หน้า 2 จากทั้งหมด 2

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 10:45 am
โดย investor9000
H888 เขียน:ผมเคยอ่านสองเล่มแรก ตอนออกมาแรกๆ แล้วเลิกอ่านต่อ
เพราะไม่ชอบลักษณะคือ เขียนแบบกั๊กๆ ไว้เพื่อเขียนเล่มต่อไป แล้วก็จริงคือมีเล่มต่อมาออกเรื่อย
เลยคิดว่าคนนี้มันรวยเพราะมันตั้งใจจะเขียนหนังสือมาขายมากกว่าที่จะรวยเองจริงหรือเปล่า
เห็นด้วยอย่างยิ่ง

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 3:21 pm
โดย so simple
เรื่องการหลบภาษีของคนรวย สงสัยผมคงรีบพิมพ์ไปหน่อย เจตนาก็เป็นตามที่คุณ Plant
บอกนั่นแหละ คือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ หนึ่งอย่างเลยครับ เช่น
การซื้อรถ คนรวยจะซื้อในนามบริษัท ซึ่งจะนำไปหักค่าเสื่อมราคาเพื่อลดภาษีตามที่
กฎหมายกำหนดได้ ดอกเบี้ยในการกู้ซื้อก็นำไปหักเป็นค่าใช้จ่าย , ค่าน้ำมันรถ ค่าซ่อม
ฯลฯ ก็หักเป็นค่าใช้จ่ายได้ใช่ไหมครับ แถมบางทีบ้านที่อยู่ก็ใช้เป็น Office ด้วยได้ค่าเช่าอีกต่างหาก ส่วนคนชั้นกลางส่วนใหญ่ซื้อรถในนามตัวเอง Vat ก็ไม่ได้คืน ผ่อนกันไป ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรับกันเต็มๆ ตรงนี้เป็นความฉลาดอย่างหนึ่งของคิโยซากิ ที่ชี้ให้เราเห็น

ก็ยกเป็นตัวอย่างง่ายๆ ตัวอย่างหนึ่งครับ สังเกตุได้คนรวยส่วนใหญ่ในเมืองไทยก็มีที่ปรึกษา
ทางด้านภาษีกันทั้งนั้น และมันก็เป็นตัวอย่างปกติที่เราเห็นกันได้บ่อยๆ
:)

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 3:30 pm
โดย so simple
ผมคิดว่าคนที่ยังมีอคติอยู่ คงต้องลองเปิดใจลงมือทำครับ ผิดถูกเป็นสิ่งที่ต้องลองดู แต่ยิ่งคุณทำมากก็จะมีประสบการณ์มากขึ้น สำหรับคนที่ผมเห็นว่าใช้แนวคิดของคิโยซากิเลย ก็คือคุณพิชัย จาวลา ครับ ปัจจุบันแกเปิด Budget Hotel หลายแห่งที่ชื่อ B2 ครับ สำเร็จหรือไม่ผมยังไม่รู้นะครับ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่แกบอกว่ามีคนวิจารณ์โรงแรมแกเยอะมาก แต่แกก็บอกว่าดีแล้วทีแกทำ ถ้ามัวแต่ฟังคนวิจารณ์แกก็คงไม่ได้ทำให้มันเกิดขึ้นได้

:)

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 5:04 pm
โดย neong
บริษัทหลัก ของ คิโยซากิ เป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นชื่อย่อในตลาดชื่ออะไรครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 5:20 pm
โดย workart
เคยอ่านเล่มแรก เล่มหลังๆออกแนวจะหนักไปทาง เคลือข่ายหรือป่าวหว่า อ่านแค่คร่าวๆเลยไม่รู้เลย

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 5:41 pm
โดย so simple
เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นสาวก มาฮวยให้คิโยซากิ แต่ผมเคยเจอแกที่สิงค์โปร์ เมื่อ 3 ปีที่แล้วกับภรรยา (สวยเชี่ยวหุ้นนางแบบเลย) ธุรกิจของแกจริงๆ ก็มีหลายอย่างอยู่ครับ
เช่น 1.บริษัท Richdad อันนี้ถือลิขสิทธิ์หนังสือ และเกมส์กระดานพ่อรวยสอนลูก มีรายได้
จากลิขสิทธ์และขายเกมส์ รวมทั้งการจัดสัมมนา
2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพัฒนาและการให้เช่า รวมกับพารตเนอร์ต่างๆ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ว่ามีกี่โครงการ
3.แกไปลงทุนธุรกิจเหมืองทอง ที่แคนาดาครับ อันนี้อ่านได้จากหนังสือ Guild to invest ครับ โดยเป็นการลงทุนก่อนเข้าตลาด (คล้ายๆ กับพวก Venture Cap) พอเข้าตลาด IPO จะได้กำไรที่เยอะมากครับ คิดว่าคง Listed ในตลาดแคนาดาแล้วมั่งครับ และล่าสุดที่คุยกับ Partner แกที่เป็นคนสิงค์โปร์ แกร่วมไปลงทุนเหมืองทองที่จีนครับ เห็นบอกว่ากำไรดีทีเดียว ยังไงเช็คอากู๋ ก็ได้ครับคงมีข้อมูลบริษัททองที่แกเอาเข้าตลาด
บริษัทที่ล้มผมว่าคงเป็นแค่บริษัทเดียวครับ อาจจะเกิดจากความผิดพลาดก็ได้ แต่ที่เหลือๆ ยังไงผมว่าแกยังรวยอยู่มากๆ ครับ
เล่ม Guild to invest ก็เป็นเล่มที่ผมชอบนะครับ บอกถึงวิธีการของพวก Venture Cap และพวกวาณิชธนกิจได้ชัดเจนดี โดยเฉพาะถ้าเราหา Deal และปั้นบริษัทเข้าตลาดได้ผลตอบแทนอาจจะได้เยอะมากๆ เลย
:P

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 5:51 pm
โดย so simple
อ้อ... เล่มที่ไม่ชอบหรือเฉยๆ ก็มีนะครับ คือเรื่องพ่อรวยสอนทำธุรกิจ
มันกลายเป็นตำราเครื่องมือของค่ายการตลาดขายตรงทุกค่ายไปเลย

เอ...หรือว่าแกอาจจะเล็งเห็นตลาดและประชากรของธุรกิจ Network มีมาก
มายมหาศาลก็ได้ เลยเขียนหนังสือมาตอบสนองกลุ่มนี้โดยเฉพาะซะเลย ฮ่าฮ่า....

:wink:

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2012 8:17 pm
โดย dr1
ผมว่า..
ท่านso simpleนับได้ว่าเป็นนักลงทุน"วงใน"กลุ่มที่ติดตามอ.โรเบิร์ตนะครับ

ถ้าจะกรุณารีวิวหนังสืออ.โรเบิร์ตตั้งแต่ต้นมาปัจจุบัน
น่าจะทำให้เพื่อนๆ (และผมด้วย ... แฮ่...)
เข้าใจและต่อภาพจิ๊กซอในสมอง เรื่องแนวคิดของกูรูการลงทุนท่านนี้ได้ดีขึ้นครับ
(แม้ส่วนใหญ่จะเป็นทางอสังหามากกว่าหุ้นก็ตาม)

ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 16, 2012 12:06 am
โดย Plant
workart เขียน:เคยอ่านเล่มแรก เล่มหลังๆออกแนวจะหนักไปทาง เคลือข่ายหรือป่าวหว่า อ่านแค่คร่าวๆเลยไม่รู้เลย
อันนี้อ่านเพียงคร่าวๆ คงยังสรุปไม่ได้ชัดเจนในประเด็นสำคัญๆนะครับ... ^^)
so simple เขียน:อ้อ... เล่มที่ไม่ชอบหรือเฉยๆ ก็มีนะครับ คือเรื่องพ่อรวยสอนทำธุรกิจ
มันกลายเป็นตำราเครื่องมือของค่ายการตลาดขายตรงทุกค่ายไปเลย

เอ...หรือว่าแกอาจจะเล็งเห็นตลาดและประชากรของธุรกิจ Network มีมาก
มายมหาศาลก็ได้ เลยเขียนหนังสือมาตอบสนองกลุ่มนี้โดยเฉพาะซะเลย ฮ่าฮ่า....

:wink:
จริงๆต้องบอกอย่างนี้ครับว่า ธุรกิจเครือข่ายในทฤษฎี เป็นสิ่งที่ทำได้จริง และเป็นธุรกิจ
ลงทุนน้อยที่สุดในโลก( ทั้งเรื่องเงิน เวลา และการศึกษา) รวมทั้งเป็นธุรกิจที่มความสวยงาม
ในหลายๆเรื่องที่ธุรกิจอื่นๆไม่มี (คุณโรเบิร์ตเขียนไว้ในหนังสือ "โรงเรียนสอนธุรกิจ")
แต่อย่างที่บอกครับมันดีในทฤษฎี แต่หลักปฏิบัติจริงคนที่นำมาใช้กลับทำให้มันดูไม่ดี
(โดยเฉพาะในไทย)จึงทำให้คนแอนตี้กับธุรกิจนี้กันเยอะครับ...^^ )

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 16, 2012 8:34 am
โดย Tanukicho
Plant เขียน:
so simple เขียน:อ้อ... เล่มที่ไม่ชอบหรือเฉยๆ ก็มีนะครับ คือเรื่องพ่อรวยสอนทำธุรกิจ
มันกลายเป็นตำราเครื่องมือของค่ายการตลาดขายตรงทุกค่ายไปเลย

เอ...หรือว่าแกอาจจะเล็งเห็นตลาดและประชากรของธุรกิจ Network มีมาก
มายมหาศาลก็ได้ เลยเขียนหนังสือมาตอบสนองกลุ่มนี้โดยเฉพาะซะเลย ฮ่าฮ่า....

:wink:
จริงๆต้องบอกอย่างนี้ครับว่า ธุรกิจเครือข่ายในทฤษฎี เป็นสิ่งที่ทำได้จริง และเป็นธุรกิจ
ลงทุนน้อยที่สุดในโลก( ทั้งเรื่องเงิน เวลา และการศึกษา) รวมทั้งเป็นธุรกิจที่มความสวยงาม
ในหลายๆเรื่องที่ธุรกิจอื่นๆไม่มี (คุณโรเบิร์ตเขียนไว้ในหนังสือ "โรงเรียนสอนธุรกิจ")
แต่อย่างที่บอกครับมันดีในทฤษฎี แต่หลักปฏิบัติจริงคนที่นำมาใช้กลับทำให้มันดูไม่ดี
(โดยเฉพาะในไทย)จึงทำให้คนแอนตี้กับธุรกิจนี้กันเยอะครับ...^^ )
ถ้าคนไทยลองศึกษากฏหมายเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง น่าจะได้คำตอบที่ดีขึ้นเยอะเลยอ่ะครับ
ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เจอธุรกิจขายตรง เอาเข้าจริงๆ ส่วนใหญ่โดนหลอกกันหมด เพราะไม่เคยรู้กฏหมายเกี่ยวกับมันเลย
ว่าที่จริง มันถูก หรือมันผิด

http://www.pub-law.net/library/act_drsale.html

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 16, 2012 1:57 pm
โดย birdflu
หนังสือ Rich Dad, Poor Dad ของท่านดี หรือไม่ดี ก็แล้วแต่การนำเนื้อหาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ต่อตัวผู้อ่าน

สำหรับผม ถ้าตอนนั้นไม่ได้ซื้อเล่มนี้มาอ่าน ผมคงไม่สามารถแยกแยะระหว่าง asset กับ liability ได้
และก็คงไม่ได้สนใจเรื่องของการลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์

มันเป็นหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มแรกที่ผมซื้อมาอ่าน และก็เป็นหนังสือที่จุดชนวนความสนใจให้หาหนังสือการลงทุนเล่มอื่นๆ มาอ่าน จนกระทั่งมาพบ "ตีแตก" ของท่าน ดร.

ผมคงต้องขอบคุณ คุณคิโยซากิ ที่ทำให้ผมมีวันนี้ :D

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 17, 2012 3:00 pm
โดย BIGALOW
ยืนยันว่า .. บริษัทของเค้าล้มละลาย .. แต่ไม่ได้ทำชื่อเสียง และ ความชื่นชม ลดน้อยลงไปเลยครับ ..

เป็นเพราะหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" .. ที่เปลี่ยนชีวิต ทัศนคติ และ ความคิดในการลงทุน ..

ถ้าไม่ใช่เพราะหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" .. ทุกวันนี้ ผมคงใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนอยู่เลย ..

หนังสือเค้าดีจริง ๆ .. เพราะมันเปลี่ยนชีวิตของผมได้ ..

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 17, 2012 8:18 pm
โดย Kulant
ชอบเล่มแรกครับ สร้างแรงบันดาลใจและทัศนคติใหม่ๆให้ผมเยอะเลย
ส่วนเรื่องขาดจริยธรรมนี่ ผมว่าก็คงจริงอย่างที่พี่ๆหลายคนพูดนะครับ

:roll: :roll: :roll:

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 17, 2012 9:20 pm
โดย dr1
ภาษาอังกฤษผมไม่ค่อยดีนัก(ภาษาไทยก็ไม่รู้เรื่อง555+)

แต่อ่านแล้วประมาณว่าถูกหุ้นส่วนที่เคยตั้งบริษัททำแบรนด์ริชแด๊ดร่วมกันมา
ฟ้องชนะให้บริษัทที่ตั้งร่วมกันมาจ่ายค่าเสียหายเกินทรัพย์สินที่มีอยู่

ไม่รู้ว่าจ่ายค่าเสียหายจนบรษัทเจ๊งไปเลย ยังต้องควักส่วนตัวจ่ายอีกมั้ย
(หรือไม่น่าต้องรับผิดชอบเกินทุนที่ลง?)
ถ้าผมเข้าใจผิด ช่วยแก้ใขให้ด้วยนะครับ

ส่วนตัว ยังเคารพอ.โรเบิร์ตอยู่ครับ
ถือเป็นหนังสือเปลี่ยนชีวิตผมอีกเล่มนึง

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 18, 2012 3:25 am
โดย gnomeller
เขาเองก็เขียนในหนังสือของเขาว่า กว่าคนรวยจะประสบความสำเร็จส่วนมากแล้ว จะต้องสูญเสียบริษัทไป 5กิจการ
ผมคิดว่าการเป็นมนุษย์ เราพลาดกันได้เสมอๆเพราะไม่มีอะไรแน่นอนครับ
ยังไงก็ตาม หนังสือของเขาดีมากๆครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 18, 2012 9:29 am
โดย บูรพาไม่แพ้
birdflu เขียน:หนังสือ Rich Dad, Poor Dad ของท่านดี หรือไม่ดี ก็แล้วแต่การนำเนื้อหาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ต่อตัวผู้อ่าน

สำหรับผม ถ้าตอนนั้นไม่ได้ซื้อเล่มนี้มาอ่าน ผมคงไม่สามารถแยกแยะระหว่าง asset กับ liability ได้
และก็คงไม่ได้สนใจเรื่องของการลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์

มันเป็นหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มแรกที่ผมซื้อมาอ่าน และก็เป็นหนังสือที่จุดชนวนความสนใจให้หาหนังสือการลงทุนเล่มอื่นๆ มาอ่าน จนกระทั่งมาพบ "ตีแตก" ของท่าน ดร.

ผมคงต้องขอบคุณ คุณคิโยซากิ ที่ทำให้ผมมีวันนี้ :D
เหมือนผมทุกอย่างเลยครับ เลยขี้เกียจพิม สุดท้ายอยากจะบอกว่า หากผมไม่ได้อ่านวันนั้น ผมคงไม่มีอย่างวันนี้ครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 18, 2012 10:02 am
โดย tigerroad197
บูรพาไม่แพ้ เขียน:
birdflu เขียน:หนังสือ Rich Dad, Poor Dad ของท่านดี หรือไม่ดี ก็แล้วแต่การนำเนื้อหาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ต่อตัวผู้อ่าน

สำหรับผม ถ้าตอนนั้นไม่ได้ซื้อเล่มนี้มาอ่าน ผมคงไม่สามารถแยกแยะระหว่าง asset กับ liability ได้
และก็คงไม่ได้สนใจเรื่องของการลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์

มันเป็นหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มแรกที่ผมซื้อมาอ่าน และก็เป็นหนังสือที่จุดชนวนความสนใจให้หาหนังสือการลงทุนเล่มอื่นๆ มาอ่าน จนกระทั่งมาพบ "ตีแตก" ของท่าน ดร.

ผมคงต้องขอบคุณ คุณคิโยซากิ ที่ทำให้ผมมีวันนี้ :D
เหมือนผมทุกอย่างเลยครับ เลยขี้เกียจพิม สุดท้ายอยากจะบอกว่า หากผมไม่ได้อ่านวันนั้น ผมคงไม่มีอย่างวันนี้ครับ
ผมเองก็เช่นกันครับ

ได้แรงบันดาลใจในการลงทุนจาก หนังสือ พ่อรวย สอนลูก ครับ

จำได้ว่า ตอนนั้น หลานสาว มาแนะนำให้อ่าน บอกว่าเป็นหนังสือขายดีมาก ๆ

ตอนแรก ก็ไม่ได้สนใจนะครับ เพราะกลัวว่าจะเหมือนกับเป็นหนังสือเล่า ( โม้ ) ชีวประวัติตัวเองซะมากกว่า

แต่พออ่านไป ๆ ก็ติดใจครับ โดยเฉพาะแนวความคิดที่ว่า บ้านไม่ใช่ทรัพย์สิน ( ตราบเท่าที่ ไม่สามารถก่อให้เกิดรายได้ และต้องผ่อนธนาคารอยู่เรื่อย ๆ )

รวมไปถึงแนวความคิด ให้เงินทำงานให้เรา แทนที่จะให้ ตัวเราไปทำงานหาเงิน

พออ่านจบ ก็ได้ไอเดียหลาย ๆ อย่างมากครับ

ยิ่งพอมาอ่านเล่มที่สอง เงินสี่ด้าน แล้ว ยิ่งชอบครับ

เพราะโดยส่วนตัว ผมประกอบอาชีพ ธุรกิจส่วนตัว ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่า การมีกิจการของตัวเอง ก็ดีมาก ๆ แล้ว

แต่พอได้อ่านว่า ธุรกิจส่วนตัว ก็ยังเป็นฝั่งซ้าย ของ เงินสี่ด้าน ที่ยังต้องวิ่งเต้นหาเงิน ถ้าหยุดทำงาน ถึงไม่มีนายจ้างมาดุด่าว่ากล่าว ( เพราะเราเป็นนายจ้างตัวเอง ) แต่ก็ไม่มีเงินเข้ากระเป๋าเช่นกัน ก็เลยทำให้ความคิดเปลี่ยนไปครับ อยากจะย้ายตัวเองไปอยู่ฝั่งขวาของ เงินสี่ด้าน ในส่วนของ นักลงทุน

ดังนั้น ในส่วนตัวของเขาจะเป็นยังไงก็ตาม แต่หนังสือของเขา ผมก็ยืนยันว่าเป็นประโยชน์ครับ

โดยเฉพาะกับ คนหนุ่มสาวที่เพิ่งจบ และเข้าทำงาน ได้รู้จักสร้างตัว และลงทุน

ไม่ใช่พอได้เงินเดือน ก็เอาไปผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ซื้อมือถือ

แต่ให้รู้จัก นำเงินไปลงทุนก่อน แล้วเรื่องดี ๆ ที่อยากได้อย่างอื่นจะค่อย ๆ ตามมาเองครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 18, 2012 12:47 pm
โดย kritaungkun
:roll:
Rich dad so sad!!

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 9:40 am
โดย นพพร
ไม่เคยอ่านเลยครับ แต่คิดว่าแยกแยะได้กับคำสอนและการกระทำครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2012 5:19 pm
โดย sorawitch
เริ่มจากเห็นพี่ที่รุ้จักเล่นหุ้น ดูน่าสนใจ เลยลองศึกษาอ่านเอาจากห้องสินธรในพันทิป อ่านแล้วรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก รู้สึกว่ายากมาก
แล้วก็พอดีมีคนโพสอะไรซักอย่างเกี่ยวกับ vi เลยทำให้รู้จักเวปไทยวีไอ
จากนั้นก็มาอ่านคลังกระทู้คุณค่า ห้องร้อยคนร้อยหุ้น สิ่งที่รู้สึกได้ตอนนั้นคือ มีคำศัพท์มากมาย ที่ไม่เคยได้ยิน โดยเฉพาะศัพท์ทางบัญชี พออ่านๆที่พี่ๆเพื่อนๆแนะนำหนังสือบัญชีเบื้องต้น คือของ ดร.ภาพร ก็ไปยืมจากห้องสมุดมาอ่าน ช่วงนั้นก็ไม่เข้าไทยวีไอ เพราะรู้ตัวว่าพื้นฐานไม่มี ลุยอ่านหนังสือบัญชี จากนั้นก็ลองเอาหนังสือ ตีแตกมาอ่าน เข้าใจขึ้นบ้าง แต่รู้สึกจับอะไรที่เป็นเนื้อหาไม่ได้ เหมือนมันบอกกว้างๆพิกล ก็กลับมาหาๆในไทยวีไอ มีคนแนะนำ หนังสือ intelligent investor, การลงทุนเน้นคุณค่าหลักสูตรโคลัมเบีย (ท่าน WEB แปล), หนังสือในชุดของปีเตอร์ลินช์ ก็ไปยืมมาอ่าน ก็ยังอ่านไม่ค่อยเข้าใจ ทีนี้เลยกลับไปหาหนังสือแกะเงื่อนงบการเงินของ ดร.ภาพร ซื้อมาอ่านเลยทีนี้ อ่านเป็นเดือนๆ จนเข้าใจพอควร กลับมาอ่านหนังสือ การลงทุนเน้นคุณค่าหลักสูตรโคลัมเบีย ทีนี้ยิ้มออก เข้าใจขึ้นเยอะ มีที่ไม่เข้าใจก็หาเอาจากเน็ต จากนั้นก็เริ่มลุยอ่านห้องร้อยคนร้อยหุ้น หนังสือปีเตอร์ลินซ์ หนังสือจิมโรเจอร์ อ่านหมด เล่ามาตั้งนาน แล้วตกลงเคยอ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูกป่าว ?

เคยครับ หลังจากอ่านหนังสือโคลัมเบียและเริ่มตะลุยห้องร้อยคนร้อยหุ้นแล้ว ความรู้สึกแรกที่รุ้สึกได้คือ โชคดีที่ไม่ได้อ่านก่อนหน้านี้ เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่า คนที่ไม่เคยลงทุนทำอะไร และอาจจะไม่ค่อยฉลาดแบบผม อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าได้แรงบันดาลใจอะไร รู้สึกว่าเขียนไว้กว้างมากๆ ไม่รู้จะเขียนทำไม ไอ้ที่มาบอกว่าเงินสี่ด้านอะไรเนี่ย ผมว่ามันก็แค่จำแนกให้เห็นชัดเจนสำหรับคนที่ไม่เคยจำแนก ฝรั่งเนี่ยเก่งนักเรื่องคิดเป็นระบบ ซึ่งผมมองว่าที่แกเขียนมันก็แค่เอามาประยุกต์กับเรื่องเงินๆทองๆใกล้ตัว มนุษย์เราผมว่าถ้าไม่ได้ขี้เกียจหรือไม่มีความทะยานยากจนเกินไป รู้และเห็นอยู่แล้วครับไอ้สี่ด้านไรเนี่ย

มีเพื่อนหลายคนอ่านพ่อรวยสอนลูก แล้วก็ออกอาการเพ้อ จะเปิดกิจการบ้างหละ ขายตรงบ้างหละ เสียผู้เสียคนไปหลายคนอยู่

สรุปถ้ามีใครมาถามผมว่าควรจะอ่านหนังสือแกมั้ย ผมจะตอบว่าอย่าไปอ่าน เสียเวลา มาอ่านไทยวีไอดีกว่า :mrgreen:
พูดง่ายๆว่า หลายๆท่านอาจยกย่องแก แต่ผมขอคิดต่าง :twisted:

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2012 9:35 pm
โดย bennn
Rich dad เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ทำให้หนีความคิดของมนุษย์เงินเดือนได้ครับ
คนที่เคยเป็นลูกจ้างและมาทำกิจการจะเข้าใจดีว่าแนวคิด 2 ฝั่งต่างกันแค่ไหน (แนวคิดของคนส่วนใหญ่ของแต่ละกลุ่ม)
และนักลงทุนแนว VI ก็ควรมีแนวคิดแบบเจ้าของกิจการครับ

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2012 11:08 pm
โดย oonngg51
Rich dad poor dad ทุกเ่ล่ม จะเป็นหนังสือสไตล์คอนเซปต์ภาพกว้างๆๆๆ สำหรับคนที่ยังใหม่ในวงการมากๆเท่านั้น
จะมีประโยชน์ในแง่จุดประกาย ความคิด ไอเดีย ทำให้ "ไม่อยากเป็นลูกจ้างไปจนตาย" "อยากเกษียนไว รวยไว รวยเร็ว" "อยากเป็นนักลงทุน"
และบอกวิธีการกว้างๆไว้บ้าง


แต่สำหรับสิ่งที่ลึกกว่านั้น จะหาไม่ได้จากหนังสือแกครับ ดังนั้นหนังสือแกคงไม่เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับคนที่มี Aim ไว้แล้วว่า
"ผมจะเกษียนก่อนสี่สิบ ผมจะเป็นนักลงทุน ใช้เงินต่อเงินให้ประสบความสำเร็จ"

Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 03, 2012 6:52 pm
โดย Plant
วันนี้มีคำถามเข้ามาเยอะ (แม้แต่ทางซีเอ็ด)

กรณี RICH GLOBAL LLC. หนึ่งในบริษัทของโรเบิร์ต คิโยซากิ ถูกศาลสั่งให้ชำระเงิน ทาง LEARNING ANNEX เป็นเงิน 24 ล้าน

ที่จริงต้องบอกว่า พาดหัวข่าวทุกสำนัก เขียนเกินจริง (ประมาณหนังสือพิมพ์บ้านเรา) เพราะในเรื่องเป็นการที่บริษัทลูกถูกฟ้อง (คดีเริ่มต้นในปี 2002)

และบริษัทดังกล่าวจดจัดตั้งแบบ LLC หรือ Limited Liability Company ซึ่งจำกัดความรับผิด แค่ในทรัพย์ส
ินของบริษัทเท่านั้น

เมื่อบริษัทดังกล่าวมีทรัพย์สิน 1 ล้าน แต่ถูกฟ้อง 24 ล้าน บริษัทก็ล้มละลายไป โดยที่เจ้าของไม่ได้รับผลกระทบอะไร (อันนี้เป็น Personal Asset Protecting ธรรมดาๆ)

(ประมาณล้มบนฟูก)

*** แต่ในมุมมองของผม โรเบิร์ตต้องตอบคำถามเรื่องจริยธรรม ที่ไม่จ่ายเงินให้ Learning Annex ตาม Letter of Intent ที่เขาทำสัญญาไว้ เพื่อให้ช่วยโปรโมตงานบรรยายในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก (หลังๆ โรเบิร์ตทำตรงนี้เอง) จนเป็นเหตุให้ถูกศาลฟ้องร้องในกรณีนี้

**** อย่างไรก็ดี เราก็ไม่รู้ว่าตื่นลึกหนาบางระหว่าง Rich Global LLC กับ Learning Annex เป็นอย่างไร เพราะในอเมริกา การฟ้องร้อง การปิดบริษัท การล้มละลาย ดูจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

***** สำหรับผม ผมมองว่า เราศึกษาหรือติดตามแนวคิดในเรื่องที่ดีของเขาก็พอครับ เรื่องที่ไม่ดี ไม่ควรเอาอย่าง ก็ให้ทิ้งไว้ข้างทาง อย่าเก็บมาใส่ใจ

อย่างน้อยกรณีนี้ ก็เป็นกรณีศึกษาที่ดีว่า ไม่ว่าจะรวยแค่ไหน หรืออยากรวยมากเพียงใด

"คุณธรรมและความดีงามในการดำเนินชีวิตในทุกด้าน ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่เสมอ"

จาก Facebook ของผู้รู้จริงท่านหนึ่งครับ....^^)