VI บ้าน ๆ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:การทำบัญชีแบบบ้าน ๆ ของครอบครัว เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราประสบผลสำเร็จที่ดีระยะยาวครับ
ขอบคุณ คุณ NB ค่ะ

"เรื่องนี้ต้องขยาย" เชื่อว่าหลายคน (รวมทั้งตัวเองด้วย)
สนใจเรื่อง "การทำบัญชีแบบบ้านๆ ของครอบครัว"

และรอคุณ NB มาให้รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่
โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นที่จะตัดสินใจทำหรือไม่ทำ

อยากทราบว่ามีแรงบันดาลใจ อย่างไร. มีจุดเปลี่ยนอย่างไร
และก่อนทำหลังทำส่งผลให้ดีขึ้นอย่างไร
หรือมุมมองที่คมๆ อื่นๆ ตาม style คุณ NB น่ะค่ะ

โดยส่วนตัวติดตามความเห็นของคุณ NB อยู่เสมอเลยค่ะ
ชอบความคมและบางครั้งมีมุมกลับ ที่พิจารณาตามแล้วมันใช่อยู่เสมอค่ะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ขออธิบายแบบบ้าน ๆ จริง ๆ นะครับ เพราะผมมีความรู้น้อย

ของผมทำดังนี้ครับ

1. งบดุลรายไตรมาส (ไม่ทำรายเดือนไม่ทำรายวัน)

เงินสด xx
บัญชีกสิกร xx
บัญชีไทยพาณิชย์ xx

หุ้น
หุ้น A xx
หุ้น B xx
หุ้น C xx

กองทุน
กองทุน A xx
กองทุน B xx

หนี้
หนี้รถ xx
หนี้บ้าน (หมดแล้ว เย้)

สรุป เรามี สินทรัพย์ - หนี้สิน = เท่าไร เอามาดูเป็นรายไตรมาส

...................................

รายได้ คชจ.

เงินเดือน แยกไว้บัญชีนึง เป็นบัญชีเดียวกับบัตรเครดิต
รายได้อื่น เช่นปันผลหุ้นกองทุน แยกไว้อีกบัญชี

แต่ละเดือนกำหนดไว้เลยครับ เช่น เงินเดือน 10000 ผมแยกเป็น คชจ. หลัก ดังนี้

1. ให้พ่อแม่น้อง เงินเก็บ ลูกสาว ลูกชาย ประมาณ 4500
2. คชจ.ของเราและภรรยา 3500
3. เก็บ 2000 -> ภาษีสังคม ฯลฯ หากเหลือส่วนนี้เอาไปลงทุนหุ้นหรือกองทุน เช่น RMF LTF ระยะยาวแล้วได้เป็นปันผลและลดภาษี (ตัวเลขก็จะไปปรากฎในงบดุลรายไตรมาสของเรา)

รายละเอียดยิบย่อย ผมไม่ได้จดว่ากี่บาทต่อวันจุดนั้นค่อนข้างเปลืองเวลา

ข้อคิด
1. ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เราได้ประโยชน์ เน้น คำว่า อย่างมีวินัย ห้ามเป็นหนี้บัตรเครดิตเด็ดขาด

2. เงินไม่มียี่ห้อ มันไม่รู้หลอกครับว่ามันมีหน้าที่ทำอะไร เราเป็นนายมัน เราต้องใช้มันทำงานหนักไม่ให้พักไม่ให้ผ่อน ให้มันออกดอกออกผลให้เราให้มากที่สุด

3. บางครั้งเงินมันหลอกเรา ทำให้เรานึกว่าเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน แอดไวเซอร์ผมสอนว่า

บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ต่างกันตรงไหน บ้านใหญ่เหมือนบ้านพระเอกละครช่องสาม ช่องเจ็ด พ่อแม่ลูกไม่เคยเจอหน้ากันอยู่ในบ้านจะคุยกันคุยกันทางมือถือทำความสะอาดบ้านไม่ไหวต้องจ้างคนใช้ ไม่มีเงินจ้างคนใช้ไม่ได้ พ่อแม่ลูกกลับบ้านดึกบ้านใหญ่คนใช้อยู่ บ้านเล็กพ่อแม่ลูกล้อมวงกินข้าว

รถใหญ่รถเล็กต่างกันตรงไหนลองขับรถไปจุฬาฯสิ มารถเมล์เข้าห้องเรียนทันขับเบนซ์มากว่าจะวนหาที่จอดโน่นเข้าห้องเรียนไม่ทัน ไปเที่ยวรอบโลกคนเดียวกับเดินสยามกับสาวที่เราปิ๊งด้วย แบบไหนจะมีความสุขกว่ากันหนอ ท่านให้หลักการผมไว้

ทั้งนี้ทั้งนั้นมิได้มีเจตนาบอกว่าบ้านใหญ่หรือขับเบนซ์ไม่มีความสุข แค่อยากบอกว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่ภายในนั้นคืออะไร ถ้าเริ่มต้นด้วยความอยาก ทุกอย่างก็จบ พระอาจารย์ที่ผมไปกราบ วันแรกเลยท่านถามมาทำอะไร ผมบอกท่านว่า "อยาก" บรรลุธรรม จบข่าว ท่านไม่เคยสอนอะไรเลย เพราะเริ่มต้นเรียนธรรมก็เริ่มด้วย "อยาก" เสียแล้ว

ไปจุฬา เพราะไปเรียน ไม่ได้ "อยาก" ขับรถเบนซ์ ดังนั้นไปจุฬาไปรถเมล์ก็ได้ ถ้า "อยาก" ขับรถเบนซ์ ก็เป็นอีกเรื่อง

อย่าให้เงินมันมาหลอกเราว่าไม่มีมันแล้วเราอยู่ไม่ได้ ไม่มีรถเบนซ์แล้วไปเรียนไม่ได้ ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนมแล้วเข้ากับเพื่อนไม่ได้

ตอนเด็กบ้านผมจนมากครับ พ่อเป็นตำรวจครับอยู่แฟลตตำรวจมาแต่เด็ก ได้ยี่สิบกว่าปีแล้วครับ ตอนเด็กเราไม่รู้ครับว่าเราจน เพื่อนไปเที่ยวบ้านเราที่แฟลต สมัยเรียนมัธยมสวนกุหลาบ ปรากฎว่าหลังจากนั้นเพื่อนกลับจากบ้านเราไป เลิกคบ ครับ เพราะบ้านเราเล็ก ผมโกรธมากครับ ชกกัน ก็แพ้ โดนอัดกลับมายับ ใจเจ็บ ตัวก็เจ็บ

โกรธพ่อมาก ทำไมบ้านเราไม่รวย โกรธ โกรธ โกรธ เฝ้าเวียนถามพ่อ อยู่ตลอด เป็นตำรวจทำไมจน

พ่อนิ่ง ไม่เคยตอบ

จนวันนึงไปถามพ่ออีกครั้ง พ่อนิ่ง แล้วตอบมาว่า

"บ้านเราจน แต่บ้านเรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี"

ผมหยุดแล้วก็เลิกถามจากวันนั้นมาวันนี้ ทุกวันนี้ผมยึดคำพ่อเป็นหลัก

ผมเริ่มเรื่องนึงแล้วไปจบอีกเรื่องนึงยังไงก็ไม่รู้นะครับ พอดีคุณนุชอย่าถือสานะครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขออธิบายแบบบ้าน ๆ จริง ๆ นะครับ เพราะผมมีความรู้น้อย

ของผมทำดังนี้ครับ

1. งบดุลรายไตรมาส (ไม่ทำรายเดือนไม่ทำรายวัน)

เงินสด xx
บัญชีกสิกร xx
บัญชีไทยพาณิชย์ xx

หุ้น
หุ้น A xx
หุ้น B xx
หุ้น C xx

กองทุน
กองทุน A xx
กองทุน B xx

หนี้
หนี้รถ xx
หนี้บ้าน (หมดแล้ว เย้)

สรุป เรามี สินทรัพย์ - หนี้สิน = เท่าไร เอามาดูเป็นรายไตรมาส

...................................

รายได้ คชจ.

เงินเดือน แยกไว้บัญชีนึง เป็นบัญชีเดียวกับบัตรเครดิต
รายได้อื่น เช่นปันผลหุ้นกองทุน แยกไว้อีกบัญชี

แต่ละเดือนกำหนดไว้เลยครับ เช่น เงินเดือน 10000 ผมแยกเป็น คชจ. หลัก ดังนี้

1. ให้พ่อแม่น้อง เงินเก็บ ลูกสาว ลูกชาย ประมาณ 4500
2. คชจ.ของเราและภรรยา 3500
3. เก็บ 2000 -> ภาษีสังคม ฯลฯ หากเหลือส่วนนี้เอาไปลงทุนหุ้นหรือกองทุน เช่น RMF LTF ระยะยาวแล้วได้เป็นปันผลและลดภาษี (ตัวเลขก็จะไปปรากฎในงบดุลรายไตรมาสของเรา)

รายละเอียดยิบย่อย ผมไม่ได้จดว่ากี่บาทต่อวันจุดนั้นค่อนข้างเปลืองเวลา

ข้อคิด
1. ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เราได้ประโยชน์ เน้น คำว่า อย่างมีวินัย ห้ามเป็นหนี้บัตรเครดิตเด็ดขาด

2. เงินไม่มียี่ห้อ มันไม่รู้หลอกครับว่ามันมีหน้าที่ทำอะไร เราเป็นนายมัน เราต้องใช้มันทำงานหนักไม่ให้พักไม่ให้ผ่อน ให้มันออกดอกออกผลให้เราให้มากที่สุด

3. บางครั้งเงินมันหลอกเรา ทำให้เรานึกว่าเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน แอดไวเซอร์ผมสอนว่า

บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ต่างกันตรงไหน บ้านใหญ่เหมือนบ้านพระเอกละครช่องสาม ช่องเจ็ด พ่อแม่ลูกไม่เคยเจอหน้ากันอยู่ในบ้านจะคุยกันคุยกันทางมือถือทำความสะอาดบ้านไม่ไหวต้องจ้างคนใช้ ไม่มีเงินจ้างคนใช้ไม่ได้ พ่อแม่ลูกกลับบ้านดึกบ้านใหญ่คนใช้อยู่ บ้านเล็กพ่อแม่ลูกล้อมวงกินข้าว

รถใหญ่รถเล็กต่างกันตรงไหนลองขับรถไปจุฬาฯสิ มารถเมล์เข้าห้องเรียนทันขับเบนซ์มากว่าจะวนหาที่จอดโน่นเข้าห้องเรียนไม่ทัน ไปเที่ยวรอบโลกคนเดียวกับเดินสยามกับสาวที่เราปิ๊งด้วย แบบไหนจะมีความสุขกว่ากันหนอ ท่านให้หลักการผมไว้

ทั้งนี้ทั้งนั้นมิได้มีเจตนาบอกว่าบ้านใหญ่หรือขับเบนซ์ไม่มีความสุข แค่อยากบอกว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่ภายในนั้นคืออะไร ถ้าเริ่มต้นด้วยความอยาก ทุกอย่างก็จบ พระอาจารย์ที่ผมไปกราบ วันแรกเลยท่านถามมาทำอะไร ผมบอกท่านว่า "อยาก" บรรลุธรรม จบข่าว ท่านไม่เคยสอนอะไรเลย เพราะเริ่มต้นเรียนธรรมก็เริ่มด้วย "อยาก" เสียแล้ว

ไปจุฬา เพราะไปเรียน ไม่ได้ "อยาก" ขับรถเบนซ์ ดังนั้นไปจุฬาไปรถเมล์ก็ได้ ถ้า "อยาก" ขับรถเบนซ์ ก็เป็นอีกเรื่อง

อย่าให้เงินมันมาหลอกเราว่าไม่มีมันแล้วเราอยู่ไม่ได้ ไม่มีรถเบนซ์แล้วไปเรียนไม่ได้ ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนมแล้วเข้ากับเพื่อนไม่ได้

ตอนเด็กบ้านผมจนมากครับ พ่อเป็นตำรวจครับอยู่แฟลตตำรวจมาแต่เด็ก ได้ยี่สิบกว่าปีแล้วครับ ตอนเด็กเราไม่รู้ครับว่าเราจน เพื่อนไปเที่ยวบ้านเราที่แฟลต สมัยเรียนมัธยมสวนกุหลาบ ปรากฎว่าหลังจากนั้นเพื่อนกลับจากบ้านเราไป เลิกคบ ครับ เพราะบ้านเราเล็ก ผมโกรธมากครับ ชกกัน ก็แพ้ โดนอัดกลับมายับ ใจเจ็บ ตัวก็เจ็บ

โกรธพ่อมาก ทำไมบ้านเราไม่รวย โกรธ โกรธ โกรธ เฝ้าเวียนถามพ่อ อยู่ตลอด เป็นตำรวจทำไมจน

พ่อนิ่ง ไม่เคยตอบ

จนวันนึงไปถามพ่ออีกครั้ง พ่อนิ่ง แล้วตอบมาว่า

"บ้านเราจน แต่บ้านเรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี"

ผมหยุดแล้วก็เลิกถามจากวันนั้นมาวันนี้ ทุกวันนี้ผมยึดคำพ่อเป็นหลัก

ผมเริ่มเรื่องนึงแล้วไปจบอีกเรื่องนึงยังไงก็ไม่รู้นะครับ พอดีคุณนุชอย่าถือสานะครับ
ขอบคุณมากๆ ค่ะที่แวะมาแบ่งปันเรื่องบัญชีแบบบ้าน ๆ
ที่บ้านยังทำไม่ละเอียดเท่าของคุณ NB ค่ะ
คงจะนำบางอย่างไปต่อยอดด้วยเช่นบัญชีกองทุน

อ่านแล้วซึ้งกับเรื่องราวชีวิต
และซึ้งใจที่กรุณามาเล่าสู่กันฟังที่บ้านของพวกเราหลังนี้

ไม่ถือสาหรอกค่ะ ยังอยากให้มาเล่าเรื่องที่ได้ "จบ" ไว้ต่อด้วยค่ะ
เชื่อแน่ว่าแต่ละคนมีมุมของชีวิตที่น่าสนใจ
และเส้นทางเขาเหล่านั้นผ่านมาจะยิ่งน่าสนใจกว่า

ถ้าได้กรุณานำมาเล่าสู่กันฟังเท่าที่จะพอสะดวกใจที่จะเล่า
จะเป็นประโยชน์ แก่ผู้ที่ชอบเรียนรู้ผ่านเรื่องราวและอัตชีวประวัติอย่างยิ่งค่ะ

โดยเฉพาะกับคนที่มีลูก เพราะขณะที่เราเลี้ยงลูกกันอยู่
ลูกไม่มาเล่าความรู้สึกให้ฟังได้ชัดเจนอย่างนี้ได้
หรือเล่าให้เราฟังได้แค่ความรู้สึก ณ ขณะนั้น

แต่ความรู้สึกของผู้ที่ผ่านวัยมาแล้วมองย้อนกลับไป
จะสามารถถ่ายทอดได้ตลอดเส้นทางกว่า
และยังเสริมเรื่องความรู้สึก และมุมมอง
ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงได้ด้วย

ขอบคุณ คุณ NB มากค่ะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

อ่านประวัติ คุณ NB แล้วเห็นภาพ

ก็ยังมีคนอย่างนี้อยู่ ที่คบคนจากฐานะ

ในวัยมัธยม ยังมีเลือกชั้นวรรณะ

ไปบ้านเพื่อน เห็นบ้านเพื่อนจน เลิกคบ

เพื่อนคนนี้ตัดสินคนที่เปลือกนอก

มีคำสุภาษิต ว่าไว้

Don't Judge the Book by the Cover ครับ

อย่าตัดสินคน เพียงแค่เปลือกนอก คุณไม่รู้หรอก ว่าเค้ามีอะไรดีอีกบ้างที่คุณไม่รู้
saichon
Verified User
โพสต์: 1219
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

อ่านโพสนี้ของพี่NBแล้วขนลุกเลยครับ

โดนใจสุดๆกับประโยค"บ้านเราจน แต่บ้านเรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี"
สุดยอด

นับถือครับ :bow:
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
sorageol46
Verified User
โพสต์: 87
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

มาขอติดตาม และศึกษาด้วยนะครับ
" ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา....
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินให้ไปถึงฝัน เท่านั้นพอ"
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ที่จริงรู้สึกเหมือนน้องสายชลเลยค่ะ
คืออ่านแล้วขนลุก แอบน้ำตาซึมเล็กน้อยด้วย

นึกถึงความรู้สึกของทั้งพ่อและทั้งคุณ NB
และสถานการณ์ที่หมองลงทันทีจากคำพูดแย่ๆ
ของเด็กร่วมโรงเรียนแย่ๆ คนหนึ่ง

และในขณะที่พ่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ฐานะเปลี่ยนได้
ในใจลึกๆ เข้าใจว่า "เจ็บ" ด้วยนะ
(เคยมีความคิดเรื่องทางสังคม
ที่เกี่ยวกับประเด็นนีค่อยมาเล่าให้ฟังนะคะ)

จริงๆ พูดกันตามตรงคิดว่าพ่อรู้ว่าต้องทำอย่างไร
แต่พ่อเลือกที่จะไม่ทำสิ่งนั้นเพราะพ่อยึดมั่น "ในเกียรติ ในศักด์ศรี"
ซึ่งคำนี้เองที่ติดอยู่ในหัวใจของลูกชายมาจนโต

เป็นเรื่องราวที่มีคุณค่ามากจริงๆ
น่านับถือจิตใจของพ่อด้วยนะคะ
ต้องชมเลยว่าพ่อของคุณ NB เป็นตำรวจที่ดี
และสอนลูกดีมากค่ะ

รับรู้ได้ว่าคุณ NB ใช้หัวใจเล่า
และพี่หมอมุข น้องสายชล และตัวเอง
รวมทั้งเพื่อนๆ ที่เข้ามาฟัง ก็ใช้ ๆ "หัวใจ" ฟัง เช่นกันค่ะ

และในฐานะพ่อแม่ พวกเราจะได้ถือโอกาสนำไปสอนลูก
เรื่องการไม่ตัดสินคนจากฐานะ และการยึดมั่นในเกียรติ ในศักดิ์ศรีด้วยค่ะ
niphon_vi
Verified User
โพสต์: 23
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

มีแต่กลุ่มคนดีๆทั้งนั้นเลย ผมนึกถึงคำกล่าวของเพื่อนรุ่นพี่ ว่า คนเราได้พบเจอกันเป็นบุญวาสนาจริงๆ
สิ่งทั้งหลาย ไม่ควรยึดมั่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
oatty
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2444
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

มาตามอ่านด้วยคนครับ...
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ยินดีค่ะ คุณ "sorageol46" คุณ "niphon_vi" คุณ "oatty"

ว่างๆ ก็เชิญแวะมานั่งคุยกันกับเพื่อนๆ นะคะ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

มาชวนเพื่อนๆ ไปชื่นชมและให้กำลังใจ "คุณ NB" เพื่อนของเรา
ได้ที่ "fb/money talk" website คุณภาพที่ท่านอาจารย์ที่พวกเราเคารพนับถือ
ทั้ง 4 ท่าน ได้แก่ อาจารย์ ดร.ไพบูลย์ อาจารย์ ดร.นิเวศน์
อาจารย์ถาวร และอาจารย์เสน่ห์ (รวมทั้งทีม Money talk ทุกท่าน)

ตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ความรู้ด้านการลงทุน
การบริหารการเงิน ควบคู่กับความสมดุลของการใช้ชีวิต ตาม link นี้ค่ะ

https://www.facebook.com/MoneyTalkTV?ref=tn_tnmn

อยากให้ทราบว่าเรื่องราวของเราที่คิดว่าบ้านๆ ธรรมดา ๆ นั้น
อาจไม่ธรรมดาในมุมมองของเพื่อนๆ ที่มีโอกาสได้รับทราบ
หลายครั้ง...ให้ข้อคิดและเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่นได้อย่างคาดไม่ถึงเลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ ท่านอื่น ที่มีเรื่องอยากแวะมาเล่าสู่กันฟัง
อยากบอกว่าที่ชานบ้านหลังนี้ มีเพื่อนๆ รอฟังและพร้อมเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอนะคะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

VI บ้านๆ - มักจะบันทึกรายรับรายจ่ายอยู่เสมอเพื่อควบคุมรายจ่ายในแต่ละเดือน (ปัจจุบันเก็บในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์น่าจะสะดวกที่สุด) สามารถดาวน์โหลดไ้ด้ฟรี ทุกปีจากเวปกสิกรตามลิงค์ http://k-expert.askkbank.com/Pages/k-ex ... nload.aspx อันนี้ปีนี้ ปีหน้ารอใกล้ๆสิ้นปีครับ
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
f.escape
Verified User
โพสต์: 439
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

โค้ช ของคุณ theenuch จะเท่ากับ ผู้รู้ ของพระท่านหรือเปล่าไม่รู้
ดีจังนะคะพึ่งตัวเองได้

เรื่องบัญชีรับ-จ่ายของครอบครัว ติดนิสัยจดมาตั้งแต่แต่งงานแล้วค่ะ
ทำทุกเดือนเลย พวกรายจ่ายที่เบ็ดเตล็ดก็ลงเป็น petty cash
เงินสดส่วนนี้ก็อยู่ในกระเป๋าสตางค์คนละช่องกับเงินส่วนตัวค่ะ
แต่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากมันเท่าไหร่
ปีเก่าๆที่เก็บไว้ในแผ่นดิสค์ก็ทิ้งไปแล้ว เพราะตอนนี้ไม่มีเครื่องที่เปิดได้แล้ว
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

"เด็กยากจน"

สมัยเด็กๆ เราเรียนที่โรงเรียนประถมเล็กๆ
ใกล้ๆ บ้าน เป็นโรงเรียนที่แม่เป็นครูอยู่

ตอนเด็กๆ เราไม่ค่อยรู้หรอกว่า
เรา "รวย" หรือ "จน" อย่างที่คุณ NB บอกไว้

แต่เราเห็นเพื่อนจำนวนหนึ่ง...ที่ไม่มีรองเท้าใส่ไปโรงเรียน
ใส่เสื้อนักเรียนที่ขนาดไม่พอดีตัว ไม่ใหญ่เกิน..ก็คับติ้ว...และเก่ามากๆ
บางคน..อาจต้องใช้คำว่า "กระรุ่งกระริ่ง" กันเลยทีเดียว
บ้างก็ต้องใช้เชือกปอ เชือกกล้วย...รัดเอว รูดจนย่น ไม่เช่นนั้น..จะหลุด
ชายกระโปรง และชายขากางเกงถูกเลาะลง
จนหมดผ้า...ที่จะพับเพื่อสอยให้เป็นขอบได้


เป็นเรื่องที่แปลกอยู่ว่า.....เวลาเห็นเพื่อนๆ ที่เป็นแบบนี้
ทำให้เรา...ไม่รู้สึกอยากได้อะไรใหม่ๆ เลย
ทั้งชุดนักเรียน กระเป๋า ถุงเท้า รองเท้า

ใจนึงคิดว่า...ที่เรามีอยู่....ดีกว่าพวกเขาตั้งมากแล้ว
อีกใจคิดว่า...ไม่อยากให้ช่องว่าง
ระหว่างเรากับเพื่อน...ถ่างกว้างขึ้นกว่านี้
(โดยส่วนตัว...ช่างคิดเรื่องแบบนี้...มาตั้งแต่จำความได้)

นอกจากคำสอนของอาม่าที่ว่าให้ "เขียมๆ" แล้ว
ยังต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ถูกเรียกว่า "เด็กยากจน" กลุ่มนี้
ที่สอนให้เราน้อมใจรู้จักคำว่า "พอเพียง" มาตั้งแต่เล็กๆ

และนิสัยนี้เอง...เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มีเงินมาลงทุน
จนประสพความสำเร็จพอสมควร....ได้อย่างทุกวันนี้

........................................

ภาพเพื่อนๆ อย่างที่เล่ามา...ฝังใจลงไปในจิตใต้สำนึกจริงๆ
ส่งผลให้...เวลาใกล้ๆ เปิดเทอม เมื่อเห็นโฆษณาชุดนักเรียน
หรือรองเท้านักเรียนทีไร...เกิดความคิดอยู่ 2 ประเด็น

ประเด็นแรก...
ชุดนักเรียน...เป็นสินค้าที่ต้องโฆษณาจริงหรือ?
โฆษณาบางชุด...จงใจเน้นเรื่องของความรู้สึก "เท่ห์"...ที่ได้สวมใส่
มีรองเท้านักเรียนบางยี่ห้อ...ที่โฆษณาไม่เหมาะสม
(ก้าวร้าวกับครู...จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง)

ดูแล้วอดคิดในใจไม่ได้ว่า
ถ้า "เด็กนักเรียน" รู้สึก "เท่ห์" ที่ได้ใส่ชุดนักเรียนใหม่
คงน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย..ทั้งอนาคตของเด็ก...และทั้งอนาคตของชาติ

อีกประเด็นหนึ่งที่คิดมากกว่า คือ
ครอบครัวไทยจะยากดีมีจนอย่างไร...ต้องมีทีวี
ซึ่งทีวีนั้น ทำให้เด็กยากจน....มีโอกาส
"เข้าถึง...โฆษณา" แต่ "เข้าไม่ถึง...โอกาส"
ดูแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจแทนพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้น

อย่างที่บอกเด็กๆ ไม่รู้หรอกว่าตัวเขาจนหรือรวย
จนวันที่เห็นโฆษณา...แล้วรบเร้าให้พ่อแม่ซื้อชุดนักเรียนใหม่
แต่ไม่เคยได้นั่นแหละ...หลายคนจึงจะเริ่มรับรู้

พอดีเคยมีโอกาสได้ยินบทสนทนา...ที่ฟังแล้วรู้สึกสะท้อนใจ
ของครอบครัว "เด็กยากจน" ที่ "หน้าร้าน"...ขายชุดนักเรียน
ไม่ได้พิมพ์ผิดค่ะ "หน้าร้าน" จริงๆ ไม่ใช่ "ในร้าน" :cry:

...................................

ขออนุญาตใช้คำว่า "เด็กยากจน"
ตามที่ใช้กันอยู่ทั่วไป...ทั้งที่ใจรู้สึกนับถือ

มีเพลงมาฝากค่ะ....
http://www.youtube.com/watch?v=pDSy74inEtE
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ขออภัยค่ะ ขอแก้คำผิด post ด้านบน
"กะรุ่งกะรุิ่ง" ค่ะ ไม่ใช่ "กระรุ่งกระริ่ง"
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายมานะ
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1116
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 46

โพสต์

บางครั้งผมก็รู้สึกว่าร่างกายของผมมันก็ไม่ใช่ของตัวเองเหมือนกันครับ คือรู้สึกว่ามันก็แค่ร่างเนื้อ แค่กลุ่มก้อนของคาร์บอน+สารประกอบอื่นๆ "สติ" ของสิ่งมีชีวิตนับเป็นเรื่องอัศจรรย์มากไม่แพ้การให้กำเนิดชีวิตใหม่เลยครับ

ผมขออนุญาตนำเรื่องที่เคยโพสลงกระทู้เกี่ยวกับ "น้องนานิ" มาโพสที่นี้อีกครั้งนะครับ อาจเป็นวิธีการมีความสุขแบบ "บ้านๆ" แบบหนึ่งครับ

ผมมีโอกาสได้อ่านบทความของดร.นิเวศน์ (ขออภัยที่จำชื่อบทความไม่ได้) ท่านมองว่าการสร้างความสุขในชีวิตนั้น 95% เราทำมันได้โดยใช้เงินแค่ฐานะของคนชนชั้นกลาง แต่อีก 5% นั้นต้องใช้เงินอีกหลายเท่าตัว จนท่านเองก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อต้องแลกกับเงินที่ต้องเสียไปแล้วจะรู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นจนเต็ม 100 หรือเปล่า

ผมเอามุมมองนี้มาปรับใช้กับความฝันของตัวเอง ผมคิดว่าการ achieve ความฝันที่ยิ่งใหญ่มากๆ ซึ่งจะสร้างความสุขระดับเต็ม 100 นั้น จำเป็นต้องใช้พลังกาย พลังใจ และพลังชีวิตมากกว่า การสร้างความสุขในระดับ 95% ไม่รู้กี่เท่า และเมื่อโตขึ้นผมก็เริ่มคิดว่าแล้วนั่นมันใช่ความสุขจริงๆ รึเปล่า ความอยากได้ อยากเป็น อยากมีนั้นเป็นความสุข หรือเป็นแค่การเติมเต็มอัตตาเฉพาะตัวของเรากันแน่?

จากเดิมที่เคยมีความฝัน"ใหญ่ยักษ์" ผมเริ่มตัดทอนลงบ้าง ลดขนาดมันลงบ้าง ผมไม่เลือกที่จะเติมน้ำลงไปในแก้วที่ขยายขนาดจนใหญ่ขึ้นๆ ไม่มีวันจบสิ้น แต่ผมเลือกที่จะลดขนาดของแก้วลง โยนแก้วบางใบทิ้งลงถังขยะ อันที่จริงเดิมทีผมเคยฝันอยากจะเป็น "นายกรัฐมนตรี" ผมอยากยืนอยู่บนจุดสูงสุด อยากช่วยเหลือประชาชนชาวสยามประเทศอย่างแท้จริง แต่มาวันนี้ผมคิดว่าผมมีหนทางมากมายที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อีกหลายชีวิต โดยเฉพาะคนที่อยู่รอบๆ ตัวของผม แม้มันอาจไม่มาก ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับฝันเดิม แต่ผมรู้สึกว่ามันจับต้องได้ ผมทำได้จริง และผมมีความสุขในระดับ 95% ได้โดยไม่ต้องฝืน ไม่ต้องตะเกียกตะกายที่จะเติมเต็มอัตตาของผมอีกต่อไป

บางทีแค่ได้มีชีวิตอยู่ ได้กินอิ่ม นอนหลับ ฟังบทเพลง ชมธรรมชาติ ก็อาจเติมเต็มความสุขในแบบฉบับบ้านๆ ได้

บางทีแค่ได้อยู่กับครอบครัว เห็นคนที่เรารักยิ้มได้ ก็อาจเป็นความสุข"ของบ้าน" ที่ไม่มีสุขใดจะทัดเทียมได้

คนที่มีความสุขที่สุดอาจไม่ใช่คนที่มีทรัพย์สิน เงินทองมากที่สุด

แต่คนที่มีความสุขที่สุดอาจเป็นของคนที่ "ยิ้ม" ให้กับวันแย่ๆ ได้เก่งที่สุด

เท่านั้นเอง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายมานะ
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1116
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ขออีกสักคอมเม้นท์นะครับ อันที่จริงผมมัวแต่วุ่นวาย อยู่ไม่สุขกับเรื่องงาน เรื่องการศึกษาวิชาการลงทุน เป็นความสุขปลอมๆ ของคนที่ยังตัดกิเลสไม่ขาดอย่างผมครับ :twisted: อันที่จริงผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะสอนใครได้เลย แต่ก็อยากจะแชร์มุมมองแบบบ้านๆ ครับ

บ่อยครั้งที่นักลงทุนจะพูดถึง "อิสรภาพทางการเงิน" และนั่นหมายถึง การลงทุนด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ด้วยเงินอย่างน้อยๆ สัก 10 ล้าน ซึ่งได้ดอกผลเพียงพอจะใช้ชีวิตที่เหลือไป โดยที่ต้องไม่ลืมเผื่อเงินเฟ้อ และเงินสำรองฉุกเฉิน กรณีคนในครอบครัวเจ็บป่วย ซึ่งนักลงทุนหลายๆ ท่านจะมองไปที่การ "ผลตอบแทน" จากเงินลงทุนที่มีอยู่

แต่เหรียญมี 2 ด้านเสมอ..

ผมมองว่า "อิสรภาพทางการเงิน" จะมีได้ด้วยกัน 2 องค์ประกอบ

1. สินทรัพย์ที่มี มาหักออกด้วย "เงินสำรองฉุกเฉิน" แล้วนำไปลงทุน
2. การลงทุนนั้น ต้องเป็นไปตามสามการ "ผลตอบแทนต่อเดือน - รายจ่ายต่อเดือน > 0"

แน่นอนว่าเงินสำรองฉุกเฉินเราไม่สามารถจะลดปริมาณของมันลงได้ เพราะคงไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตหรือสุขภาพของคนในครอบครัวอีกแล้ว แต่ไม่ใช่การสร้างผลตอบแทนต่อเดือนให้มากๆ เท่านั้นที่จะทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน

"การลดรายจ่ายต่อเดือน" เองก็สำคัญไม่แพ้กัน

ขอเพียงเรารู้จักลดขนาดของแก้วน้ำลงบ้าง

แม้จะไม่ได้มี 10 ล้าน 100 ล้าน ก็สามารถจะมีอิสรภาพทางการเงินแบบบ้านๆ ได้เช่นกัน
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 48

โพสต์

นายมานะ เขียน:ขออีกสักคอมเม้นท์นะครับ
แวะมาเล่าได้เรื่อยๆ เลยค่ะ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 49

โพสต์

ไปเสนอความเห็นไว้ในกระทู้เขื่อนแม่วงค์
นำมาไว้ที่ชานบ้านเราด้วยดีกว่า



ทั้งนี้ ทั้งนั้น.....

พวกเราทุกคน ทุกครอบครัว
สามารถช่วยชลอการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้
โดยการอุปโภค บริโภค อย่างพอดี

reuse และ ลดการ reduce และ สนับสนุนการ recycle

reuse ช่วยลดการ redue ได้
- ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า

- ลองตั้งใจใช้ปากกา หรือดินสอจนหมดเกลี้ยง ด้วยมือของเรา
ที่เหลือจะได้แจกจ่ายให้ผู้อื่นได้
(ทำงานราชการมักจะได้รับแจกปากกาดินสอ)

- ใช้ถุงผ้าเท่าที่สามารถใช้ได้

- ถ้าต้องรับถุงก๊อบแก๊บมาที่เราได้มาจากการซื้อของ
พิจารณาเลือกขนาดของถุงให้เหมาะกับขยะที่เราจะใส่+ทิ้งในแต่ละครั้ง
ถ้าขยะน้อยๆ ก็เลือกใช้ถุงใบเล็กๆ ก็พอ

- ยางหนังสติ๊กที่ได้มา รวบรวมไว้ใช้ซ้ำ ถ้าสะสมไว้ได้มาก
และคิดว่าเกินจำเป็น รวบรวมไปให้ร้านค้าเล็กๆ ได้
(อย่าเก็บสะสมไว้นาน มันจะเปื่อยหรือเสียความยืดหยุ่นเสียก่อน)

- ยุ่งยากขึ้นอีกหน่อยแต่ถ้าทำได้จะดี เอาปิ่นโตหรือภาชนะไปใส่
เวลาไปซื้ออาหาร ลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้

- กวาดใบไม้แห้งทิ้งไม่ต้องหมดเกลี้ยง ทิ้งไว้ให้ใส้เดือนกินบ้าง ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้

- ใครมีโอกาสอยู่ในภาคเกษตร หรือมีญาติอยู่ในภาคการเกษตร
อาจรณรงค์เรื่องการไม่เผาตอซัง (ใช้ไถกลบแทน)
ลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซค์ และลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้

- เลือกเสื้อผ้าให้โทนสีเข้ากันได้ เลือกแบบรองเท้า กระเป๋า ให้เข้าได้กับชุดส่วนใหญ่
จะได้ไม่ต้องหาซื้อเสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้า มารองรับการแต่งตัวมากเกินไป

- ดูแลรักษาเครื่องใช้ ของใช้ทุกชิ้นอย่างรู้คุณค่า ให้มีอายุการใช้งานได้นาน

- ซื้อน้ำยาต่างๆ ชนิดเติม ลำบากตัวเอง แต่ลดการต้องผลิตขวดลง
(แต่ก็ประหยัดเงินได้นะคะ)
- ฯลฯ

...................................

การใช้พลังงานอย่างประหยัด
- ปิดไฟทุกดวง พัดลมทุกตัว ที่ไม่ใช้ หรือแม้แต่ทีวีเมื่อไม่ได้สนใจดูจริงจัง
- ปลูกต้นไม้เพิ่มออกซิเจน และบังแดดให้ผนังบ้าน ลดการใช้แอร์
- ไม่เปิดตู้เย็นค้างไว้นานๆ และไม่นำของร้อนใส่ตู้เย็น
- ขับรถด้วยความเร็วคงที่ประหยัดน้ำมันได้
- ออกแบบเส้นทางการเดินทางเวลาไปทำธุระใดๆ ก็ตาม ให้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา
- ทยอยเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED
- ฯลฯ

สนับสนุนการ recycle
- คัดแยกขยะอย่างจริงจัง จะเอาไปขาย หรือเพื่อให้กับคนเก็บขยะก็แล้วแต่

ใครนึกวิธีใดได้มาช่วยกันเติมค่ะ

เผื่อมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่แวะมาอ่าน
และถ้าสะดวกเอาไปใช้กันได้จริง

ครอบครัวของพวกเราจะเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรได้ค่ะ :D
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 50

โพสต์

เอาเพลงมาฝากด้วยค่ะ
ฟังแล้วจะได้มีไฟที่อยากช่วยกันอนุรักษ์พลังงาน
และลดการใช้ทรัพยากรต่างๆ :D

http://www.youtube.com/watch?v=FqJAXdqPyJo
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 51

โพสต์

theenuch เขียน:ไปเสนอความเห็นไว้ในกระทู้เขื่อนแม่วงค์
นำมาไว้ที่ชานบ้านเราด้วยดีกว่า


พวกเราทุกคน ทุกครอบครัว
สามารถช่วยชลอการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้
โดยการอุปโภค บริโภค อย่างพอดี

....................

ใครนึกวิธีใดได้มาช่วยกันเติมค่ะ

เผื่อมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่แวะมาอ่าน
และถ้าสะดวกเอาไปใช้กันได้จริง

ครอบครัวของพวกเราจะเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรได้ค่ะ :D
เพิ่มเติมอีกค่ะ....เพิ่งนึกได้เพิ่ม :D

- ถ้าซื้อของที่ต้องมีช้อนแถม ถ้าเราจะเอามาทานที่บ้านอยู่แล้ว
ไม่ต้องรับช้อนมาแต่ต้น เอามาทิ้งเสียเปล่าๆ

- เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวถ้าไม่ใช้ไม่ต้องรับมาแต่ต้น คืนแม่ค้าไปเลยค่ะ
หรือถ้ารับมาแต่ใช้ไม่หมด เช่น พริกป่น กับน้ำตาล หลังๆ มา
มีการบรรจุแบบที่ติดมาด้วยกัน ถ้าเราใช้แต่พริกป่น
ด้านที่เป็นน้ำตาลอย่าทิ้งค่ะ...เอามาเทรวมใส่ภาชนะไว้ใช้ได้

จริงอยู่มันเล็กน้อยมากของแค่นี้...เรามีเงินซื้ออยู่แล้ว
แต่อยากให้นึกถึง ตอนที่มันถูกผลิตมาค่ะ...เราจะทิ้งมันไม่ลงเลยหละ

- เวลาไปเที่ยวพกถุงขยะดำและไม้จิ้มไปด้วย ถือโอกาสเก็บขยะมันเสียเลย
พกไปเยอะๆ ได้ค่ะ เวลามีคนเห็นเราทำ หลายคนอยากช่วยเลยหละ
โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ เค้าเห็นแล้วเค้าอยากทำมั่ง ถ้าเรามีแบ่งให้
จะได้คนช่วยกันเก็บเพิ่มค่ะ...ขอบอกว่าเจอประจำค่ะ :B
f.escape
Verified User
โพสต์: 439
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 52

โพสต์

แผ่นซีดีที่ไม่ใช้ เอาไปทำอะไรได้บ้างคะ?
(เราเอาไปปักดินกั้นต้นไม้แล้วแต่ยังเหลืออีก)
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 53

โพสต์

f.escape เขียน:แผ่นซีดีที่ไม่ใช้ เอาไปทำอะไรได้บ้างคะ?
(เราเอาไปปักดินกั้นต้นไม้แล้วแต่ยังเหลืออีก)

ที่เล่ามานั้นที่ทำอยู่ทั้งหมดค่ะ
แผ่น CD นี่เคยมีที่ไม่ใช้จำนวนไม่มากค่ะ
เลยเอาไปให้ช้างเร่ร่อนค่ะ
จริงๆ แล้วไม่เห็นด้วยกับการพาช้างมาเร่ร่อนนะคะ
ไม่เคยซื้ออาหารเลี้ยงด้วย

แต่ในเมื่อยังเห็นเค้านำมาเร่ร่อนอยู่ก็เลยเอาแผ่น CD ไปให้ซะเลยค่ะ
ไว้แขวนหางจะได้มองเห็นเวลากลางคืน ไม่โดนรถชนค่ะ

วิธีที่คุณ f.escape ทำนี่ OK เลยค่ะ
คิดว่าคงตรงใจใครหลายคน...
ที่กำลังหาทางจัดการกับขยะแผ่น CD อยู่พอดี :D

ปักยังไงคะ พอจะมีรูปหรืออธิบายเพิ่มได้มั้ยค่ะ
เผื่อเอาไปใช้บ้างค่ะ...ขอบคุณค่ะ :B
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 54

โพสต์

ที่นึกได้

1. ใช้รถสาธารณะ

2. ไปเที่ยวช่วง Low Season
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 55

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ที่นึกได้

1. ใช้รถสาธารณะ

2. ไปเที่ยวช่วง Low Season
เยี่ยมเลยค่ะ

สมัยพวกเราเป็นนักเรียน :wink:
เวลาที่ครูมีคำถามปลายเปิดแล้วให้ช่วยกันตอบ
พวกตอบก่อนสบายสุดๆ เนอะ....

ตอบกันไป 20 อย่างแล้ว พอครูบอก "ยังไม่หมด...มีอีก"

คราวนี้แหละบรรยากาศมันจะเริ่ม "มาคุ" หละ :ohno:
จากก็จะเริ่ม very busy กันสุดๆ เริ่มก้มหน้า ก้มตา
บ้างก็หยิบข้าวหยิบของในกระเป๋า...เกรงครูจะมาสบตาด้วย :roll:

เพื่อนอย่าง คุณ NB กับ คุณ f.escape เนี่ยแหละ....ที่เพื่อนๆ รอ
ที่มาช่วยตอบ ข้อที่เหลือๆ นี่แหละ ซึ่งมันยาก...
และต้องสร้างสรรค์พอสมควรทีเดียว :idea:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 56

โพสต์

"ฟางเส้นสุดท้าย"

ดูข่าวคนขับ Taxi ถูกจับขังเพราะขับรถผิดกฎจราจร
ผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องขังแล้วเศร้า
ตำรวจท่านที่จับมาก็คงเสียใจไม่น้อย
และไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

เพียงแต่ ในกรณีนี้ “การถูกจับ” อาจเป็น
“ฟางเส้นสุดท้าย” ในชีวิตของเขาพอดี
ตามที่เจ้าของอู่รถที่ได้คุยด้วยเป็นคนสุดท้ายบอกว่า
เขากังวลใจและเครียดว่า ถ้าไม่ได้ไปขับรถ ก็จะไม่มีเงินไปส่งค่ารถ

.......................................

ดูข่าวแล้วนึกถึงข้อความที่เคยเขียนไว้ใน web Thai Vi

…………………………........

วันฝนตกพรำๆ มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างขายก๋วยเตี๋ยว
ขับโดย 3 พ่อแม่ลูก สถาพเก่ามาก ดับที่เชิงทางขึ้นสะพาน
start ใหม่ก็ไม่ได้..เดี๋ยวไหลลง พ่อและแม่ลงมาเข็น
รถเก๋งคันนึงตามหลังอยู่ บีบแตรเกรี้ยวกราด ใส่ไป 1 ครั้ง
คนพ่อหันหน้ามาผงกหัวเชิงขอโทษ หลายครั้ง
จังหวะไม่มีรถสวน รถคันนั้นจึงแซงไป

.........................

คันต่อมาคือรถเรา แต่เราไม่ได้แซง
บอกลูกว่า....เราตั้งใจจะช่วยกันเค้าไว้
ไม่อยากให้เค้าถูกบีบแตรไล่อีก
แต่เว้นระยะห่างมากขึ้น...เกรงไหลลง ไม่กดดันเค้าด้วย

พอถึงกลางสะพานทั้งคู่กลับขึ้นนั่งประจำที่
(start รถด้วยขา...อยู่พักนึง) และขับลงสะพานไป
ค่อยเบี่ยงออกซ้าย จังหวะที่เราแซงขึ้นไป
ทั้งสองมีรอยยิ้ม...ก้มหัวมากกว่าปกติ เพื่อขอบคุณ
เรายิ้มตอบและพยักหน้าให้รู้ว่าไม่เป็นไร

................................

สอนลูกไปว่า เราโชคดีกว่าเค้าหลายเท่า ไม่เปียก ไม่เหนื่อย
เราไม่รู้ว่าวันนี้เค้าขายดีหรือไม่.... ถ้าเป็นวันที่ขายไม่ดี
แล้วอาจกำลังเหนื่อย หรือมีภาระหนักใจอื่นๆ
อาจมีหนี้สินล้นพ้นตัวที่ต้องสะสาง และ ฯลฯ ที่เราไม่รู้

เสียงแตรเกรี้ยวกราดครั้งเดียว อาจเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย”
ทำให้คนที่อยู่ในภาวะดังกล่าว ตัดสินใจชั่ววูบ ทำสิ่งที่น่าเสียใจ

อย่างข่าวที่เคยเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์

................................

อยากให้เราตรวจสอบตัวเองเสมอ ให้แน่ใจว่า
เราไม่ได้ กำลังเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ในชีวิตของใคร :D
sorageol46
Verified User
โพสต์: 87
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 57

โพสต์

สวัสดีครับพี่ Theenuch ขออนุญาติเรียกพี่นะครับ ผมอายุ 28 ครับ อย่าเรียกผมคุณเลยครับ เรียกน้องดีกว่าครับ เรียกคุณ ดู เขินๆครับ

วิธีประหยัดของผมในตอนนี้คือ
1. ผมซื้อจักรยานไว้ปั่นไปทำงาน กับออกกำลังกายครับ แต่ก่อนอยู่บ้านเช่ากับพี่คนไทยที่นี่
อาศัยติดรถเขาไปทำงานด้วย พอพี่เขากลับไปไทย เลยหาซื้อจักรยานไว้ปั่นไปทำงาน เคยนั่งรถเมล์ไป-กลับจากที่ทำงาน ตกวัน 9$ เดือนนึงทำงาน 20 วัน ตกเดือน 180$ ครับ ตอนนี้ผมปั่นมาได้ 8 เดือนล่ะครับคิดว่าคุ้มกับค่าจักรยานที่จ่ายไป ละครับ เพราะได้สุขภาพแข็งแรงกลับมาด้วย ที่นี่หน้าหนาวเพิ่งผ่านไป แต่ยังไม่ป่วยจนต้องไปหาหมอ (ค่ารักษาพยาบาลที่นี่ แพงมากครับ นั่งคุยกับหมอไม่ถึง 5 นาที จ่ายไป 50$ ใครไม่มีประกันนี่จ่ายเยอะเลยครับ)
2. ผมห่อข้าวไปกินกลางวันที่ทำงานครับ ตามร้านขายข้าวกลางวันที่นี่ ธรรมดาๆ นี่ 10 $ ขึ้นทั้งนั้น ทำไปเองจากที่บ้าน
ประหยัดได้เยอะครับ
" ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา....
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินให้ไปถึงฝัน เท่านั้นพอ"
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 58

โพสต์

sorageol46 เขียน:สวัสดีครับพี่ Theenuch ขออนุญาติเรียกพี่นะครับ ผมอายุ 28 ครับ อย่าเรียกผมคุณเลยครับ เรียกน้องดีกว่าครับ เรียกคุณ ดู เขินๆครับ

วิธีประหยัดของผมในตอนนี้คือ
1. ผมซื้อจักรยานไว้ปั่นไปทำงาน กับออกกำลังกายครับ แต่ก่อนอยู่บ้านเช่ากับพี่คนไทยที่นี่
อาศัยติดรถเขาไปทำงานด้วย พอพี่เขากลับไปไทย เลยหาซื้อจักรยานไว้ปั่นไปทำงาน เคยนั่งรถเมล์ไป-กลับจากที่ทำงาน ตกวัน 9$ เดือนนึงทำงาน 20 วัน ตกเดือน 180$ ครับ ตอนนี้ผมปั่นมาได้ 8 เดือนล่ะครับคิดว่าคุ้มกับค่าจักรยานที่จ่ายไป ละครับ เพราะได้สุขภาพแข็งแรงกลับมาด้วย ที่นี่หน้าหนาวเพิ่งผ่านไป แต่ยังไม่ป่วยจนต้องไปหาหมอ (ค่ารักษาพยาบาลที่นี่ แพงมากครับ นั่งคุยกับหมอไม่ถึง 5 นาที จ่ายไป 50$ ใครไม่มีประกันนี่จ่ายเยอะเลยครับ)
2. ผมห่อข้าวไปกินกลางวันที่ทำงานครับ ตามร้านขายข้าวกลางวันที่นี่ ธรรมดาๆ นี่ 10 $ ขึ้นทั้งนั้น ทำไปเองจากที่บ้าน
ประหยัดได้เยอะครับ
น้อง sorageol46 มาช่วยแก้บรรยากาศมาคุอีกคนแล้ว
รู้สึกว่าชาว Thai VI อยู่ต่างประเทศกันเยอะเลย
คุณ vim ก็อยู่ต่างประเทศเหมือนกัน

พี่อยากให้ลูกมีโอกาสได้รับทุนไปเรียนต่างประเทศบ้าง
เดี๋ยวคงค่อยๆ ให้เค้าหาลู่ทางดูค่ะ.....ตอนนี้เพิ่งอยู่ G.7 เอง

ขี่จักรยานดีแล้วหละค่ะ ประหยัดแถมดีต่อสุขภาพด้วย
ไม่เจ็บไม่ป่วยเป็นลาภอันประเสริฐ....มีเงินเหลือมาลงทุนเยอะขึ้นด้วย

ตอนนี้ที่โน่นคง 9 โมงกว่าแล้วสินะ
น้อง sorageol46 คงได้เวลาไปทำอาหารเช้าแล้ว....

ว่างๆ แวะมานั่งเล่นที่ชานบ้านของพวกเราอีกนะคะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 59

โพสต์

คุณ sorageol46 อายุพอๆกับผม แต่ดูท่าจะเป็นคนรู้จักใช้เงินยิ่งกว่าผมอีกครับ รุ่นพี่คนไทยที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับผมก็ซื้อจักรยานมาเหมือนกัน ใช้ครึ่งปีก็คืนทุนแล้วครับ คุ้มมาก ผมไม่มีจักรยานแต่บังเอิญโชคดีได้ที่ทำงานใกล้บ้านมากๆ เลยเดินไปกลับทุกวัน ขาไปนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ขากลับนี่เอาเหนื่อยเพราะต้องเดินขึ้นเขาครับ

พี่ theenuch ถ้าวางแผนจะให้ลูกเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากภาษาแล้วสิ่งที่ต้องเตรียมตัวคือวัฒนธรรมและสังคมที่ต่างกันมากนะครับ นักเรียนไทยหลายคนที่มาเรียนเยอรมันตั้งแต่ชั้นปริญญาตรีนั้นปรับตัวไม่ได้กันหลายคน

คนที่เคยมีประสบการไปอยู่ต่างประเทศมาระยะสั้นๆแล้วจะมีปัญหาน้อยกว่าเวลาต้องมาอยู่นานๆครับ ผมยังคิดว่าถ้ามีน้องๆจะมาเรียนต่อ ผมจะแนะนำให้มาแลกเปลี่ยนช่วงสั้นๆก่อน เอาให้พอรู้รสการต้องอยู่คนเดียวในที่แปลกภาษาแปลกวัฒนธรรมสักเล็กน้อย พอมาจริงๆจะได้เตรียมใจทัน

ที่สำคัญคือพออยู่ต่างประเทศไปสักพัก เราก็เริ่มจะเคยชินกับวัฒนธรรมของเขาครับ เมื่อเรียนจบแล้วจะกลับไทยเราก็อาจต้องเจอปัญหาการปรับวัฒนธรรมกันอีกทีครับ ตรงนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ๆที่ทำให้นักเรียนหลายคนจบแล้วไม่ยอมกลับไทยครับ
Vi IMrovised
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ขอบคุณมาก น้อง Vim เมื่อก่อนไมรู้ว่าอยู่ต่างประเทศ
พี่เคยมาทักว่า vim นอนดึกจัง ที่แท้อยู่เยอรมัน

อยากถามอยู่พอดีว่าทั้งสองคน
มีแผนที่จะทำงานที่ต่างประเทศอีกนานแค่ไหน

และวัฒนธรรมที่ต่างกันอย่างชัดเจนเลยนี่คืออะไรบ้าง
แล้วระหว่างเยอรมันกับ US นี่วัฒนธรรมแตกต่างกันด้วยหรือไม่

น้องๆ ทำงานด้านใดกันบ้าง

คิดว่าระบบการศึกษาที่โน่นกับที่ไทยมีข้อแตกต่างอย่างชัดเจนในเรื่องใดบ้าง
(น้อง ๆ แอบคิดในใจ แทนที่จะแวะมานั่งเล่น ดันต้องมาตอบคำถามอะไรมากมายเลยเนี่ย)

ว่างๆ ค่อยแวะมาตอบก็แล้วกันนะคะ

...............

กลับมาที่ไทยบ้างดีกว่า ตอนนี้บ้านเรามีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

มีใครบ้างเอ่ย

คุณ NB เดาว่า เป็นวิศวกรโยธา ไม่ก็เครื่องกล
มีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 1 คน (ลูกๆ อยู่บ้านที่ต่างจังหวัด)
ชอบและประทับใจที่คุณ NB
เน้นการเลี้ยงลูกแบบ "ให้ความเชื่อใจ"
อยากรู้ที่มาของชื่อค่ะ คาดว่าน่าจะมีความหมายที่ลึกซึ้งอยู่มาก
(ถ้าไม่สะดวกเล่า ไม่เป็นไรนะคะ)

น้องตู้ หรือ นายมานะ เป็นนักธุรกิจ

น้องฉิม หรือ คุณนพพร เป็นวิศวกรไฟฟ้า
มีลูกสองคน ภรรยาเป็นคนประหยัดมากๆ
และลูกคนโตมีแววจะเป็นเหมือนแม่
(เขาเริ่มกังวลว่าจะถูกยึดเงิน...อันนี้คิดเองค่ะ)

คุณ f.escape เดาว่าขับรถยี่ห้อ Ford
น่าจะเป็นคนพูดน้อย สนใจศึกษาธรรมะ

คุณ cobain_vi เป็นเกษตรกรชาวสวนยาง
ที่มีความลึกซึ้งด้านธรรมะ

น้องสายชล เป็นคุณพ่อลูกสอง
ที่มีชีวิตที่สมดุลมาก บ้านอยู่หาดใหญ่
ตอนนี้ซื้อบ้านมือสองมา 1 หลัง (รู้สึกภูมิใจไปกับน้องสายชลด้วย)
เผื่อไว้ให้ลูกอยู่ตอนเข้ามาเรียนหนังสือ

และพวกเราทุกคนเป็นนักลงทุนแนว VI

ที่มี "พี่หมอมุข" เป็นที่ปรึกษา


คุณ oatty กับคุณ niphon_vi
เขาตั้งใจจะมาแนะนำตัวที่นี่เร็วๆ นี้

ตกหล่นใครไปมั้ยนะ

และเดี๋ยวจะมีเพื่อนๆ ทยอยมาแนะนำตัวเพิ่มข้ึนเรื่อยๆ (แอบหวังค่ะ)
และแวะเวียนกันมานั่งเล่นตามแต่ใครจะมีเวลาว่าง

theenuch เป็น VI แม่บ้าน

ลืมดูเวลา
โห ดึกมากแล้ว....หลับเลยดีกว่า zzzzz...zzz...zzz....zz.....z.... :la: