Thai VI

ถ้ามองเขาเป็น investor ก็ใช่เลยครับ ทำหนังสือออกมาขายก็เพื่อหาเงิน เป็นการทำธุกิจแบบหนึ่งครับ คนจะซื้อของเขาหรือไม่ก็แล้วแต่การตัดสินใจครับ ผมพยายามอ่านหลายทีแล้ว แต่วิธีของเขามันไม่ตรงกับความเข้าใจผมครับ

[quote="geegee"]หนังสือยังไม่ได้ออกแผง ก็มีความเห็นแง่ลบเต็มเลย
เปิดใจหน่อยชาววีไอ ไม่อยากให้เสื่อมกว่านี้
รอให้ได้อ่านแล้วคอมเม้นต์มันจะเนียนกว่า หากจะจ้องล่อเป้า[/quote]
น้องเอ้ย ถ้าคิดว่าที่นี่เสื่อมก็อย่าเข้ามาเลย ที่นี่คงไม่เหมาะกับน้องหรอก ขอให้"โชคดี"ในการลงทุนนะ

ปล.พี่อ่านของเค้ามาทุกเล่มนะน้อง ทุกครั้งที่ซื้อพี่ซื้อด้วยความหวังว่ามันจะต้องดีกว่าเล่มก่อน แต่...

มีคนซื้อเล่มหนึ่งมาให้
ลองอ่านบทแรก คิดในใจ ?????
พลิกไปอ่านกลางๆเล่ม คิดในใจ ?????
พลิกไปอ่านท้ายบท คิดในใจ ?????
หลังจากนั้นหนังสือก็เข้ากรุไป โดยไม่คิดจะหยิบมาอ่านอีกเลย

ถ้าในด้านการลงทุนผมคงไม่สนใจค่ายหนังสือค่ายนี้
แต่ถ้าทางการการตลาดถือได้ว่าน่าสนใจศึกษาเป็นอย่างมาก

เปิดใจเสมอครับ

ใครอ่านแล้วเห็นว่าดี
ก็ควรโพสแนะนำครับ
แต่...
ควรบอกเหตุผลมาด้วย
ว่าดียังไง ?

เผื่อผมจะได้รีบไปหาซื้อมาอ่านบ้างครับ

จริงๆ แล้วหนังสือของสำนักพิมพ์นี้เหมาะกับมือใหม่เพิ่งเข้าตลาดแบบซิงๆ เลยคะ แต่ถ้าอยู่มาสักระยะนึงคิดว่าอาจจะไม่เหมาะคะ
แต่ส่วนตัวก็ซื้อมาอ่านนะคะ แต่ก็อ่านจบเร็วมาก เมื่อเทียบกับหนังสือ ดร.นิเวศน์ พี่สุมาอี้ และพี่เวป ที่ต้องใช้ความตั้งใจอ่านให้เข้าใจในรายละเอียดคะ

คิดว่าอ่านฆ่าเวลาก็ได้คะ เปิดมุมมองอีกด้าน

ขายวันแรกก็ได้ best seller ของ se-ed ไปเลยครับ

(ไม่รู้ได้ best seller ตั้งแต่ในคลังสินค้าของ se-ed เลยหรือเปล่า)

เอ่อผมไปจัดมาละครับ (พอดีชอบสะสมหนังสือลงทุน) พอเปิดไปก็เห็นแต่โพสท่าถ่ายรูป ไม่รู้ว่าเป็นนักลงทุนหรือเป็นนายแบบเหอๆ(คือถ้าเป็นสาวๆน่ารักๆจะไม่ว่าเลย) เนื้อหาก็กว้างๆครับ ผมว่าเอาเวลาไปอ่าน 56-1 ดีกว่าเยอะเลยครับ อ่านของ ดร.นิเวศ ดีกว่าเยอะครับ สำหรับคลีนิคหุ้นมือใหม่เล่มนี้>>แย่กว่าเล่มก่อนๆอีกครับ<< คือแนะนำว่าอย่าอ่านดีกว่าครับ งบก็ดูได้หยาบมาก ครับ ถ้าใครอยากอ่านเล่มนี้ ผมสรุปให้ฟังนะครับ หลักการของ ภาววิทย์ กลิ่นประทุม "เค้าเล่นแต่หุ้นตัวใหญ่ๆ เช่น advanc ptt pttep แล้วเค้ามอง พลังงาน สื่อสาร ธนาคาร เป็นหลัก แล้วรอหุ้นลงแรงๆ โดยใช้กราฟช่วยในการหาจังหวะเข้าครับ" แต่ประเด็น คือ เค้ากลับจากต่างประเทศมาช่วง supprime (พอดีเค้าอยู่ต่างประเทศแล้วเห็นเศรษฐกิจต่างประเทศชะลอตัวเลยให้แม่เค้าล้างพอร์ต) เค้าเลยเก็บหุ้นได้ถูกครับ แล้วเค้าไม่ได้อยู่ในตลาด มานานอย่าง ดร.นิเวศน์ คุณ สุมาอี้ คุณลูกอีสาน เป็นต้นนะครับ(เว๊บนี้คนเก่งเยอะพูดไม่หมด) คือ ทายถูกว่าวิกฤต เลยขาย แล้วถ้าไม่วิกฤต คงไม่มีภาววิทย์ กลิ่นประทุมในวันนี้อ่ะครับ

ผมก็เป็นคนเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆนะครับ แต่อ่านไปอ่านมาผมไม่รู้ว่าเค้าฟลุ๊คหรือเปล่านะครับ เวลายังไม่พอให้พิสูจน์ครับ แนะนำว่า สำหรับมือใหม่ เริ่มต้นด้วย หุ้นห่านทองคำ แล้วตามด้วย ดร.นิเวศน์ จากนั้นก็อ่าน Warren buffett, Philip A. Fisher , Benjamin Graham , Peter lynch แล้วก็ท่านอื่นๆที่เป็นระดับโลกอ่ะครับดีกว่าเยอะเลย

แค่นี้ครับ สำหรับ คลีนิคหุ้นมือใหม่ ผิดหวังมากครับ นึกว่าหยิบผิดเล่มมาถ่ายแบบซะงั้น

เมื่อวานจัดตู้หนังสือครับ

พอดีผมชบเก็บหนัสือดีดีไว้ทุก้เล่มและแบ่งประเภทคร่าวๆไว้คือ กอล์ฟ การ์ตูน การลงทุน จะเรียงสวยสุดเพราะเฉลี่ยต้นทุนแพงสุดและหยิบบ่อยสุดครับ อิอิหลังจากยอมแพ้กับการตีกอล์ฟให้ได้300หลา

มีตอนหนึ่งผมหยิบเจอของค่ายนี้แหละครับ ผมก็จัดเอาไปวางรวมกับการ์ตูนก้าวแรกสู่สังเวียน เพราะขี้เกียจเอามาเปลืองตู้หนังสือการลงทุนของผมที่มีเฉพาะหนังสือ่ี่ผมอ่านแล้วยากให้ลูกหล่นละเพื่อนๆอ่านต่อ เช่น security analysis, new buffetology, beyond value, common stock with uncommon profit, learn to earn, ..... buffett ( by Jenett Lowe), ตีแตก, วิถีเซียนหุ้นบันลือโลก(ไม่รู้จำถูกเปล่าครับ) active value investor และล่าสุด ตระแกรงหุ้นครับ

ปล ผมเขียนมาเม้นเพราะเสียดายเงินที่ไปซื้อมาคิดว่าทางสำนักน่าจะดูเนื้อหาที่มันดีกว้านี้จึงให้พิมพ์และไม่อยากให้คนอื่นๆคิดผิดเหมือนผมครับ ถ้าจะเอาแบบกระทู้มาถามคอบมาพิมพ์ขายก็ขอแบบึุณภาพแบบ พี่วิบูลย์เถอะครับอันนั้นเรัยกว่าล่ยละ500ก็ยังโคตรคุ้ม ของคุณผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนอ่าน aday. ครับคือแจกฟรีนะโอ

[quote="geegee"]หนังสือยังไม่ได้ออกแผง ก็มีความเห็นแง่ลบเต็มเลย
เปิดใจหน่อยชาววีไอ ไม่อยากให้เสื่อมกว่านี้
รอให้ได้อ่านแล้วคอมเม้นต์มันจะเนียนกว่า หากจะจ้องล่อเป้า[/quote]
ผมเคยซื้อมาอ่านเล่มนึงแล้ว เสียดายเงินมากครับ

ยังดีนะครับ พี่แค่เล่มเดียว ช่วงที่ผมเริ่มอยากศึกษาการลงทุนใหม่ๆ ผมจัดไปยกชุดเลย อยากบอกว่าเนื้อหาเกี่ยวกับลงทุนมีน้อยมากครับ ส่วนมากเป็นเรื่องทั่วๆไป มากกว่าครับ ยังเสียดายตังค์อยู่เลยครับ ตั้งเกือบพัน แต่ก็คงต้องปลอบใจตัวเองครับ ว่าได้ความรู้ใหม่ ไม่งั้นจะรู้สึกเสียดายตังค์ไม่หาย พอเลยครับกับหนังสือค่ายนี้ ไม่มีอะไรเลย

วันนี้ไปเดิน SE-ED มาก็เห็นว่าออกใหม่เลยลองไปเปิดดู (กะว่าถ้าดีก็จะซื้อ) เปิดดูประมาณไม่เกิน 5 นาทีนะครับ ปรากฎว่าทุกๆ 3-5 หน้าก็จะมีรูปผู้เขียนคั้นอยู่ 1 หน้าเต็ม ผมก็เลยวางหนังสือกลับไปที่เดิม สรุปเลยไม่ได้อะไรติดมือกลับบ้าน

ผมก็อ่านหนังสือมากอยู่เหมือนกัน ผมเลยมีวิธีสแกนหนังสือแบบคราวๆว่าควรจะซื้อหรือไม่ เสียดายเงินนะครับ กลัวว่าจะได้ของไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป

1. ความคุ้มค่าของหนังสือ = จำนวนตัวหนังสือ / ราคาที่จ่ายไป
2. หากข้อแรกผ่านแล้ว(คือคิดว่าคุ้มค่า) ก็จะอ่านดู 2-3 บท ถ้าเนื้อหาดีก็ซื้อกลับบ้านครับ เอามาประดับห้องนอน :)

หนังสือของค่ายนี้ทุกเล่มไม่เคยผ่านข้อ 1 เลยครับ บางเล่มมี "หุหุ" เยอะเกิน บางเล่มรูปผู้เขียนมากไป บางเล่มมี "--" เยอะ

อยากให้คนไทยทำหนังสือดีๆ ให้ความรู้เต็มๆ ไม่ได้หวังแค่เงินทอง หรือ ชื่อเสียงนะครับ

หนังสือดีมักจะถูกจารึกไว้เป็นคัมภีร์นะครับ

[quote="naraku"]ยังดีนะครับ พี่แค่เล่มเดียว ช่วงที่ผมเริ่มอยากศึกษาการลงทุนใหม่ๆ ผมจัดไปยกชุดเลย อยากบอกว่าเนื้อหาเกี่ยวกับลงทุนมีน้อยมากครับ ส่วนมากเป็นเรื่องทั่วๆไป มากกว่าครับ ยังเสียดายตังค์อยู่เลยครับ ตั้งเกือบพัน แต่ก็คงต้องปลอบใจตัวเองครับ ว่าได้ความรู้ใหม่ ไม่งั้นจะรู้สึกเสียดายตังค์ไม่หาย พอเลยครับกับหนังสือค่ายนี้ ไม่มีอะไรเลย[/quote]
ถ้ามองโลกในแง่ดี คือ มันทำให้เราแยก Junk Food ออกจาก Food ได้ครับ ต่อไปสมองเราจะได้ไม่อ้วน

เข้า SE-ED หยิบหนังสือลงทุนกับธรรมมะมาหลายเล่ม พอจ่ายตั้งพนักงานบอกว่า มีหนังสืออกใหม่ของคุณ ภาววิทย์ ไม่เอาไปด้วยหรือ ผมสั่นหัวว่าไม่ครับ พนักงานทำท่างงงง จริงๆเเล้วผมหยิบเปิดอ่านในร้านไป 10 กว่าหน้า เห็นว่าเนื้อหามันไม่ค่อยเเน่นเลยไม่เอามา พอมาอ่านกระทู้นี้เลยถึงบางอ้อนะครับ

อคติกันจังคับ หรืออิจฉาหว่า หุหุ

[quote="Tibular"]อคติกันจังคับ หรืออิจฉาหว่า หุหุ[/quote]
คนอื่นผมไม่ทราบนะครับ แต่สำหรับผม ไม่มีอะไรให้ผมอิจฉาเลยครับ แค่วิจารณ์ไปตามสิ่งที่อ่านและเห็น

คนชังก็มาก (ส่วนใหญ่เริ่มแก่แล้ว) คนชอบก็เยอะ (ส่วนใหญ่วัยรุ่น) นี่ก็เห็นว่าเริ่มไปโรดโชว์หลายจังหวัดแล้ว

ผมก็ไปลองสอยมา1เล่มครับ ของค่ายนี้ ไม่ดีอย่างที่เพื่อนๆในเว็บบอกนั้นแหละครับ มายืนยันอีกเสียง เสียดายเงิน จังเลย T T

ปล. ผมยังไม่ใช่คนแก่นะครับ

ผมยังไม่แก่ครับ อายุ26เอง เพียงแต่ผู้ใหญ่สอนไว้ว่าอ่านอะไรให้คิดตามเสมอ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ อย่าหลงในรูปลักษณ์ภายนอกของคน

ฮะ ฮะ พอแซวเรื่องแก่ไม่แก่หน่อย ออกตัวกันเลยนะครับ งั้นเพิ่มเป็น "แก่ประสบการณ์" แทน พอไหวมั้ยครับ :P

ระยะทางพิสูจน์ม้าครับ ถ้าไม่ดีซักวันก็แพ้ภัยตัวเองไปแหละ