด้วยกฎหมายฉบับเดิม โดยบัญชี สำรองพิเศษให้รับแต่กำไร แต่ถ้าขาดทุนให้ใส่บัญชีผลประโยชน์ แหล่งข่าวกล่าว
ก่อนหน้านี้ธปท.วางแผนว่าจะหาเงินมาชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ให้ได้ตามแผน โดยแก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา เนื่องจากที่ผ่าน มาแบงก์ชาติขาดทุนมาตลอด จากการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ทำให้ไม่มีเงินไปใช้หนี้ ดังนั้นจึงเสนอให้แก้ไขพ.ร.บ.เงินตรา เพิ่มมาตรา 34/2 เข้ามา ซึ่งกรณีนี้ให้อำนาจธปท.โอนสินทรัพย์จากบัญชีสำรองพิเศษ หรือบัญชีที่เก็บเงินบริจาคของหลวงตามหาบัวเข้ามาไว้ในบัญชีทุนสำรองเงินตรา หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อหาเงินมาใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ หากแบงก์ชาติไม่มีกำไรจากบัญชีผลประโยชน์ ประจำปี
ส่วนมาตรา 34/3 และ 34/4 ที่แบงก์ชาติเสนอก็เพื่อช่วยให้สามารถนำเงินทุนสำรองไปหาผลประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม โดยการใช้สินทรัพย์ในบัญชีทุน สำรองเงินตรา บัญชีผลประโยชน์ประจำปี และบัญชีสำรองพิเศษ และการซื้อขายเงินตราล่วงหน้า เพื่อนำเงินไปชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ก็กำลังจะถูกตัดออกไป หลังจากที่ครม.อนุมัติแล้ว แบงก์ชาติก็จะไม่สามารถหาผลประโยชน์จากทุนสำรองได้เพิ่มขึ้นตามที่ตั้งใจไว้ ทำให้คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงาน ของธปท.จะขาดทุนต่อไปอีกปี ทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ลดลง
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วย ผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่าเสนอ วิธีแก้ไขเพื่อ ไม่ให้แบงก์ชาติขาดทุนสะสม คือ 1.การออกกฎหมายเพื่อล้างขาดทุนหรือรัฐเข้ามาเพิ่มทุนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท. เคยขาดทุนต่อเนื่อง กันประมาณ 5 ปีจนถึงปี 2545 ที่ได้มีการออกพระราชกำหนดให้นำเงินจากบัญชีทุนสำรองพิเศษ ของฝ่ายออกบัตรมาชดเชยส่วนที่ขาดทุนของฝ่ายการธนาคาร จึงสามารถล้างขาดทุนสะสมของ ธปท.ได้หมด นางสุชาดากล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2549 แบงก์ชาติมีผลขาดทุนทั้งสิ้น 1.73 แสนล้านบาท แยกเป็น 2 ส่วน คือ ฝ่ายการธนาคาร ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ในการแทรกแซงดูแลค่าเงินบาท มีผลขาดทุน 99,727.5 ล้านบาท และที่เหลืออีก 73,272.5 ล้านบาท เป็นผลขาดทุนจากการตีราคาอัตราแลกเปลี่ยน ที่เกิดขึ้นในฝ่ายออกบัตรธนาคาร ซึ่งเกิดผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการตีราคาทุนสำรองเงิน ตราที่ใช้ค้ำประกันการออกธนบัตร ส่วนในปี 50 ผู้บริหารธปท.ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะขาดทุนต่อกันอีกปี จากการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ขณะที่พ.ร.บ.เงินตราก็ถูกตัดมาตราสำคัญออกไปทำให้เป็นการยากที่ธปท.จะสร้างกำไร
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน หลังจากผ่านวาระแรกจากสนช. แล้ว คาดว่าจะมีการแก้ไขบางมาตราในชั้นกรรมาธิการ ที่หลายฝ่ายเรียกร้องโดยเฉพาะบทลงโทษกรรมการธนาคาร ที่ค่อนข้างรุนแรง อาทิ จำคุก 3 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขให้ปรับลดโทษลงมาให้เหมือนเดิม ขณะที่พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากและพ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสนช.ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยคาดว่ากฎหมายการเงินส่วนใหญ่จะสามารถ พิจารณาทันภายในรัฐบาลนี้
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าว ถึงร่างแก้ไขพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ว่า แม้ ธอส. จะไม่เข้าข่ายพระราชบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากเป็นธนาคารของรัฐ แต่ในฐานะที่ตนทำงานกับธนาคารพาณิชย์ เห็น ว่า มีการประกันเงินฝาก นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะ จะทำให้สถาบันการเงินมีความรับผิดชอบในการดำเนินงานและส่งผลให้สถาบันการเงินมีความมั่นคงและจำเป็นต้องใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูง เพื่อเป็นการจูงใจ เนื่องจากอาจกลาย เป็นปัจจัยเสี่ยงได้
http://www.siamturakij.com/home/news/di ... ws_id=7674