Thai VI

เข้ามาหากำลังใจครับ

ถนนสายนี้...มีคนเดินเข้ามามากหน้าหลายตาครับ
บ้างก็อยู่กับที่...ไม่ไปไหนเอาเสียเลย
บ้างก็เดินถอยหลังลงคลอง...อาจจะต้องตอบสวนความรู้สึกของกระทู้นี้ด้วยซ้ำไปว่า "มีไหมครับคนที่เริ่มลงทุนในหุ้นจากเงินหลักล้านถดถอยเป็นหลักหมื่น!!!"
แต่ก็มีไม่น้อยครับ...ที่สามารถใช้ถนนเส้นนี้ก้าวเดินไปสู่ประสบความสำเร็จกันมาแล้วมากมาย
ถนนเส้นเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ

แต่เท่าที่ผมได้สัมผัสมา คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ยึดหลักแนว VI นะครับ (นี่ถ้าไปพูดพูดเว็บอื่น โดนด่าตายห๊า ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
"VI ก็คล้ายๆกัยพระพุทธศาสนาครับ" คือ "หลักการง่าย...แต่ทำจริงไม่ง่ายเลย"
เพราะมันมีสิ่งที่เรียกว่า "กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง อารมณ์ต่างๆ และอวิชชามากมายที่ถาโถมเข้าหาเรา"
ยกตัวอย่างให้ง่ายกว่านั้น...
"อานาปานสติ"...หลักการง่ายเหลือเกิน คือ "ตามรู้ลมหายใจ"
เห็นภาพใช่ไหมครับ? ว่า...หลักการเรียบง่าย แต่ทำได้ยากสำหรับผู้ที่ไม่เคยฝึกฝน
เช่นเดียวกันครับ "แนวการลงทุนแบบ VI"...หลักการก็ง่ายเหลือเกิน คือ "ซื้อหุ้นที่มี mos(Margin Of Safety)"
หลักการง่าย แต่ก็ยากในการปฏิบัติเช่นกัน

ด้วยหลักการง่ายๆแค่นี้แหล่ะครับ แต่มันทรงพลังยิ่งนัก
ยึดหลัก mos ให้มั่นๆนะครับ
เพราะด้วย Margin Of Safety ที่เป็นบวก จะทำให้เราไม่ขาดทุน และสามารถปกป้องเงินต้นไว้ได้
และด้วย Margin Of Story ของตลาดหุ้น จะทำให้เราสามารถทำให้เรามีเงินหลักล้านได้อย่างไม่ยากเย็น(ไอ้ประโยคหลังนี้ ผมคิดเองนะครับ หลักการเค้าไม่มีหรอกนะครับ เดี๋ยวจะพามือใหม่ลงทะเลกันไปเปล่า)

การเติบโตของพอร์ต เราสามารถประมาณการเบื้องต้นได้ตามที่ K.Skyforever ทำตัวอย่างไว้ได้ครับ
แต่ชีวิตจริง แม่มมันส์กว่านั้นเยอะครับ 555+
เพราะแทบไม่มีสมการคณิตศาสตร์ใดในโลกจะสามารถอธิบายการเติบโตของพอร์ตเราได้ดีไปกว่า หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนแบร์ก (Heisenberg uncertainty principle)มั้งครับ
เพราะ มันไม่ใช่สมการเส้นตรง, มันไม่ใช่ Exponential ตรงๆ, มันคือสมการอะไรก็ไม่รู้ซินะ
บางทีมาเป็นคลื่น อย่างกับ sinusoidal pattern เลยก็มี

"ตลาดหุ้น" แฝงไปด้วย "คณิตศาสตร์" มากมายทุกหนแห่ง
และคณิตศาสตร์นี่เอง ที่ปกปิดความลับ และสามารถลวงตาพวกเราได้มากมาย!!
วิชาของไอสไตน์ บอกเราได้ดีในเรื่องราวเหล่านี้
สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย...แต่วิชาคณิตศาสตร์กลับเปิดเผยความจริงของโลก และบอกว่า มันสามารถเป็นไปได้
ตลาดหุ้นเอง...ก็เป็นเช่นนั้น
สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่มันกลับเป็นไปได้แบบง่ายดายจริงๆ
ถึงตรงนี้แล้ว...
ผมขอตอบคุณ sous2011 ชัดๆก่อนเลยครับว่า "มันสามารถเป็นไปได้อย่างแน่นอน!!!"

ถ้าคุณลงทุน 5,000 บาท โดยซื้อจำนวน 10,000 หุ้น ในราคา 0.50 บาท
ใน Stage ที่ 1 การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น จาก 0.5 บาท ไปสู่ 1 บาท ก็โต 100% แต่เงินเพิ่มเพียง 5,000 บาท
และใน Stage ที่ 2 จาก 1 บาท ไปสู่ 2 บาท ก็โต 100% เช่นกัน แต่เงินเพิ่ม 10,000 บาท
และใน Stage ที่ 3 จาก 2 บาท ไปสู่ 4 บาท ก็โต 100% เช่นกัน แต่เงินเพิ่ม 20,000 บาท
และใน Stage ที่ 4 จาก 4 บาท ไปสู่ 8 บาท ก็โต 100% เช่นกัน แต่เงินเพิ่ม 40,000 บาท
100% เท่ากันในแต่ละ Stage...แต่กลับได้เม็ดเงินออกมาไม่เท่ากัน...นี่คือตัวอย่างเบื้องต้นหนึ่ง!!!
และเป็นที่มาของคำว่า "การรอคอย...คือกำไร"

ราคาหุ้น ก็คือ คณิตศาสตร์เช่นกัน
ราคาหุ้น หรือ Pricing Strategy ฝากไว้กับตัวเลขเพียงไม่กี่ตัว ที่สามารถหลอกคนได้เกือบทั้งตลาด
นั่นก็คือ p/e
p/e ตัวเลขที่สุดแสนจะทรงพลัง แต่มันกลับเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย
เพราะการเปลี่ยนแปลงของ p/e นี่เองครับ จะทำให้เรารวยได้ง่ายๆ
p คือ Price และ e คือ Earning
ไอ้ตัว e นี่แหล่ะครับ มันคือ "ตัวจี๊ด" เลยหล่ะ
ตัวจี๊ด แปลว่า มันไม่เคยหยุดนิ่ง และมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก
หุ้น Commodity ก็ใช้ประโยชน์จากตัวนี้
หุ้นปั่นแบบไม่มีพื้นฐาน แต่มีกำไรพิเศษ ก็ใช้ประโยชน์จากตรงนี้
หุ้น Turnaround ก็ใช้ประโยชน์ตจาก earning หรือ ตัวจี๊ดตัวนี้เช่นกัน
ดังนั้น Earning คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นที่มาของการทำ DCF อะไรทำนองนั้นอ่ะนะ(ผมก็ทำละเอียดยังไม่ค่อยเป็นเช่นกัน)

ตลาดหุ้น มันไม่ง่ายดาย เพราะมันมีผู้เข้ามาแสวงหาประโยชน์มากมาย
ผมนิยามว่า "เจ้ามือ" คือ "ใครก็ได้ ที่เค้าแกร่งกว่าเรา"
เจ้ามือจะเล่นกับอารมณ์ของเรา ด้วยตัวละครง่าย คือ...

"5 ช่อง 2 ข้าง 3 สี"

แค่นี้จริงๆนะครับ
2 ข้าง คือ ฝั่งบิด และฝั่งออฟเฟอร์
และเค้ามีพื้นที่การแสดงเพียงฝั่งละ 5 ช่องราคา
และ 3 สี คือ เขียว เหลือง และแดง
แต่ไอ้ของง่ายนี้แหล่ะครับ "5 ช่อง 2 ข้าง 3 สี" ที่มันทำให้คน ตกรถ, ติดดอย, ขายหมู
และของง่ายๆนี้ก็ทำให้คนหมดตัว และกระโดดตึกตายมาแล้วเช่นกัน

ถ้านึกภาพไม่ออก ลองไปนั่งดูการเทรดของหุ้นร้อนดูละกันครับ
แล้วถามตัวเองว่า หัวใจของคุณรู้สึกอะไรบ้าง???
แต่โจทย์ใหญ่ของความสำเร็จ คือ คุณต้องก้าวข้ามอารมณ์เหล่านี้ไปให้ได้นะครับ

คนที่ประสบความสำเร็จนั้น
นอกจากจะต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อที่จะซื้อหุ้นให้ถูกตัว ถูกเวลา แล้ว
เค้ายังต้องผ่าน "การทดสอบ" นับครั้งไม่ถ้วน
เจ้าลากขึ้น...เสมือนจะถามเราว่า มรึงจะขายไหม?
เจ้าทุบลง...เสมือนจะถามเราว่า มรึงจะขายไหม?
ตลาดฯสร้างช่องว่างแห่งความโลภและความกลัวให้เราตลอดเวลา
แต่คนที่ประสบความสำเร็จ เค้าเชื่อมั่นในอะไรบางอย่าง มากกว่าอารมณ์ที่ตลาดสร้างให้เรา

ยิ่งเขียนก็ยื่งฟุ้ง
สรุปดีกว่าครับว่า...
"เงินล้าน ถ้าเราคนเดียว คงอาศัยเวลายาวนานเหลือเกิน"
แต่ด้วยบริษัทฯจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เรามีผู้ช่วยเยอะครับ
"CEO , บอร์ดบริหาร และพนักงานทุกคน" คือตัวช่วยของเรา ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากเงินลงทุนของเรา
แต่การจะเลือกตัวช่วยที่ดี นั่นก็คือ "เราต้องใช้หลักการของ VI" มาเป็นตัวคัดกรอง

สรุปสั้นๆได้ว่า...คุณมาถูกทางแล้วขอรับ (^_^)

ฝนเริ่มจากพอร์ตเงิน 3 หมื่นบาทเหมือนกันค่ะ

ถ้าลองคิดอีกมุมนึงนะคะ
เปลี่ยนคำถามจาก มีโอกาสเป็นไปได้รึเปล่าที่เงินหลักหมื่นงอกเป็นล้าน
เป็นคำถามว่า มีวิธีการใหนที่ทำให้เงินหลักหมื่นเป็นล้าน
อาจจะได้คำตอบที่ตรงกับเป้าหมายมากขึ้นนะคะ

อย่าไปลังเล ลุยไปเลยๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ

ได้สิครับ เพราะผมจะเป็นหนึ่งในคนที่ทำได้
ไม่ยอมแพ้ก่อนถึงเส้นชัยแน่นอน 1 ล้านอาจยังไม่ใช่สุดท้าย

ให้กำลังใจเหมือนกันครับ

เพื่อนๆหลายท่านก็ให้แนวความคิด วิธีการกันไปเยอะแล้ว
มีคนทำได้หลายคนครับ หรือบางคนก็เปลี่ยนจากหลักแสนเป็น หลักสิบล้านก็มีครับ ก็ไม่ต่างกันจริงมั้ยครับ เพิ่มที่ตรงหน่วย


ผมคงเพียงแต่บอกว่า การลงทุนในหุ้น เส้นทางนี้ที่สำคัญ อาจไม่ใช่เรื่องการคำนวณหามูลค่า หรือ วิธีการใดๆเพียงอย่างเดียว

สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ เรื่อง ใจ ครับ

ต้องฝึกให้หนักแน่น มีสติ ไว้เสมอ ไม่ว่าหุ้นจะขึ้น - ลง อบ่างไร

ที่บอกก็ไม่ใช่อะไรครับ ผมเคยผ่านจุดที่เป็นคนอ่อนไหวต่อตลาดหุ้นมาแล้ว จนได้มาอยู่ในหลักการ VI จึงทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากครับ

สู้ๆนะครับ ทำได้แน่นอน เวลา ก็จะเป็นอีกตัวช่วยครับ ในการลงทุน

เข้ามาชื่นชมครับ และบอกจากใจว่านับถือพี่ๆทุกคนในบอร์ดนี้ครับ เก่งและมีน้ำใจคอยแนะนำและให้กำลังใจน้องๆที่มีฝันอยู่ตลอด

มาให้กำลังใจด้วยคน เทคนิค วิธีการ ประมาณการต่างๆ ก็ตามที่ พี่ๆเพื่อนๆบอกมาแหละครับ
ขอเสริมว่า ไปแบบค่อยๆไปนะครับ บางทีการเข้าไปเล่นในเกมส์ที่เราไม่ถนัดเราจะพลาดได้ง่าย

การลงทุนในตลาดหุ้น เราพูดกันว่ากำไรเป็นหนึ่งเด้ง สองเด้ง 5เด้ง 10เด้ง มันกระตุ้นความโลภครับ
แล้วมือใหม่มักจะ โลภเกินความรู้ แม้ว่าจะเตือนตัวเองแล้วก็ตาม เพราะฟังเขาเล่าว่าได้กำไรมา
แล้วมันเหมือนง่าย แต่พอทำจริงแล้วไม่ง่ายนะครับ (ฮ่าๆ อันนี้เรื่องจริง) มีแต่ต้องขยันทำการบ้านถึงได้
MOS จริง ไม่็เป็นไร แต่ MOSปลอมนี่สิ ประมาณว่า เราคิดไปว่าเรามี MOS แล้วนะ แต่มันยังมีไม่พอ
เป็นกับดักทางจิตวิทยาที่ได้จากการลงทุนจริง พยายามเรียนรู้จากประสบการณ์ของเราและพี่ๆในเว็บ
เน้นไปที่กิจการที่ดีและเราเข้าใจ ดาวน์ไซด์น้อยๆ ปลอดภัยและกำไรตั้งแต่เราซื้อครับ

โชคดีสำหรับล้านแรกนะครับ

ผมว่าให้ตังเป้าว่าต้องการreturnเท่าไรดีกว่า อย่าหวังมาก
คนเจ๊งก็เยอะเเต่ไม่ได้ออกมาพูด กลัวว่าเวลาทำไม่ได้เเล้วจะรู้สึกหมดกำลังใจ
เอาเเค่กำลังดีเช่นปีละ 12 เปอร์เซ็น เเล้วมันจะถึงล้านเมื่อไรก็เมื่อนั้น

Connection สำคัญมากจริงๆครับ
แต่ connection ที่ว่าคือกัลยาณมิตรในหมู่นักลงทุนด้วยกัน

คิดง่ายๆครับ ทำการบ้านคนเดียวมันใช้เวลาเยอะ มีคนช่วยกัน scan หุ้น จะหาเจอได้เร็วกว่า
และแต่ละคนก็จะมีมุมมองที่เอามาแชร์กันได้ด้วยครับ

ปีนี้เพื่อนผมแนะนำหุ้นให้แต่ละตัวสุดยอดจริงๆ เสียแต่ผมไม่ค่อยมีเวลาได้ศึกษา เห็นอีกทีราคาขึ้นไปสูงซะแล้ว อิอิ

Fon^^ เขียน:ฝนเริ่มจากพอร์ตเงิน 3 หมื่นบาทเหมือนกันค่ะ

ถ้าลองคิดอีกมุมนึงนะคะ
เปลี่ยนคำถามจาก มีโอกาสเป็นไปได้รึเปล่าที่เงินหลักหมื่นงอกเป็นล้าน
เป็นคำถามว่า มีวิธีการใหนที่ทำให้เงินหลักหมื่นเป็นล้าน
อาจจะได้คำตอบที่ตรงกับเป้าหมายมากขึ้นนะคะ

อย่าไปลังเล ลุยไปเลยๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ

ของจริง มาแล้ว ฮะ

กระทู้ หมอฝน นี่ เป็นแรงบันดาล ใจให้ ผมเลยทีเดียว
5 ปี จากหมื่น เป็น ล้าน โดย ไม่มีการเติม เข้า พอร์ท เพิ่ม อีก ต่างหาก( เทพมั้ยละ)

เฉลี่ย โต ปี ละ 2 เด้ง

พี่อ๋องเป็นคนเขียนอธิบายได้ดีมากครับ
เหมาะกับการเขียนหนังสือ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับนักลงทุนมากๆครับ

เจ

o so many friends who start with 5 digits like me laew.

i used to think that i started with smallest port laew...

su su kab.i c many investors who get rich by VI way kab.

ของผมเริ่มจากหลักหมื่นเป็นแสน ใช้เวลา 5 เดือน ครับ แต่เติมเงินเข้านะ ไม่เติมไม่ได้

รู้สึกว่าจะได้กำไรมา 10 % เอง เพราะผมโชคดีที่ก่อนวันปลั้กหลุดผมล้างพอร์ทพอดี เลยจัดเต็ม SCC

ทำได้แน่นอนครับ

ผมเชื่อว่าใน thaivi.org เรานี่ทำได้เป็นหลักร้อยคนครับ

แต่ผมว่าสิ่งที่จะทำได้มากกว่าที่สำคัญ คุณต้องตกผลึกตัวเอาให้ได้ว่าแนวทางการลงทุนที่เป็นตัวคุณและต้องทำผลตอบแทนให้ได้ดีในระดับที่คุณพอใจด้วยครับ

ถ้าค้นพบตัวตนแล้วทุกอย่างก็ easy baby enfant ครับ

เอ่อ.....
ให้กำลังดีเยอะดีครับ

แต่ว่าข้อเสนอแนะว่าทำยังไงไม่ให้ เงินล้านกลายเป็นเหลือหลักหมื่น อาจจะมีประโยชน์กับน้องเขามากกว่านะครับ แหะแหะ

siebelize เขียน: ให้กำลังใจดีเยอะดีครับ

แก้คำผิดจ้า

ขอบคุณคุณ pakและเพื่อนๆทุกคนที่แนะนำครับ
กระทู้เก่าๆของหมอฝนผมไปอ่านแล้วได้ความรู้มากครับ
ตอนนี้ผมเปิดพอรต์แล้วรอโบรกอนุมัติคาดว่าคงจะเริ่มลงทุน
หลังปีใหม่แต่ีสำหรับมือใหม่อย่างผมยังไม่รู้จะเลือกหุ้นตัวไหนดี
แต่ที่เล็งๆไว้หุ้นที่ผมคุ้นเคยและใช้บริการบ่อยก็หุ้นห้างสรรพสิ้นค้าที่บ้านผมและครับ
แต่ตอนนี้ราคาสูงพอสมควร

ผมเริ่มจาก 50,000 บาท แต่ก้เติมเงินเข้าไปเรื่อยๆครับ ใช้เวลาลองผิดลองถูกจนมาเจอแนวvi หลังจากเข้าอบรมโครงการnip ก้ทำให้การลงทุนมีแนวทางและหลักการมากขึ้นที่สำคัญคือต้องขยันและมีวินัยมากๆเท่านั้นเอง

คิดว่ามีหลายคนครับ ที่ทำได้สำเร็จใน web thai VI สำหรับผมก้อเริ่มหลักหมื่นครับ...แต่ยังไม่งอกเงยเป็นหลักล้านนะคับ มาเจิมรอไว้ก่อน ซักวันนึงจะไปถึงจุดนั้นให้ได้ครับ ผมชอบข้อคิดของคุณชินน์ ที่บอกให้ตั้งเป้าหมายในชีวิตที่คุณชินน์ ตั้งไว้ 5 ข้อ และบอกว่าตอนนี้ทำได้ 3 ข้อแล้ว ผมคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกเหนือจากแผนการวิธีการที่แต่ละคนอาจจะใช้ต่างกัน

ได้ครับ เริ่มเงินน้อยสำคัญต้องเติมเงินเข้าไป พอพอร์ตโต มากขึ้น เงินที่เติมไปก็มีผลน้อยลง ครับ
ผมว่าขนาดไม่สำคัญสำคัญที่ระยะเวลาในการลงทุนมากกว่ากับวินัย และที่สำคัญความสุขที่ใด้ลงทุนครับ

ได้แน่นอนครับ เพราะผมเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

สำหรับผม สิ่งสำคัญอันดับแรก คือการควบคุมความโลภ และความกลัวครับ
อันดับสองคือความรู้ ต้องหมั่นศึกษา และอย่าหยุดศึกษานะครับ
อันดับสามคือ ต้องมีศรัทธาครับ ศรัทธาในการลงทุนแบบ VI
และสิ่งสุดท้ายคือ ไม่มีอะไรได้มาโดยง่ายนะครับ
คนสำเร็จมีหลักร้อย แต่คนล้มเหลวอาจมากกว่านี้หลายเท่า

เป็นกำลังใจให้ครับ

น่าจะทำได้คับพี่ ผมจาก 5หมื่น เป็น 8 แสนกว่าๆ แล้ว ล้านนี่คิดว่า น่าจะไหวครับ(6ปีกว่าๆน่ะครับ)
สู้ๆครับ พี่ๆรายคนยัง ทำได้น่า

ทำได้ครับ และเป็นกำลังใจให้ด้วย
ผมก็เริ่มจากไม่มีเงินเลย ที่บ้านไม่ได้รวย
เก็บเงินเองทุกบาท กว่าจะได้จากหลักหมื่นมาเป็นหลักแสน
แล้วก็เอาหลักแสนมาเรียนรู้เรื่องหุ้น

หลายปีพอควรกว่าหลักแสนจะกลายเป็นหลักล้าน
แล้วก็กำลังลุ้นหลักสิบล้าน

โดยไม่กระทบงาน ไม่กระทบครอบครัว
ทำงานดีมีความสุข ได้สองขั้นเกือบทุกปี

ทุกอย่างเริ่มที่ใจ สำเร็จได้เพราะความพยายามครับ

ผมก็เริ่มลงทุนจากหลักหมื่นตอนนี้ก็งอกเงยขึ้นมาเป็นหลักล้านครับ
นอกจากเราต้องมีความรู้ในการลงทุนแล้วต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงซึ่งสำคัญมากไม่แพ้ไปกว่าความรู้ครับ