หน้า 11 จากทั้งหมด 89

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 6:51 pm
โดย V_accy
เข้ามาให้กำลังใจคนมือใหม่ด้วย

ผมเองตอนเทรดหุ้นครั้งแรกก็ปีที่แล้ว พอส่งเงินให้โบรค2-3วันถัดมาก็ซื้อหุ้นได้ก็ลุยเลย

เข้าใจอารมณ์อย่างเต็มที่ว่าหุ้นตกแล้วเครียดเป็นยังไง

ลองศึกษาก่อนครับ
ตอนนี้ผมเองก็อยู่ในระหว่างศึกษา
มีข้อแนะนำแค่ว่าต้องกล้าขาดทุน ผมเองก็ขาดทุนไปเยอะแล้วเหมือนกันนับจากวันแรก แต่เชื่อไหมครับว่าพอผมศึกษามาเรื่อยๆกลับมั่นใจว่าวันหนึ่งผมจะ
เอาส่วนที่เสียไปคืนมาได้

อีกข้อคืออย่าซื้อเพราะคนดังๆเขาบอกกันมา ผมเองช่วงแรกก็ซื้อตามๆคนอื่นเพราะคนดังๆในเวปบอกว่าดี นั่นหละครับ ดอยเลย
เวลาคนเขาบอกให้ซื้อเขาไมได้บอกนะครับว่าเขาจะขายเมื่อไร
สรุปคืออย่าเชื่อคนอื่น ศึกษาเอง เข้าใจเอง
ถ้าเขาพูดมาก็ควรวิเคราะห์ก่อน

โชคดีครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 8:47 pm
โดย V_accy
คือรับฟังแล้วก็วิเคราะห์ครับ

แฮะ แฮะ
เดวพวกพี่ที่เก่งๆดังๆไม่มาโพสหละผมคงรู้สึกผิดไปเลย

ไม่ได้ว่าพี่ลูกอีสานนะครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 9:03 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="IWILLBEVI"]คุณโจครับ

ผมเป็นมือใหม่ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ด้วยเงินทุนของครอบครัวทั้งหมดเกือบ 6 ลบ ผมพยายามอ่านและติดตามหาความรู้ในการลงทุนแนว VI มาตลอดแต่ด้วยความรู้ที่น้อยนิด และไม่มีเพื่อนคุยปรึกษาที่ชอบแนวVI เหมือนกัน ทำให้แนวการลงทุนของผมเป็นแบบผสมผสาน คือมองหาหุ้นคุณค่า แต่ก็เล่นตาม Fund Flow ของฝรั่งเผื่อหวังทำกำไรเร็ว ทำให้ตอนนี้พอร์ทของผมขาดทุนกว่า

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 9:11 pm
โดย ลูกอิสาน
noooon010 เขียน:ไม่ใช่พี่ลูกอีสาน แต่อยากคุยด้วยครับ(จะโดนว่าไหมเนี่ย)


ไม่มีใครว่าหรอกครับ เราช่วยกันคิด ไม่มีคนที่รอบรู้ทุกเรื่อง สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้ว คุณค่าของ tvi อยู่ที่สมาชิกช่วยกันแชร์ความคิดความรู้ครับ  ชื่อเวปเป็นแค่หัวโขน:D


ว่าแต่ท่านนูน ช่วงนี้หุ้นตกๆไม่เห็นเอารูปสาวๆมาโพสต์ปลอบใจกันบ้างเลย..  :x

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 9:36 pm
โดย V_accy
"คนที่ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ก็โจมตีว่าทำไมขายรัฐวิสาหกิจราคาถูกๆให้ต่างชาติ "
นึกถึง การไฟฟ้า ถ้าตอนนั้นแปรรูปเจ้า ตลท. ตอนนี้ค่าไฟขึ้นคงโดนด่าแหลกไปแล้ว

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 9:52 pm
โดย Juninho
พี่ลูกอีสานครับ
กล่ม ตระกูล ปอ ก็เป็นหุ้นวัฏจักร หรือครับ
มิน่าล่ะ แต่ละตัว พีอี ต่ำ เหลือเกิน

แต่อยากถามเพิ่มครับ การดูว่า เป็นวัฏจักรขาขึ้น หรือขาลงของพวก
ตระกูลปอ เราสังเกตได้จากอะไรบ้างครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2008 10:52 pm
โดย noooon010
[quote="ลูกอิสาน"]

ว่าแต่ท่านนูน ช่วงนี้หุ้นตกๆไม่เห็นเอารูปสาวๆมาโพสต์ปลอบใจกันบ้างเลย..

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 7:17 am
โดย Tlk
หุ้นตกมากๆอย่างนี้ควรทำอย่างไร แน่นอนก็ต้องทำใจก่อนว่าการลงทุนก็มีเส้นทางอย่างนี้ ไม่ได้ราบเรียบเสมอไป ถ้าเราเข้าใจ เราจะไม่ทุกข์ร้อน และหาทางรับมือกับปัญหาได้ ถ้าเราเลิกลงทุน ทุกอย่างจะจบ เป็นการขาดทุนที่ถาวร แต่ถ้าเรายัง keep invest (ทั้งซื้อหุ้นแล้วหรือถือเงินสดรอซื้อ) เรายังโอกาสแก้ตัวกลับมาทำกำไรครับ

ผมว่าสุดยอดจริงๆครับสำหรับคำแนะนำที่คมคายของคุณอิสานทั้งมุมมองการวิเคราะห์ธุรกิจและการตอบกระทู้อ่านแลวคิดตามไปด้วย ได้ประโยชน์จริงๆครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2008 1:35 pm
โดย sai
พี่ลูกอีสานถือเงินสดกี่เปอร์เซ้นต์ครับ และ ขายตัวไหนไปครับ ถ้าบอกไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับขอบคุณครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:24 pm
โดย investment biker
teelek เขียน:หุ้นตกมากๆอย่างนี้ควรทำอย่างไร แน่นอนก็ต้องทำใจก่อนว่าการลงทุนก็มีเส้นทางอย่างนี้ ไม่ได้ราบเรียบเสมอไป ถ้าเราเข้าใจ เราจะไม่ทุกข์ร้อน และหาทางรับมือกับปัญหาได้ ถ้าเราเลิกลงทุน ทุกอย่างจะจบ เป็นการขาดทุนที่ถาวร แต่ถ้าเรายัง keep invest (ทั้งซื้อหุ้นแล้วหรือถือเงินสดรอซื้อ) เรายังโอกาสแก้ตัวกลับมาทำกำไรครับ

ผมว่าสุดยอดจริงๆครับสำหรับคำแนะนำที่คมคายของคุณอิสานทั้งมุมมองการวิเคราะห์ธุรกิจและการตอบกระทู้อ่านแลวคิดตามไปด้วย ได้ประโยชน์จริงๆครับ
จริงครับ ประโยคข้างต้นที่พี่ลูกอีสานว่าไว้ เยี่ยมครับ อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้นจริง ๆ

ผมยังถือหุ้นเต็มพอร์ทเหมือนเดิมครับ แทบไม่ได้ทำอะไร รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเต่าเลย ตอนนี้ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาสะสมกระสุนรอวันฟ้าเปิดจะได้ลุยต่อ

อยากถามพี่ลูกอีสานว่าเวลาตลาด rebound หุ้นจำพวกไหนจะ rebound แรงที่สุดครับ พอดีผมเพิ่งเข้าตลาดมาได้แค่ 3 ปี เลยไม่รู้ว่ารอบที่แล้วเวลาขึ้น หุ้นแบบไหนขึ้นเร็ว ขึ้นแรงที่สุดครับ  :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 2:32 pm
โดย wara
พี่ลูกอีสาน ครับ อยากรู้ว่า ตอน set 200 จุด
บริษัทที่  PE 1-2

มีผลตอบแทน dividend yield คิดเป็นกี่ % ครับ
เพราะถ้า พีอี 2 ถ้าปันผล 50 % ของกำไร
เท่ากับว่า yield = 25 %

หรือว่าถ้า พีอี ต่ำมากๆ บริษัท มักจะลด % การจ่ายปันผลลงครับ

สอดส่องหุ้นน่าซื้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 10:17 pm
โดย pokpong.oma
ผมลองศึกษาดูสนใจหุ้นอยู่ 3 ตัว bwg ums mint

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2008 1:18 pm
โดย preeda_mark
เรียนถามคุณโจครับ หุ้นโรงพยาบาล ขนาดใหญ่จะได้รับผลกระทบ มากไหมครับจาก วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ครั้งนี้ อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งพาแฟนไปผ่าตัด ติ่งในมดลูก โดนไป 55000 เครมประกันได้นิดหน่อย พูดคุยกับหมอ ถามเรื่องปริมาณคนไข้ หมอบอกว่า ไม่ลดลงเลย มากขึ้นด้วยซ้ำคิวผ่าตัดแน่น ตลอด อีกอย่างได้ลูกค้าจาก UAE กลับมา โดยส่วนตัวผมชอบหุ้นโรงพยาบาล จ้องมาตั้งแต่ 36 บาท จนตอนนี้ล่วงไปประมาณ 22 ก็ยังไม่ได้ซื้อสักหุ้น อีกอย่างคิดว่า ฝรั่ง กับ กองทุนน่าจะถือ ตัวนี้ไว้เยอะมาก น่าจะเทกระจาดได้อีกนาน ไม่แน่ P/E อาจใกล้ กับ TNH
หากลงมาเท่ากัน ใจคุณโจจะซื้อตัวไหนครับ ขอบคุณครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2008 1:41 pm
โดย สวนหย่อม
ผมเห็นด้วยนะครับว่าธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะได้รับผลกระทบน้อยมากจากวิกฤตนี้
มารอฟังความเห็นพี่โจอีกคนครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 12, 2008 10:52 pm
โดย Linzhi
สวนหย่อม เขียน:ผมเห็นด้วยนะครับว่าธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะได้รับผลกระทบน้อยมากจากวิกฤตนี้
มารอฟังความเห็นพี่โจอีกคนครับ
เสริมนิดเีดียวครับ

ถ้าหมายถึงหุ้นโรงพยาบาลที่ลูกค้าเป็นคนไทยผมเห็นด้วยครับ
ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ฐานลูกค้าเป็นต่างชาติ ผมเดาไม่ออกจริง ๆ
เพราะไม่สามารถวิเคราะห์ไปถึงได้ว่า คู่แข่ง(ซึ่งส่วนมากอยู่ต่างประเทศ)
เช่นสิงค์โปร์ อินเดีย ฯลฯ จะปรับตัวยังไง ค่าเงิน รวมถึงราคาหุ้นของเค้าด้วย

หลายคำถามที่เห็นโพสต์ทิ้งไว้ น่าสนใจครับ รอฟังคำตอบเหมือนกัน

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 12, 2008 11:14 pm
โดย wara
Linzhi เขียน: เสริมนิดเีดียวครับ

ถ้าหมายถึงหุ้นโรงพยาบาลที่ลูกค้าเป็นคนไทยผมเห็นด้วยครับ
ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ฐานลูกค้าเป็นต่างชาติ ผมเดาไม่ออกจริง ๆ
เพราะไม่สามารถวิเคราะห์ไปถึงได้ว่า คู่แข่ง(ซึ่งส่วนมากอยู่ต่างประเทศ)
เช่นสิงค์โปร์ อินเดีย ฯลฯ จะปรับตัวยังไง ค่าเงิน รวมถึงราคาหุ้นของเค้าด้วย

หลายคำถามที่เห็นโพสต์ทิ้งไว้ น่าสนใจครับ รอฟังคำตอบเหมือนกัน
ผมว่าไม่น่าเปลี่ยนน่ะครับ
โรคภัย ไข้เจ็บ เป็น ปัจจัย 4
หมอที่ทำงาน บำรุงราษ ,  standard อย่างน้อย ก็ต้องจบ  american broad
ค่ารักษาเรา ก็ประมาณ 1/5 ของต่างประเทศ
ไม่น่ามีเหตุผลที่พื้นฐานจะเปลี่ยน ยกเว้น
ถังแตกจริงๆ จนต้องยอมตายแทน

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2008 2:03 am
โดย n_milkka
ดูดีๆเรื่องหมอ BH น่ะคะ
จริงๆคนที่ทำงานเค้าก็ไม่ได้ จบ american board นะคะ
ส่วนใหญ่ ก็ ...(ดูใน web site รพ.ก็ได้ค่ะ)

เค้าเน้นคนที่พูดได้มากกว่า 1 ภาษามากกว่าค่ะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2008 2:35 am
โดย สวนหย่อม
ความเห็นของอ. IH ครับ
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php ... r=numtopic

ส่วน BH ที่ถามมานั้นผมก็เห็นด้วยครับว่าในระยะ 2-3 ปีนี้ BH คงจะเติบโตไม่มากนักเพราะคนไข้ต่างประเทศเริ่มชะลอตัวลงแล้ว โดยเฉพาะคนไข้ส่วนหนึ่งของ BH ก็มาจากสหรัฐก็คงเข้ามาลดลง เศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวก็น่าจะทำให้คนไข้ในประเทศเติบโตลดลงด้วยและอาจ จะหันไปใช้บริการ รพ. ระดับ B+ หรือ B แทน รวมถึงการแข่งขันจากรพ. ที่พยายามแย่งลูกค้าต่างชาติ เช่น BGH หรือ รพ. ปิยเวท ซึ่งผมได้เห็น trend ว่าคนไข้ OPD และ IPD ของ รพ. ระดับ B+ และ B- อย่าง TNH และ KH นั้นยังเติบโตได้ดีมากทีเดียวครับ

ศักยภาพการเติบโตของ BH ในระยะยาวนั้นยังมีอยู่เพียงแต่ BH จะต้องมีกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างตลาดหรือฐานลูกค้าใหม่ๆ เพื่อชดเชยลูกค้ากลุ่มเดิมๆ ที่เริ่มชะลอตัวลงไป เพราะยังไงอีก 10-20 ปี คนสูงอายุในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีอายุขัยเฉลี่ยที่ยืนยาวขึ้นอีกด้วยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2008 12:28 pm
โดย ลูกอิสาน
frog2 เขียน:พี่ลูกอีสานครับ
กล่ม ตระกูล ปอ ก็เป็นหุ้นวัฏจักร หรือครับ
มิน่าล่ะ แต่ละตัว พีอี ต่ำ เหลือเกิน
แต่อยากถามเพิ่มครับ การดูว่า เป็นวัฏจักรขาขึ้น หรือขาลงของพวกตระกูลปอ เราสังเกตได้จากอะไรบ้างครับ
หุ้นกลุ่มปตท. ptt pttep pttar pttch vnt ทำธุรกิจหลากหลายมาก แต่กำไรส่วนใหญ่มาจากธุรกิจแก็ส ปิโตรเคมี ดังนั้นผมยังมองว่าเป็นหุ้นวัฎจักรครับ ถ้าใครสนใจหุ้นกลุ่มนี้ต้องอ่านหนังสือของ Peter lynch ซะก่อน รายละเอียดจะดีกว่าผมอธิบาย ถ้าก่อนหน้านี้สัก 10 ปีได้อ่านก่อน ผมคงไม่พลาดหุ้น atc หุ้นเรือ ครับ นึกแล้วเสียดาย แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป มองไปข้างหน้าแล้วทำให้ดีจะดีกว่าครับ.. :)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2008 12:42 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="investment biker"]อยากถามพี่ลูกอีสานว่าเวลาตลาด rebound หุ้นจำพวกไหนจะ rebound แรงที่สุดครับ พอดีผมเพิ่งเข้าตลาดมาได้แค่ 3 ปี เลยไม่รู้ว่ารอบที่แล้วเวลาขึ้น หุ้นแบบไหนขึ้นเร็ว ขึ้นแรงที่สุดครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2008 12:52 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="wara"]พี่ลูกอีสาน ครับ อยากรู้ว่า ตอน set 200 จุด
บริษัทที่

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2008 10:19 pm
โดย Donrae
พี่ลูกอีสานครับ ผมเป็นนักลงทุนที่ยังมีประสบกาณ์น้อย อยากรบกวนขอคำแนะนำ

ผมอยากจะทราบว่าเราจะสามารถประเมินสิ่งเหล่านีได้อย่างไร

1. การจ่ายเงินปันผล
        ก. บริษท์มีหลักเกณฑ์อย่างไรว่าปลายปีนี้หรือไตรมาสถัดไปจะปันผลกี่บาท
        ข. เราจะทำการคำนวณอย่างไร จากกำไรที่ยังไม่ได้จัดสรรที่รวมกำไรงบล่าสุดแล้วหรือ
        ค. นโยบายการจ่ายปันผลของบริษท์หาได้จากที่ใด
        ง.  จำเป็นไหมที่บริษัท์ต้องปฎิบัติตามนโยบายการจ่ายปันผล

2. กำไรสุทธิ
       ก. ข้อมูลอะไรบ้างที่เราควรจะทราบเพื่อใช้ในการประเมิน

ขอขอบคุณมากครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 11:11 am
โดย beammy
คำตอบของพี่ลูกอิสานทุกคำตอบ ชัดเจนและแจ่มแจ้งมากเลยครับ

ทำให้ผมไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกในตลาดหุ้น แถมจะเสียเงินค่าวิชาอีกเท่าไหร่ไม่ทราบ

กราบขอบพระคุณพี่ลูกอิสานมากครับ วิสัยทัศน์ของพี่ช่วยทำให้หลักการลงทุนของผมยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่ เป็นทางลัดที่ดีเยี่ยมสำหรับผมและทุกๆ ท่าน

ขอบพระคุณมากๆ เลยครับ  :bow:  ...

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 5:10 pm
โดย kornjackrit
ลูกอิสาน เขียน:ผมจำได้ว่าตอนดัชนีประมาณ 200 จุด หุ้นพีอีต่ำเป็นอย่างนี้ครับ

1. PE 3-4 เท่า ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเล็กๆ พื้นฐานดี งบสวย ดังนั้นผลตอบแทนเงินปันผลจะสูง หลายตัวให้ยิลด์ 10-20% แต่ส่วนใหญ่จะไม่จ่ายเงินปันผลทั้งหมดของกำไรที่ทำได้ เพราะตอนนั้นสถานการณ์ไม่น่าจไว้วางใจครับ..
คุ้นๆเหมือนหุ้นช่วงนี้เลยนะครับ
อิอิ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 7:38 pm
โดย GeneraX
kornjackrit เขียน: คุ้นๆเหมือนหุ้นช่วงนี้เลยนะครับ
อิอิ
Yield ดีๆ ของหุ้นบางตัวตอนนี้ อาจะเป็นส่วนของหุ้นที่มีความเป็นวัฏจักรนะครับ

การลงทุนไม่มีสูตรสำเร็จครับ ต้องใช้เหตุและผลในการพิจารณาด้วย :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 8:51 pm
โดย kornjackrit
ขอเรียนถามความคิดเห็นคุณลูกอิสานเกี่ยวกับพอร์ตของผมนะครับ
( ขอโทษนะครับถ้าคำถามยาวนิสหน่อย -*- )

ก่อนอื่นผมขอเรียนก่อนนะครับว่าเป้าหมายการลงทุนของผมเป็นอย่างไร
รวมไปถึงข้อจำกัดในการลงทุนของผม

ลักษณะและเป้าหมายการลงทุนคราวๆเป็นดังนี้ครับ
1.ต้องการผลตอบแทนทบต้น 10-15 % ต่อปี
  (ผลตอบแทนในรูปเงินปันผล 6 % ขึ้นไป )
2.ระยะเวลาการลงทุนหุ้นแต่ละตัว 10 -15 ปี โดยเฉลี่ย
3.รับความผันผวนได้ สามารถเห็นหุ้นที่ถือลดลง 50 % หรือมากกว่า
   ถ้าหุ้นที่ถือนั้นพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนไป


สาเหตุในเรื่องข้อจำกัดในการลงทุนนะครับ
ขอเรียนว่าผมยังอายุไม่ถึงที่จะเปิดพอร์ตการลงทุนเป็นของตัวเอง( ผมอายุ 18 ป
ตอนนี้อาศัยพอร์ตของทางบ้านลงทุนอยู่ครับ

ข้อจำกัดของผมมีดังนี้ครับ
1.ตัวหุ้นที่เลือก >>> ผมจะเลือกซื้อ-ขายได้เฉพาะหุ้น Big cap ขนาดใหญ่
และมีสภาพคล่อง ซึ่งถ้าผมจะซื้อหุ้นอย่าง TF , IT , MAKRO ซึ่งไม่ค่อยมีมูลค่าการซื้อขายทางบ้านผมจะไม่ให้ซื้อครับ ถึงแม้จะราคาถูกก็ตาม

2.จังหวะในการซื้อ >>> ผมจะซื้่อได้ก็ต่อเมื่อทางบ้านเห็นว่า
จังหวะนี้น่าลงทุน ถ้าทางบ้านไม่เห็นด้วยผมจะไม่สามารถซื้อหรือขายหุ้นแต่ละตัวได้ครับ

3.แนวทางการลงทุน >>> ที่บ้านผมนิยมเก็งกำไรหุ้น big cap ครับ
แต่ผมได้มีโอกาสศึกษาแนว VI แล้วชื่นชอบ จึงลงทุนแนวนี้อยู่เพียงคนเดียว
ทำให้มองต่างมุมกัน แม้ว่าจะพยายามอธิบายแล้วก็ตาม

สำหรับพอร์ตของผมที่อยากจะให้คุณลูกอิสานข่วยดูมีข้อมูลดังนี้นะครับ
SCC = 60%
 - เหตุผลในทางลงทุน จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ผมประเมินได้
   ธุรกิจแข็งแกร่ง พื้นฐานดี ผู้บริหารมีธรรมาภิบาลและโปร่งใส ราคาต่ำำกว่าที่ผมประเมิน
KBANK = 6%
 - เหตุผลในการซื้อ เก็งกำไร แบบ เล่นรอบ
SCB = 1%
 - เหตุผลในการซื้อ เก็งกำไร แบบ เล่นรอบ
RATCH = 11%
 - เหตุผลในการลงทุน จ่ายปันผลเิพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สม่ำเสมอ รายได้ค่อนข้างแน่นอน
   มีโอกาสเติบโตเฉลี่ย 3-5 % ต่อปี ราคาต่ำกว่าที่ผมประเมิน
TVO = 15%
 - เหตุผลในการลงทุน มีโอกาสเติบโตได้ 10 % ต่อปีโดยเฉลี่ย
   จ่ายปันผลสูง และสม่ำเสมอ ราคาต่ำกว่าที่ผมประเมิน
MAJOR = 3%
 - เหตุผลในการลงทุน มีโอกาสเติบโต 10-15 % ต่อปี จ่ายปันผลสูง
   หนี้สิ้นระยะยาวน้อย ราคาต่ำกว่าที่ผมประเมิน

ผมอยากทราบความคิดเห็นนิดนึงครับ
หุ้นดังกล่าวข้างต้น KBANK , SCB , TVO ทั้งสามตัวนี้
ผมถือในราคาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน
แต่ตัวที่เหลือโดยเฉพาะ SCC ผมถือในราคาที่สูง
จนเรียกว่ายอดดอยได้ครับ ประมาณ 223 บาท/หุ้น


ขอเรียนอีกข้อนะครับว่าหุ้น KBANK , SCB , TVO
่ผมซื้อตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆ ( 2-3 ปีที่แล้ว )
ทำให้ไม่ได้ศึกษาอย่างรอบคอบเพียงพอ
และเหตุผลในการซื้อ ส่วนหนึ่งก็ซื้อตามที่บ้านครับ
หลังจากซื้อไปแล้ว และได้ศึกษาการลงทุนแนว VI เพิ่มขึ้น
จึงได้กลับมาวิเคราะหหุ้นที่ซื้อไปและเมื่อทราบว่าราคาต่ำกว่าที่ผมประเมิน
ผมก็เลยถือต่อมาจนปัจจุบัน

สำหรับหุ้น RATCH และ MAJOR
ผมได้ศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน ค่อนข้างละเอียด
ทำให้มั่นใจในอนาคตครับ ผมจึงไม่คิดจะปรับลดการลงทุนในหุ้น 2 ตัวนี้

ผมอยากเรียนถามคุณลูกอิสานดังนี้นะครับ
1.ขอทราบความเห็นเกี่ยวกับหุ้น SCC ด้วยครับ
( ข้อนี้ผมคิดว่าควรจะถามในห้องร้อยคนร้อยหุ้นจึงจะถูก
แต่ผมขอรบกวน เอาแค่ในมุมมองของคุณลูกอิสานครับ )

2.จากความเห้นที่คุณลูกอิสานมองในข้อ 1 ผมสมควรจะเฉลี่ย
ต้นทุนของ SCC ไหมครับ ถ้าสมมุติผมประเมินมูลค่าที่แท้จริงของ SCC
ได้ในราคา 300 บาท แต่ผมรู้สึกว่าราคาที่ผมถืออยู่นั้นยังมี MOS น้อยเกินไป
( พอร์ตของผมมีเงินสดเหลือ 30 - 40 % ครับ )

3.ถ้าผมมีข้อจำกัดดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น
คุุณ ลูกอิสาน เห็นว่าผมควรจะงดการลงทุนในหุ้นไปก่อนชั่วคราว
และใช้เวลาอีก 2 ปีที่เหลือศึกษาเพิ่มเติม เพื่อรอจนอายุ 20 ปี
แล้วค่อยกลับมาลงทุนไหมครับ   ซึ่งตอนนั้นผมจะมีอิสระ 100 % ในการบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเอง

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความคิดเห็นนะครับ
:bow:  :bow:  :bow:

ผมจะนำข้อมุลและความเห็นที่ได้ไปพิจารณาเพื่อตัดสินใจปรับพอร์ตในช่วงนี้ครับ
:wink:  :wink:  :wink:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 1:19 am
โดย krisy
พี่โจสบายดีหรือเปล่าค่ะ หุ้นลงขนาดนี้ พี่คงคำนวณ MOS กันมือเป็นระวิงเลย แต่กระทู้นี้ก็ยังคง active เพราะพี่โจก็ใจดีหาเวลามาตอบในบอร์ดเช่นเคย

เข้ามาขอบคุณและก็ทักทายค่ะ เพราะว่าคิดถึง  :D

ปล. krisy สบายดีจ้า

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 10:41 am
โดย IWILLBEVI
ผมมองอย่างนี้นะครับ..

นักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาลงทุน ยังไม่ควรนำเงินทั้งหมดมาซื้อหุ้นครับ เพราะยังขาดทั้งความรู้ทางด้านตัวกิจการ การรับมือกับอารมณ์ในตลาด และหากเป็นเงินร้อนที่อาจจะต้องถอนไปใช้ในอนาคต ยิ่งทำให้เราเสียเปรียบเพราะถ้าต้องการใช้เงินจะต้องขายหุ้นตอนที่ไม่ควรจะขาย (เช่นตอนนี้)

การซื้อหุ้นสามัญประจำบ้าน (ตระกูลปตท. แบงค์ใหญ่ สื่อสาร) ไม่ได้ประกันว่าจะไม่ขาดทุนหรือขาดทุนน้อย และหากเป็นหุ้นวัฏจักรอย่างกลุ่มปตท. ที่ราคาขึ้นมามาก นักลงทุนส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าเป็นวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมนี้ บางคนก็พอจะรู้แต่นิ่งนอนใจคิดว่าวัฏจักรนี้จะยังไปต่อ แต่เมื่อวัฏจักรเริ่มกลับตัว ตลาดหุ้นเริ่มรับรู้ หุ้นจะลงแรง เหมือนตอนที่ขึ้นแรง (ตอนที่ ปตท.ราคา 29-35 บ. ราคาน้ำมันดูไบประมาณ 15 เหรียญ ซึ่งก็มีเหตุผลมีผลของมัน คนที่ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ก็โจมตีว่าทำไมขายรัฐวิสาหกิจราคาถูกๆให้ต่างชาติ ) หรือคนที่สงสัยว่าหุ้นวัฏจักรสุดๆอย่างกลุ่มเดินเรือจะเป็นอย่างไรในอนาคต ลองดูที่กำไรสุทธิต่อยอดขายซิครับว่ายังสูงผิดปกติหรือเปล่า) สรุปว่าหุ้นสามัญประจำบ้านก็ไม่ได้เหมาะกับมือใหม่เสมอไปโดยเฉพาะเป็นหุ้นวัฏจักร ซื้อขายผิดจังหวะอาจจะต้องรอวัฏจักรรอบใหม่อีก 5-10-20-30 ปีครับ ไม่คุ้ม  

เวลาหุ้นลงเราปรับพอร์ตอย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเปลี่ยนตัวเพื่อไปถือตัวที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากที่สุด แต่บางเวลาถ้าเราไม่สามารถหาราคาพื้นฐานของหุ้นได้ เพราะปัจจัยแวดล้อมธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างผันผวน การถือเงินสดก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ รอให้ฝุ่นหายตลบก่อนก็ไม่เป็นไร แต่สำคัญต้องขึ้นรถไฟขบวนต่อไปให้ทันครับ  ส่วนธุรกิจอะไรที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ คงเป็นธุรกิจที่คนยังต้องซื้อบริโภค อุปโภค ต้องใช้บริหาร หลีกเลี่ยงไม่ได้ ธุรกิจที่ลดต้นทุนให้ลูกค้า เศรษกิจจะเป็นอย่างไรก็ยังโตได้ และต้นทุนการดำเนินธุรกิจต้องไม่เพิ่มด้วย ยกตัวอย่างให้ชัดเจนเช่น cpall ttw  แต่ไม่ได้แนะนำให้ซื้อนะครับเพราะตลาดรับรู้ไปแล้ว หุ้นเหล่านี้เป็นที่พักเงินตอนตลาดผันผวน ถ้าตลาดเป็นปกติเมื่อไหร่หุ้นเหล่านี้จะไม่ค่อยน่าสนใจครับ

ตัว egco หรือหุ้นไฟฟ้าอื่นๆ เคยมองกันว่าเป็นหุ้นที่ defensive มีความแน่นอนของรายได้ กำไร แต่เดี่ยวนี้นักลงทุนหลายคนเริ่มรู้แล้วว่าไม่จริงเสมอไป ปัญหาของกลุ่มนี้คือนักลงทุนต้องรู้เนื้อหาสาระของสัญญาขายไฟฟ้า ซึ่งกำหนดกำไรขาดทุนของกิจการไปในอนาคตไว้แล้ว บางตัวกำไรเป็นกราฟระฆังคว่ำ บางตัวพีคแล้วลดลงอย่างเดียว ลองดูกระทู้ที่ผมเคยโพต์เกี่ยวกับ egco และสัญญาขายไฟ ไว้ครับ>>คิดไปว่าจะเจอหุ้นตีแตกซะแล้ว

หลักการปรับพอร์ตของผม ก็เคยโพสต์ไว้แล้วครับ ลองอ่านดู ปกติผมถือหุ้น 100% แต่ตอนนี้อะไรก็ไม่แน่นอน หาราคาพื้นฐานของกิจการได้ยาก ก็มีถือเงินสดบ้างแล้วครับ เผื่อไว้ในอนาคต  หลักการมองแนวโน้มธุรกิจในอนาคต ผมก็ตามอาจารย์ที่สั่งสอนเราครับ ธุรกิจที่เข้ากับไลฟ์สไตท์ของมนุษย์ในอนาคต โดยที่กิจการนั้นมีจุดเด่นที่ยั่งยืน เช่นเรารู้ว่าในอนาคตคนจะอยู่ในสังคมเมืองมากขึ้น ชนชั้นกลางจะมากขึ้น คนแก่จะมากขึ้น เราก็มองหากิจการที่จะได้รับผลดีจากความจริงข้างต้นครับ

หุ้นตกมากๆอย่างนี้ควรทำอย่างไร แน่นอนก็ต้องทำใจก่อนว่าการลงทุนก็มีเส้นทางอย่างนี้ ไม่ได้ราบเรียบเสมอไป ถ้าเราเข้าใจ เราจะไม่ทุกข์ร้อน และหาทางรับมือกับปัญหาได้ ถ้าเราเลิกลงทุน ทุกอย่างจะจบ เป็นการขาดทุนที่ถาวร แต่ถ้าเรายัง keep invest (ทั้งซื้อหุ้นแล้วหรือถือเงินสดรอซื้อ) เรายังโอกาสแก้ตัวกลับมาทำกำไรครับ
_________________
ขอบคุณคุณโจมากครับสำหรับคำแนะนำดีๆ ผมอ่านไปมาเกือบ10รอบ เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่คุณโจแนะนำมาอย่างแท้จริง ตอนที่เขียนอยู่นี้พอร์ทรวมของผมก็ติดลบไปกว่า 50%แล้ว ตอนนี้ก็ทำตามคำแนะนำคุณโจคือขายหุ้นบางตัวออกไปมาถือเงินสด ก็ได้เงินมาประมาณ 1 ลบ แต่เหลือหุ้นอยู่ประมาณ 2 ลบ คือถือเงินสด 1 ใน 3 ส่วน ก็หวังว่าจะกลับมาลงทุนและเลือกห้นเข้าพอร์ทใหม่ตามจังหวะและราคาที่เหมาะสม  แต่ผมไม่รู้ว่ามูลค่าที่แท้จริงและราคาที่ควรเก็บอยู่ตรงไหน  ผมขอคอมเม้นจากคุณโจในหุ้นที่ผมเลือกจะฝากผีฝากไข้ไว้ตามนี้ครับ
ADVANC ที่ราคา 65-70บ
เหตุผลที่เลือก หุ้นดี เป็นของจำเป็นต้องใช้ เป็นผู้นำตลาด มีโอกาสเติบโตจากธุรกิจContents และ 3G หวังปันผลที่ 8%

TNH ที่ราคา 5.5บ
เหตุผลที่เลือก มีการเติบโตในอัตราก้าวหน้า ในArea ที่ประชากรมีโอกาสเติบโตสูง  ไม่มีหนี้ มีปันผลที่น่าสนใจ

CPALL ที่ราคา 9-9.5บ
เหตุผลที่เลือก เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต สาขาครอบคลุม มีการควบคุมระบบงาน และต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่ดีและมีแนวโน้วลดลง เป็นหุ้นที่เข้าใจง่าย ไม่หวือหวา

SCB ที่ราคา 50บ
เหตุผลที่เลือก  เป็นหุ้นแบงค์ตัวเดียวที่ผมเห็นการเติบโตที่ชัดเจน และมีการ Diversified ธุรกิจมากที่สุด  (อาจมองเป็นข้อด้อยสำหรับบางท่าน)

MINT ที่ราคา 5บ
เหตุผลที่เลือก  พื้นฐานกิจการดีมากแม้ธุรกิจท่องเที่ยว บันเทิงจะได้รับผลกระทบตอนนี้ แต่ผมมั่นใจว่าต้องกลับมา หวังเป็นหุ้น Turnaroundของพอร์ทที่ 50-70% และวางสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสองตัวนี้ที่ 50% ของพอร์ท

ขอบคุณคุณโจมากๆ ครับสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจ :lol:  :lol:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 8:35 am
โดย wasan_yu
คุณลูกอีสานครับ  หรือเพื่อนๆช่วยวิเคราะห์ท่าอากาศยานไทย AOT หน่อยครับ  ผมเห็นว่าภาพใหญ่เขาทำถูกต้องแล้วครับ เมื่อไทยคงพัฒนานาเรื่องท่องเทียว  และสายการบินก็ลดราคาทำให้คนส่วนใหญ่สามารถเดินทางได้ครับ แต่ติดตรงผู้บริหารอาจจะไม่มืออาชีพเท่าไหร  การจัดการยังไม่ดี อยากทราบว่านะขณะนี้ราคาลดลงมามากแล้ว  ถ้าอยากจะร่วมลงทุนกับบริษัทนี้น่าสนใจไหมครับ  ผมขอความรู้ด้วยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 19, 2008 7:48 pm
โดย ลูกอิสาน
sai เขียน:พี่ลูกอีสานถือเงินสดกี่เปอร์เซ้นต์ครับ และ ขายตัวไหนไปครับ ถ้าบอกไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับขอบคุณครับ
ประมาณ 20% ครับ เป็นจิตวิทยาให้สบายใจ หุ้นขึ้นก็ดี หุ้นลงก็ยังมีเงินซื้อครับ  แต่อย่าไปยึดถือตัวเลขอะไรมากครับ ไม่แน่นอน พรุ่งนี้อาจจะถือหุ้นหมดก็ได้หรือถือเงินสดเพิ่มอีกก็ได้