Thai VI

โปรดใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์เองนะครับ ผมมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทนี้ในทางธุรกิจ แต่ไม่มีหุ้นและไม่ได้จองด้วยครับ

ฟังมาดูดีหมด ซึ่งแน่นอน เพราะผู้บริหารที่ไหนจะพูดเรื่องที่ไม่ดี
ลองช่วยกันหาข้อเสียด้วยนะครับ อยากได้ความเห็นเพิ่ม

ข้อมูลบางส่วนอาจจะมีในหนังสือชี้ชวนแล้ว

ตอบคุณ Blueblood เรื่องโหวงเฮ้ง

บอกตรงตรง ดูไม่เป็นครับ คนที่เจอเป็นแขกขาว รู้สึกเค้าอัธยาศัยดี พยายามตอบทุกคำถาม เป็นผู้บริหารระดับสูงที่อายุน้อย แต่ดูมีความรู้ โดยรวมผมว่าโอเคนะ เสียดายไม่เจอ MD ซึ่งเป็นเจ้าของด้วย

Joey เขียน:ตอบคุณ Blueblood เรื่องโหวงเฮ้ง

บอกตรงตรง ดูไม่เป็นครับ คนที่เจอเป็นแขกขาว รู้สึกเค้าอัธยาศัยดี พยายามตอบทุกคำถาม เป็นผู้บริหารระดับสูงที่อายุน้อย แต่ดูมีความรู้ โดยรวมผมว่าโอเคนะ เสียดายไม่เจอ MD ซึ่งเป็นเจ้าของด้วย

ขอบคุณอีกครั้งครับ ค่อนข้างเคลียร์แล้วครับตอนนี้

อ่านดูแล้วน่าสนใจนะครับ แต่ลองดูหนังสือชี้ชวนแล้วคงต้องบอกละครับ แขกก็คือแขก "เขี้ยว" เหมือนกันหมด ดูราคา IPO บอกได้เลยว่าแพง อุตสาหกรรม PET film ตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวนนี้ โตต่ำมากเลย แต่การเพิ่มของอัตราการผลิตอยู่ในสัดส่วนที่สูง อันนี้ไม่รู้ว่าจะเชื่อนายกุ๊ปตาดีหรือป่าว ราคา P/B ก่อน IPO นี่ ก็แพง ประเมินแล้ว book ประมาณ 2 บาท ขายพวกเรา 6.90 ทั้งๆๆที่ บริษัทเพิ่งเปิดมา 2 ปี แหม มันน่าทำธุรกิจแข่งด้วยจัง

อันอื่น อย่าดูเพียงว่ากำไรงามนะครับ เอาคร่าวๆๆ กำไรปีนี้ คาดว่าประมาณ 650 ล้าน p/e = 650*6.9/800 = 8.5 เท่า แต่ค่าเสื่อมเครื่องจักรพี่แกเล่น หักเส้นตรงระยะเวลา 18 ปี oh my godness นักบัญชีที่ตรวจสอบ ยอมได้อย่างไร จุดนี้แหละที่ทำให้กำไรดูดีเหลือเกิน นอกจากนี้ ค่าตอบแทนกรรมการยังไม่มี แต่ผมว่าพอเข้าตลาดแล้ว มันคงตามมาเหมือนบริษัท อื่นๆๆ ที่ทำกันเป็นแฟชั่น คือจ่ายค่าตอบแทนปรนเปรอกันเป็นการชดเชย(ลองดู ได้จาก พวก new listing ทั้งหลาย) อันนี้ดูแค่คร่าวๆๆ คับ ยังไม่มีเวลาเจาะลึก

คิดว่า ถ้าหุ้นลงมา ต่ำกว่า 5 บาทก่อน ถึงค่อยน่าดูอย่างละเอียด เพราะตอนนี้ดูแล้ว ธุรกิจแผ่นฟิลม์เป็นขาขึ้น ไม่เข้าตลาดปีนี้ คงไม่ได้ราคาดีแบบนี้

ROGER เขียน:ค่าเสื่อมเครื่องจักรพี่แกเล่น หักเส้นตรงระยะเวลา 18 ปี oh my godness นักบัญชีที่ตรวจสอบ ยอมได้อย่างไร จุดนี้แหละที่ทำให้กำไรดูดีเหลือเกิน

เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการตกแต่งบัญชีครับ รู้ไว้เนิ่นๆจะได้ระวัง ขอบคุณครับ

โอ้ว 18 ปี สงสัยเครื่องจักรเค้าจะทนน่ะครับ

ผมเพิ่งไปดู ข้อมูล สรุปข้อสนเทศ ของ PLT เพื่อบันทึกลงฐานข้อมูล

เจ้าบริษัทนี้มี
หุ้น บริมสิทธิ 528 ล้านบาท
หุ้นสามัญ 560 ล้านบาท

รวมมีทุน 1088 ล้านบาท

กำไรสุทธิปีนี้ 1เมย.04- 30 กย.04 รวม 6 เดือน 333.11 ล้านบาท
ตีว่าทั้งปี 666.22 ล้านบาท

EPS = 666.22/1088 = 0.612

ราคา IPO 6.90

P/E = 11.275

ครรชิต ไพศาล เขียน:ผมเพิ่งไปดู ข้อมูล สรุปข้อสนเทศ ของ PLT เพื่อบันทึกลงฐานข้อมูล

เจ้าบริษัทนี้มี
หุ้น บริมสิทธิ 528 ล้านบาท
หุ้นสามัญ 560 ล้านบาท

รวมมีทุน 1088 ล้านบาท

กำไรสุทธิปีนี้ 1เมย.04- 30 กย.04 รวม 6 เดือน 333.11 ล้านบาท
ตีว่าทั้งปี 666.22 ล้านบาท

EPS = 666.22/1088 = 0.612

ราคา IPO 6.90

P/E = 11.275

เค้ายกเลิกหุ้นบุริมสิทธิแล้วครับพี่ครรชิต สรุปว่า ก่อน ipo มีหุ้นสามัญ 560 ล้านหุ้น หลัง ipo มีหุ้นสามัญ 800 ล้านหุ้นครับ

ที่ถูกน่าจะคิดเป็น eps ประมาณ 666/800 = 0.83
p/e = 6.9/0.83 = 8.31 ครับ

ขอบคุณข้อมูลของคุณ Joey ครับ
จุดที่ผมอยากจะเสริม คือ

1. There was hugh increase of production in China recently (200,000 ton/year)
ที่ทราบจากเพื่อนชาว Hong Kong ก็เป็นข้อมูลเดียวกัน คือ เพิ่มลายการผลิต
ประมาณ 10 ลาย ลายละ ประมาณ 20000 ตัน
แค่เพิ่มลายเดียวก็เท่า Cap. ที่ AJ เพิ่มแล้วครับ
นี่มาทีเดียว 10 ลาย และคุณภาพค่อนข้างดีด้วย น่าจะมี Price Pressure
หนัก ๆ ในภูมิภาคนี้แน่นอน ไม่เกินกลางปีหน้า

2. One local competitor has completed new capacity of 20,000 t/y but it is expected for domestic market and will not affect the company.
อย่างที่บอกครับ ส่วนตัววิเคราะห์ว่า น่าจะโดนทั้งภูมิภาค
ปีนี้มีเงินเพิ่มทีเดียว 10 ลาย แล้วปีหน้าหละ
Margin คงต้องปรับลดพอสมควรครับ

3. สำหรับค่าเสื่อม เที่ยบกับ AJ

คิดค่าเสื่อมเครื่องจักรและอุปกรณ์ 8-20 ปีครับ

Tiger เขียน:
3. สำหรับค่าเสื่อม เที่ยบกับ AJ

คิดค่าเสื่อมเครื่องจักรและอุปกรณ์ 8-20 ปีครับ

สรุปว่าค่าเสื่อมขนาดนี้มันเป็นธรรมดาของธุรกิจนี้รึเปล่าครับ แล้วเครื่องจักรเค้าจะไม่เปลี่ยนหรือพัฒนาเลยหรือไงเนี่ย ???

เป็นกระทู้ที่รวบรวมความคิดในการวิเคราะห์ได้น่าสนใจมากครับ
(นอกเรื่อง )

เอ้า...ใคนสนใจตัวนี้ ราคาปิดที่ 5.9 บาท น่าสนใจทีเดียว
พีอีประมาณ 7.11 เท่า หรือว่าควรรอให้ฝุ่นหายตลบก่อนครับ..

ผมสนใจและสอยไปแล้วครับ ขาย AJ ทิ้งทั้งหมดแล้วย้ายเข้าตัวนี้แล้ว
เสียดาย lot ที่ตั้งไว้ 5.70 ซื้อไม่ได้ครับ

ปันผลน่าจะได้สัก 30 สตางค์ 5% ก็ยังถือว่าพอรับได้

โอ.. น้อง CK ยอดเยี่ยมจัง
ได้ AJ ไปหนึ่งรอบ
ได้ TNX ไปหนึ่งรอบ
ได้ PLT อีกรอบหนึ่งแน่ๆ

แหะๆ ไอ้ที่ขาดทุนใครเขาพูดกันครับ พี่ครรชิต ซุกไว้ใต้พรมอยู่แล้น

อีกอย่าง ปอดเก็งกำไรผมไม่ถึง 20% ของปอดใหญ่ด้วยซ้ำครับ

TNX เมื่อวานนี้โดดเข้าไปตอน 2.08 และต้องตาเหลือกขายขาดทุนที่ 1.98
ก่อนจะซื้อคืนได้ตอนท้ายตลาด จนถึงตอนนี้ ยังขาดทุนอยู่ 4 สตางค์เศษ

ส่วน AJ กำไรไม่ได้เยอะครับ ใจมันหวิวๆ เลยซื้อเฉลี่ยขาขึ้น

PTL นี่น่าสนใจครับ ผมติดตาม AJ มานานแต่ไม่กล้าถือยาวเพราะต้นทุน
กวัดแกว่งมากและการแข่งขันจากอินเดียค่อนข้างสูง แต่ PTL ผู้บริหารน่า
จะเก่งพอใช้ครับ คงจะคุมเรื่องต้นทุนได้ดีกว่า AJ และบริษัทก็ใหญ่กว่ามาก
และตอนนี้แนวโน้มพวกต้นทุนปิโตรก็เริ่มถูกลง

อาจจะกลายเป็น super stock แบบ TR ในอนาคตก็ได้ ใครจะรู้ :lol:

Blueblood เขียน:โอ้ว 18 ปี สงสัยเครื่องจักรเค้าจะทนน่ะครับ

I do not know why the deprecaition is counted 18 years. But I did ask a question regarding machine maintenance cost and obsolescent. I was told that:

Quote
Film machines can last very long. Some of the company oldest machine (in India) have been used until today. There is not much change in the technology. The machine does not need much maintenance.
Unquote

Sorry I did not mention it earlier.

ดู mr. market เค้าทำกับหุ้นดีๆสิครับ