Thai VI

คลายเครียด เขียน:

ข้าน้อยขอคารวะท่านจ้าวสำนักครับ

เยี่ยมครับ

ขอบคุณที่แชร์ไอเดียดีๆครับผม

เตือนสติหลายๆคนได้ดีครับ. รวมทั้งผมด้วย

ake3004 เขียน:คน(ไม่)ธรรมดาก้บเเนวคิดไม่ธรรมดา

ซูฮกค้บ

ขอเติมหน่อยครับ^^
ขอบคุณพี่noooon010 มากครับที่ช่วยแชร์

surachaichia เขียน:ความรู้สึกกับการลงทุนแยกกันยาก
ผมคิดว่าอะไรที่เขียนจากประสบการณ์นี่ดีกว่าการคำนวณเป็นไหนๆครับ

การคำนวณทำให้เรารู้ภาพรวมกว้างๆนะครับพี่
ผมเชื่อว่าเหตุผลในการไม่ดูตลาด หากเราคำนวนดีๆ เราอาจจะเจอเหตุผลก็ได้นะครับ^^

noooon010 เขียน: ปล.สิ่งหนึ่งที่ทำให้สติของเราเสียได้ นั่นคือการจ้องตัวเลขที่วิ่งๆกัน
หลายครั้ง ปรมาจารย์จึงบอกว่า หยุดดูราคาหุ้น real time ซะบ้างก็ดีนะ

หลายครั้งมันทำยาก แต่ต้องทำ
เพราะไม่เช่นนั้น เซียนหุ้น ก็คงทำผลตอบแทนได้แพ้เด็กประถม หรือ ซื้อหุ้นตามการปาเป้าของลิงครับ

ผมได้รับบทเรียนนี้มาแล้วหลายครั้งครับ ^^

ถ้าดูราคาหุ้นreal time จ้องตัวเลขวิ่งขึ้น วิ่งลง แล้วจิตหวั่นไหว ...........

แล้วเลยคิดว่า ปิดจอหนี เราไม่ดูจอดีกว่า ............

คงไม่ต่างอะไรกับพระหรือคนที่ไปนั่งหลับตา นั่งสมาธิในป่า ตั้งสติ ทําสมาธิทําได้ .................

แต่พอมาอยู่ในชีวิตจริง สิ่งแวดล้อมจริง ในชีวิตประจําวัน แล้วสติแตก ธาตุไฟแตกซ่าน ............

เคยมีคนบอกว่า " การทํางานคือการปฎิบัติธรรม " ..................

แต่ผมก็คิดเหมือนกันว่า " การจ้องดูจอ ดูตัวเลขวิ่งขึ้น วิ่งลง ก็เป็นการฝึกปฎิบัติธรรม " ได้เช่นกันครับ ............

ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ ดูก็ดูด้วยสติ ด้วยจิต ที่ไม่หวั่นไหววูบวาบไปตามตัวเลขที่วิ่งขึ้นวิ่งลง ................

" เมื่อไม่เรียนแล้วใยเล่าเจ้าจะรู้ เมื่อไม่ดูแล้วใยเล่าเจ้าจะเห็น เมื่อไม่ทำแล้วใยเล่าเจ้าจะเป็น "

เมื่อไม่ดูแล้วจะเห็น " โอกาส " ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ..................

" โอกาส " อันเกิดจากการที่ใครทําอะไรโง่ๆ .................

ทั้งไล่ซื้อแบบโง่ๆจนราคาแพงเกินมาก หรือ ขายแบบโง่ๆจนราคาถูกแบกะดิน .............

แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเฝ้าจอตลอดแบบตาไม่กระพริบ ..................

ถ้าเฝ้าจอแล้วกลัวว่าจะซื้อไม่ทัน ขายไม่ทัน จนไม่กล้าไปขี้ไปเยี่ยว หรือ ทําภาระกิจที่จําเป็นอื่นๆ .............

ก็อย่าไปดูมันเลยครับ ...................

ขอบคุณ พี่ๆ ทุกท่านที่มาแชร์

ผมเป็นคนนึงที่เพิ่งเริ่มแนวทาง VI และก็ชอบอ่านบทความคือแนวคิด ข้อเตือนใจแบบนี้ ซึ่งมันทำให้เราได้สติขึ้นมา
ที่สำคัญ ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของพี่ๆ ที่พบมาแล้วมาสอนต่อ เหมือนพี่สอนน้องครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ

แงซาย เขียน:

noooon010 เขียน: ปล.สิ่งหนึ่งที่ทำให้สติของเราเสียได้ นั่นคือการจ้องตัวเลขที่วิ่งๆกัน
หลายครั้ง ปรมาจารย์จึงบอกว่า หยุดดูราคาหุ้น real time ซะบ้างก็ดีนะ

หลายครั้งมันทำยาก แต่ต้องทำ
เพราะไม่เช่นนั้น เซียนหุ้น ก็คงทำผลตอบแทนได้แพ้เด็กประถม หรือ ซื้อหุ้นตามการปาเป้าของลิงครับ

ผมได้รับบทเรียนนี้มาแล้วหลายครั้งครับ ^^

ถ้าดูราคาหุ้นreal time จ้องตัวเลขวิ่งขึ้น วิ่งลง แล้วจิตหวั่นไหว ...........

แล้วเลยคิดว่า ปิดจอหนี เราไม่ดูจอดีกว่า ............

คงไม่ต่างอะไรกับพระหรือคนที่ไปนั่งหลับตา นั่งสมาธิในป่า ตั้งสติ ทําสมาธิทําได้ .................

แต่พอมาอยู่ในชีวิตจริง สิ่งแวดล้อมจริง ในชีวิตประจําวัน แล้วสติแตก ธาตุไฟแตกซ่าน ............

เคยมีคนบอกว่า " การทํางานคือการปฎิบัติธรรม " ..................

แต่ผมก็คิดเหมือนกันว่า " การจ้องดูจอ ดูตัวเลขวิ่งขึ้น วิ่งลง ก็เป็นการฝึกปฎิบัติธรรม " ได้เช่นกันครับ ............

ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ ดูก็ดูด้วยสติ ด้วยจิต ที่ไม่หวั่นไหววูบวาบไปตามตัวเลขที่วิ่งขึ้นวิ่งลง ................

ต้องเป็นสมาธิชนิดจิตตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูด้วยความเป็นกลางจะเห็นจิตทำงานเป็นไตรลักษณ์เปลี่ยนแปลงตามเหตุปัจจัยมีเหตุก็เกิดหมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้

ยึดมั่นว่าหุ้นเป็นของเรา(ซื้อหุ้นเป็นส่วนของทุนบริษัทนี้ก็เป็นของเราตามกฎหมาย)=>ราคาหุ้นวิ่งขึ้นลง(สิ่งกระทบ)=>ผัสสะ(จิตที่ไปรู้สิ่งกระทบ)=>เวทนา(สุข ทุกข์ เฉยๆ)=>กิเลศ(โลภอยากได้กำไรเยอะ โทสะหุ้นลงแล้วเครียด โมหะหลงฟุ้งซ่าน)

Thank

ขอบคุณมากสำหรับข้อคิดดีๆ ค่ะ