Thai VI

Posted: Wed Mar 11, 2009 7:03 pm    Post subject:    

--------------------------------------------------------------------------------

ถามพี่ VIB007 ครับ ปกติ ประเทศไทยอ้างอิงราคาน้ำมันดิบ ของดูไบ

ทำไมสูตรค่าการกลั่น  ไปอ้างอิงน้ำมัน ไนเม็กซ์ หรือ เบรน ครับ

ค่าการกลั่น =   ราคาหน้าโรงกลั่น      -        ราคาน้ามันดิบ
                 (อ้างอิงตลาดสิงคโปร์)    (อ้างอิง NYMEX,BRENT)
_________________


รบกวนถามอีกรอบ

workingcap ก็ สินทรัพย์หมุนเวียน-หนี้สินหมุนเวียน

หมายถึงเงินทุนหมุนเวียน

capex หาได้ในกระแสเงินสดจากการลงทุน

ชื่อรายการประมาณ เงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

loan repayment ก็คือnet debt

free cash flow ก่อนที่จะเอาไปทำ

dcf จะต้องเอามาหัก net debt ก่อน (หนี้ที่มีดอกเบี้ย)

แถมให้อีกตัว ถ้านี้คือ model ทำ dcf มันต้องบวก เงินสดเข้าไปด้วยนิ

ผมคำนวณแล้วมันติดลบอะครับ  
Loan repayment นี้ บริษัทไม่มียืมเงินจากธนาาคาร เลยคิดจาก  เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้าสุทธิ ได้ไม๊ครับ
Cap.ex นี้หมายถึง เงินสดจ่ายในการซื้อสินทรัพย์ถาวร รึป่าว


แล้วตัวแรกของสมการ คือ   กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ และหนี้สินดำเนินงาน จาก งบกระแสเงินสด ใช่ปะครับ


อาจจะถามมากไปหน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ

อยากถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับ pttep เหรอครับ ช่วงปี 2006 ทำไมราคามันตกจาก สี่ร้อยกว่าบาท มาอยู่ที่ เก้าสิบกว่าบาทละครับ

hongvalue เขียน:
พี่วิบูลย์อายุ 42 เรียกพี่สายลับว่า เจ๊

อ่าว สวยเด่ะ 42 ...

งั้นเห็นทีต้องเรียก อาเจ็ก แระงี้





......แต่ ไม่ว่าใครจะมากจะน้อยกว่ากัน พวกเราก็ไม่ต้องกังวล

เพราะเรามี ป๋าพอใจ เป็นแนวต้านใหญ่ขวางไว้แล้ว ถึงจะอย่างไร เราก็ยังคง อันเดอร์เพอฟอร์ม..............

:lovl:  :lovl:  :lovl:

เด็กทุ่งสง เขียน:อยากถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับ pttep เหรอครับ ช่วงปี 2006 ทำไมราคามันตกจาก สี่ร้อยกว่าบาท มาอยู่ที่ เก้าสิบกว่าบาทละครับ

อ่า มันแตกพาร์ไรเป่าคะ พี่เด็กทุ่งสง
ดูกร๊าฟไม่มีนะ สีร้อย ปี 2006 (ปกติกร๊าฟจะปรับแตกพาร์ให้อัตโนมัติ,สงสัยกร๊าฟที่พี่ดู เขาไม่ปรับให้มั้ง)

อย่าเรียกว่าพี่เลย ฮะ ผม อายุ สิบเก้าเอง - -

ผมดูจาก ราคาในงบการเงินของ ตลาดหลักทรัพย์ฮะ - -

แตกพาร์ครับ
จาก พาร์ 5 เหลือ พาร์ 1

[quote="เด็กทุ่งสง"]workingcap ก็ สินทรัพย์หมุนเวียน-หนี้สินหมุนเวียน

หมายถึงเงินทุนหมุนเวียน

capex หาได้ในกระแสเงินสดจากการลงทุน

ชื่อรายการประมาณ เงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

loan repayment ก็คือnet debt

free cash flow ก่อนที่จะเอาไปทำ

dcf จะต้องเอามาหัก net debt ก่อน (หนี้ที่มีดอกเบี้ย)

แถมให้อีกตัว ถ้านี้คือ model ทำ dcf มันต้องบวก เงินสดเข้าไปด้วยนิ

ผมคำนวณแล้วมันติดลบอะครับ

VIB007 wrote:
TPH wrote:

ผมว่าถ้าเอาน้ำมันดิบของ TOP ไปให้บางจากกลั่นตอนนี้อาจจะได้ผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันเตาแล้วนะครับ เพราะว่าเค้าเพิ่งจะ upgrade โรงกลั่นใหม่ PQI project บางจากตอนนี้ไม่ใช่โรงกลั่นแบบดั้งเดิมแต่เริ่มที่จะกลั่นแบบ complex ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีอาจจะไม่สมบูรณ์เท่า TOP แต่ผมว่าอาจจะสูสีกับ RRC  


แสดงว่ารู้จริง
ฮง ถามเรื่องโรงกลั่นที่คุณTPHได้เลย....คอนเฟิร์ม

ขอบคุณพี่ VIB007 สำหรับคำชม แต่ขอบอกความรู้เรื่องโรงกลั่นของผมนั้นช่างห่างไกลจากคำชมนัก  :oops:

งี้ถามเลยนะ

คุณ tph ผมไม่เข้าใจคำศัพท์นิดหน่อยอะ

1.Hydro-skimming spreads spiked คืออะไรเหรอ
2.ตามปกติสมมุติ top บันทึก stockloss ไปแล้ว
สมมุติราคาน้ำมันวันสุดท้าย q4 ปีที่แล้ว 40 ถ้าปีนี้ราคาเฉลี่ยทั้งปี
40 ก็ไมมี stockloss แล้วใช่มะ


คือจะถามว่าเขาเอาวันสุดท้ายของปีที่แล้วเป็นเกณฑ์ใช่ป่าวว่าจะบันทึก
stockloss หรือ stockgain

อย่างที่บอกนะครับคุณฮง ผมเองความรู้ยังน้อยที่สำคัญยังไม่เคยลงทุนในหุ้นโรงกลั่นเลย ฮา ฮา แต่เคยอ่านเจอในรายงานของโบรคในเวบของเซทเทรดเกี่ยวกับโครงการปรับปรุงโรงกลั่นใหม่ของบางจาก เลยนำมาเสนอแนะ กลายเป็นถูกยกระดับเป็นกูรูซะเลย ฮา ฮา

แต่เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจจะลองตอบดูนะครับ
1. Hydro-skimming spreads spiked น่าจะคล้าย ๆ refinery margin นะครับแต่เป็น margin ของโรงกลั่นแบบดั้งเดิม (Hydro-skimming technology) ที่ product ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมันเตาซะเยอะถ้าใช้น้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง ภาษานักเลงน้ำมันเค้าเรียก heavy sour crude ผมเดาเอาว่าเมื่อรวม product ทั้งหมดที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ 1 bbl เทียบกับต้นทุนน้ำมันดิบ

2. ไม่แน่ใจว่าจะคล้ายกับการแปลงค่างบเงินตราต่างประเทศหรือเปล่าที่อาจจะใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ปิดงบ หรืออาจจะเป็นราคาเฉลี่ย ณ ไตรมาส 4 ก็ได้ครับ

เออวะมั่วตอบเหมือนคนรู้จริง แต่ขอให้คุณฮงไปถามนักวิเคราะห์ที่เค้าติดตามหุ้นน้ำมันโดยตรงน่าจะดีกว่านะครับ  :lol:  :lol:  :lol:

[quote="Grow"]Posted: Wed Mar 11, 2009 7:03 pm

เด็กทุ่งสง เขียน:อยากถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับ pttep เหรอครับ ช่วงปี 2006 ทำไมราคามันตกจาก สี่ร้อยกว่าบาท มาอยู่ที่ เก้าสิบกว่าบาทละครับ

คอนเฟิมแตกพาร์จากสิบเป็นห้าบาทต่อหุ้น

007-s เขียน: อ่าว สวยเด่ะ 42 ...

งั้นเห็นทีต้องเรียก อาเจ็ก แระงี้

ยังไม่เลขสี่นา....ขอบอก อิ อิ

007-s เขียน:......แต่ ไม่ว่าใครจะมากจะน้อยกว่ากัน พวกเราก็ไม่ต้องกังวล

เพราะเรามี ป๋าพอใจ เป็นแนวต้านใหญ่ขวางไว้แล้ว ถึงจะอย่างไร เราก็ยังคง อันเดอร์เพอฟอร์ม..............

:lovl:

[quote="VIB007"][quote="dome@perth"]
ขอบคุณครับ ผมเข้าใจแล้วครับว่า ราคาขายปลีก หน้าปั้ม โดนกำหนดโดยตัวแปรดังกล่าว

แต่ประเด็นที่อยากรู้ลึกซึ้งหน่อย อยู่ที่ "ค่าการกลั่น" อะครับ

จากสมการ

พี่ๆ ครับ ขอสูตรคำนวณ DCF หน่อยครับบบ

ขอบคุณครับบ

[quote="Grow"]

ผมดูจากสูตร ข้างบนครับ

ผมไม่เข้าใจว่าในสูตร ท่อนหลังใช้อ้างอิงจาก NYMEX,BRENT

แต่ปกติของไทย ราคาน้ำมันดิบอ้างอิงของดูไบเป็นหลัก

เด็กทุ่งสง เขียน:พี่ๆ ครับ ขอสูตรคำนวณ DCF หน่อยครับบบ

ขอบคุณครับบ

เอานี่เลย
หนังสือของคุณสุมาอี้
การหามูลค่าหุ้นด้วยตนเอง
ถ้าหาที่บีทูเอสไม่ได้
ก็สั่งซื้อได้ทางเวปของคุณสุมาอี้
ดูที่ห้องร้อยคนร้อยเล่ม

เรื่อง risk free อะครับ ถ้าบริษัท ไม่มีการซื้อพันธบัตรจากรัฐบาลแล้ว มันจามีค่าเป้นสูนรึป่าว ถ้าไม่ มันมี รายการอะไรบ้างที่เป็น risk free อะครับ  

ปล.ลงทุนระยะยาวในเครือบริษัท และ ฝากเงิน ไว้กับแบงค์ ถือเป็นrisk freeรึป่าว


ขอบคุณครับ

[quote="เด็กทุ่งสง"]เรื่อง risk free อะครับ ถ้าบริษัท ไม่มีการซื้อพันธบัตรจากรัฐบาลแล้ว มันจามีค่าเป้นสูนรึป่าว ถ้าไม่ มันมี รายการอะไรบ้างที่เป็น risk free อะครับ

เจ้าฮงหายไปเลยวุ้ย
หรือว่าน้อยใจไปอีกราย
ไม่เห็นโพสมาสามวันแล้ว

VIB007 เขียน:เจ้าฮงหายไปเลยวุ้ย
หรือว่าน้อยใจไปอีกราย
ไม่เห็นโพสมาสามวันแล้ว

เจ๊007 รู้ไหมว่าฮงหายไปไหน

RF - risk free rate ในสูตรCAPM อะครับ

ว่าแต่ ผลตอบแทนของตลาดหาได้จากเหรอครับ


ผมถามมากไปป่าวเนี่ย - -"

เด็กทุ่งสง เขียน:ว่าแต่ ผลตอบแทนของตลาดหาได้จากเหรอครับ


ผมถามมากไปป่าวเนี่ย - -"

ถามไม่มากหรอก
น้อยกว่าเจ้าฮงเยอะ

ว่าแต่ว่าก่อนโพส
ลองอ่านทวนคำถามก่อนส่งหน่อยซิครับ
ผมไม่เข้าใจสักคำถามเดียวเลยจริงๆ

คำถามนี้ก็ไม่เข้าใจเช่นเดิม

เด็กทุ่งสง เขียน:RF - risk free rate ในสูตรCAPM อะครับ

แล้วในตำราที่ไปหามา
ไม่ได้บอกไว้เหรอครับ

RF - risk free rate
ที่ใช้กันส่วนใหญ่ก็คืออัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาล
ถือว่ามั่นคงที่สุด

อ่อครับๆ โทดที แฮะๆๆ

ที่ผมต้องการจะถามเกี่ยวกับ RFก้อคือว่า ถ้าสมมุติบริษัทไม่ได้ซื้อพันธบัตรก้อแสดงว่าค่า RF ก้อต้องเป็น 0 เหรอครับ

อีกคำถามนึงผมหมายถึงเจ้า Rmจากสูตรเดียวกัน อะครับ มันคือผลตอบแทนของตลาดใช่ป่าว แล้วถ้าใช่เราจะหาค่านี้ยังไงครับ

เด็กทุ่งสง เขียน:อ่อครับๆ โทดที แฮะๆๆ

ที่ผมต้องการจะถามเกี่ยวกับ RFก้อคือว่า ถ้าสมมุติบริษัทไม่ได้ซื้อพันธบัตรก้อแสดงว่าค่า RF ก้อต้องเป็น 0 เหรอครับ

อีกคำถามนึงผมหมายถึงเจ้า Rmจากสูตรเดียวกัน อะครับ มันคือผลตอบแทนของตลาดใช่ป่าว แล้วถ้าใช่เราจะหาค่านี้ยังไงครับ

สูตรที่ว่ามันหน้าตาอย่างไรครับ
เอาไว้ใช้ทำอะไร
เพื่ออะไร

ผมว่าแค่Concept คุณเด็กทุ่งสงก็เข้าใจผิดหมดแล้ว
อย่ายึดติดกับสูตรครับ
ทำความเข้าใจมันก่อน
บริษัทไม่ได้ถือพันธบัตรไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยงนะ

ผลตอบแทนของตลาดนี่ Earnings yield หรือเปล่าครับ

ส่วนกลับของ P/E ตลาด ->  E/P*100

VIB007 เขียน: สูตรที่ว่ามันหน้าตาอย่างไรครับ
เอาไว้ใช้ทำอะไร
เพื่ออะไร

ผมว่าแค่Concept คุณเด็กทุ่งสงก็เข้าใจผิดหมดแล้ว
อย่ายึดติดกับสูตรครับ
ทำความเข้าใจมันก่อน
บริษัทไม่ได้ถือพันธบัตรไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยงนะ

ผมยิ่งเข้าใจอะไรยากๆอยู่นะ :lol:  เห็นใจผมบ้างสิ
อยู่ดีๆก็บอกว่ามาจากสูตรเดียวกัน มันสูตรอะไรหรือครับ
คุณเด็กทุ่งสง เผื่อผมจะได้เข้าใจด้วยครับ

dome@perth เขียน:

ผมยิ่งเข้าใจอะไรยากๆอยู่นะ :lol:

ขอเรียนถามคุณวิบูลย์หน่อยค่ะ :

ตามสูตรของคุณสุมาอี้ มีค่า Beta ของหุ้นแต่ละตัว  ถ้าค่า Beta ติดลบหมายความว่าอะไรคะ  แล้วจะสามารถนำมาคิดในสูตรได้อย่างไร  

ขอบคุณมากค่ะ