Thai VI

จริงดังคำพูดที่โบราณว่าไว้ "ถ้าเห็นแมลงสาบโผล่ออกมาหนึ่งตัว ให้คิดไว้เสมอว่ามันยังมีอีกหลายตัว"

สองปีก่อนก็เช่นกัน หุ้นขึ้นอยู่ดี ๆ ก็มีเหตุการณ์ยุโรปมาเขย่า จบด้วยเรื่องน้ำท่วม

micky1115 เขียน:
(ปล 5-6หมื่นล้านนี่คือนับแค่ ผมคิดคือ มันเอาทหารแบ่งมาสู้ 50%ที่ 1.2แสนล้าน กองพล

ทั้งหมด2.4แสนล้าน)

อีก1.2แสนล้านบาท ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล มันก้พร้อมจะยกลงมาสมทบ

เล่นงานเราแบบปี 2540 2551

2ปีนี้ Net sell ดุเดือด

เรียนท่านกุนซือ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าการเปรียบเทียบกับปี 40, 51 นั้น มูลเหตุอาจจะเปรียบเทียบกันได้ยากยิ่ง เนื่องจากในปี 40 วิกฤติเกิดที่บ้านของเรา ปัญหาใหญ่หลวงนัก ส่วนปี 51 นั้นวิกฤติที่บ้านเขาก็รุนแรงนัก การขายหุ้นแบบไม่ยั้งจึงเกิดขึ้น จริง ๆ ครั้งนี้ข้าพเจ้ากลับนึกถึงตอนปี 37 ที่ SET วิ่งขึ้นไป 1700 จุดก่อนจะถูกทุบลงมาอย่างไม่เป็นท่าน่าจะเหลือราว ๆ 1000 ต้น ๆ ข้าพเจ้าเองก็รู้จักตลาดหุ้นตอนที่ตลาดลงมาหนักแล้ว ตอนนั้นต้องถือว่าเป็นเรื่องการไหลของเงินต่างชาติอย่างแท้จริง ข้าพเจ้ายังจำความรู้สึกของคนรอบตัวตอนที่หุ้นขึ้นไปสูง ๆ ได้เลย มันไม่ต่างกับครั้งนี้จริง ๆ มีแต่คนอยากเล่นหุ้น มีแต่คนกำไรจากหุ้น ข้าพเจ้าก็ยอมรับตอนนั้นข้าพเจ้าในวัยเยาว์ก็ยังมีความรู้สึกสนใจในหุ้นขึ้นมากับเขาเหมือนกัน สุดท้ายตลาดก็เอากำไรคืนกลับมาจากมือของรายย่อยหมด

แต่สิ่งที่วันนี้ต่างกับในอดีตก็คือ นลท.รายย่อยฉลาดขึ้น กองทุนมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งต่างชาติก็มีอาวุธที่ทรงพลังมากขึ้นคือ TFEX

ตอนนี้ข้าพเจ้ายังย้ำที่จุดเดิมว่าการเข้าปะทะมีแต่จะเกิดผลเสียหาย สิ่งที่เสียหายไปตอนนี้มันเรียกกลับมาไม่ได้แล้ว เพียงแต่ว่า "หมู่เรา" จะวางแผนที่จะกลับมาอย่างไรเท่านั้น ถึงตอนนั้นถ้าตลาดลงไปหนักจริง เราอาจจะต้องมองข้ามช็อตไปแล้วว่า ถ้าเราอยากจะกลับมาให้เร็ว เราจะมีวิธีการอย่างไร ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีจริง ๆ ความเสี่ยงก็แตกต่างกันไป

พระเจ้าตากสินมหาราชทรงฝ่าวงล้อมข้าศึกพร้อมทหารคู่ใจเพียงหยิบมือ ใครเล่าจะคิดว่าอีก 7 เดือนให้หลัง ท่านสามารถนำทัพอันน้อยนิดกู้กรุงศรีอยุธยากลับมาได้

ขอบคุณท่านนายพล "harikung" ที่ได้แจ้งเตือน.....^^)

ยามหุ้นลง ข่าวร้ายก้บังเกิด มาพร้อมคนที่ท้อแท้และรอวันยอมแพ้ครับ

ผู้ที่กลัว ก้จะเทขายหุ้นออกมาถูกๆ เพื่อหวังจะซื้อให้ได้ในราคาถูกกว่า

ผู้ที่ร้อนเงิน ก้มักจะเทขายทุกราคาและไม่กลับไปซื้อ

ตลาดที่มีแต่ ตัว N กำลังก่อตัว ในยามนี้ท่านผู้นำได้ส่งรูปให้ผม

ในรูปนั่นคือ ปรมาจารย์ ปึงซีเง๊ก ปิดตาสู้

ในจดหมายกล่าวว่า ความกลัวและความโลภเกิดจากจิตใจที่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น

ปิดตาแล้ว ไม่ว่าศัตรูจะใหญ่ขนาดไหน ศัตรูก้จะดูเล็กเอง

ปิดตาแล้ว จงใช้ใจเพื่อเพ่งดูศัตรู สู้บนเหตุและผลในยามตลาดกำลังไร้เหตุและผล

เมื่อใจสงบ สมาธิก้จะมา เมื่อคนกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีกระบี่

ไม่จำเป็นต้องมีท่วงท่าอีกต่อไป หยิบยืมพลังจากธรรมชาติ หลอมใจให้เป็นกระบี่

เมื่อนั้น ดอกไม้และใบหญ้าก้สามารถกลายมาเป็นกระบี่ได้

หันหลังคืนฝั่ง จะพบทางสว่าง ขอบคุณท่านผู้นำ

micky1115 เขียน:ยามหุ้นลง ข่าวร้ายก้บังเกิด มาพร้อมคนที่ท้อแท้และรอวันยอมแพ้ครับ

ผู้ที่กลัว ก้จะเทขายหุ้นออกมาถูกๆ เพื่อหวังจะซื้อให้ได้ในราคาถูกกว่า

ผู้ที่ร้อนเงิน ก้มักจะเทขายทุกราคาและไม่กลับไปซื้อ

ตลาดที่มีแต่ ตัว N กำลังก่อตัว ในยามนี้ท่านผู้นำได้ส่งรูปให้ผม

ในรูปนั่นคือ ปรมาจารย์ ปึงซีเง๊ก ปิดตาสู้

ในจดหมายกล่าวว่า ความกลัวและความโลภเกิดจากจิตใจที่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น

ปิดตาแล้ว ไม่ว่าศัตรูจะใหญ่ขนาดไหน ศัตรูก้จะดูเล็กเอง

ปิดตาแล้ว จงใช้ใจเพื่อเพ่งดูศัตรู สู้บนเหตุและผลในยามตลาดกำลังไร้เหตุและผล

เมื่อใจสงบ สมาธิก้จะมา เมื่อคนกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีกระบี่

ไม่จำเป็นต้องมีท่วงท่าอีกต่อไป หยิบยืมพลังจากธรรมชาติ หลอมใจให้เป็นกระบี่

เมื่อนั้น ดอกไม้และใบหญ้าก้สามารถกลายมาเป็นกระบี่ได้

หันหลังคืนฝั่ง จะพบทางสว่าง ขอบคุณท่านผู้นำ

ขอบคุณกุนซือครับ

อาจจะไม่แย่อย่างที่คิดกันครับ ทัพฮั่งเริ่มโต้กลับ และทัพจีนที่โดน B52 ทิ้งระเบิดโกโก้ครั้นช์ไปเมื่อวานก็ทรงๆ

อย่าหมดกำลังใจครับ มองข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ครับ อย่ามองด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะกลัวหรือกล้า
สู้ๆ ครับ

ง่า ทัพหลวงเดินทัพดาวแดงทะลวงแนวรับได้อย่างง่ายดาย ลุงเบนฟิวชั่นกับตี๋จีน ระเบิดโกโก้ครันช์ เมดอินไชน่า
โลกนี้แมลงสาปไม่ได้มีตัวเดียวจริงๆด้วย

แนว 1350 แตกแล้วท่าน กำลังพลต้องรีบอุดรอบรั่วด่วน!

ข้าพเจ้าก็เป็นเพียงชาวเกษตรกรรม..ได้ข่าวสารมาว่า..ท่านทั้งหลายกำลังเริ่มหมดกำลังใจ..หดหู่..และเริ่มจะสิ้นหวัง...ฟ้าฝนและอุทกภัย..สำหรับนักการเกษตรแบบข้าพเจ้าแล้ว..เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติที่ต้องเกิดทุกปี..สั้นบ้างยาวบ้างแตกต่างกันไปในแต่ละปี...และในทุกครั้งย่อมสร้างผลกระทบด้านจิตใจและร่างกายให้กับผู้ประสบพบเจอ..มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป.....เราเป็นคนใต้ฟ้าจะห้ามลมห้ามฝนคงเกินวิสัย...เรียนรู้และอยู่กลับมันอย่างปกติเถอะ..(ความคิดเขลาๆจากชาวเกษตรกรรมคนหนึ่ง)

ศัตรูสร้างความหวาดกลัวบริหารการศึก

แม้ใช้กำลังน้อยก็ตีให้ตลาดทุกตลาดพังทะลายโดยง่าย

ความกลัวระดับ 70%แล้วครับ 555+

ผมตามอ่านจากเวบบอรด์ อารมณ์ส่วนใหญ่เริ่มกลัวแล้ว ถ้าลงแรงๆ

อีกสัก 150 จุดลงมา ทีนี้กลัว 90% น้อยครั้งที่จะเห็นความกลัวแบบนี้

หลายคนคัทไปหมดแล้ว แสดงว่า คงลงได้อีกไม่นาน




เวลาแบบนี้ที่ไม่มีตัว N คนกลับไม่ชอบแปลกแต่จริง

ดีเสียอีก คนไม่รู้คนกลัวขายของถูก คนร้อนเงินขายทุกราคา

ถ้าเรามีเงินนอน ต่อราคาัสนุกดีครับ ไหนๆรอบนี้ก้เข้าทาง (เท้า)เราแล้ว

เรียนท่านกุนซือและท่านแม่ทัพทั้งหลาย
ช่วงบ่ายนี้สมรภูมิการรบได้เกิดเหตุมิคาดคิดเกิดขึ้น ข้าพเจ้ามองเห็นแสงไฟสีเขียวอยู่เป็นระยะๆ ด้วยความที่ข้าน้อยโง่เขลาเบาปัญญา มิอาจเข้าใจว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากเล่ห์กลของฝ่ายข้าศึก หรือเกิดจากกองกำลังของฝ่ายเราได้ตีโต้ทัพของข้าศึกให้ถอยร่นออกไป วานท่านกุนซือและท่านแม่ทัพช่วยแจงข้อสงสัยของข้าผู้น้อยด้วย
นับถือ
พลทหาร เม่า จัง กู

ฝ่ายเราตีโต้กลับมายึดแนวที่มั่นเดิมได้
จะเป็นทหารดาวแดงยิงกันเองหรือไม่ บาทเริ่มแข็งขึ้น

กัดฟันคับ เต่าเดินช้า ตายช้า

วันนี้กลัวถึงขีดสุด เช้าตัดใจทิ้งออกไป 20%
บ่ายเงิบบบบ

จากหน่วย1200 กองพลที่ 13 เนื่องจากเห็นแนวหน้าตีโต้กลับมายึดแนวที่มั่นเดิมได้
จึงได้ส่ง หน่วยกล้าตาย 1 ส่วนออกไปสมทบ ยั่งเชิงดูลาดเลา หวังจะยึด กรุงโซล คืนได้
กุนซือบางท่าน แนะในเดือนหน้า ข้าศึกจะถอนทัพตามฤดูกาล

ก้คงเป็นดังท่านผู้นำต้องการครับ คือ ให้เค้าสู้กันให้ตายตรงนี้เยอะๆหน่อย

แบบหนังฝรั่ง กดให้จมน้ำแล้วดึงหัวขึ้นมาหน่อย

แล้วก้กดให้มิดอีกรอบ ดูฟิลิปินส์แล้วน่าจะสุดๆแล้ว

ยังเหลือพี่ไทยครับที่รอวันระดับ 4%+

หุ้นที่ขึ้นก้หุ้นที่มี.....ทั้งนั้น เค้ากระตุกขึ้นไปนิดเดียวก้คนแห่ตามเต็ม

ดูแล้วความกลัวลดไปบ้าง แต่ความกล้ายังไม่มี

นั่งๆนอนๆดูเค้าทำ ก้สนุกดีครับ

micky1115 เขียน:ยามหุ้นลง ข่าวร้ายก้บังเกิด มาพร้อมคนที่ท้อแท้และรอวันยอมแพ้ครับ

ผู้ที่กลัว ก้จะเทขายหุ้นออกมาถูกๆ เพื่อหวังจะซื้อให้ได้ในราคาถูกกว่า

ผู้ที่ร้อนเงิน ก้มักจะเทขายทุกราคาและไม่กลับไปซื้อ

ตลาดที่มีแต่ ตัว N กำลังก่อตัว ในยามนี้ท่านผู้นำได้ส่งรูปให้ผม

ในรูปนั่นคือ ปรมาจารย์ ปึงซีเง๊ก ปิดตาสู้

ในจดหมายกล่าวว่า ความกลัวและความโลภเกิดจากจิตใจที่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น

ปิดตาแล้ว ไม่ว่าศัตรูจะใหญ่ขนาดไหน ศัตรูก้จะดูเล็กเอง

ปิดตาแล้ว จงใช้ใจเพื่อเพ่งดูศัตรู สู้บนเหตุและผลในยามตลาดกำลังไร้เหตุและผล

เมื่อใจสงบ สมาธิก้จะมา เมื่อคนกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีกระบี่

ไม่จำเป็นต้องมีท่วงท่าอีกต่อไป หยิบยืมพลังจากธรรมชาติ หลอมใจให้เป็นกระบี่

เมื่อนั้น ดอกไม้และใบหญ้าก้สามารถกลายมาเป็นกระบี่ได้

หันหลังคืนฝั่ง จะพบทางสว่าง ขอบคุณท่านผู้นำ

ข้าพเจ้าจะขอรับคำสอนมาใส่สมองอันโง่เขลาของข้าพเจ้าครับ

schwartz_IR เขียน:วันนี้กลัวถึงขีดสุด เช้าตัดใจทิ้งออกไป 20%
บ่ายเงิบบบบ

ท่าน

เรียนท่าน Nevercry boy
ผมยังมีให้ศัตรูทุบอีกกว่า 80% ครับ

เก็บเบี้ยไว้บ้างเผื่อหยอดน้ำข้าวต้มน่ะครับ

แต่วันนี้ "ผมแพ้" แล้วครับ

แพ้เพราะซื้อ เก็บเล็กผสมน้อยด้วยเหตุผลเป็นเวลานาน แต่ทิ้ง ออกไป แม้เพียงส่วนน้อย ด้วยอารมณ์ล้วนๆ ในแค่ไม่กี่ นาที

ผมอาจจะ ตัดสินด้วยอารมณ์ ถูกต้องก็ได้ นะครับ ที่ทำไปเช้านี้
แต่ผิด ด้วยเหตุผล เพราะ ผมหาเหตุผลจริงๆ ไม่ได้ ผมแค่ "กลัวขี้ขึ้นสมอง" ครับ เลยโยนทิ้งออกไป

ผิดถูกไม่มีใครรู้ครับ พรุ่งนี้ก็ยากครับ ผมเองก็กลัวครับแต่หลับหูหลับตา อึดไว้

schwartz_IR เขียน:วันนี้กลัวถึงขีดสุด เช้าตัดใจทิ้งออกไป 20%
บ่ายเงิบบบบ

ข้าพเจ้าขอบังอาจเล่าเรื่องราวของข้าพเจ้า เผื่อจะเป็นอุทธาหรณ์สำหรับท่านนายพลทุกท่านไม่มากก็น้อย

สองปีก่อนขณะที่หุ้นกำลังขึ้น สภาวะตลาดสดใส อยู่ ๆ ก็เกิดเรื่องในยุโรปขึ้น ตอนนั้นพอร์ตของข้าพเจ้ายังเป็นบวกในระดับที่น่าพอใจ ขณะที่ความกลัวของตลาดค่อย ๆ เพิ่มถึงขีดสุด พร้อม ๆ กับหุ้นในพอร์ตของข้าพเจ้าบางตัวก็เกิดปัญหา

หุ้น A เป็นหุ้น IT ผลงานก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ข้าพเจ้าถือมาราว ๆ ปีกว่า ๆ แต่ก็มีปัญหากำไรไม่แน่นอน
หุ้น B เป็นหุ้นชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ที่ดูตอนแรกเหมือนจะดี แต่พอมาเจอสึนามิบวกกับปัญหาของทางยุโรป ยอดขายก็เริ่มมีปัญหา ส่งผลให้กำไรตกลง
หุ้น C เป็นหุ้นถ่านหิน ในปีนั้นโชคร้ายโดนปิดโรงงานเพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากหุ้น A และ B ข้าพเจ้ามีเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก เมื่อหุ้นมีปัญหาพร้อมกับสภาพตลาดที่ "น่ากลัว" ท่านไม่ต้องพูดถึงราคาหุ้น ย่อมไหลลงแรงกว่าปกติแน่นอน นั่นแปลว่ามันย่อมดึงผลตอบแทนที่ทำไว้ดีในตอนต้นให้แย่ตามกันไปด้วย เพราะหุ้นตัวอื่นก็ลงตามสภาวะตลาด

ช่วงแรกข้าพเจ้ายัง "กัดฟัน" ถือ หรือเป็น "ความดื้อรั้น" ของข้าพเจ้าเองก็มิอาจจะทราบได้ สุดท้ายเมื่อถึงจุดหนึ่งเกิดความทนไม่ไหวต้องขายออกในราคาที่ low เนื่องจากหุ้นไม่ค่อยมีวอลุม

ข้าพเจ้าตัดสินใจทิ้งหุ้น A, B, C ออกไป เนื่องจากมองว่าพื้นฐานของหุ้นยังมีปัญหา โดยหวังจะนำเงินที่ได้ไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่มีอนาคตมากกว่า

สรุปในปีนั้นข้าพเจ้าทำผลตอบแทนได้เพียงเสมอตลาด

เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่หลังจากที่ข้าพเจ้าขายหุ้นออกไปไม่นาน ถึงแม้จะมีเรื่องน้ำท่วม แต่ราคาหุ้นมันก็เริ่มนิ่ง หลังจากผ่านไป 1 ปี บทสรุปของหุ้นทั้งสามตัว

หุ้น A กลายเป็นหุ้นเทพ ราคาขึ้นไปเรื่อย ๆ จาก story บางอย่างที่อาจจะเปลี่ยนพื้นฐานของบ. กำไรดีขึ้นสม่ำเสมอขึ้น ผ่านไปสองปีราคาหุ้นขึ้นมากกว่า 10 เด้ง ขอย้ำว่าพิมพ์ไม่ผิด 10 เด้ง

หุ้น B ยังคงเป็นหุ้นเน่า ถึงแม้ราคาหุ้นจะขึ้นสูงกว่าราคาที่ข้าพเจ้าขาย 40% ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด แต่ในแง่พื้นงานของบ. กำไรยังคงง่อนแง่น บางครั้งก็ขาดทุน

หุ้น C โรงงานยังคงถูกปิดมาจนถึงวันนี้ กำไรก็ง่อนแง่นเช่นกัน แต่ในแง่ของราคาหุ้น หลังจากที่ข้าพเจ้าขายหุ้นไปไม่นาน อยู่ดี ๆราคาหุ้นก็ขึ้นไปเกินราคาทุนของข้าพเจ้า ก่อนที่จะตกลงมา

จริงอยู่ในปีถัดมาข้าพเจ้าเอาชนะตลาดได้ขาดลอย แต่เมื่อหวนคิดถึงหุ้นสามตัวนี้ จริงอยู่ในแง่การมองพื้นฐานของหุ้นข้าพเจ้าตัดสินใจถูก 2 ใน 3 แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ทำอะไรกับหุ้นทั้งสามตัวล่ะ ถึงแม้ข้าพเจ้าจะถูกแค่ 1 ใน 3 แต่ผลตอบแทนที่จะทำได้มันต้องดีกว่าความเป็นจริงมาก ๆ เพราะมีโอกาสถือหุ้น 10 เด้งในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก

พอมาเจอเหตุการณ์หุ้นลงในครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้าต้องหวนคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกว่า "หรือข้าพเจ้าดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นมากเกินไป" ถ้าข้าพเจ้าเลือกที่จะปิดตาแบบที่ท่านผู้นำแนะนำอาจจะไม่อยู่ในสภาวะที่จิตใจหดหู่ กลัว เสียดายกับกำไรที่หายไป

ขอบคุณสำหรับคำเตือน ข้าพเจ้าจะดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นให้น้อยลงครับ

ขอบคุณสำหรับ อุทาหรณ์ ที่กรุณา ชี้แนะ ครับ ท่าน leky

จริงอย่างที่ท่านว่า ครับ

ผมเห็นสมควรต้องปิดจอ

ดูจอไป ทนอึด แค่ไหน มันก็มีชั่วขณะ แตกหักทางใจ
หูอื้อตาลาย ไม่มีเหตุผล เบลอไปหมด

ขอบพระคุณ ที่เตือนสติ ครับ

ขอบคุณ ท่านผู้นำ leky ทึ่ช่วยเตือนสติ

ความกลัวเริ่มครอบคลุมสมรภูมิ จนเหล่าทหารหาญเริ่มไม่กล้าออกไปรบกันแล้ว
ทำไปทำมา ข้าพเจ้าชักจะกลัวไปด้วย...

แต่ด้วยหน้าที่รับผิดชอบ จะละทิ้งไปมิได้
ข้าพเจ้า จึงขอเลือกรักษาเมืองเดิม ที่คิดว่าแข็งแกร่ง ไว้ต่อไป
เพราะเชื่อว่า
1. ข้าศึกสักวันต้องอ่อนแรง และด้วยสัญชาติญานของมนุษย์ แล้ว เป็นพวกรักสงบ ไม่ใคร่ทำการสู้รบอยู่แล้ว
2. เมืองที่ข้าพเจ้ารักษา มีปัอม แลคูเมือง ที่ลึกพอประมาณ ยากที่ผู้ใด จะตีหักเอาได้โดยง่าย

สักวันหนึ่งคงถึงวันที่ฟ้าสว่าง...

วันนี้ผมก็เกือบทนไม่ไหว เพราะเริ่มเห็นหุ้นในกลุ่มเดียวกัน
ตัวที่เคยอยากได้ลงเกือบสิบเปอร์เซ็นต์ เท่านั้นแหละสติแตก
ว่าถ้าไม่ขายตอนนี้แล้วมันลงไป 50 % จะทำไง
ดีทีตลาดเด้งซะก่อน ไม่งั้นได้ขาดทุนจริงแน่

เรียนท่านแม่ทัพ กุนซือ สหายศึก

ข้าน้อยยังไม่ตายยยยยยยยยย

ส่วน สหายศึกที่ถอดใจ ท่านก็อย่าได้ใจเสีย
เมื่อครั้งยุทธภมิ water flood
ข้าน้อย จมน้ำไปกับเมือง ที่ระดับ -20 m อาศัยความอึด ที่สุดก็ชนะ
สหายข้าหลายคน เลือกถอยไปตั้งหลักโดยเสียเลือดเนื้อไปบ้าง
แต่เมื่อสถาณการณ์คลี่คลาย ก็กลับมาตามตีทัพข้าศึก ก็ชนะเช่นกัน

อันการศึกนี้ ไม่มีไฮแท้ หรือโลวถาวร

ข้าน้อยก็เคยทิ้งเมืองที่ราคาโลว (ใครๆก็น่าจะเคย)
แต่เมื่อผ่านไป หากเห็นว่ายังมีคุณค่า การเข้ายึดที่ราคาสูงกว่านั้น 30% ก็ทำมาแล้ว
ก็ไม่ผิดกฎแต่อย่างใด ท่านก็ยังชนะได้

ยามศึกเยี่ยงนี้ วันนี้ถูกผิดนี้ก็อาจผิด
ถึงสงครามจะผ่านไปแล้ว ท่านก็ยังกลับไปยึดได้ทุกเมื่อที่ท่านมั่นใจ

ถ้าคืนนี้แนวรบตะวันตกเป็นใจ เราอาจจะตะโกนปลุกใจผองเพื่อนแบบหนัง 300 ได้

Tomorrow, We dine in Seoul!!!!!!!!!!!!!!!

(พรุ่งนี้เลี้ยงโต๊ะจีนในกรุงโซลกันนะฮ้าพพพพ)

ยามศึกสงครามช่วงนี้...ข้าพเจ้าได้เจอพ่อแม่ครูอาจารย์..ท่านถามเกล้าเอ๋ย..สบายดีมั้ย..
พ่อแม่ครูอาจาย์ครับ..กายไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับ(โดยอาชีพเกษตรกร)..แล้วใจเจ้าล่ะ..
ท่านหยุดไปพักนึง..แล้วพูดมาว่า..กายไม่สบายแต่ใจเราดีถือว่าใช้ได้น่ะ..ฟังแล้วก็รู้สึกอิ่มใจ
ดีที่ท่านสั่งสอนเมตตาเรา..อุปมาอุปไมย..พืชผลราคาเกษตรของราคาตกต่ำเพราะเกิดจาก
เหตุการณ์ไม่ปกติที่ไม่ได้เกิดจากผลผลิตที่ไม่ดีของเราแต่อย่างไร..แต่พืชผลที่
เราเพราะปลูกไว้..ยังยืนต้นงดงาม..ออกดอกออกผลยังสมบูรณ์..การข้างหน้า..คงจะไม่แปลก
อะไร..ที่จะกลับค้าขายได้ราคาที่ดีอย่างควิรตะเป็น(วันนึงผู้คนคงเห็นคุณค่า)....ข้าพเจ้ายังรอ
และมีความหวังวันที่สงครามสงบลง...

แมวตัวกลมๆ เขียน:ฝ่ายเราตีโต้กลับมายึดแนวที่มั่นเดิมได้
จะเป็นทหารดาวแดงยิงกันเองหรือไม่ บาทเริ่มแข็งขึ้น

ปอปอาละวาดครับ

เห็นเพื่อนบ้านยุโรปเขียวหน่อย จัดวิ่งนำไปก่อนแล้วไปเทท้ายตลาดแทบทุกตัว

ฝรั่งคงคิดไม่ถึงครับ ว่าเป็นฝีมือปอปเดย์เทรดแท้ๆ คงกำลังจะขายเจอเทตัดหน้า

ฝรั่งเอง คงสบถว่า it's a jungle here if you're not strong you can't stay

ไหนจะ ปลั๊กหลุดอีก

เล่นแบบขาวสะอาดมากครับ แหม