หน้า 2 จากทั้งหมด 2

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 10:55 am
โดย chukieat30
ดำ เขียน:
MO101 เขียน:
drsp เขียน:แล้วคนเขียนหนังสือเล่มนี้เขารวยหุ้นล้นฟ้าหรือเปล่า
ถ้าตัวคนเขียนยังทําไม่ได้ แล้วจะสอนคนอื่นได้อย่างไร
คนเขียนรวยมากนะเป็นเจ้าของโรงแรมที่เชียงใหม่หลายที่
ส่วนจะรวยด้วยหุ้นหรือโรงแรมอันนี้ไม่รู้เหมือนกัน
เท่าที่เคยฟัง คุณพิชัยแกพูดเสมอว่า อาชีพหลักคืออสังหาฯ ส่วนหุ้นกับค่าเงินแค่นิดหน่อย เพียงแต่สนใจในทฤษฎีผลประโยชน์เลยเอามาเผยแพร่ เพราะในเมืองไทยไม่ค่อยมีคนพูดถึง

แต่ที่ตั้งชื่อหนังสือว่า รวยล้นฟ้า นี่ออกจะการตลาดไป (ไม่) หน่อย สงสัยเอาไว้ข่มอีกค่ายที่ชอบอ้างว่า Best Seller
ผมว่าชื่อหนังสือออกจะเกินไปหน่อยครับ

ถ้าใช้แบบที่พี่เค้าถนัด คือ เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง การลงทุนทางเลือกใหม่

ผมว่าจะขายดีกว่านี้

ชื่อหนังสือที่มันเว่อร์ไป บางทีคนที่อยากอ่านก้เกิดอคติก่อนแล้วครับ

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 3:39 pm
โดย koh
กล้าๆกลัวๆเลย

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 7:24 pm
โดย dragonrider
marcus147 เขียน:ผมว่าแนวคิดเค้าน่าสนใจดีนะครับ
อาจจะเอาไปปรับใช้กับแนว VI ได้
แต่เล่มนี้ดูจะการตลาดมากไปหน่อย
ตัวหนงัสือใหญ่มาก
แถมพิมพ์ครั้งที่ 2 แล้วด้วย
(หนังสือพึ่งออก ไปแอบพิมพ์ครั้งที่ 1 ตอนไหนเนี่ย)
บางที พิมพ์ครั้งที่ 1 จำนวน 2,000 เล่ม วางไปเดือนนึง ก็คงต้องพิมพ์ครั้งที่ 2 ละครับ
หรือ เทคนิคพิมพ์น้อยๆ สาขาล่ะ 5 เล่ม ใครไปถามหาก็หมด ติดอันดับ best seller :B
การตลาดล้วนๆ

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 7:51 pm
โดย pat4310
เอาไว้ศึกษาวิชาการตลาดได้ครับ

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 7:55 pm
โดย กาละมัง
เมื่อการลงทุน การเก็งกำไร เป็น money game ยากที่ผลลัพย์ใด ๆ จะมาจากเหตุตายตัว อาจมี fault negative และ fault positive ได้เสมอ

การเชื่อระบบคิดอย่างเดียว ย่อมอาจไม่ถูกต้องเสมอไป

สรุป คือ ระบบคิดก็สำคัญ ความรู้ก็สำคัญ

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 9:36 pm
โดย tawich
อ่านไปอ่านมาของหลายคนเขียน เริ่มเมาตำราครับ แต่สรุปแล้วผมว่าถ้าเข้าใจในธุระกิจของหุ้นตัวนั้นเราจะรู้ได้เองว่าควรซื้อหรือไม่ ถ้าคนแห่ขายแต่เราเข้าใจ(ด้วยเหตุผลทางธุระกิจ)ว่ามันดี เราก็ได้กำไร2เด้ง(ซื้อถูกขายแพง) แต่ถ้าเรารู้ว่าดีและควรรูซื้อและคนอื่นก็ซื้อด้วย(ซื้อราคาเหมาะสมขายราคาที่กำไร) รู้ว่าดีแต่ราคาแพง(เราก็รอต่อไปให้มันลง) แต่ถ้าซื้อแล้วขาดทุนอย่าสนใจชาวบ้านครับ แต่ควรมาสนใจว่าเราเข้าใจธุระกิจนันจริงหรือเปล่าผิดพลาดตรงใน พูดสั้นๆก็คือขอแค่เข้าใจในสิ่งที่ทำและแก้ไขทันทีที่ทำผิด พูดง่ายครับแต่ทำยาก เรื่องแบบนี้ผมว่าต้องเล่นเองเจ็บเองครับ แล้วประสพการณ์จะสอนเรา ผมไม่เห็นมีตำราใหนที่บอกราคาหุ้นได้ชัวร์เลย มีแต่ประมาณแล้วก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด เหมือนตรัสรู้เลยผมว่า มีตำราเยอะแยะ แต่คนที่อ่านจบไม่แน่ว่าจะเข้าใจ คนที่เข้าใจไม่แน่ว่าจะบรรลุ มีแต่คนที่ลองทำและเข้าใจในธรรมชาติของมันจึงจะบรรลุึ
ขอโทษทีครับ คือผมอ่านมาหลายเล่มแต่ที่ เขาเขียนมาคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว พอเรานำมาปฏิบัติกลับทำไม่ได้เหมือนเขา ผมว่าที่เขาสำเหร็จเพราะเข้าใจในธรรมชาติหุ้นตัวนั้น แต่ที่เราทำไม่สำเหร็จเพราะเรารู้วิธีคิดของเขา แต่เราไม่เข้าใจในธรรมชาติหุ้นของเรา ตอนนี้พยายามหาสไตล์การลงทุนของตัวเองอยู่ครับ ไม่ได้ลบหลู่ผู้เขียนท่านใดนะครับ ผมว่า การเรียนรู้มุมมองผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งเรายึดติดกับตำราหรือแนวคิดของคนอื่นจนลืมเรียนรู้ธรรมชาติของสิ่งที่เราสนใจและตัวเอง

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 8:53 am
โดย siebelize
torpongpak เขียน:ผมมองว่า"ทฤษฎีเกม"เป็นส่วนประกอบที่ทำให้การลงทุนเเบบVIประสบความสำเร็จนะครับ ลองพิจารณาประโยคนี้ครับ

"จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้าเเละจงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว"

ถ้าอย่างนั้น ในช่วงที่มีหนังสือสอนเล่นหุ้นออกมามากมาย เซียนหน้าใหม่ เยอะแยะ


นับว่าตอนนี้ควรกลัว หรือว่าควรกล้าดีครับ :P :P

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 8:54 am
โดย siebelize
อีกนิดนึง
ถ้าเป็นสายเทคนิคแล้ว เขาบอกว่าเขาดูกราฟ เพราะว่ากราฟมันสะท้อนให้ถึงจิตวิทยา ว่าใครกลัว ใครกล้าครับ 55555555

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 10, 2012 4:42 pm
โดย WorriedInvestor
ผมอ่านแล้วทำให้นึกถึง ทฤษฏีสัมพัทธภาพน่ะครับ ผมก็อ่านเรื่องทฤษฏีสัมพัทธภาพแบบมั่วๆ เพราะเรียนมาทางสายสังคมศาสตร์ แต่รู้สึกส่วนตัวว่ามันคล้าย ๆ แบบนั้น แต่อย่าให้ผมอธิบายนะครับ ไปต่อไม่ได้จริงๆ เป็นแต่อ่านแล้วรู้สึกไปแบบนั้นน่ะครับ

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 10, 2012 6:50 pm
โดย multipleceilings
blueplanet เขียน:อีกนิด สำหรับทุกท่านที่อ่น
กรุณากด + ให้กระทู้ผมด้วย
เพราะ กระทู้ ผมถูกด ลบ จนกระทู้ผม ถูกซ่อนแล้ว
กระทู้ถุกกดลบจนถุกซ่อนคล้ายๆ กับถูกเซนเซอ
ขอบคุณทุกท่านที่กดบวก
และผมให้อภัยทุกท่านที่กดลบให้ผม

no salvage value 55555555555555555555555555555555

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 12, 2012 2:37 pm
โดย 0angelic0
[quote="siebelize"]อีกนิดนึง
ถ้าเป็นสายเทคนิคแล้ว เขาบอกว่าเขาดูกราฟ เพราะว่ากราฟมันสะท้อนให้ถึงจิตวิทยา ว่าใครกลัว ใครกล้าครับ 55555555[/quote]

เห็นด้วยครับ

เพราะเซียนๆ กราฟทางเทคนิคบอกว่าที่จริงแล้ว การอ่านกราฟมันก็คือการอ่านจิตวิทยามวลชนในตลาดครับ อย่างเช่นให้ซื้อที่ new high (ซึ่ง vi แท้ๆ ก็คงไม่มีใครคิดจะซื้อที่ราคา new high) แต่สายเทคนิคก็มีจิตวิทยามาอธิบายว่า ที่มัน break new high ได้เป็นเพราะว่า"คนทั้งตลาดเห็นพ้องกัน" ณ จังหวะนั้นทุกคนมองว่ามันจะขึ้น มีแต่คนซื้อไม่มีคนขาย ราคามันถึงเป็นแบบนั้น ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นพ้องกันยังมีคนซื้อพอๆกับคนขายราคาก็จะเป็น sideway ไปครับ

เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า จิตวิทยาการลงทุน กับ กราฟ,เทคนิค มันต้องไปด้วยกันหรือเปล่าไม่งั้นคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคนส่วนใหญ่เค้าคิดหรือทำอะไรกันอยู่

ปล. ผมลงทุนแนว vi แท้ๆ หนะครับ แต่เพื่อนมันสายเทคนิคมันก็เคยมาอธิบายให้ฟังครับ แต่ยังไงผมก็ชอบซื้อ กิจการ มากกว่าการซื้อเพราะหวังว่าจะมีคนอื่นมาซื้อต่อในราคาที่สูงกว่าที่เราซื้อครับ

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 13, 2012 9:27 am
โดย siebelize
[quote="0angelic0"]
เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า จิตวิทยาการลงทุน กับ กราฟ,เทคนิค มันต้องไปด้วยกันหรือเปล่าไม่งั้นคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคนส่วนใหญ่เค้าคิดหรือทำอะไรกันอยู่[/quote]

ผมว่านะ สรุปว่าชอบแบบไหน ทำให้สบายใจ สไตล์ไหนตรงจริตที่สุด ก็จัดไปเถิด

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 15, 2012 2:05 pm
โดย rabbitz
รูปเล่มหนังสือเล่มนี้สวยดีน่ะครับผมว่าแต่ตัวหนังสือใหญ่ไปทำให้เนื้อหา 1 หน้ามีน้อย

ดูจากหน้าหลังจะออกอีกประมาณ 2 เล่มด้วยนิครับ