Thai VI

ขอบคุณมากครับ ขอให้ผลบุญส่งผลตอบแทนขั้นต่ำปีละเด้งครับ

ขอบคุณมากครับผม^^

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณคับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับน้อง ^^

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

ขออภัยที่เมื่อวานไม่ได้มาโพสต์ช่วงที่ 2 ต่อครับ ผลอยหลับไปคาคอมเลย
ขอสรุปสิ่งที่น่าสนใจอย่างรวบรัดให้เลยนะครับ สำหรับช่วงที่ 2 เมกาเทรนด์ อาชีพการเงิน

- แนวโน้มประกาศนียบัตรวิชาชีพจะมีความสำคัญมากกว่าปริญญาบัตร
Ex. CFA, FRM, FSA เป็นที่คุณพิเชษฐ์พบเห็นจากประเทศที่การเงินพัฒนาแล้วอย่างฮ่องกง หรือสิงค์โปร์
ซึ่งต่อไปหลังจากเปิด AEC ก็น่าจะมีเทรนด์แบบนี้
- ในการรับคนเข้างานการมีปริญญาโท หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านการเงิน ไม่ได้เป็นตัวตัดสินทั้งหมดว่าจะได้เงินมากหรือน้อย ขึ้นกับว่าคุณค่าของผู้สมัครให้อะไรกับองค์กรได้
- CFA เป็น Global passport ใช้ทำงานด้านการเงินได้ทั่วโลก(ถ้าทำงานต่างประเทศมักจะรับคนไทย CFA level 3)
- การสอบได้ CFA นอกจากแสดงถึงความรู้แล้ว ก็ยังแสดงถึงความขยัน ความอดทน
- สอบ CFA level 1 ค่าสมัครประมาณ 3 หมื่นบาท สอบตกไม่ได้เงินคืน
- FSA ย่อจาก Fellowship of Society of Actuaries ใครสนใจลองอ่านในลิงค์นี้ดูได้ครับ
>>http://thaiactuary.blogspot.com/2011/08/25.html
- ต้องหาตัวเองให้ได้ก่อนว่าอยากเป็น Generalist หรือ Specialist (ดร.นิเวศน์เปรียบว่าเป็น คนขายปลาหมึก vs PC-พนักงานขายประจำห้างสรรพสินค้า) มีข้อดีข้อเสียต่างกัน แล้วมุ่งพัฒนาตนเองไปทางนั้น
- ที่ NIDA มีเปิดรับหลักสูตรปริญญาโทที่ออกแบบไว้ในการเรียน 1 ปีครึ่ง
จะได้รับทั้งปริญญาโทและความพร้อมในการสอบประกาศนียวิชาชีพด้านการเงิน CFA,FRM ไปพร้อมกัน
เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ค่าเล่าเรียน 4.5 แสนบาท รวมค่าหนังสือและมีส่งไปศึกษางานต่างประเทศ 5 วันเรื่องตราสารอนุพันธ์ ที่ Kelley School of Business: Indiana University +มีทุนให้สอบ CFA, FRM

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณครับ ^^

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณในน้ำจิตน้ำใจมากครับ

ขอบคุณครับ เข้าใจ เห็นภาพขึ้นเยอะเลย กำลังลุยหาข้อมูลกลุ่มนี้เลยครับ

สำหรับคนที่ไม่ได้ไปดูที่งาน วันนี้ถ่ายทอดให้ดูแล้วครับ ตามตาราง

IamYou เขียน:สำหรับคนที่ไม่ได้ไปดูที่งาน วันนี้ถ่ายทอดให้ดูแล้วครับ ตามตาราง

ขอบคุณครับ