หน้า 11 จากทั้งหมด 30
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 8:23 am
โดย SoLid_frOg
ขอตอบคำถามเข้าเรื่องหน่อย
ใช่ profit margin หรือเปล่าเอ่ยยย :8)
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 10:10 am
โดย naris
naris เขียน:
ตอบยากนะครับ เพราะการคำนวณว่าหุ้นตัวไหนที่ได้ผลตอบแทนมากกว่ากันมันจะมีองค์ประกอบอยู่สองอย่าง...แต่พี่ยังไม่เฉลย
ขอเล่นเกมสนุกนะครับ ขอถามน้องleotisคืนว่า น้องคิดว่าสองอย่างที่พี่ว่าเมื่อพูดถึงรพ. คืออะไรครับ
ทั้งคุณตึกและคุณอินทรีย์.............ถูกต้องนะคร้าบ 555 คิดได้ไงอ่ะ :lovl:
ขอตอบน้องเก่งนะครับ อย่างที่หลายคนตอบนั้นถูกแล้วครับข้อแรกคือROA หรือ ROE หรือ utilization rate คูณกับGPM(NPM)ของ รพ.นั้นๆ.......หรือแปลง่ายๆคือ อัตราผลตอบแทนสูงสุดของทรัพย์สินที่ใช้เมื่อเทียบกับเงินที่เราลงทุนไป.....จะเห็นว่า รพ.แต่ละที่มีเป้าหมายในเรื่องนี้เหมือนๆกัน แต่โมเดลธุรกิจที่วางเอาไว้แตกต่างกันอย่างชัดเจน อย่างเช่นบางที่เน้นการบริหารที่ไฟแนนเชียล(financial hospital) บางที่เน้นการบริหารแบบเพิ่มมูลค่า(value added)ใครที่อยากรู้รายละเอียดโมเดลธุรกิจของกลุ่ม รพ. พี่เคยโพสท์อยู่หน้าที่5นะครับ ไปดูเพิ่มเติมได้.....นั่นคือข้อแรก
ในเมื่อเราพูดถึงผลตอบแทนต่อเงินลงทุนของเรา...ข้อที่สองที่อยากจะสื่อคือเรื่อง...ราคาที่เราซื้อ...และผลตอบแทนที่เราจะได้ในอนาคต(จากราคาหุ้นที่เราซื้อ)...ข้อนี้จะมีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องอยู่1ตัวคือ เวลา....ถ้า ถ้าเรารู้โมเดลเขารายได้และ ROAเขาเมื่อเต็ม...คำถามที่ต้องหาคือ เมื่อไหร่จะไปถึงจุดที่เราหวังไว้....และในจุดนั้นลองคำนวณย้อนคืนมาราคาหุ้นที่เราซื้อเราจะได้ค่าๆหนึ่งคือผลตอบแทนที่จะได้รับในอีกXปีที่เราคำนวณครับ
จากคำถามที่พี่ว่าตอบยาก เพราะด้วยโมเดลของBGHที่เขาเน้นทางการเงิน โดยชอบเทคและร่วมลงทุนกระจายหมากไว้ทั่วประเทศ....อีก10ปีข้างหน้าโอกาสเขาที่จะโตก็มากกว่ารายอื่นๆค่อนข้างแน่นอน แต่เรื่องROAว่าจะได้เท่าไหร่ จะต้องดูเรื่องต้นทุนทางการเงินในอนาคต ประกอบกับการบริหารจัดการที่สามารถใช้ทรัพยากรได้ดีมากแค่ไหนครับ เพราะทั้งสองเรื่องก็เป็นจุดดีและจุดตายของBGHเลยหล่ะครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 11:08 am
โดย IWILLBEVI
รบกวนถามคุณชงเรื่องการควบรวมกิจการนิดนึงครับ ว่ามีอะไรจะต้องมองบ้าง โดยเฉพาะ เคสของ IRPC TOP PTTAR
1. การดูแบบหยาบๆว่าหลังควบรวมแล้ว BV ของบริษัทใหม่ต้องอย่างน้อยเท่ากับBV ของทั้ง 3 บริษัทรวมกัน แนวคิดนี้ถูก/ผิด อย่างไรครับ
2. มีกรณีไหนครับที่หลังควบรวมแล้ว BV ของบริษัทใหม่มากกว่า BV ของบริษัทเดิมรวมกัน และอะไรทำให้ BV เพิ่มมากขึ้นได้บ้างครับ เช่นการตีมูลค่าทรัพย์สินใหม่ถือว่าป็น catalyst ตัวนึงได้ไหมครับ
3. ในกรณีเกิดกำหนด share swap ratio ขึ้นมา ถ้าเรารู้คร่าวๆ เราสามารถคำนวนหาจำนวนหุ้นของบริษัทใหม่ทั้งหมด ได้ไหมครับ เป็นไปได้ไหมครับที่จำนวนหุ้นของบริษัทใหม่จะมากกว่าจำนวนหุ้นหลังทำการ swap
4. ข้อมูลอะไรบ้างที่จะช่วยเราทำการคำนวนหามูลค่าหุ้นที่เหมาะสม หลังเกิดการควบรวม ของหุ้นแต่ละตัวได้ครับ (แบบง่ายๆ)
5. มีปัจจัยอื่นอีกไหมครับที่ทำให้การควบรวมเกิดมูลค่าทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญ เช่น cost synergy, resource sharing, investment
6.คุณชงมีมุมมองอย่างไรกับการควบรวมครั้งนี้ครับ
ผมไม่ได้เก่งอะไร แต่อยากใช้เคสนี้เป็นกรณีศึกษา และจะทำการบ้านไปด้วยเพื่อดูว่าสมมุติฐานต่างๆ ที่ผมมีอยู่ถูกต้องมากแค่ไหน
ขอบคุณมากครับ :D
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 11:32 am
โดย naris
[quote="IWILLBEVI"]รบกวนถามคุณชงเรื่องการควบรวมกิจการนิดนึงครับ ว่ามีอะไรจะต้องมองบ้าง โดยเฉพาะ เคสของ IRPC TOP PTTAR
1. การดูแบบหยาบๆว่าหลังควบรวมแล้ว BV ของบริษัทใหม่ต้องอย่างน้อยเท่ากับBV ของทั้ง 3 บริษัทรวมกัน
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 12:06 pm
โดย Linzhi
ชอบพี่นริศ วิเคราะห์กลุ่มโรงพยาบาลมากครับ
และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ผมติดตามมากที่สุดในเวลานี้
ได้อ่านคำตอบของคุณ VI Jr. แล้วขำมาก ชอบบเช่นกัน
แลกเปลี่ยนความเห็นกับพี่หน่อยสิครับ ว่าพี่มองยังไง
อนาคตผมว่ากำไรรพ. จะวัดกันด้วย OPD (รวมถึงพวก preventive ต่างๆ เช่นตรวจสุขภาพ) และจะโตอย่างก้าวกระโดด
เพราะผมเห็น BH เปิดตึก international ที่รับแต่ OPD (ขยาย IPD น้อยมาก) ผมก็ถึงบางอ้อ
ส่วน IPD อนาคต ผมว่า โรงพยาบาลใหญ่กินหมด โรงพยาบาลขนาดกลาง เล็ก
จะได้รับประโยชน์น้อยมาก นอกจากโรคไข้หวัด 2010, 2011 อะไรแบบนี้ :lol:
ผมสังเกต operation ใหญ่ ๆ คนไข้เลือกหมอมาก แม้จะเป็นรพ.เดียวกัน
และในขณะเดียวกัน คนไข้จะเลือกสถานที่มากเช่นกัน
ปัจจัยหมอ กับสถานที่ (รพ.) ผมยัง weight ไม่ถูก แต่ผมว่าตอนนี้น่าจะ 70/30
อนาคตก็ไม่แน่
และหมอเก่ง (ส่วนมาก แต่ไม่ทั้งหมด) น่าจะไปกระจุกอยู่ที่รพ.ใหญ่ในอนาคต
ไม่รู้เทียบกับนักร้อง นักแสดงได้รึเปล่า เคสคล้าย ๆ กัน
อยากพิมพ์ต่อ แต่คุยแบบนี้ผมไม่ถนัด ค่อย ๆ คุย แล้วจะไปถกกับพี่อีกทีครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 12:21 pm
โดย leotis
ขอบคุณพี่นริศมากคัฟฟ ถึงบางอ้อมากขึ้นคัฟฟฟ
อย่างนี้การที่ชุมชนแถวนั้นมีการขยายตัวมากขึ้น โอกาสที่ROAเต็ม..ตามข้อ 2 ก็มีโอกาสเป็นไปไดมากขึ้น และลดความเสี่ยงไปในตัวอีก
ข้อที่สองที่อยากจะสื่อคือเรื่อง...ราคาที่เราซื้อ...และผลตอบแทนที่เราจะได้ในอนาคต(จากราคาหุ้นที่เราซื้อ)...ข้อนี้จะมีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องอยู่1ตัวคือ เวลา....ถ้า ถ้าเรารู้โมเดลเขารายได้และ ROAเขาเมื่อเต็ม...คำถามที่ต้องหาคือ เมื่อไหร่จะไปถึงจุดที่เราหวังไว้....และในจุดนั้นลองคำนวณย้อนคืนมาราคาหุ้นที่เราซื้อเราจะได้ค่าๆหนึ่งคือผลตอบแทนที่จะได้รับในอีกXปีที่เราคำนวณครับ
อย่างนี้ตอนงานประชุมผู้ถือหุ้น ต้องเอาแนวทางของพี่ VI Jr. และ พี่อินทรีย์ทองแดง ไปเสนอแล้วคัฟฟฟ เพื่อลดเวลาเป้าหมาย :lol: :8)
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 12:29 pm
โดย naris
เอาตามที่พี่เข้าใจนะครับอาจจะผิดก็ได้
จริงๆทาง รพ.อยากเน้นที่IPDเพราะรายได้และกำไรขั้นต้นต่อหัวสูงกว่าOPDมากๆ แต่การที่จะเลือกรับแต่IPDจะต้องเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องระดับตติยภูมิที่ รพ.เก่งกว่า เช่นการผ่าสมองของบำรุงราษฎร์ การผ่าหัวใจของ รพ.กรุงเทพเป็นต้น แต่เนื่องจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มพวกนั้นยังมีผู้ใช้น้อยราย utilize เขายังเหลือเฟือ แต่คอขวดของBHอยู่ที่อาคารจอดรถและOPD ทำให้การขยายตัวในรอบนี้ไปเปิดใช้บริการในด้านนี้ก่อน และชั้นที่ว่างอยู่คงจะเปิดตามความจำเป็นใช้ในอนาคตครับ
ปล.และข้อมูลที่ได้อยู่อย่างคือ เทรนในอนาคตเกี่ยวกับเรื่องIPDว่าจะหดสั้นลงเรื่อยๆ จากที่ผมเข้าใจว่าในอดีต คนที่พักIPDน่าจะเกิดจากกลุ่มคนที่ผ่าตัดมากกว่าครึ่ง แต่พัฒนาการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้การผ่าตัดไม่ต้องนอนพักฟื้นเป็นเวลานานอย่างเช่นอดีต(แต่ค่ารักษาก็ไม่ได้ลดลงนะครับ ถึงแม้จะพักฟื้นน้อยลง) ทำให้ในอนาคตอัตราการครองเตียงคงจะต่ำลงเมื่อเทียบกับOPDครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 1:40 pm
โดย IWILLBEVI
ต้องขอโทษคุณIWILLBEVI.ด้วยนะครับ เนื่องจากผมน่าจะมีข้อมูลและรู้น้อยกว่าคุณVIด้วยซ้ำไป เพราะโดยส่วนตัวผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้เลย แต่ถ้าอธิบายภาพรวมตามแนวความคิดของผมนะครับ การควบรวมกิจการ เราต้องรู้
1.ต้องรู้ว่าใครได้หรือเสียประโยชน์(หมายถึงใครจะกำไรดีขึ้น หรือใครจะกำไรลดลง หรือดีขึ้นทั้งสองแห่ง)จะต้องรู้โมเดลธุรกิจในเชิงลึกของกิจการนั้นๆว่าเขาทำอะไร และกำไรมาจากทางไหนเป็นต้นน้ำหรือปลายน้ำ เพราะเป้าหมายของการควบรวมน่าจะเป็นการรักษาเสถียรภาพของธุรกิจให้เป็นcycleน้อยที่สุด
2.การประเมินราคา เราต้องทราบว่าเขาประเมินจากฐาน กำไร หรือ บุ๊คแวลู และใครได้ใครเสียจากการประเมินในรูปแบบนั้นๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ผมกล่าวจะเป็นในเชิงพื้นฐานของกิจการในอนาคตหลังการควบรวม ไม่เกี่ยวกับราคาหุ้นสักเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่ผมเห็นอยู่อย่างหนึ่งเป็นประจำหลังมีการประกาศการควบรวมคือ อย่างน้อยๆราคาจะวิ่งเข้าหาBVแทบทุกครั้งเลยครับ
ขอบคุณมากครับ ผมขออนุญาติเอาคำถามเดียวกันนี้ไปถามคุณโจ เผื่อจะได้มีมุมมองหลากหลาย
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 2:15 pm
โดย naris
IWILLBEVI เขียน:
ขอบคุณมากครับ ผมขออนุญาติเอาคำถามเดียวกันนี้ไปถามคุณโจ เผื่อจะได้มีมุมมองหลากหลาย
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 2:53 pm
โดย ปล้องนาง
ปล้องนาง wrote:
ขอสอบถามพี่ narisหน่อยครับ
เกี่ยวกับ tnh ว่ามีจุดเเข็งจุดอ่อนอะไร ที่มาที่ไปเป็นอย่างไรถึงสามารถสร้าง ROE ได้สูง เเละกำไรโตมากอย่างต่อเนื่องครับ
แล้วคุณปล้องนาง คิดว่าอย่างไรบ้างครับ อยากขอลองฟังความเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนกันครับ
ตามจริงผมมีหุ้นโรงบาลตัวหนึ่งเก็บไว้ประมาณ2ปีเเล้ว เเต่เริ่มสนใจ tnh จึงเพิ่งเข้ามาศึกษาตัวนี้ดูนะครับ (ในร้อยคนร้อยหุ้น มีตั้ง 62 หน้าครับยังอ่านไม่หมดง่ะครับ
หนักใจ)เพราะ เห็นว่า
tnh
- เป็นหุ้นใน mega trends ตัวหนึ่ง
- มีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง (จากอดีต)
- มี roe roa ที่สูงว่าเมื่อเทียบกับโรงบาลอื่นๆ โดยเฉพาะ roe น่าจะสูงสุด
- pe ต่ำกว่า 10 (ตอนนี้)
- อยุ่ในพื่นที่ ที่น่าจะเติบโตได้ (เพราะคนไข้อยู่ใกล้ที่ไหนก็มักจะไปที่นั่น)
ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุของการเติบโตที่มากอย่างชัดเจนนะครับ เเละยังมองภาพรวม มองmodel ของตัวนี้ยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ครับ
.
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 3:32 pm
โดย naris
โอเคครับคุณปล้องนาง. แต่ก่อนจะตอบผมมีเรื่องอยากรู้มากๆมันคาใจผม ยังไงเฉลยให้ฟังด้วยนะครับว่า "ทำไมใช้ชื่อปล้องนาง" :lol:
ตามความเห็นของพี่ในเรื่องโมเดลธุรกิจของกลุ่ม รพ.ลองไปอ่านดูย้อนหลังหน้าที่5นะครับจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
และส่วนรายละเอียด พี่ขออธิบายในส่วนที่พี่พอจะรู้ในตัวธุรกิจของTNHนะครับ
ที่ผ่านมาพี่มองว่าเขามีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์อย่างชัดเจนตั้งแต่เข้าตลาดในปี2547 โดยต้องการยกระดับ รพ.TNH ให้มีภาพพจน์ที่ดี ยกระดับจากผู้ใช้บริการCถึงC+เป็นBถึงB+ให้ได้ แล้วอะไรทำให้ผู้บริหารกล้าที่จะเปลี่ยน......เราลองมาดูองค์ประกอบของการทำ รพ.ที่ดีๆนะครับว่าเขาจะต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
การจะทำรพ.ได้ต้องมีองค์ประกอบสำคัญๆดังนี้
1.ความหนาแน่นของประชากรและจำนวนผู้ป่วยของกลุ่มเป้าหมายในรัศมีรอบ รพ.
2.เนื้อที่และทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นเหมาะสมและสะดวกต่อการเข้าออก รพ.
3.บุคคลากรทั้งแพทย์และพยาบาลที่เชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับนับถือ
4.เงินทุนและสายป่านที่ยาวพอ
โดยเราจะเห็นว่าข้อ1และ2เป็นจุดแข็งของทางTNHที่ตั้งอยู่ในทำเลลูกค้ากลุ่มBเป็นจำนวนมาก ทำให้เขาสามารถปรับปรุงและเพิ่มการบริการเพื่อเพิ่มราคาสำหรับลูกค้าเกรดBโดยลูกค้าเกรดCคงจะหายไปจากการขึ้นราคาค่ารักษา แต่ที่ผ่านมาลูกค้าก็ไม่ได้ลดลง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับราคาของTNH และทางTNH ก็พยายามทำให้การจ่ายเงินต่อหัวให้มากที่สุด จากการเพิ่มความเชี่ยวชาญของโรคเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเริ่มต้นจาก
ศูนย์หัวใจ....ตามมาด้วยศูนย์กระดูกและข้อ......ตามมาด้วยศูนย์มะเร็ง.......และสุดท้ายปีหน้าจะมีศูนย์สมอง.......ถ้าเราสังเกตุดูศูนย์ทุกศูนย์จะตั้งขึ้นมาจะเน้นไปที่ผู้ป่วยจะต้องadmitและพักฟื้นในIPD เพื่อเพิ่มกำไรในอีกทางหนึ่ง
ส่วนข้อสามและข้อสี่ นี่ถือเป็นจุดแข็งที่ป้องกันคู่แข่งรายใหม่ที่จะขยายกิจการสร้าง รพ.ใหม่ในตอนนี้ โดยเฉพาะในข้อสาม บุคคลากรในด้านนี้มีความขาดแคลนพอสมควร และเมื่อเทียบจากประชากรยุคเบบี้บูมเมื่อเทียบกับการจบของ น.ศ แพทย์ ปัญหานี้น่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องใน10ปีข้างหน้านี้(นอกจากถึงจุดๆหนึ่งเราสามารถจ้างแพทย์และพยาบาลจากประเทศอื่นได้ ซึ่งเป็นไปได้ยาก) ทำให้การที่ รพ.ที่หนึ่งๆจะสร้างที่ใหม่เพิ่มจะต้องใช้เงินทุนที่มากพอดู พร้อมๆกับบุคลากรที่จะต้องมารองรับ ทำให้พี่คิดว่าช่วงสี่ห้าปีนี้ โอกาสที่จะมี รพ.เกรดBมาสร้างรพ.ขนาดใหญ่ๆในบริเวณใกล้เคียงTNHไม่มากเท่าไหร่
สรุปว่าโมเดลธุรกิจของTNHที่พี่คิดว่าเขามุ่งเน้นที่จะไปคือ
"จับลูกค้าเกรดที่กำไรสูงๆ โดยที่เน้นการบริการ และมุ่งเน้นโรคเฉพาะทางที่สามารถทำกำไรต่อหน่วยได้สูงๆ จากทรัพย์สินที่มี"
และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลของคำถามที่สองคือ ทำไมROE เขาจึงสูงมาโดยตลอด
แต่ก็ยังมีอีกเหตุผลคือเรื่องE เขาค่อนข้างต่ำเกินจริง ลองไปดูเพิ่มเติมในtnhนะครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... start=1770
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการไปต่อยอดมองโมเดลธุรกิจของกลุ่ม รพ.ในตัวอื่นๆบ้างนะครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 8:42 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
เอ่อ.....
Q:พี่ครับๆ TNH นี่ย่อ มาจากอะไรครับ
A:อ๋อ ก็ ไทย นริศ ฮอสปิต้อล ไงครับ
แวะมาแซวอีกแว้ว.......อย่าโกรธเค้าน้าพี่นาริด
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 9:22 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
[quote="อินทรีย์ทองแดง"]เอ่อ.....
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 1:02 am
โดย Linzhi
naris เขียน:เอาตามที่พี่เข้าใจนะครับอาจจะผิดก็ได้
จริงๆทาง รพ.อยากเน้นที่IPDเพราะรายได้และกำไรขั้นต้นต่อหัวสูงกว่าOPDมากๆ แต่การที่จะเลือกรับแต่IPDจะต้องเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องระดับตติยภูมิที่ รพ.ด้อยกว่า เช่นการผ่าสมองของบำรุงราษฎร์ การผ่าหัวใจของ รพ.กรุงเทพเป็นต้น แต่เนื่องจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มพวกนั้นยังมีผู้ใช้น้อยราย utilize เขายังเหลือเฟือ แต่คอขวดของBHอยู่ที่อาคารจอดรถและOPD ทำให้การขยายตัวในรอบนี้ไปเปิดใช้บริการในด้านนี้ก่อน และชั้นที่ว่างอยู่คงจะเปิดตามความจำเป็นใช้ในอนาคตครับ
ปล.และข้อมูลที่ได้อยู่อย่างคือ เทรนในอนาคตเกี่ยวกับเรื่องIPDว่าจะหดสั้นลงเรื่อยๆ จากที่ผมเข้าใจว่าในอดีต คนที่พักIPDน่าจะเกิดจากกลุ่มคนที่ผ่าตัดมากกว่าครึ่ง แต่พัฒนาการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้การผ่าตัดไม่ต้องนอนพักฟื้นเป็นเวลานานอย่างเช่นอดีต(แต่ค่ารักษาก็ไม่ได้ลดลงนะครับ ถึงแม้จะพักฟื้นน้อยลง) ทำให้ในอนาคตอัตราการครองเตียงคงจะต่ำลงเมื่อเทียบกับOPDครับ
ขอบคุณมากครับ
แหะ ๆ ผมสงสัยเหมือนกันว่าไทยจะเล่นตลาด IPD ของโลกได้รึเปล่า
โครงสร้างรวมของ medical tourism ไทยก็ออกมาแนวรักษาโรคไม่ซับซ้อนมาโดยตลอด
ต่างกับอินเดียแบบหน้ามือหลังมือ
ถามต่อว่าถ้ารพ.ขนาดกลาง จะสู้รพ.ใหญ่ยังไงดีครับ ในอนาคต
สมมุติว่า รพ.กรุงเทพฯ วางสาขาแหมะไว้ใกล้ ๆ TNH (อาจจะ green field หรือ acquire คนอื่น)
แบบนี้จะกระทบเยอะมั๊ยครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 6:18 am
โดย investment biker
มีข่าวมาแจ้งพี่นริศนิดนึง เห็นคุยกันเรื่องโรงพยาบาล ได้ยินมาว่าโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา กำลังจะขยายสร้างตึกเพิ่ม น่าจะมาจากการเติบโตของชุมชนแถบ ๆ นั้น ไม่แน่ใจว่าจะกระทบ AHC ของพี่มากขนาดไหน
ปล กลุ่มโรงพยาบาลผมไม่ค่อยถนัด ไม่มีหุ้นกลุ่มนี้เลย
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 12:08 pm
โดย naris
investment biker เขียน:มีข่าวมาแจ้งพี่นริศนิดนึง เห็นคุยกันเรื่องโรงพยาบาล ได้ยินมาว่าโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา กำลังจะขยายสร้างตึกเพิ่ม น่าจะมาจากการเติบโตของชุมชนแถบ ๆ นั้น ไม่แน่ใจว่าจะกระทบ AHC ของพี่มากขนาดไหน
ปล กลุ่มโรงพยาบาลผมไม่ค่อยถนัด ไม่มีหุ้นกลุ่มนี้เลย
ขอบคุณครับคุณเชาว์ ถ้าข้อมูลในอดีตที่พอรู้ ปกติลูกค้าของที่นั่นกับที่นี่ก็ไม่ค่อยจะใช่กลุ่มเดียวกันสักเท่าไหร่ ต้องรอให้คนพื้นที่มาคอนเฟริ์มอีกทีครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 12:18 pm
โดย naris
Linzhi เขียน:
ถามต่อว่าถ้ารพ.ขนาดกลาง จะสู้รพ.ใหญ่ยังไงดีครับ ในอนาคต
สมมุติว่า รพ.กรุงเทพฯ วางสาขาแหมะไว้ใกล้ ๆ TNH (อาจจะ green field หรือ acquire คนอื่น)
แบบนี้จะกระทบเยอะมั๊ยครับ
ผมก็เคยเป็นห่วงเหมือนกันครับ ความเห็นของผมถ้าพูดถึงBGHน่าจะเป็นacquireมากกว่า แต่อย่าลืมว่าใกล้ๆบริเวณนั้นทางสมิติเวช ศรีนครินทร์(ซึ่งทางBGHถือหุนเกือบ100%แล้ว)ก็ยังมีutilizeเหลืออีกเป็นครึ่งนะครับ ทำให้ผมมองว่าถ้าBGHจะทำอะไรแต่งงานกับใครเพิ่มคงจะไม่ใช่บริเวณนี้ครับ ไม่รู้ท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรบ้าง :lol:
ปล.เมื่อสองปีที่แล้วที่ผมห่วงเป็นKHมากกว่าเพราะเขามีนโยบายจะขยายสาขาเพิ่มเติม และสภาพคล่องทางการเงินพร้อมมากกว่า แต่พอเขาประกาศนโยบายเพิ่มมาอีก2ที่ใหม่(พัทยาและแจ้งวัฒนะ) ผมก็โล่งใจไประดับหนึ่ง เพราะผมว่าคงอีก4ปีเป็นอย่างต่ำที่จะเริ่มคิดหาที่ใหม่สำหรับKHครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 2:01 pm
โดย earthcu
naris เขียน:
ขอบคุณครับคุณเชาว์ ถ้าข้อมูลในอดีตที่พอรู้ ปกติลูกค้าของที่นั่นกับที่นี่ก็ไม่ค่อยจะใช่กลุ่มเดียวกันสักเท่าไหร่ ต้องรอให้คนพื้นที่มาคอนเฟริ์มอีกทีครับ
มาแอบอ่านที่พี่ Naris ให้ความรู้บ่อย เลยอยากจะมา share ข้อมูลเท่าที่เคยไปใช้บริการของทั้ง 2 ที่ครับ เผื่อเป็นประโยชน์กับพี่และเพื่อนๆบ้างครับ พอดีเคยไปหาหมอเรื่องโรคกระเพาะ ทั้งที่ AHC และพญาไท ศรีราชา ครับ เปรียบเทียบค่ารักษาพยาบาล แล้วต่างกันค่อนข้างมากครับ โดยที่เอกชล ประมาณ 600 บาท ในขณะที่ พญาไท ประมาณ 1500 บาทครับ (จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ครับ) โดยที่ทั้ง 2 ที่ไม่ได้มีตรวจพิเศษอย่างอื่นครับ (หลักๆ เป็นค่าหมอกับค่ายา) มองว่ากลุ่มเป้าหมายน่าจะต่างกันพอสมควรครับ ผมมองว่าหลักๆ AHC น่าจะจับกลุ่มเป้าหมายระดับ C, C+ เช่นพวกคนที่ทำงานในโรงงาน และ คนที่มีประกันสังคม ส่วน พญาไท น่าจะจับกลุ่มเป้าหมาย B ขึ้นไปครับ โดยลักษณะ location ก็อยู่ห่างกันในระดับนึง (น่าจะประมาณ 15 Km ครับ)คิดว่าส่วนใหญ่ พญาไท น่าจะมีลูกค้าแถวศรีราชา ส่วนเอกชลน่าจะเป็นลูกค้าย่านตัวเมืองชล+แถวอ่างศิลาและบางแสนครับ (จากบางแสนไปศรีราชาก็ไม่ไกลเท่าไรครับ)
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 7:14 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ขออนุญาติสอบถามเรื่องอนาคตของหุ้นSF,DEMCOว่าคุณพี่นริศคิดอย่างไรสอนน้องหน่อยครับ อิอิ ราคาหุ้นแถวถือลงทุนได้ไหมครับ(MOS จ๊าบพอไหมครับ) ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 7:32 pm
โดย Laziale
earthcu เขียน:
มาแอบอ่านที่พี่ Naris ให้ความรู้บ่อย เลยอยากจะมา share ข้อมูลเท่าที่เคยไปใช้บริการของทั้ง 2 ที่ครับ เผื่อเป็นประโยชน์กับพี่และเพื่อนๆบ้างครับ พอดีเคยไปหาหมอเรื่องโรคกระเพาะ ทั้งที่ AHC และพญาไท ศรีราชา ครับ เปรียบเทียบค่ารักษาพยาบาล แล้วต่างกันค่อนข้างมากครับ โดยที่เอกชล ประมาณ 600 บาท ในขณะที่ พญาไท ประมาณ 1500 บาทครับ (จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ครับ) โดยที่ทั้ง 2 ที่ไม่ได้มีตรวจพิเศษอย่างอื่นครับ (หลักๆ เป็นค่าหมอกับค่ายา) มองว่ากลุ่มเป้าหมายน่าจะต่างกันพอสมควรครับ ผมมองว่าหลักๆ AHC น่าจะจับกลุ่มเป้าหมายระดับ C, C+ เช่นพวกคนที่ทำงานในโรงงาน และ คนที่มีประกันสังคม ส่วน พญาไท น่าจะจับกลุ่มเป้าหมาย B ขึ้นไปครับ โดยลักษณะ location ก็อยู่ห่างกันในระดับนึง (น่าจะประมาณ 15 Km ครับ)คิดว่าส่วนใหญ่ พญาไท น่าจะมีลูกค้าแถวศรีราชา ส่วนเอกชลน่าจะเป็นลูกค้าย่านตัวเมืองชล+แถวอ่างศิลาและบางแสนครับ (จากบางแสนไปศรีราชาก็ไม่ไกลเท่าไรครับ)
เคยถามน้องที่ออฟฟิศเกี่ยวกับ AHC เหมือนกันครับ เพราะบ้านเค้าอยู่ชลบุรี เลยถามว่าพญาไทที่ศรีราคากับสมิติเวชศรีราชา และ AHC จะเลือกเข้าที่ไหนกันและไม่แย่งลูกค้ากันหรือ เค้าบอกว่าคนที่อยู่ตัวเมืองชลบุรีอย่างครอบครัวของเค้าและคนที่รู้จักก็หาที่ AHC กันหมดแหละ สาเหตุสำคัญ Location ครับเพราะสะดวกสุด ศรีราชาเค้าบอกว่าไกลเกิน ได้ยินอย่างนี้ก็โล่วใจในการเก็บครับ ปล.ยังไม่มีหุ้นครับ ไล่ไม่ทันไปรอบนึงละ แต่กะลังจ้องตาไม่กระพริบครับ :D
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 11:36 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
naris เขียน:
ขอบคุณครับคุณเชาว์ ถ้าข้อมูลในอดีตที่พอรู้ ปกติลูกค้าของที่นั่นกับที่นี่ก็ไม่ค่อยจะใช่กลุ่มเดียวกันสักเท่าไหร่ ต้องรอให้คนพื้นที่มาคอนเฟริ์มอีกทีครับ
เผอิญเคยตามงานตัวAHC อยู่พักนึง แต่ด้วยเหตุผลบางประการจึงพับเก็บโครงการนี้ไป ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นอันน้อยนิดด้วยคนนะครับ ถ้าพี่ๆไม่รังเกียจ ขอเป็นพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ง่วงแย้ว
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 1:41 am
โดย pacabee
ผมติดตามอ่านกระทู้ของพี่นริศมานานพอสมควร รู้สึกทึ่งในความสามารถ
ของพี่นริศมากครับ ผมเพิ่งจะมาลงทุนในหุ้นอย่างจริงจังในปีนี้ครับ ต้องขอขอบคุณพี่นริศที่ได้แบ่งปันความรู้และความคิดที่มีคุณค่ากับคนอื่น ๆ และผมเป็นอย่างมากเลยครับ ผมชอบการลงทุนมาก แม้จะรู้ว่าตอนนี้ยังทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไรแต่ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจริง และพยายามให้ถึงที่สุด ความสำเร็จคงจะไม่ไกลเกินเอื้อมเหมือนที่พี่นริศได้ทำเป็นตัวอย่างให้กับพวกเราได้เห็น
ผมขอรบกวนถามความคิดเห็นจากพี่นริศในตัวบริษัท qualitech ครับ
ในส่วนข้อดีที่ผมสนใจบริษัทนี้คือ เป็นบริษัทที่มีการผลการดำเนินงานที่ดีเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีหนี้น้อย ไม่ต้องมีสินค้าคงคลัง มีชื่อเสียงมานานพอสมควร ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีการวางแผนที่ดีในอนาคต
ส่วนข้อที่ผมกังวลคือ อาจเกิดปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับ บ.นาแคป แต่เขาก็มีการวางแผนการแก้ปัญหาแบบนี้ในอนาคตแล้ว
แต่ที่ผมคิดว่าจุดตายคือการบริหารคนครับ เพราะในแง่ของการจัดหาเครื่องมือทดสอบก็คงเหมือน ๆ กัน แต่ปัญหาคนนี่อาจเกิดการสมองไหลได้ (เอ่อไม่ใช่หนังซาดิสนะครับ :lol:)
คือผมอยากรู้ว่าในธุรกิจบริการอย่าง qlt นี้
ผู้บริหารจะทำอย่างไรเพื่อรักษาให้พนักงานดี ๆ อยู่กับบริษัทนาน ๆ หรือ
อย่างการประชุมผูู้ถือหุ้นเราจะยิงคำถามอะไร เพื่อให้รู็้ว่าผู้บริหารบริหารคน
อย่างไร
หรือถ้าพี่นริศไม่เคยศึกษาบ.นี้เลย ก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็รบกวนขอแนวความ
คิดเรื่องการบริหารคนในธุรกิจบริการคล้ายแบบนี้แทนก็ได้ครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูงครับ :D
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 9:55 am
โดย charnengi
ถ้าคุยเรื่อง AHC ไปคุยกันในห้อง AHC กันเถอะครับ ข้อมูลจะได้ไม่กระจัดกระจาย
แค่ comment เฉยๆครับ ผมก็เข้ามาอ่านห้องนี้ประจำครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 11:40 am
โดย naris
[quote="ศิษย์เซียน007"]ขออนุญาติสอบถามเรื่องอนาคตของหุ้นSF,DEMCOว่าคุณพี่นริศคิดอย่างไรสอนน้องหน่อยครับ อิอิ ราคาหุ้นแถวถือลงทุนได้ไหมครับ(MOS จ๊าบพอไหมครับ) ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 12:14 pm
โดย naris
[quote="pacabee"]ผมติดตามอ่านกระทู้ของพี่นริศมานานพอสมควร
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 12:56 pm
โดย ปล้องนาง
สรุปว่าโมเดลธุรกิจของTNHที่พี่คิดว่าเขามุ่งเน้นที่จะไปคือ
"จับลูกค้าเกรดที่กำไรสูงๆ โดยที่เน้นการบริการ และมุ่งเน้นโรคเฉพาะทางที่สามารถทำกำไรต่อหน่วยได้สูงๆ จากทรัพย์สินที่มี"
และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลของคำถามที่สองคือ ทำไมROE เขาจึงสูงมาโดยตลอด
ขอบคุณพี่นริศ สำหรับคำตอบครับ
ตอนนี้อ่านในร้อยคนร้อยหุ้นถึงหน้าที่40 เเล้วครับ
ตามจริงผมเห็น tnh ถูก update ในร้อยคนร้อยหุ้นบ่อยๆมานานเเล้วเเต่ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าเป้นตัวที่เพิ่งเข้าตลาดมาใหม่ (ในตอนนั้น) คิดว่าอาจจะเป็นเพราะกระเเส เเละผมก็มีกลุ่มโรงบาลประมาณ 45%ของพอร์ตเเล้วในตอนนั้น จึงไม่ค่อยสนใจเป็นพิเศษครับ ได้เเต่อ่านผ่านๆ จึงไม่ค่อยเข้ากึ๋น
ผมคิดว่า....การถือหุ้น (ระยะยาว)โรงบาล (ที่ดี) มี capital gain เเน่นอนเเต่ต้องใจเย็นสุดๆคัรบ (ความเห็นส่วนตั๊ว)
โอเคครับคุณปล้องนาง. แต่ก่อนจะตอบผมมีเรื่องอยากรู้มากๆมันคาใจผม ยังไงเฉลยให้ฟังด้วยนะครับว่า "ทำไมใช้ชื่อปล้องนาง"
ปล้องนาง เป็นคำที่ใช้เรียกปล้องข้าวที่กำลังจะออกรวงคัรบ
เป็นชื่อที่ได้รับเเรงบันดาลใจจากชื่อเด็กคนหนึ่ง ที่ผมได้ไปฝึกงานสัมยเรียนที่ มข. ครับ ผมรู้สึกว่าเป็นชื่อที่ hi-so เเละที่สำคัญ แฝงด้วยความหมายที่ดี
ส่วนความหมายในการลงทุนก็คือ การออกรวงของผลกำไรครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 1:00 pm
โดย naris
โอ้.ฟังแล้วรู้ถึงความละเอียดและโรแมนติคของคุณปล้องนางเลยนะครับ เนี่ย.
ขอนอกเรื่องหน่อยว่า พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าคุณปล้องนางมาฝึกงานที่ มข.นี่ เกี่ยวกับเกษตรไหมครับ เพราะผมก็จบที่นั่น
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 2:03 pm
โดย pacabee
ขอบคุณพี่นริศสำหรับการให้ไอเีดียเกี่ยวกับธุรกิจของ qlt กับ tndt ครับ
ผมละเลยตรงจุดที่ธุรกิจนี้คล้ายกับการรับเหมา ถ้าเกิดมี something แบบนั้น
ผมก็คงจะเก็บไว้พิจารณาเพิ่มการลงทุนตัวนี้ดูอีกที เพราะผมไม่ชอบการลงทุน
ในธุรกิจที่เป็นสีเทาเท่าไร คงต้องระวังและศึกษาให้ดีมากขึ้นครับ
ขอบคุณพี่นริศที่ชี้แนะอีกครั้งนะครับ
พอดีผมมักจะพาพ่อกับแม่ไปเยี่ยมหลานที่หนองคายบ่อย ทุก ๆ 2 เดือน คราวนี้กะว่าจะไปเที่ยวที่เชียงคานด้วย ดูเมืองเขาสงบและน่าเที่ยวดีครับ
บ้านพี่นริศที่จ.เลยนี่ ใกล้กับอำเภอเชียงคานไหมครับ เผื่อจะแวะไปเยี่ยมได้
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 3:05 pm
โดย naris
[quote="pacabee"]ขอบคุณพี่นริศสำหรับการให้ไอเีดียเกี่ยวกับธุรกิจของ qlt กับ tndt ครับ
ผมละเลยตรงจุดที่ธุรกิจนี้คล้ายกับการรับเหมา ถ้าเกิดมี something แบบนั้น
ผมก็คงจะเก็บไว้พิจารณาเพิ่มการลงทุนตัวนี้ดูอีกที เพราะผมไม่ชอบการลงทุน
ในธุรกิจที่เป็นสีเทาเท่าไร
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 4:42 pm
โดย ศิษย์เซียน007
[quote="naris"][quote="ศิษย์เซียน007"]ขออนุญาติสอบถามเรื่องอนาคตของหุ้นSF,DEMCOว่าคุณพี่นริศคิดอย่างไรสอนน้องหน่อยครับ อิอิ ราคาหุ้นแถวถือลงทุนได้ไหมครับ(MOS จ๊าบพอไหมครับ) ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ