หน้า 2 จากทั้งหมด 2
ธุรกิจที่คุณพิพัฒน์เคยบอกว่าดีกว่ามาม่า และฟาร์มเฮ้าส์
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 6:33 pm
โดย สุมาอี้
ม้าเฉียว เขียน:ขออย่างเดียวว่าอย่าดุดุนเอาเฮ้าส์แบรนด์มาเบียดหนมปังของผมก็พอ 555
เดี๋ยวนี้ท่านม้าเฉียวหันมาขายขนมปังเหรอครับ เหอๆ เอาไว้จะลองไปซื้อมากินดู เห็นเขาบอกว่ายี่ห้อนี้ในเซเว่นหมดก่อนยี่ห้ออื่นเสมอ ไม่รู้ทำได้ไง 8)
Re: ธุรกิจที่คุณพิพัฒน์เคยบอกว่าดีกว่ามาม่า และฟาร์มเฮ้าส์
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 13, 2006 9:54 pm
โดย jojosati
คลายเครียด เขียน:http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... anguage=th
ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีของพีบี
ท่านประธานกรรมการเคยบอกใบ้ไว้ว่า
ฟาร์มเฮ้าส์อนาคตดีกว่ามาม่า
แต่ยังสู้อีกตัวไม่ได้
วันนี้คำตอบได้เฉลยออกมาแล้วว่า
ในความเห็นของคุณพิพัฒน์ พะเนียงเวทย์มันคือ
อาหารพร้อมรับประทาน
ฟาร์มเฮ้าส์กำลังจะต่อยอดธุรกิจอาหารเข้าไปยังตัวนี้
โดยได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน
คุณจรัญคงจะดีใจมากกว่าผม
เพราะถือไว้เกือบหนึ่งแสนหุ้น
(เคยบอกผมไว้เมื่อประมาณสองเดือนก่อน
ตอนที่เจอกันในคาร์ฟูร์ ฟิวเจอร์พาร์คบางแค)
จะเกี่ยวกับข่าวเก่าๆ ของ PR ตั้งแต่ปลายปี 47 นี้ด้วย หรือเปล่า...
ตอนนี้ โรงงานของ PR น่าจะพร้อมแล้ว
ลองต่อจิ๊กซอว์เล่นๆ ดูนะครับ
ที่ พ.ย.118/47
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547
เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทให้สร้างโรงงานใหม่
ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)(PR) ครั้งท
12/2547 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 เริ่มประชุมเวลา 15.00 น. ปิดการประชุมเวลา 17.00 น.
มีมติอนุมัติให้ลงทุนสร้างโรงงานใหม่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน มีรายละเอียดดังนี้
1) วัน เดือน ปี ที่เกิดรายการ
เมื่อปี 2546 บริษัทได้ดำเนินการซื้อที่ดินและถมดินบางส่วน รวมเป็นเงิน 38 ล้านบาท และ
ดำเนินการว่าจ้างผู้ออกแบบโครงการและผู้บริหารโครงการ เป็นจำนวนเงิน 7.5 ล้านบาท
ในปี 2547 มีการเซ็นสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างจำนวนเงิน 176 ล้านบาท ซึ่งผ่านมติคณะกรรมการบริษัท
ครั้งที่ 6/2547 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2547 คาดว่าจะสร้างเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2548
และในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2547 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 มีมติอนุมัต
ิงบลงทุนเพิ่มเติม ดังนี้ เพิ่มอาคารปรับปรุงข้าวจำนวนเงิน 7 ล้านบาท และเครื่องจักรอุปกรณ์ จำนวนประมาณ
248 ล้านบาท ระบบ Utilities จำนวน 59 ล้านบาท และระบบจัดเก็บ ลำเลียงสินค้าและอื่นๆ ประมาณ 49.6
ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยสั่งซื้อตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547 แล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน 2548
2) คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง : คู่สัญญาเป็นบุคคลภายนอก ไม่มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวโยงกัน
3) ลักษณะโดยทั่วไปของรายการ
3.1 ประเภทของรายการ : เข้าข่ายประเภทของรายการตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง
หลักเกณฑ์ วิธีการและการเปิดเผยเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ของบริษัทจดทะเบียน หลังจาก
ที่บริษัท PR ลดสัดส่วนและขายหุ้นสามัญของบริษัท PA
3.2 ขนาดของรายการ : ประมาณร้อยละ 46.81 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมคำนวณตามงบการเงิน
ฉบับล่าสุดที่สอบทานแล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2547
4) รายละเอียดของสินทรัพย์ที่ซื้อ : เป็นโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ในผลิตภัณฑ์
เส้นหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ โจ๊ก และข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ ประกอบด้วย
จำนวนเงินโดยประมาณ(ล้านบาท)
1. ที่ดินจำนวนประมาณ 124 ไร่ 38.0
2. อาคารโรงงานหลัก 1 หลัง และอาคารอื่นๆอีก 6 หลัง 183.0
3. เครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิต 248.0
4. ระบบ Utilities 59.0
5. ระบบจัดเก็บและลำเลียงสินค้าและอื่นๆ 49.6
6. ผู้ออกแบบโครงการและผู้บริหารโครงการ 7.5
5) มูลค่าสินทรัพย์ที่ซื้อมา : งบลงทุนทั้งหมดประมาณ 585.1 ล้านบาท โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 18,664..ตันต่อปี
6) เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดมูลค่าซื้อ : คณะกรรมการบริษัทได้ดำเนินการแต่งตั้ง และมอบหมายให้มี
คณะอนุกรรมการบริษัทที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะด้านจากบุคคลภายนอกเป็นส่วนใหญ่ เป็นผู้ดำเนินการ
จัดหา จัดซื้อจัดจ้าง และกำกับดูแลในการตรวจรับงานทั้งโครงการ ดังนี้
จำนวนคน แต่งตั้งเมื่อ
1. คณะอนุกรรมการ สรรหาและจัดจ้าง ผู้ออกแบบโครงการและ 5 พค. 46
ผู้บริหารโครงการ (ควบคุมงานก่อสร้าง)
2. คณะอนุกรรมการพิจารณาแบบของผู้ออกแบบโครงการ 6 ตค. 46
3. คณะอนุกรรมการจัดหา จัดจ้างผู้รับเหมา และตรวจรับงาน
งานโยธา งานเครื่องกล และงานไฟฟ้า 7 มีค. 47
4. คณะอนุกรรมการจัดหาและจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามระบบควบคุมภายในของบริษัท
7) ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัท :
1. เพิ่มกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มาจากข้าว
2. เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเพื่อรองรับมาตรฐานสากล ให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพแก่ลูกค้า
3. พัฒนากระบวนการผลิตให้ทันสมัยและสายการผลิตต่อเนื่องให้มากที่สุด
4. สิทธิประโยชน์ทางด้านการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI
8) แหล่งเงินทุนที่ใช้ในโครงการ : ใช้เงินทุนสะสมที่เกิดจากการดำเนินงานของบริษัท และเงินจากการ
จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย
9) สิทธิประโยชน์ที่ได้จากการส่งเสริมการลงทุน : บริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนในประเภท 1.11
กิจการผลิตหรือถนอมอาหารหรือสิ่งปรุงแต่งอาหารโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ชนิดผลิตภัณฑ์เป็นอาหารพร้อม
รับประทานหรือกึ่งพร้อมรับประทาน มีสิทธิและประโยชน์ที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
1. ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาอนุมัติ
2. ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการ
ส่งเสริมมีกำหนดเวลาแปดปี นับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการนั้น
3. ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริม ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
นิติบุคคลตามมาตรา 31 ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตลอดระยะเวลาที่ผู้ได้รับการส่งเสริมได้รับยกเว้น
ภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น
4. ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อใช้ใน
การผลิตเพื่อการส่งออกเป็นระยะเวลาหนึ่งปี นับแต่วันนำเข้าครั้งแรก
5. ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่ผู้ได้รับการส่งเสริมนำเข้ามาเพื่อส่งกลับออกไปเป็นระยะ
เวลาหนึ่งปี นับแต่วันนำเข้าครั้งแรก
6. ได้รับอนุญาตให้นำหรือส่งเงินออกนอกราชอาณาจักรเป็นเงินตราต่างประเทศ
10) การจัดทำรายงานและเปิดเผยสารสนเทศ : เนื่องจากขนาดของรายการสูงว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่า
ร้อยละ 50 ซึ่งตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและการเปิดเผยเกี่ยวกับการได้มา
หรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน นั้น บริษัทจะต้องจัดทำรายงานเพื่อเปิดเผยสารสนเทศ และ
จัดทำหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัทฯ ขอรับรองว่า ข้อความในสารสนเทศฉบับนี้ถูกต้องและเป็นความจริงทุกประการ
ขอแสดงความนับถือ
(นายบุญเปี่ยม เอี่ยมรุ่งโรจน์)
กรรมการผู้จัดการ