Thai VI

มีอย่างหนึ่งที่ต้องเครดิตให้ SET Index ครับ คือ SET ไม่นับปันผล
เข้ามาด้วย ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3% ต่อปีครับ (เฉลี่ย dividend ของทั้ง
ตลาดเทียบกับ market cap)

ถ้าจะให้แฟร์เวลาเทียบมูลค่าของพอร์ตกับ SET Index ควรจะบวกให้
SET ไปอีก 3% ต่อปีครับ (หรือ 0.2466% ต่อเดือนในอัตราดอกเบี้ย
ทบต้น)

ส่วนเครดิตภาษีมีมากมีน้อย ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกันครับ

ใช่ครับ ต้องบวกเพิ่มให้ SET เนื่องจากพอร์ตของผม ได้นำเงินปันผล มาซื้อหุ้นทบเพิ่มเข้าไปด้วยแล้ว

แต่ SET ไม่มี

สวัสดีครับคุณครรชิต คุณลุงขวด หรือเพื่อนๆ ทุกท่าน
คือ ผมสนใจที่จะประเมินการดำเนินการของพอร์ตของตัวเอง
ปัจจุบัน ก็ได้แต่ดูว่า ยอดกำไรมันเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร
แต่อ่านจากกระทู้ แล้ว ก็สนใจเรื่องการเปรียบเทียบผลกำไรของ
พอร์ตตัวเองเทียบกับดัชนีของตลาดบ้างครับ
ไม่ทราบว่า ทำอย่างไร? รบกวนแนะนำพอสังเขปด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ

ตีแตกหุ้น

จริง ๆ แล้ว หุ้นของผมไม่สนใจดัชนีเท่าไหร่ เพราะ หุ้นที่มีไม่เกี่ยวข้อง market cap ใหญ่ ๆ เลย  ไม่มีกับเขาเลย  ถึงแม้มีหุ้นเป็นร้อยตัว(ส่วนใหญ่จะ 100 หุ้น) แต่ก็แทบไม่มีพวก big cap เลย (kbank bbl เหลือแค่ 100 หุ้น พลังงานไม่เหลือไว้เลย)........ผมทดสอบเอาดัชนีต้นปีเป็นฐาน ตอนนี้ หุ้นผมแพ้ดัชนี อยู่ -4.31% แต่เป็นเรื่องแปลก ตอนดัชนีลงไป 720 เศษ หุ้นผมชนะดัชนี ประมาณ 2%  ตอนนี้ที่แพ้ดัชนีเพราะ กว่า 90% หุ้นของผมขึ้น XD เกือบหมด  ราคามันก็รุดลงกันบ้าง

สิ่งทีทำตอนนี้ก็ต้องไปรอเดือน พฤษภาคม เมื่อได้รับปันผลแล้วก็คงมาซื้อเพิ่มได้  เป็นแบบนี้ทุกปี.... พฤษภาคมนี้คงซื้อเพิ่มได้น้อย เพราะมีโครงการใช้เงินรออยู่   สนุกกับการบริหารเงินไปเรื่อย ๆ  เดือนเมษายุ่งกับไปประชุมหุ้น เดือนพฤษภา รอรับเงินปันผล  เป็นแบบนี้ทุกปี  ผมว่าเป็นชีวิตที่สบาย ตอนสูงวัย  

รู้สึกช่วงนี้จะนิยมกระทู้ย้อนยุคนะครับ  :D

ผมว่านำหลับมาอ่านใหม่ได้สาระดีๆๆทั้งนั้นเลยอ่ะครับ


เหมือนว่าเรามองย้อนไปในอดีตเราทำอย่างไร  วันนี้เราเห็นผลนั้น    ถ้าไม่ดีอย่างไรก็ปรับแก้ไขกันไปอ่ะครับ

คุณลูกอีสานไปขุดขึ้นมาได้ยังเนี่ย

ผมจำไม่ได้เลยนะครับ  ว่าเคยตั้งกระทู้กับเขาด้วย  :lol:

ตามมาอ่านด้วยคน
สุดยอดเลยค่ะ


ต้องพยายามคลานตาม ไปอย่างต้วมเตี้ยม มั่งแล้ว  :lol: