ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 31

โพสต์

วันนี้วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พศ 2555

ผ่านไปแล้วสามสิบวันสำหรับปีนี้ เหลืออีก 236 วัน ที่เป้าหมายตั้งไว้รายเดือน ผมทำได้สำเร็จ จบดือนอย่างนี้ก็มักก็ย้อนดูกลยุทธ์ที่ใช้ว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ของ market maker ที่เล่นในตลาดทุนอย่างไร ผมต้องปรับกลยุทธ์ที่จำเป็นบางอย่าง รวมถึงปรับนิสัยตัวเองให้เข้ากับระบบ trade system ใหม่ๆ ลูกน้องมีกถามว่า ตั้งเป้าหมายไว้แล้วถ้าทำไม่ได้ อย่างนี้เสียกำลังใจ ผมจะบอกว่าถ้าทำได้ ก็ต้องมองตัวเอง อย่าให้ ความมั่นใจเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจ ฝึกแยกอารมณ์ต่างๆ ออกจากการตัดสินใจการลซื้อขายให้เป้นนิสัยของเรา แต่พอทำไม่ได้ก็ต้องมองตัวเองว่าขาดคุณสมบัติอะไรบ้าง อะไรที่ต้องฝึก อะไรที่ต้องปรับเปลี่ยน ผมจะบอกว่าไม่มีกลยุทธ์ใดที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ เพราะสถานการณ์ของตลาดทุนจะขึ้นกับอารมณ์ของตลาดในช่วงนั้นๆ อย่าไปยึดติดอะไรให้มาก เพราะความยึดติดเป้นต้นเหตุของการสะท้อนกลับ หรือ ความยึดติดเป็นสาเหตุของความทุกข์นั่นเอง ความยึดหยุ่นให้เหมือนน้ำ อยู๋ในภาชนะใดก็ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์จึงจำเป็นต่อความอยู๋รอดในเกมนี้ครับ ช่วงนี้ผมต้องฝึกลุกน้องใหม่ที่รับเข้ามาหลายท่าน ไม่มีเวลามาโพสเหมือนเดิม จะพยายามเข้ามาเดือนละครั้ง สุดท้ายผมไม่มีอะไรฝากไว้มาก นอกจากสิ่งที่โซรอสสอนลูกน้องเสมอ

ความทุกข์เป็นจุดกำเนิดของความสุข
ความสุขเป็นจุดกำเนิดของความทุกข์
จงสนใจทุกข์ให้มาก เพราะมันจะพลิกลับเป้นความสุขได้เสมอ

ช่วงข่าวต่างประเทศห้ามคนของเขามาเมืองไทย ผมถือว่าเป็นเรื่องทุกข์แล้วมีคุณสมบัติที่จะพลิกกลับเป้นความสุขได้เสมอ และปรับเพิ่มน้ำหนักพอร์ตเป็นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ถือสดยี่สิบ พอปลดข่าวร้ายนี้ ตลาดก็ปรับเปลี่ยนมีอารมณ์แห่งความสุข เพียงเดือนเดียว ตามเป้าไปแล้วสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่วางไว้ ตอนนี้มีแต่ข่าวดี หลายท่านใช้ margin ผมกลับปรับกลยุทธ์ short ไว้เต็มพอร์ตเช่นกัน ความสุขมาผมก็มองว่าจะเปลี่ยนเป้นความทุกข์ได้ทุกเมื่อ
ไม่ยากใช่ไหมครับ กลยุทธ์ของโซรอส แต่มันต้องสวนคนส่วนใหญ๋เท่านั้นเอง แยกอารมณ์ตัวเองออกจากการตัดสินใจของสามัญสำนึกของตนเอง ซึ่งผมเตือนลูกน้องเสมอว่่า ให้ตั้งคำถามกับสามัญสำนึกตัวเองเสมอ เพราะมันอาจหลอกเราได้ ทำได้หรือปล่าวเท่านั้นเอง ใครทำไมได้ สามเดือนก็ทราบแล้ว ก็ต้องคัดออกครับ อาชีพลงทุนไม่เหมาะแล้ว น่าไปหาอาชีพที่ต้องใช้อามรมณ์น่าจะเหมาะสมกับเขามากกว่า อย่างการแสดงเป้นต้นครับ
sakkaphan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1111
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ช่วงนี้ในช่วงที่ตลาดบวกเอาๆ ผมก็คิดละเมอเพ้อไปไกลว่ามันคงไปต่อเรื่อยๆ ละเมอได้สักพักก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามันเป็นเพียงภาพลวง ตลาดมีขึ้น เด๋วมันก็มีลง เราจึงควรตั้งอยู่บนความไม่ประมาท คิดได้ดังนี้ก็เลยคิดกลยุทธ์บริหารพอร์ตยามตลาดขาลงเผื่อเอาไว้ จะได้ไม่ตระหนกตกใจ ไหลไปตามอารมณ์ยามตลาดตกอีกครั้ง
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 33

โพสต์

เยี่ยมครับ
พี่ทอมพูดได้ดีเสมอครับ
การวิเคระห์ที่ดี ต้องบอกสมมุติฐานของตัวเอง
และแหล่งกำเนิดที่มาของสมมุติฐานนั้นด้วย
แต่ที่ผมสนใจมากกว่าคือจุดกำเนิดของแหล่งกำเนิดที่มาของสมมุติฐาน
ผมมอง อคติ ของคนนั่นเองครับ
ไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ ให้คำนิยามหุ้นไทยปีนี้ว่า "น่าจะทรงๆ" มีอัพไซด์ไม่เยอะมากแต่ความเสี่ยงขาลงก็ไม่เยอะด้วย ราคาหุ้นตอนนี้ถือว่า "ไม่แพง" แต่มี "ความผันผวนสูง" ขึ้นกับปัจจัยที่เกิดขึ้นในต่างประเทศโดยเฉพาะในยุโรป

"ภาพหุ้นไทยปีนี้ คงยุ่งๆ ถ้าลงเยอะๆ อย่าตกใจเดี๋ยวก็ขึ้นมาได้ แต่ก็ไปไหนได้ไม่ไกลเพราะภาพเศรษฐกิจไม่ชัดเจน เราให้เป้าดัชนีสูงสุดปีนี้ที่ 1,200 จุด ภายใต้สมมติฐานพี/อีย้อนหลัง 12 เท่า จากปัจจุบันเทรดอยู่ที่ 10 เท่า โดยประมาณการว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 13%"

หุ้นที่แนะนำขอให้เป็นหุ้นที่มีกระแสเงินสดสูง และได้รับอานิสงส์ที่ดีจากการฟื้นตัวของจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงประโยชน์จากการฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤติน้ำท่วม ส่วนเรื่องการเมืองในประเทศยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่ไม่มาก ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องติดตามคือราคาน้ำมัน ปีนี้น่าจะปรับตัวขึ้นมาได้จากปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันครึ่งปีหลังน่าจะมีดีมานด์กลับเข้ามาจากจีนที่เศรษฐกิจฟื้นตัวหรือแม้แต่ยุโรปถ้าการแก้ไขปัญหาผ่านพ้นไปได้

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนช่วงสั้นๆ เงินบาทอาจจะอ่อนค่าลงไปที่ระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ จากการแข็งค่าขึ้นช่วงสั้นของเงินดอลลาร์ แต่ระยะกลางเงินบาทน่าจะกลับมาแข็งค่าขึ้นโดยประเมินว่าเงินบาทสิ้นปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์
credit : http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%87.html
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 34

โพสต์

วันนี้ลูกน้องอ่านข่าวเซียนรายใหญ่ทักทายเดือนกุมภาตลาดทุนลงแรง แล้วเอามาถามผมว่า ผมคิดอย่างไรกับข่าวนี้

ผมหัวเราะแล้วบอกว่า ไม่มีใครทำนายตลาดได้หรอกไอ้น้องรัก

น้องท่านนี้ใช้กลยุทธ์แบบวีไอในการลงทุนเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ผมเลยถามว่า อธิบายให้ฟังหน่อยว่า คิดหามูลค่าหุ้นในปัจจุบันอย่างไร น้องตอบว่า โดยการทำการลดค่ารายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัท ผมหัวเราะอีกครั้ง ฉันใดฉันนั้น นักลงทุนที่ชอบมองอนาคตและทำนายสิ่งต่างๆ นั้นมักมีแนวโน้มในการคิดมูลค่าหุ้นแบบที่น้องเขาตอบเช่นกัน พวกเขาเชื่อว่า พวกเขาสามารถที่จะ ทำการลดค่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตลาดในอนาคตได้เช่นกัน นั่นคือ พวกเขาเชื่อว่า พวกเขาสามารถคาดคะเนการพัฒนาการของตลาดเป็นการล่วงหน้าได้

ผมไม่เชื่ออย่างนั้น ความคิดใดๆ เกี่ยวกัยอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น โดยเชิงลึกแล้ว อนาคตในตลาดทุนเป้นสิ่งที่ไม่เป้นกลางและเดินทางด้วยอคติของนักลงทุนในตลาด ผมไม่ได้หมายถึง ความเชื่อและอนาคตของตลาดเป้ฯอิสระจากกันเลย ในทางตรงกันข้ามครับ สิ่งที่ความเชื่อของตลาดทำก็คือ การเปลี่ยนแปลงปัจจุบันให้สอดคล้องกับอนาคตที่พวกเขาได้ทำนายเอาไว้

ราคาของหุ้นจึงเป็นสิ่งที่เป้นภาพลวงตาและเต็มไปด้วยอคติของนักลงทุน เพราะโดยความเป้นจริง market maker จะสนใจว่าความเชื่อของตลาดจะไปในทิศทางใด เพราะอคติของตลาดสามารถมีอิทธิพลต่อวิถีทางของราคาที่จะเกิดขึ้นด้วย มองให้ลึกเข้าไปในจิตวิทยาของฝูงชนกลุ่มใหญ่ที่ไม่มีเหตุและผล การทำงานของความไร้ระเบียบไม่เคยเป็นระเบียบแบบแผนอย่างที่นักวิเคราะห์บางท่านอยากให้เป็นเผื่อพวกเขาจะได้มองอนาคตออก มองหาความแน่นอนคือสัญชาติญาณของคน ผมว่าไม่สำคัญ ในตลาดทุน มองความไม่แน่นอนต่างหากที่สำคัญกว่า

นักลงทุนที่ทำนายอนาคต เวลาอนาคตมาถึงอย่างที่คาดการณ์ไว้ มันจะทำใหเพวกเขาประทับใจในตัวเองว่าสามารถคากการณ์อนาคตได้ถูกต้อง ซึ่งในความเป้นจริง พวกเขาลืมที่จะมองอีกด้านว่า พวกเขาไมได้กำลัง invert อนาคต แต่กำลัง invert ปัจจุบันให้วิ่งไปหาอนาคตที่พวกเขาอยากให้เป็นอย่างนั้น หรือ อนาคตถูกกำหนดไว้แล้วโดยความคาดหวังปัจจุบัน

ผมจะมองหาสถานการณ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงอย่างนี้เสมอ โดยไม่สนใจสิ่งที่ชัดเจน แต่เดิมพันกับสิ่งที่ไม่อยู่ในความคาดหวังแทนครับ


ว่าเหมือนกัน โอเค จะมีความเชื่อว่า พวกเขาสามารถ ทำการลดค่า สิ่งที่จะเกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 35

โพสต์

จากดำ ถึงดรำ

เพื่อนผมบอก นักวิเคราะห์ที่เห็นๆอยู่ไม่ใช่นักลงทุนที่เก่ง

เพราะเมื่อไหร่ที่เขากลายเป็นนักลงทุนที่เก่ง เขาก็จะเลิกเป็นนักวิเคราะห์

คุณดรำว่าไงครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ผมไม่อาจฟันธงในเรื่องนี้ได้ครับ
สำหรับความคิดผมแล้ว สิ่งที่เรียกว่าการวิเคราะห์นั้นแบ่งได้เป็นสองอย่างครับ อย่างแรก ผมจะวิเคราะห์มองสิ่งต่างๆ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังถูกวิเคราะห์ นักวิเคราะห์จะนั่งสังเกตการณ์สิ่งต่างๆ จากภายนอก ผมจะใช้การวิเคราะห์แบบนี้ก็ต่อเมื่อผมต้องการวิเคราะห์ตัวเองครับ ผมสนใจสิ่งไม่แน่นอน และสิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดก็คือชีวิตของคน และในชีวิตของคนนั้น สิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดก็คือร่างกาย นอกจากนี้แล้วผมเห้นจะเป้นอารมณ์ต่างๆ ซึ่งอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นเพราะอคติของคนนั่นเอง การที่ผมมองตัวเองโดยแยกอคติออกมานั้นคือ การมองตัวเองจากภายนอก เป็นเทคติคทำให้สิ่งที่ีไม่แน่นอนอย่างอคติให้แน่นอน

การวิเคราะห์แบบที่สอง คือ การมองสิ่งต่างๆ จากภายใน คือการวิเคราะห์โดยเอาตัวเองเข้าไปอยู๋ในเหตุการณ์ต่าง ๆนั้นด้วย สำหรับความคิดผม ผมจะใช้การวิเคราะห์แบบนี้ โดยการเข้าไปซื้อเมื่อผมอยากจะขาย หรือ เมื่อผมอยากจะขายผมจะเข้าไปซื้อ การลงทุนผิดพลาดจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับผม สำคัญที่เมื่อผมเข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริงแล้วสิ่งที่ผมเข้าใจในตอนแรกนั้น ไม่เป็นอย่างที่เข้าใจ ผมจะตัดสินใจไปทางตรงกันข้ามในทันทีครับ การมองจากภายในนั้นสิ่งที่เป้นหัวใจคือการไม่ยึดติดในอีโก้ของตนเอง ผิดก็ยอมตัดขาดทุน
แต่นักวิเคราะห์บางท่านมองข้อมูลต่างๆ จากภายนอกและคาดคะเนออกมาโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าสิ่งต่างๆ ที่พวกเขามองนั้นล้วนมีผันแปรต่อกันและอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

บางครั้งนักวิเคราะห์ที่กลายเป้นนักลงทุนรายใหญ่ พวกเขากลับมีอิทธิพลต่อเหตุการณ์ที่กำลังถูกมองเช่นกัน นั่นหมายถึงการเขียนบทความต่างๆ ล้วนเป้นการวิเคราะห์แบบหนึ่ง พวกเขาอาจชี้นำตลาดในทางอ้อมผ่านทางบทความของพวกเขา ผมไม่เชื่อว่า คนที่เขียนบทความจะไม่ลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะเขียนแนะนำในบทความของพวกเขา

company visit ก็ถือว่าเป้นการวิเคราะห์แบบหนึ่งที่พานักลงทุนเข้าไปอยู๋ในสถานการณ์ แต่คนที่ซื้อลงทุนในบริษัทไว้แล้ว อาจจัดกลุ่มไปเยี่ยมเยียนบริษัทโดยที่พวกเขาเตรียมขายก่อนที่คนอื่นจะไป visit company ด้วยซ้ำ

ไม่ว่า Warren Buffet จะแนะนำอย่างไร ความจริงคือ เขารวยแล้วเขาถึงบอกวิธีที่เขาลงทุน เขาเก็บตัวเงียบกว่า 40 กว่าปี กว่าเขาจะเผยตัวเองต่อสถานะชน ผมแนะนำให้มองเสมอว่าการลงทุนในตลาดเหมือนการทำธุรกิจ มันมีเหลี่ยมที่ต้องมอง มันไม่ง่ายหรอกครับ เรื่องการลงทุนไม่ใช่เพียงการซื้อหุ้นแล้วก็ขาย ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาลงทุนก็ได้ สำหรับผม มันเป็นธุรกิจที่เหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก

อย่าเชื่ออะไรง่าย ครับ แม้กระทั้งตัวเอง

ซึ่งผมถือว่ามีความเสี่ยงจากข้างนอกแบบเป็นวิทยาศาสตร์ ที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 37

โพสต์

เมื่อวานผมคุยกับเพื่อนท่านหนึ่งเกี่ยวกับการสอนลูกให้เชี่ยวชาญฝึกฝนวิชาการลงทุนครับ

เพื่อนผมเน้นไปทางการลงทุนเน้นคุณค่า
ผมเน้นไปทางการลงทุนแบบโซรอส

ลูกสาวผมเมื่อวานโทรมาหา ร้องไห้ว่าเขาถูกปลดจากการเป็นผู้นำของโรงเรียน
ครูจะใส่ปลอกแขนสำหรับนักเรียนที่เรียนดีและมีความประพฤติดีเป้นแบบอย่างแก่คนอื่นๆ
ปลอกนี้ให้สิทธ์พิเศษหลายอย่าง เช่น
สามารถได้อำนาจในการเตือนเพื่อนๆ คนอื่นแทนครูได้
อำนาจนี้ทำให้เพื่อนต่างๆ ประจบและเอาใจ
มันดึง อคติ เรื่อง ความเป้นคนสำคัญขึ้นมา

ผมไม่ทราบว่าเขาโดนปลดเพราะอะไร เพราะไม่ได้ถามสาเหตุ
ตรงนั้นไม่สำคัญสำหรับผมเลย ผมสนใจแต่ว่าเขามองทุกข์ไว้บ้างไหม
เวลาได้ความสุขอันนี้มา

ผมบอกเขาตั้งแต่ต้นว่า ครูคนนี้ฉลาด รู็จักเอาตัวกรูมาเล่นกับนักเรียน
และผมให้ระวังครูคนนี้อย่างมาก เพราะเขาเล่นการเมืองกับครูคนอื่นๆในโรงเรียน
จนครูดีๆ ไม่ได้เกิดเลย และเขากำลังทำอย่างเดียวกันกับเด็ก ๆ
สิ่งที่เขาทำคือการแบ่งชนชั้นแบบเดียวกับที่ยิวอังกฤษทำกับอินเดีย
และหาผลประโยชน์จากความขัดแย้งต่างๆ ทีจะตามมาอีกยาว

ผมสอนให้เขาทำใจตั้งแต่แรกว่า ปลอกแขนอันนี้มันจะทำให้ลูกเป้นทุกข์
ลูกสาวคนนี้ฟังผมพูดเรื่องโซรอสมานานเกือบสามปีแล้ว
เขาเข้าใจเรื่องโซรอสเป้นอย่างดีครับ
ผมถามว่า ตอนที่ได้ปลอกมาใส่แขนนั้น
จินตนาการว่า เวลาถูกปลดหรือไม่ว่าจะรู็สึกอย่างไร
เขาไม่ได้ทำ เพราะทำใจไม่ได้ถ้าต้องถูกปลด
เขาบอกผมว่า พึ่งจะได้ปลอกมา ใครจะคิดว่าจะเสียมันไปได้

เรื่องนีั้อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่แปดสิบบางท่านก็ทำไมได้
ความยึดติดนั้นเป็นศัตรูที่เอาชนะยากที่สุด
ผมสอนให้ลุกน้องนั่งซ้อมในหัวก่อนที่เทรดทกเช้า
พวกเขาจะนั่งหลับตาทำสามาธิมองเห้นภาพต่างๆ ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง
การทำอย่างนี้ คือ การแยกตัวเองออกมามองตัวเองแสดงบทบาท
เหมือนกับว่า พวกเขากำลังนั่งดูตัวเองแสดงบทของ trader ในหนังฮอลีวูดอย่างไรอย่างนั้น
สิ่งที่พวกเขาทำในหัวสามารถมองเห็นได้ภายนอก
จากผลลัพธ์กำไรที่พวกเขาทำให้กองทุนของเราครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 38

โพสต์

วันนี้สิบโมงต้องไปโรงเรียน เขาเชิญไปพูดกับผู้ปกครองท่านที่ลูกมีปัญหา
ทั้งสองคนเรียนเก่งจริงๆ ครับ
ผมไม่เคยให้เรียนพิเศษอะไรเลย
สอนแต่ว่า อยากสอบได้ ก็ให้คิดแต่สอบตก
สอนเรื่อง invert อย่างเดียว จนพวกเขาเก่งเรื่องนี้กว่าผมอีก

แต่ผมพูดเรื่อง invert คงไม่มีเข้าใจ
กว่าลุกสาวจะเข้าใจก้ใช้เวลาถึงสามปี
ลูกน้องที่เข้ามาใหม่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย
พื้นฐานคือ พ่อแม่ว่า เวลาทำผิด
อย่างนี้เข้าใจเรื่องโซรอสยากกว่าคนอื่น
ถ้าท่านอยากให้ลุกของท่านเป้นนักลงทุน
อย่าว่าลูก เวลาลูกทำผิด
ให้เขามองผิดเป็นเรื่องของความเสี่ยงที่ต้องหาวิธีทางรับมื่อกับมัน
นี่คือสิ่งที่ผมจะพูด ท่านจะได้อ่านก่อนคนอื่นครับ

สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่ ผมไม่ได้สอนอะไรพวกเขาเลย พวกเขาเรียนเก่งและมีความรับผิดชอบในเรื่องเรียนด้วยตัวของพวกเขาเอง ผมนึกว่า อาจเป้นรื่องที่ผมเล่าให้พวกเขาฟังว่าเด็กๆ ผมเป็นเด็กที่แย่ขนาดไหน ผมจะพูดเสมอว่า ผมโชคดีมากและกอดหอมเขา ว่าผมภูมิใจมากแค่ไหน ผมจะบอกพวกเขาตลอดว่า พวกเขาเก่งกว่าผมมากในวัยเดียวกัน เพราะผมโดนเปลี่ียนมือจากซ้ายไปขวาตั้งแต่สามขวบ ผลคือผมกลายเป้นเด็กพูดติดอ่าง อ่านหนังสือไม่ออก ผมจำไม่ได้ว่าเรียนหนังสืออะไรไปบ้างจนกระทั่งปอ ห้า ถึงจำเริ่มจำได้ว่าเรียนอะไร ผมปัญญาอ่อนมาก ขี้ราดกางเกง ขี้มูกไหลตลอดเวลา เรียนได้ที่สุดท้ายทุกปี ครูที่โรงเรียนตีผม ผมก็เดินกลับบ้าน พ่อไม่เคยว่าผมเลย พ่อจะพูดว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เรียนก็มาทำการค้าก็ได้ แล้วจะให้ผมว่าลูกสาวทั้งสองคนได้อย่างไรครับ

เมื่อวานลูกคนเล็กสอบเลขตก คนโตโดนปลดจากการเป้นผู้นำ เขาโทรมาหาผม มาร้องไห้กับผมเช่นกัน ผมจะบอกเขาเสมอว่า เวลามีความสุขไม่ต้องคิดถึงพ่อ มีความทุกข์เมื่อใดก็มาหาพ่อทันที เพราะพ่อเป้นผู้เชี่ยวชาญเรื่องรับมื่อกับความทุกข์ คนโตผมได้สอนให้เขายอมรับเรื่องการถูกปลด คนเล็กผมสอนให้ยอมรับเวลาสอบตก แค่นั้นเองครับ ผมสอนให้พวกเขาเอาชนะ ความยึดติด ต่างๆ ให้ได้ ผมไม่มีอะไรสอนมากกว่านี้ พวกเขาฟังผมพูดทีเดียวก็เข้าใจ เพราะผมพูดเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว ถ้าอยากสอบได้ ก็ให้คิดเรื่องสอบตก เรื่องทุกขฺนี้เป้นวิชาที่ยากที่สุด ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ได้ อนาคตพวกเขา ผมก็ไม่จำเป้นที่ต้องเป้นห่วงอะไรเลย

สวัสดีครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ผลตอบแทนที่ดีนอกจากความเข้าใจในบริษัทที่ลงทุนและจิตวิทยาของตลาดแล้ว
ยังมาจากสุขภาพการกินที่ดี การออกกำลังกายทีดี การผักผ่อนที่ดี และสุขภาพจิตที่ดี
หรือการเข้าใจจิตวิทยาของตนเองเป็นอย่างดีนั่นเอง
น้องๆ เข้ามาใหม่ ผมบังคับอ่านสามเล่ม

1.remenisances of stock operator
2. Intelligent Invetor
3. สติปัฐฐานสี่

โดยเฉพาะเล่มสุดท้าย ผมให้ความสำคัญมากที่สุด จะเอาชนะยิวฝรั่งที่วางหมากคลุมเกมให้คนอื่นเดินได้
เราก็ต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากกว่า พวกเขาเก่งเรื่องการสังเกตจิตใจของตนเองเป็นอย่างดีเลิศ พวกเรา trader คนไทยก็ไม่แพ้เช่นกันครับ เพราะมีคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่อง สติปัฐฐานสี่ ใครอ่านจบเรื่องนี้ อ่านตัวเองเก่งโคตรแล้ว ก็ไปหาเงินจากคนอื่นในโลกระบบทุนนิยมที่อาศัยอยู๋ แล้วไปบริจาคช่วยเหลือคนอื่นทางวัตถุที่ระบบทุนนิยมสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาเอาไว้ แบบ Warren Buffett แต่สิ่งที่ Buffett ทำไมได้ คือการปลงเรื่องทุนนิยมทางวัตถุและสามารถแยกตัวออกไปเป้นนักบวชช่วยคนอื่นทางจิตใจได้

The fruits of a trader's success will be in direct ratio to the honestry and sincerity of your own effort in keeping your emotions under observation krab.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 40

โพสต์

จะฝึกสติปัฏฐาน 4 ไม่สามารถทำได้ด้วยการอ่านตำราเพียงอย่างเดียวนะครับ สำคัญคือต้องหมั่นอ่านจากตนเอง
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 41

โพสต์

รูปภาพ

เรื่องอ่านตัวเองต้อท่านนี้ครับ 555555
เมื่อวานผมเห้นข่าวแว๊บๆ David Beckham เผยออกตัวสินค้าอะไรสักอย่าง น่าจะเป้นกางเกงในหรือปล่าว ไม่แน่ใจครับ แต่เห้นเขาถอดเสื้อ มีแต่กางเกงใน ดูที่ตัวเห้นรอยสักเต็มไปหมด มีภาษาจีนที่ข้างตัวทางซี่โครงซ้ายด้วย อ่านไม่ทันเลย
『生死有命,富貴由天』.

ต้องไปค้นหาอีกทีในเว็บอื่น

david beckham's chinese tattoo, life and death meaning

Celebrity David Beckham has a tattoo with a philosophical meaning. This is a Chinese proverb. It reads "Death and life have pre-determined appointments; riches and honor are from heaven"

『生死有命,富貴由天』.

The press praised Beckham for being "thoughtful at tattoos.",

บรูซ ลี เป็นนักต่อสู้มวยจีน
เขาบอกตัวเองเสมอว่าเขาเป้นนักปรัชญามากกว่านักมวยซะอีก

สำหรับเบคแฮม
เขากำลังบอกชาวโลกว่า
เขาเป้นนักปรั๙ญามากกว่านักฟูตบอล
ผมไม่แปลกใจว่าทำไม เขาถึงมาทางปรัชญา
เขาเป็นชาวยิวครับ

เหมือนโซรอสที่บอกเสมอว่า
เขาเป้นนักปรัชญามากกว่านักลงทุนครับ

http://www.nganfineart.com/calli-tattoo ... am_en.html
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 42

โพสต์

"You do your best, God will do the rest."
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 43

โพสต์

humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 44

โพสต์

humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 45

โพสต์



คลิปนี้สุดยอดครับ :bow: :bow: :bow:
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 46

โพสต์

รูปภาพ

ผมไม่เคยเห็นตำรวจจราจรเป็นผู้หญิง นี่ครั้งแรกครับ
เอาใจช่วยครับ :B
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 47

โพสต์

I fear not the man who has practiced 10,000 kicks once, but I fear the man who has practiced one kick 10,000 times.
Bruce Lee

สำหรับการเป็นเทรเดเดอร์ ผมก็คิดอย่างนี้ อันที่จริงเวลาทำอะไร ก็มักทำอย่างเดียวและให้เกิดความเชียวชาญมากที่สุด เป็นอยางนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว โลกระบบเนต มันก็ดี ข้อมูลต่างๆ หาได้รวดเร็วมาก แต่มันอาจทำให้คนที่ใช้มันเป้นประโยชน์ก็กำลังเจอกับโทษของมัน และกลายเป็นคนที่รู้สิ่งต่างๆแค่เปลือกผิวเท่านั้น

ทำอะไร มันก็ต้องมีความมุ่งมั่นและมีปณิธาน

ไม่ใช่แค่เทรดเดรอร์อย่างเดียว แต่อาชีพไหน หรือ ไม่ใช่อาชีพแค่งานอดิเรกก็ตาม ความสำเร็จในชีวิตทั้งหมดนั้น ล้วนมีแววมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าสนใจกันมาตั้งแต่เด็ก คิดจะเป็นเทรดเดอร์ตั้งแต่เป็นเด็กเลย ประสบความสำเร็จในชีวิตมันไม่มีฟลุ้ค คิดเตรียมการของเขามาตั้งแต่เด็ก มีขบวนการจัดการตั้งแต่เด็ก มีการก้าวเดินมาตลอดและต่อเนื่อง เห็นแสงสว่างอยู่ข้างหน้าทั้งหมด เดินตามทางแห่งแสงสว่างที่มีแต่ตนเองที่มองเห็ฯ โดยไม่เบี่ยงเบน นี่คือสิ่งที่นำมาสู่ความสำเร็จของเทรดเดอร์ที่เหนือเทรดเดอร์

ดังนั้นในอาชีพเทรดเดอร์ หากใครรู้จักอาชีพนี้ตั้งแต่เด็ก มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในอาชีพนี้ ต้องเป็นหนึ่งอย่างแน่นอน ความจริงที่เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่พ่ายแพ้ต่ออคติตัวเอง ความมุ่งมั่นและความอดทนถูกเบี่ยงเบนด้วยอาชีพอื่น แล้วอดทนไม่พอ ไม่ขยัน ไม่รอคอย

นิสัยเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จต้องรู้จักรอคอย ไม่ใช่เห็นอะไร ก็วิ่งเข้าไปเดิมพัน เป็นสิงโต ไม่กินตัวเล็กๆเสียเวลา รอคอยหลายวันก็ได้ ไม่ต้องกินบ่อยๆ ไม่ใช่ไล่กินจิ้งหรีด ไม่มีอะไรก็กินไส้เดือน คนที่เป็นสุดยอดในทุกอาชีพเป็นสิงโตหมด รอจังหวะของการกิน รู้ว่าจะกินอย่างไร เหมือนตกปลาใหญ่กับปลาเล็ก ไม่ตกปลาเล็กน้ำตื้น เทรดเดอร์ที่เก่งตกแต่น้ำลึก วันหนึ่งได้ตัวเดียวพอ หรือ 3 วันได้ตัวเดียว เข้าใจอย่างนี้ก็ให้ทำให้ได้

เฮดฟันไทยเก่งไม่แพ้ฝรั่ง พยายามกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเทรดเดอร์ และระบบทุนนิยมการเงินของไทยก็รองรับความเจริญก้าวหน้าได้ดีเพราะให้อิสระในความคิดสร้างสรรค์ของเทรดเดอร์

ไม่ว่าเป็นเทรดเดอร์บ้านนอกหรือเมืองนอก ไม่เชื่อใครง่ายๆ ชีวิตเดินทางด้วยตัวเอง ไม่ต้องมาชี้นำ และไม่สนใจในการชี้นำ เป้าหมายอะไรคือตรงนั้นเลย และเวลาที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต คนอื่นจะดูถูก แต่ไม่เคยมีความเสียใจ ไม่เคยมีความโกรธ รู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งข้างหน้าว่าเวลายังมาไม่ถึง เชื่อแน่ในความมุ่งมั่นของตนเองว่า ไม่มีทางที่จะไม่ประสบความสำเร็จ เวลาจะมาถึงในวันข้างหน้า

เทรดเดอร์บางท่านล้มเหลวครั้งเดียวก็ถอดใจแล้ว ครั้งที่สองก็ไม่เอาแล้ว ครั้งที่สามหนีไปทำอาชีพอื่นแล้ว ไปไม่รอด นี่คือสิ่งที่ไร้เป้าหมาย คนที่มีเป้าหมายนั้นต้องหนักแน่นมั่นคงต่อเป้าหมายของตัวเอง เทรดเดอร์ต้องเป็นคนที่เข้าใจธรรมะดี รู้ดีว่าทุกอย่างในโลกนี้ มีความสำเร็จและความล้มเหลวของมันอยู่แล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 48

โพสต์

โพสต์ล่าสุดของพี่ดรำ ผมเห็นด้วยครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 49

โพสต์

วันนี้ลูกน้องท่านหนึ่งอีเมลถาม
รูปภาพ

วันนี้ลูกน้องท่านหนึ่งอีเมล

ต้องใช้สัญชาตญาณในการเทรดมากขนาดไหน

ส่วนตัวผม น่าจะครึ่งต่อครึ่งครับ แต่สัญชาติญาณสำหรับเทรดเดอร์ต้องมาจากประสบการณ์ที่สะสมมานาน บางอย่างที่ตัดสินใจไปอย่างรวดเร็วจนไม่ได้ดูข้อมูลต่างๆ ก่อนล้วนมาจากการเรียนรู้ในอดีต ไม่ใช่มาจากอารมณ์ความรู้สึก แต่เป้าหมายของการเทรดคือผลตอบแทน อย่างไรก็ต้องเฝ้าสังเกตสัญชาตญาณของเราอีกทีว่าเวลาใช้พวกมันนั้น มันสร้างผลลัพธ์เป้นอย่างไรบ้าง

อย่างเวลาขับรถมีหมาวิ่งตัดหน้า ก็หักหลบจนตกข้างทาง แต่ผมไม่เคยหลบและชนมาสามครั้งแล้ว หมาตายทั้งสามครั้ง รถหม้อน้ำแตกทั้งสามครั้งเช่นกัน ที่ไม่หลบเพราะเตรียมซ้อมไว้ในหัวแล้วว่าหมาตัดหน้าจะชนอย่างเดียว ผมให้ความสำคัญกับการซ้อมในหัวอย่างมาก เรียกว่าเป็นพิธีกรรมเลยทีเดียวกับการเล่นกายกรรมทางจิตอย่างนี้ และกลายเป็นวัฒนธรรมที่เทรดเดอร์คนอื่นเอาไปฝึกกันในที่ทำงานหลายท่านอย่างที่น้องพอทราบบ้างอยู่แล้ว เรื่องพวกนี้ ผทไม่ได้คิดเองครับ แต่โซรอสเป็นคนสอนครับ

ทำไมสัญชาตญาณของสัตว์มากกว่าคนหลายเท่าตัว

น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ผมชอบดูสารคดีสัตว์ต่างๆ ช่วงเย็นทางไทพีบีเอสก็มีบ่อยๆ ความคิดผม ชีวิตพวกมันไม่ได้ถูกควบคลุมด้วยกฎเกณของคุณธรรมและกฎหมาย การเอาตัวรอดก็ไม่เหมือนคน ของสัตว์มันกินกันเลย

กฎของสัตว์ คือ dog eat dog สัตว์บางชนิดล่าเหยื่อฉลาดมาก ผมเคยเห็นเสือล่าเหยื่อโดยใช้จิตวิทยา ด้วยการให้ตัวแรกวิ่งไล่ตัวเดียว ต้อนจนเข้าทางที่เพื่อนๆ น้าๆ ญาติๆ รอดักอีกทางอยู่เป็นฝูง มันก็พัฒนาเทคนิคขึ้นมาเฉพาะตัวเพื่อความอยู่รอดของลูกๆ แต่ผมเคยมันก็เผื่อไว้ สัญชาติญานของเทรดเดอร์ก็ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของจิตวิทยาของฝูงคนและบนพื้นฐานที่ต้องเอาชนะความเสี่ยงต่างๆ แต่สิ่งที่เทรดเดอร์สร้างขึ้นมาเพื่อลดความยุ่งยากต่างๆ ลงและต้องการให้ชีวิตมันดำเนินไปง่ายขึ้น มันก็ลดทอนสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของคนไปด้วยครับ

สัญชาตญาณของคนน้อยลงเพราะอะไร

ต้องใช้เหตุและผลมากขึ้นในการประเมิณสถานการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจครับ ความมีเหตุและผลทำให้สัญชาตญาณลดลง แต่ถ้าคนใช้ ส ช ญ กันเหมือนคนในยุคสมัยก่อนที่ต้องล่าสัตว์กินหรือต้องถือดาบเวลาเดินไปไหน ผมเดาว่า คงเห้นผู้ชายไล่ปล้ำผู้หญิงครับ กฎหมายถูกกำหนดขึ้นมาคลุมคนหมู่มาก สัญชาตญาณที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์คือการเข้าใจว่าเมื่อคนหมู่มากอยู่ร่วมกัน พฤติกรรมของพวกเขาจะเป็นอย่างไรครับ

โซรอสพูดถึงว่าทักษะที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์คือสัญชาตญาณการเอาตัวรอด พี่คิดว่าจริงไหม

เรื่อง ส ช ญ นี้คนยิวมีมากกว่าชนชาติอื่น แต่เขาเอาตัวรอดด้วยการเข้าใจจิตใจฝ่ายตรงข้าม ยิวไปอยู่ไหนก็เข้าเมืองตาหลิ่ว โดนชาวบาบิโลนปกครอง ก็กลายเป้นคนรักหนังสือไปด้วย ปกครองโดยโรมัน ก็เอากฎหมายของโรมันมาประยุกต์ใช้ โดยชาวอารามิกปกครองก็เอาภาษาของเขามาใช้ แต่ใช้บนพื้นฐานของการรักษาคุณธรรมตามแบบคนยิวและถูกต้องตามกฎหมายยิวครับ

ส ช ญ สำหรับเทรดเดอร์ ฝึกอย่างไร

อย่างที่น้องทราบว่าสัตว์มีประสาทสัมผัสส่วนต่างๆ ไวมากเป็นพิเศษ จากความคิดนี้ เทรดเดอร์จะมีประสาทส่วนต่างๆหู ตา จมูก สัมผัสต่างๆ ไวและละเอียดมากกว่าปกติ เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีลมหายใจเข้าออกที่เป็นสมาธิครับ หรือในกรณีที่ก่อนเทรด น้องสามารถยกเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาที่น้องคาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น แล้วลองถามตัวเองว่าจะวางแผนทางออกไว้อย่างไรบ้าง พี่เห็นหลายท่านเข้าใจเรื่อง fallibility นี้ได้ดีทีเดียวครับ ถ้าน้องสนใจเรื่องนี้ก้ไปอ่านของ Karl Popper ซึ่งเป็นอาจารย์ของโซรอสได้ครับ
teatree
Verified User
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 50

โพสต์

อยากจะแจ้งให้คุณดรัมทราบ
ว่า
นอกจากคุณดำ ที่เข้ามาบ่อยๆแล้ว
ก็ยังมีผมอีกคนที่เข้ามาทำความเข้าใจปรัชญาชีวิตของคุณอยู่

เขียนไปเรื่อยๆนะครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
chichi1
Verified User
โพสต์: 112
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ผมก็เข้ามาอ่านบทความที่พี่เขียนเป็นประจําครับ แต่ชอบบทความที่พี่เขียนตอนดัชนีตกมากกว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
The Kop 71
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 271
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 53

โพสต์

ผมเข้ามาอ่านครั้งแรกด้วยตาที่ีอักเสบ(เฮดบัดจากลูกสาว)หรือพร่ามัวคิดว่าเป็น ชาวไอที :wall:
แต่เมื่อเข้ามาอ่านแล้วต้องอ่านกลับไปกลับมาสองสามรอบ แล้วค่อยเริ่มอ่านตั้งแต่หน้าแรก
เลยเข้าใจแล้วว่าถูกเลือก(ชะตาฟ้า)ให้มาอ่านบทความของ ท่านตั๊กม้อ
อ่านแล้วเปิดตาใน :shock: แล้วจะติดตามต่อไปครับ
เพราะสังคม..ประเมินค่า..ที่จนรวย
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 54

โพสต์

ขอบคุณครับ :bow: :bow: :bow:
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 55

โพสต์

วันนี้ผมติดบทความของคุณตันมาให้อ่านครับ
ช่วงนี้ขอหยุดเขียนครับ พรุ่งนี้ผมต้องทำธุระที่สิงคโปร์ครับ
เจอกันเดือนหน้าครับ
'ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ'
http://www.thairath.co.th/content/eco/236644
ภาพประจำตัวสมาชิก
untrataro25
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี

โพสต์ที่ 56

โพสต์

แวะเข้ามาลงชื่ออ่ะครับ
ถึงอ่านแล้วจะงงๆอยู่บ้าง แต่น่าสนใจดีครับ
มาต่อเรื่อยๆนะครับ :P
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"