Thai VI

chatchai เขียน:วิกฤตครั้งนี้จะหนักหนาจริงหรือ

ครั้ง Sub Prime นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคน รวมทั้ง Soros บอกว่าจะหนักกว่าหรือเท่ากับ Great Depression แต่ทำไมถึงฟื้นเร็วจัง หลายคนตกรถเลย

หุ้นขึ้นแค่วันสองวัน ตกรถกันเลยทีเดียว

จะซื้อก้อราคาไม่ถูกเด๋วดอย จะขายก้อไม่ได้ราคา
จะถือยาวมาก ก้อได้เมื่อสองสามวันก่อนอาจได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 15% up แล้วหลายๆตัว
จะถือระยะสั้น ก้อต้องสั้นจิงๆ
ถือระยะ1-2ปี ราคาในปีนี้ยังไม่ถูกเลย ราคากับปัญหาเศรษฐกิจ ไม่สดใสเหมือน 2009->2010
ตัดสินใจยากมากกก.....


หุ้นดีใน 1-2 ปีข้างหน้าราคามันไม่ดี

beaeaebe เขียน:

chatchai เขียน:วิกฤตครั้งนี้จะหนักหนาจริงหรือ

ครั้ง Sub Prime นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคน รวมทั้ง Soros บอกว่าจะหนักกว่าหรือเท่ากับ Great Depression แต่ทำไมถึงฟื้นเร็วจัง หลายคนตกรถเลย

หุ้นขึ้นแค่วันสองวัน ตกรถกันเลยทีเดียว

ครั้ง Sub Prime นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคน รวมทั้ง Soros บอกว่าจะหนักกว่าหรือเท่ากับ Great Depression แต่ทำไมถึงฟื้นเร็วจัง หลายคนตกรถเลย

chatchai เขียน:

beaeaebe เขียน:

chatchai เขียน:วิกฤตครั้งนี้จะหนักหนาจริงหรือ

ครั้ง Sub Prime นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคน รวมทั้ง Soros บอกว่าจะหนักกว่าหรือเท่ากับ Great Depression แต่ทำไมถึงฟื้นเร็วจัง หลายคนตกรถเลย

หุ้นขึ้นแค่วันสองวัน ตกรถกันเลยทีเดียว

ครั้ง Sub Prime นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคน รวมทั้ง Soros บอกว่าจะหนักกว่าหรือเท่ากับ Great Depression แต่ทำไมถึงฟื้นเร็วจัง หลายคนตกรถเลย

ง่า คือจะช่วยเสริมเห็นด้วยอะคับ จะเปรียบเทียบแค่ตอนนี้ ลงหนักๆแต่เวลาฟื้น หุ้นขึ้นใช้เวลาแค่สองวันมันขึ้นเร็วมากอะคับ หลายคนตกรถอดเก็บของถูก

ผมคิดว่ายุโรปอาจจะเป็นดาราเจ้าบทบาทก็ได้นะคับเพราะช่วงนี้จะแสดงบทบาทที่ทำให้คิดไปได้ว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงกรีซต้องพบขุมทรัพย์ในตำนานอะไรซักอย่างหนึ่งในประเทศแล้วสามารถนำให้จ่ายหนี้ที่กรีซมีอยุ่ทั้งหมดได้อย่างสบายผมถึงจะเชื่อว่าวิกฤตที่เริ่มจากกรีซได้ผ่านพ้นไปแล้ว และกรีซก็เป็นเพียงดาราเปิดม่านการแสดงของกลุ่มลูกหมูสิคับ

ผมเห็นด้วยกับทั่น imerlot นะครับ
พอเม่าอย่างเราเห็นดีดกลับเกิน 20% ก็คิดว่าตลาดพ้นจากภาวะถดถอยแล้ว
เข้าไปร่วมขบวนด้วย แต่ท้ายสุดของเส้นทางกลับดิ่งลงเหวหรือเปล่า???

imerlot เขียน:อ่านเจอเข้ากันกับตอนนี้..เลย
"counter rally" ยังไม่คำแปล ..เลยลองดู "แนวดีดกลับลวง"

"counter rally in bear market"

For one, before a bear market is spent, it needs to suck in as many bulls as possible. It does this by fooling them into believing that the worst is over; by dangling the alluring bait of hope before their screens. What better way to convince you that it is safe to venture into the market than by showing you a tantalizing +20% rally?

http://www.tradersnarrative.com/compari ... -2289.html

2-3 วันก่อนบอกว่าจะลงไปถึง 600 แต่พอหุ้นขึ้นก็บ่นว่าตกรถซะงั้น...อาไรกันเนี้ย ข้าน้อยงงไปหมดแล้ว

ถ้าหากว่าเราสามารถคาดการณ์ตลาดได้ ปีเตอร์ ลินช์ หรือ ปรมาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็พูดผิดกันหมด หรือไม่ ตลาดในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปแล้ว จากคาดการณ์ไม่ได้ กลายเป็นคาดการณ์ได้..

ถ้าเราคิดว่าตลาดคาดการณ์ได้ เราก็ต้องลงทุนในรูปแบบหนึ่ง ถ้าเราคิดว่าตลาดคาดการณ์ไม่ได้ เราก็ต้องลงทุนอีกแบบนึงตามสมมุติฐานของเรา

"ไม่มีใครสามารถทำนายอัตราดอกเบี้ย แนวโน้มเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้นได้
ดังนั้นจงติดตามบริษัทที่คุณทำการลงทุนไปอย่างสม่ำเสมอ" - ปีเตอร์ ลินซ์

......................................................
ผมลงทุนในหุ้นแบบคนธรรมดาที่...
ชื่อไม่มีโนเบลเศรษฐศาสตร์ต่อท้าย

ศิษย์เซียน007 เขียน:ผมคิดว่ายุโรปอาจจะเป็นดาราเจ้าบทบาทก็ได้นะคับเพราะช่วงนี้จะแสดงบทบาทที่ทำให้คิดไปได้ว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงกรีซต้องพบขุมทรัพย์ในตำนานอะไรซักอย่างหนึ่งในประเทศแล้วสามารถนำให้จ่ายหนี้ที่กรีซมีอยุ่ทั้งหมดได้อย่างสบายผมถึงจะเชื่อว่าวิกฤตที่เริ่มจากกรีซได้ผ่านพ้นไปแล้ว และกรีซก็เป็นเพียงดาราเปิดม่านการแสดงของกลุ่มลูกหมูสิคับ

ลองย้อนกลับไปดูว่า ในปี 40 บริษัทไทยต่างๆที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวเกือบล้มละลายปิดกิจการไปนั้น ทำอย่างไรถึงได้กลับมาแข็งแกร่งในปัจจุบันนี้

บริษัทเหล่านี้พบขุมทรัพย์อะไรหรือเปล่า

chatchai เขียน:

ศิษย์เซียน007 เขียน:ผมคิดว่ายุโรปอาจจะเป็นดาราเจ้าบทบาทก็ได้นะคับเพราะช่วงนี้จะแสดงบทบาทที่ทำให้คิดไปได้ว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงกรีซต้องพบขุมทรัพย์ในตำนานอะไรซักอย่างหนึ่งในประเทศแล้วสามารถนำให้จ่ายหนี้ที่กรีซมีอยุ่ทั้งหมดได้อย่างสบายผมถึงจะเชื่อว่าวิกฤตที่เริ่มจากกรีซได้ผ่านพ้นไปแล้ว และกรีซก็เป็นเพียงดาราเปิดม่านการแสดงของกลุ่มลูกหมูสิคับ

ลองย้อนกลับไปดูว่า ในปี 40 บริษัทไทยต่างๆที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวเกือบล้มละลายปิดกิจการไปนั้น ทำอย่างไรถึงได้กลับมาแข็งแกร่งในปัจจุบันนี้

บริษัทเหล่านี้พบขุมทรัพย์อะไรหรือเปล่า

คือผมคิดอย่างนี้คับ บริษัทตอนปี40ที่มีหนี้มากเขายอมปิดกิจการแล้วมาประนอมหนี้กันว่าเจ้าหนี้จะยอมลดหนี้ให้เท่าไหร่ใช่ไหมคับ แต่กรีซตอนนี้ยุโรปยังซื้อเวลากันอยู่ให้ยอมให้กรีซล้มละลายคับแล้วมาประนอมกันถ้ายอมเมื่อไหร่ผมก็ถือว่าปัญหามีทางออกแล้ว ที่ประวิงเวลากันอยู่ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าประเทศใหญ่ๆในยุโรปอย่างเยอรมันกำลังขอเวลานอกเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือแบงค์ของตนเองอยู่เป็นได้นะคับ

ศิษย์เซียน007 เขียน:

chatchai เขียน:

ศิษย์เซียน007 เขียน:ผมคิดว่ายุโรปอาจจะเป็นดาราเจ้าบทบาทก็ได้นะคับเพราะช่วงนี้จะแสดงบทบาทที่ทำให้คิดไปได้ว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงกรีซต้องพบขุมทรัพย์ในตำนานอะไรซักอย่างหนึ่งในประเทศแล้วสามารถนำให้จ่ายหนี้ที่กรีซมีอยุ่ทั้งหมดได้อย่างสบายผมถึงจะเชื่อว่าวิกฤตที่เริ่มจากกรีซได้ผ่านพ้นไปแล้ว และกรีซก็เป็นเพียงดาราเปิดม่านการแสดงของกลุ่มลูกหมูสิคับ

ลองย้อนกลับไปดูว่า ในปี 40 บริษัทไทยต่างๆที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวเกือบล้มละลายปิดกิจการไปนั้น ทำอย่างไรถึงได้กลับมาแข็งแกร่งในปัจจุบันนี้

บริษัทเหล่านี้พบขุมทรัพย์อะไรหรือเปล่า

คือผมคิดอย่างนี้คับ บริษัทตอนปี40ที่มีหนี้มากเขายอมปิดกิจการแล้วมาประนอมหนี้กันว่าเจ้าหนี้จะยอมลดหนี้ให้เท่าไหร่ใช่ไหมคับ แต่กรีซตอนนี้ยุโรปยังซื้อเวลากันอยู่ไม่ยอมให้กรีซล้มละลายคับแล้วมาประนอมหนี้กันถ้ายอมเมื่อไหร่ผมก็ถือว่าปัญหามีทางออกแล้ว ที่ประวิงเวลากันอยู่ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าประเทศใหญ่ๆในยุโรปอย่างเยอรมันกำลังขอเวลานอกเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือแบงค์ของตนเองอยู่ก็เป็นได้นะคับ

ผมมีปัญหากับการพิมพ์จิงๆตกๆหล่นๆสม่ำเสมอขออภัยด้วยคับ

ศิษย์เซียน007 เขียน:

chatchai เขียน:

ศิษย์เซียน007 เขียน:ผมคิดว่ายุโรปอาจจะเป็นดาราเจ้าบทบาทก็ได้นะคับเพราะช่วงนี้จะแสดงบทบาทที่ทำให้คิดไปได้ว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงกรีซต้องพบขุมทรัพย์ในตำนานอะไรซักอย่างหนึ่งในประเทศแล้วสามารถนำให้จ่ายหนี้ที่กรีซมีอยุ่ทั้งหมดได้อย่างสบายผมถึงจะเชื่อว่าวิกฤตที่เริ่มจากกรีซได้ผ่านพ้นไปแล้ว และกรีซก็เป็นเพียงดาราเปิดม่านการแสดงของกลุ่มลูกหมูสิคับ

ลองย้อนกลับไปดูว่า ในปี 40 บริษัทไทยต่างๆที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวเกือบล้มละลายปิดกิจการไปนั้น ทำอย่างไรถึงได้กลับมาแข็งแกร่งในปัจจุบันนี้

บริษัทเหล่านี้พบขุมทรัพย์อะไรหรือเปล่า

คือผมคิดอย่างนี้คับ บริษัทตอนปี40ที่มีหนี้มากเขายอมปิดกิจการแล้วมาประนอมหนี้กันว่าเจ้าหนี้จะยอมลดหนี้ให้เท่าไหร่ใช่ไหมคับ แต่กรีซตอนนี้ยุโรปยังซื้อเวลากันอยู่ให้ยอมให้กรีซล้มละลายคับแล้วมาประนอมกันถ้ายอมเมื่อไหร่ผมก็ถือว่าปัญหามีทางออกแล้ว ที่ประวิงเวลากันอยู่ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าประเทศใหญ่ๆในยุโรปอย่างเยอรมันกำลังขอเวลานอกเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือแบงค์ของตนเองอยู่เป็นได้นะคับ

ถ้ามีการลดหนี้ ความเสียหายย่อมเกิดแก่ผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ ถ้าไม่มีการเพิ่มทุนให้เจ้าหนี้กันอย่างรวดเร็ว ความแตกตื่นก็จะเปลี่ยนจากกรีซเป็นสถาบันการเงินต่างๆ ก็จะเกิดความลือว่าธนาคารนั้นจะล้ม ธนาคารนี้จะล้ม ประชาชนก็จะแห่กันไปถอนเงิน

ในเมื่อเราก็รู้อยู่แล้วว่า มีสถาบันการเงินไหนจะได้รับความเสียหาย และเสียหายมากน้อยแค่ไหน การเตรียมการเพิ่มทุนให้แก่สถาบันต่างๆให้ตลาดมั่นใจพร้อมกับการประนอมหนี้ให้กรีซ ก็จะเป็นการดี

ในที่สุดก็ยุโรปก็คงจะหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับกรีซได้คับ ผมขอรอดูต่อไปก่อนอีกซักระยะหนึ่งบางทีผมอาจจะตกรถไปแล้วก็ได้คับ

ปล.ข้อสังเกตุผมคือเมื่อเกิดวิกฤตศก.หนักๆ2ครั้งล่าสุดจุดต่ำจุดของดัชนีบ้านเรายกตัวสูงขึ้นเพราะฉะนั้นคราวนี้ยังไงผมก็เชื่อว่าไม่มีทางได้เห็นแถว300ปลายแน่ๆ เพราะศก.ภายในบ้านเราแข็งแกร่งมากๆคับ

มุม1

http://www.ryt9.com/s/iq05/1252311
บล.ภัทร ลดเป้าดัชนี SET ปีนี้เหลือ 920 จุดจาก 1,100 จุดรับวิกฤติศก.โลก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2554 16:18:17 น.

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมกรผู้ตัดการ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.ภัทร กล่าวว่า บล.ภัทรได้ปรับลดเป้าดัชนีหุ้นไทยในปีนี้มาที่ 920 จุดจากเดิมเป้าอยู่ที่ 1,100 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทั้งยุโรปและสหรัฐ โดยในยุโรปกังวลปัญหาหนี้ในกรีซ และอาจผิดนัดชำระหนี้ และจะลุกลามไปสู่ภาคสถาบันการเงิน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังชะลอตัว ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย

ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า (ปี 55) จะมีความผันผวนสูง ดังนั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสดให้มากที่สุด เพื่อรอให้สถานการณ์ต่างๆชัดเจน จึงค่อยกลับมาตัดสินใจลงทุน

มุม2

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2554 09:04:08 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นทั่วโลก..
..
อย่างไรก็ตาม มองว่ากรอบการขึ้นในครั้งนี้เป็นเพียงแค่การรีบาวน์ ยังไม่ใช่การขึ้นที่แท้จริง เพราะฉะนั้นเมื่อตลาดฯปรับตัวขึ้นมา จึงแนะนำให้ทยอยขายไปก่อนเพื่อจะลดพอร์ต เพราะสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปยังไม่สิ้นสุด

ความเห็นของผมเอง ผมเชื่อแนวคิดที่ว่า ปัญหา US แต่ละประเด็นคลี่คลายง่ายกว่า EU เพราะการเมืองเล่นกันแค่ 2 ขั้ว ขณะที่ EU มีไม่รู้กี่ก๊กกี่เหล่า ทั้งศึกนอกศึกใน

เอางี้ไหมครับ ตีปัญหาให้เป็นเรื่องตลกที่อิงกับความจริงแล้วดู

เมกา คนหัวล้านที่มีหนี้ แต่หนี้กระเป๋าซ้ายกับกระเป๋าขวา มันก้คือกัน

พิมพ์แบงค์ได้ไม่อั้น และก้ถือเป็นเจ้าหนี้อันดับต้นๆๆของคนเตี้ยอุ้มค่อม

ยุโรป คนไม่สูงอยู่ในภาวะ เตี้ยอุ้มค่อม คนที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ สุดจนถึงลำดับ 4

ก้คือ เยอรมัน ฝรั่งเศษ อิตาลี่ สเปน

แค่หนี้บ้านตัวก้ยังจะปวดหัว ยังอุ้มหนี้ บ้านน้องเมีย และบ้านกิ๊กไป อีก

จีน เจ้าหนี้ใหญ่คนหัวโล้น ถือครองพันธบัตรเมกาไว้เพียบ แถมยังมีแนวโน้มจะไปช่วย

แจวเรือ กอนโดล่า ในอนาคต

จะเกิดอะไรถ้ายุโรปล้ม

ยุโรป ชักดาบเมกา เมกาชักดาบจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รัสเซีย

แล้วคนที่เจอชักดาบจะทำไง

คำตอบง่ายๆๆ ก้ยำติงสิครับ สงครามเห็นๆๆ เมกาต้องการจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว

เพราะจะได้ผูกค่าเงินเพื่อลดหนี้ เหมือนกับที่เคยทำ

ประเด็นคือ จีนและรัสเซีย จะทนต่อแรงกดดันในเกมนี้ได้ไหม


ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

ถึงวันนี้แล้ว ดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นอีกพอสมควรเลย

Set ก็เพิ่มขึ้น ต่างชาติก็เป็นฝ่ายซื้อสุทธิแล้ว ทั้งๆที่ไทยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมใหญ่ กระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง แต่ทำไมหุ้นไม่ตก

ใครที่ถือเงินสดอยู่กำลังกังวลไหมว่า บางทีจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว สถานการณ์ต่างๆดูเหมือน ข่าวดีตลาดตอบรับ ข่าวร้านไม่กระทบ

ยิ่งลังเล ไม่ได้ซื้อหุ้น หุ้นก็ขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเหตุการณ์สงบ นักวิเคราะห์บางคนก็บอกว่าเงินทุนอาจไหลเข้าเอเชียมากซะด้วย เพราะเป็นที่เดียวในโลกที่ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีอยู่

แต่จะซื้อก็กลัวติดหุ้น ราคาก็ปรับสูงขึ้นจาก Low พอประมาณ ข่าวปัญหาทางเศรษฐกิจก็ยังอาจจะแค่ยืดปัญหาออกไป น้ำท่วมก็ยังหนักอยู่อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจมาก ถ้าท่วมกรุงเทพ เซียนหลายๆคน รวมทั้งนักวิเคราะห์ชื่อดังทั้งหลายก็บอกว่าอาจจะลงไปอีกพอสมควร

ชีวิตนักเล่นหุ้นมาพร้อมความเครียดจริงๆ

^^ เอาครับพี่ chatchai

ที่ปรับฐานเพราะ greece + US recession คือจุดเปลี่ยนเกมรอบที่หนึ่ง

น้ำท่วมคือรอบที่สอง

ปีนี้หลายคนจากไม่มีกำไรมากำไรบานช่วงนี้

บางคนที่มีกำไรบาน ถือไว้หายหมด บางคนถึงจากกำไรมากถึงขาดทุนหนัก

อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ตอนนี้ผมก็ยังมองไม่ออก แต่เห็นชัดว่าน้ำท่วมกดดันกลุ่มไหนตัวไหนอยุ่บ้างทำให้ยัง rebound ไม่ได้ เผลอๆ ถ้า greece กลับมาทำให้ตลาด panic อีกรอบจะไม่ได้ rebound เลย เสียรอบไปหมดแล้ว

บางตัวถ้าด้วยผลประกอบการเฉลี่ยและ growth outlook คงไม่มีโอกาสได้วิ่งเลยแต่เพราะมีน้ำท่วมจึงมีแรงเก็งกำไรเข้าไปมากมายเพราะมองว่าได้รับผลประโยชน์

ตอนนี้คงต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิดครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เช่นปลายเดือน 11 นี่มีอุกกาบาตโคจรเข้าใกล้โลกที่สุด เห็นเหมือนมีกระแสบอกว่าจะทำให้ระบบ electronics ต่างๆล่ม ....

อันนี้ไม่เกี่ยวแต่ล่าสุดมีการค้นพบว่ามี particle ที่มีความเร็วมากกว่าแสง ถึงกับทำวงการ physics ช๊อคและงงหนักเลย ที่พูดคือจะบอกว่า ปีนี้คงเป็นปีที่มีสิ่ง "เหนือคาด" สำหรับหลายๆอย่าง

ดู tsunami ญี่ปุ่น... ตอนนั้นผมถึงกับสวดช่วยคนที่นั้นพร้อมกับคิดว่าโชคดีจริงๆที่ประเทศเราไม่มีอะไรแบบนี้ เพราะเห็นคนเจ็บตายหายตัว แถมตลาดหุ้นเละแบบดูไม่ได้ แบบใครถือ tepco อยู่คงตายกันไปข้าง... ไม่ทันไร..... เกิดขึ้นจนได้

เยอะแยะไปหมด ผมก็ไม่รู้แล้ว ตอนนี้ขอยึดใน "ความเชื่อ" อย่างเดียวว่าเส้นราคากับเส้นกำไรไปด้วยกัน

ขาใหญ่ เซียนหุ้นตัวจริง นักเทรดที่อยู่ในตลาดมานาน ประสบการณ์เรียกได้ว่าช่ำชอง
เหล่านี้ไม่น่าห่วงหรอกครับ ทุกคนรวดเร็วมากกับการเกาะติดเทรนด์ของตลาด
เรียกว่ากลับตัว 180 องศา ได้อย่างสบาย
จะมีก็แต่รายย่อยมือใหม่ที่อาศัยเกาะกระแสตาม ๆ เขาไปนี่แหละที่น่าห่วง

เกาะติดกิจการของตัวเองน่าจะปลอดภัยที่สุด

............................................
ทั้งในวิกฤตหรือภาวะปกติ
ตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ทุกคน(ที่มีหุ้นในพอร์ต)เสมอ

chatchai เขียน:จะซื้อก็กลัวแค่ Rebounce

ถือเงินสด ก็กลัวหุ้นไท่ลงแล้ว

ชีวิตนักเล่นหุ้น ช่างเครียดดีจริงๆ

chatchai เขียน:ตอนนี้หุ้นยุโรปก็บวก 3% กว่าๆ

ดาวโจน์ก็เลย 11,000 จุดไปแล้ว

พรุ่งนี้จะเอายังไงดี Set จะมีจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง

ใครมีความคิดแบบนี้บ้าง ผมเคยเป็นมาก่อน

chatchai เขียน:ถึงวันนี้แล้ว ดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นอีกพอสมควรเลย

Set ก็เพิ่มขึ้น ต่างชาติก็เป็นฝ่ายซื้อสุทธิแล้ว ทั้งๆที่ไทยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมใหญ่ กระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง แต่ทำไมหุ้นไม่ตก

ใครที่ถือเงินสดอยู่กำลังกังวลไหมว่า บางทีจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว สถานการณ์ต่างๆดูเหมือน ข่าวดีตลาดตอบรับ ข่าวร้านไม่กระทบ

ยิ่งลังเล ไม่ได้ซื้อหุ้น หุ้นก็ขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเหตุการณ์สงบ นักวิเคราะห์บางคนก็บอกว่าเงินทุนอาจไหลเข้าเอเชียมากซะด้วย เพราะเป็นที่เดียวในโลกที่ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีอยู่

แต่จะซื้อก็กลัวติดหุ้น ราคาก็ปรับสูงขึ้นจาก Low พอประมาณ ข่าวปัญหาทางเศรษฐกิจก็ยังอาจจะแค่ยืดปัญหาออกไป น้ำท่วมก็ยังหนักอยู่อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจมาก ถ้าท่วมกรุงเทพ เซียนหลายๆคน รวมทั้งนักวิเคราะห์ชื่อดังทั้งหลายก็บอกว่าอาจจะลงไปอีกพอสมควร

ชีวิตนักเล่นหุ้นมาพร้อมความเครียดจริงๆ

chatchai เขียน:ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่า เราควรจะขายเพื่อที่จะซื้อในราคาที่ต่ำกว่า หรือ ควรถือลงทุนต่อไป

เพราะคงขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ความสามารถและสภาพจิตใจเฉพาะตัวครับ

สำหรับผมแล้ว ผมยึดมั่นในการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของกิจการครับ มีความคิดว่าเมื่อกิจการเติบโต ผลตอบแทนจากกิจการมาให้เราก็จะเติบโตตามครับ ไม่ได้คาดหวังว่าผลตอบแทนจะมาจากการขายหุ้นให้ใครในราคาสูงๆ

ดังนั้น เมื่อผมซื้อหุ้นไปแล้ว จำนวนเงินก็เปลี่ยนเป็นจำนวนหุ้นหรือสัดส่วนความเป็นเจ้าของกิจการไปแล้วครับ ราคาจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร สัดส่วนความเป็นเจ้าของกิจการก็เท่าเดิม แล้วถ้าแนวโน้มกิจการยังไปได้ดีตามที่คาดหมายอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะกลุ้มใจไปทำไม

แต่แน่นอนว่า เมื่อมีวิกฤต เราต้องมีความรู้ที่มากจนเพียงพอว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทที่เราเป็นเจ้าของกิจการมากน้อยแค่ไหน

ผมผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง เมื่อปี 40 ผมขายหุ้นล้างพอร์ตไปก่อนหน้า เพราะวิเคราะห์แล้วเห็นผลกระทบต่อบริษัทต่างๆอย่างมาก

ส่วนเมื่อครั้ง Sub Prime หรือครั้งอื่นๆ ผมไม่เคยขายหุ้นเลย เพราะวิเคราะห์แล้วว่าส่งผลกระทบต่อบริษัทในวงจำกัด ซึ่งต่อมาก็พิสูจน์แล้วว่าผมคาดการณ์ผลการดำเนินงานได้ถูกต้อง

ผมว่าพี่ฉัตรชัยสอนน้องๆอยู่นะครับ...เป็นเจ้าของกิจการกันเสียที...เลิก"เล่น"หุ้นได้เเล้วครับ

ลองกลับมาดูPostหน้านี้...http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... &start=150
เพื่อนๆจะได้พบความต่างระหว่างนัก"ลงทุน"หุ้นกับนัก"เล่น"หุ้น...คนนึงมองกิจการ อีกคนมองราคาล้วนๆ

อันนี้เป็นหน้าล่าสุดของหุ้นตัวนั้น...http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... start=1860
ใครที่ยังอยู่ ใครที่ยังมีความสุขกับการมองกิจการเติบโต ใครที่จะเจอหุ้นหลายเด้งเเละใครที่ต้องหาหุ้นตัวอื่นไปเรื่อยๆไป อยู่ในหุ้นตัวนั้นวันสองวัน เดือนสองเดือนเเล้วจากไป(ไม่ว่าจะขายหมู Cut Loss, SAPแล้วเศร้าเพราะราคาไม่กลับมา)
กลางคืนต้องดูดาว เช้าจ้องHungseng ตกบ่ายดูแดกซ์ ก่อนเเ-กข้าว ตลาดจะปิดต้องRefreshดู Dow Future เหนื่อยนะครับ ผมลองมาเเล้ว ยิ่งเจอหมี"ตบ"ครั้งเเรกในชีวิตเมื่อวันที่ 26/9/54 ภาพมันยิ่งชัดมากว่าต้องพัฒนาตนเองให้เป็น"นักลงทุน"ให้ได้...

เเล้วคุณละอยากเป็นเเบบไหน? นัก"เล่น"หรือนัก"ลงทุน"

เลิกสนดัชนีเถ้อ จะขึ้นจะลง สนใจกิจการที่ดูๆ ก็พอ ถ้ามันไม่ถูก mos ไม่มี หรือมีไม่คุ้ม ก็อย่าไปซื้อ ไม่ใช่หุ้นขึ้นสองวัน เต้นตาม ลงสองวันเต้นตาม เงินสดถือไว้บ้างก็ดี ถ้าเราไม่ได้เข้าหุ้นตอนต่ำๆ หรือสมัยดัชนีรวม 200-400 กว่าก็อย่าไปบ้าจี้ซื้อๆ เพราะคนอื่นที่เค้าทุนต่ำๆจะพุดเชียร์ก็ไม่แปลก เค้า mos จะฟังจะทำอะไรพิจารณาพื้นฐานตัวเองด้วย ไม่ใช่อค่กิจการ

แต่วันนี้ผมก็ดีใจที่มีเงินสดถือไว้บ้าง หุ้นร่วงๆ ลงมา ก็ได้สอยๆ หุ้นที่เล็งบ้าง สะสมๆ แต่ก็ยังไม่ถูกอยู่ดีเฮ้อ

เห็นด้วยครับ ถือเงินสดไว้บ้าง เพื่อรอโอกาสดีๆ ส่วนการได้มาของเงินสดมีหลายวิธี บางครั้งการขายหุ้นก็ได้เงินสดเหมือนกันเเต่...ถ้าเราถ้าหุ้นนั้นมันยังไม่ถึงมูลค่าที่เรากะไว้ ก็ไม่น่าจะขายกิจการ(ที่เราอุตส่าห์ลงทุนทำการบ้านมา)ออก

ของผมตอนนี้รีดเงินสดจากการทำงานครับ ขยันขึ้น ประหยัดขึ้น กักตุนเงินสดไปเรื่อยๆให้ได้ตามเป้า...ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติหรือไม่ก็ตาม

และถ้าของถูกเต็มตลาดอย่างเช่นช่วงเดือน พ.ย. 51 ผมคงรีดเงินสดจากวิธีอ่นเพิ่มอีก
ตอนนี้รู้ว่าทำงานหนักขึ้นมันไม่เหนื่อยอย่างที่คิด ถ้าเรามีเป้าหมาย

ไม่ว่าตลาดจะ Crash หรือไม่ มันก็ดีทั้งนั้นสำหรับผม...

"ดูให้ดีมีเเต่ได้ไม่มีเสีย"ครับ...

วันนี้หุ้นปรับตัวลดลงพอสมควรเลย หลังจากเอากบเข้าหม้อมาได้แปปนึง

ข่าวดีก็แล้ว ข่าวอะไรก็แล้ว ดันกันได้แค่นี้ ร่วงลงมา ก็เช็คๆ หุ้นที่สนใจ ถึงที่อยากได้รึยัง MOS มีไหม

ถือเงินสดก็สบายชอปปิ้งแฮปปี้ ชิวๆ แต่หุ้นก็ยังไม่ถูกซะที เซ็ง สะสมได้บ้างอะไรบ้างจากที่ร่วงหนักๆรอบก่อน หวังว่ารอบนี้คงได้อีกสักไม้สองไม้

ต้องอย่าเป็นกบให้เค้าต้ม ไม่ใช่เห็นหุ้นขึ้นทีก็กระโดดเย้วๆ กันที กลัวตกรถมั่งอะไรมั่ง ใจร่มๆ ใจเย็นๆ แล้วจะดีเอง อดทนๆ

รู้จักถือเงินสดไว้บ้าง ดูทางหนีทีไล่เป็น ก็จะมีความสุข

beaeaebe เขียน:วันนี้หุ้นปรับตัวลดลงพอสมควรเลย หลังจากเอากบเข้าหม้อมาได้แปปนึง

ข่าวดีก็แล้ว ข่าวอะไรก็แล้ว ดันกันได้แค่นี้

เปิดทีวี เปิดเน็ท เห็นมีแต่ข่าวกลัวน้ำจะท่วมกรุงเทพ ข่าวดี??

beaeaebe เขียน:ไม่ใช่เห็นหุ้นขึ้นทีก็กระโดดเย้วๆ กันที กลัวตกรถมั่งอะไรมั่ง ใจร่มๆ ใจเย็นๆ แล้วจะดีเอง อดทนๆ

รู้จักถือเงินสดไว้บ้าง ดูทางหนีทีไล่เป็น ก็จะมีความสุข

อันนี้เห็นด้วยนะ ไม่ใช่เวลาจะมาไล่ซื้อตอนขึ้น

แต่ก็ไม่ใช่เห็นหุ้นลงทีก็กระโดดเย้วๆ กัน แช่งมั่ง อะไรมั่ง

ดำ เขียน:

beaeaebe เขียน:วันนี้หุ้นปรับตัวลดลงพอสมควรเลย หลังจากเอากบเข้าหม้อมาได้แปปนึง

ข่าวดีก็แล้ว ข่าวอะไรก็แล้ว ดันกันได้แค่นี้

เปิดทีวี เปิดเน็ท เห็นมีแต่ข่าวกลัวน้ำจะท่วมกรุงเทพ ข่าวดี??

beaeaebe เขียน:ไม่ใช่เห็นหุ้นขึ้นทีก็กระโดดเย้วๆ กันที กลัวตกรถมั่งอะไรมั่ง ใจร่มๆ ใจเย็นๆ แล้วจะดีเอง อดทนๆ

รู้จักถือเงินสดไว้บ้าง ดูทางหนีทีไล่เป็น ก็จะมีความสุข

อันนี้เห็นด้วยนะ ไม่ใช่เวลาจะมาไล่ซื้อตอนขึ้น

แต่ก็ไม่ใช่เห็นหุ้นลงทีก็กระโดดเย้วๆ กัน แช่งมั่ง อะไรมั่ง

เห็นด้วยทั้งหมดครับ

setถูกตบขึ้นตบลงได้ด้วยหุ้นใหญ่ไม่กี่ตัว ใช้setชี้นำการลงทุนคงลำบาก
setขยับขึ้นวิ่งไล่ซื้อ setหักหัวลงแย่งกันขาย โดยไม่เลือกว่าเป็นหุ้นตัวไหน
โดนเทเหมือนกันหมด ปัจจัยพื้นฐานหุ้นแต่ละตัวลืมซะงั้น
tradeแบบนี้เข้าทางรายใหญ่

แต่คงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่บ่น
เรื่องตกใจไร้สาเหตุยกให้ผู้คนในตลาดหุ้นไทย
วันนี้ก็คงได้แชมป์เอซียอีกตามเคย

หวังว่าสัปดาห์หน้า สถานการณ์น้ำท่วมชัดเจน
ปลายเดือนยุโรปอาจจะเคลียร์มากขึ้น
จิตใจผู้คนอาจกลับสู่ปกติ

beaeaebe เขียน:วันนี้หุ้นปรับตัวลดลงพอสมควรเลย หลังจากเอากบเข้าหม้อมาได้แปปนึง

ข่าวดีก็แล้ว ข่าวอะไรก็แล้ว ดันกันได้แค่นี้ ร่วงลงมา ก็เช็คๆ หุ้นที่สนใจ ถึงที่อยากได้รึยัง MOS มีไหม

ถือเงินสดก็สบายชอปปิ้งแฮปปี้ ชิวๆ แต่หุ้นก็ยังไม่ถูกซะที เซ็ง สะสมได้บ้างอะไรบ้างจากที่ร่วงหนักๆรอบก่อน หวังว่ารอบนี้คงได้อีกสักไม้สองไม้

ต้องอย่าเป็นกบให้เค้าต้ม ไม่ใช่เห็นหุ้นขึ้นทีก็กระโดดเย้วๆ กันที กลัวตกรถมั่งอะไรมั่ง ใจร่มๆ ใจเย็นๆ แล้วจะดีเอง อดทนๆ

รู้จักถือเงินสดไว้บ้าง ดูทางหนีทีไล่เป็น ก็จะมีความสุข

ผมก็ตั้งรับทิ้งไว้ทุกวันเป็นไม้ๆ เเบบต่อราคาหน้าเลือด...ตอนเเรกคิดว่าบางตัวไปเเล้ว
Timingตลาดยากมาก เลยใช้วิธีนี้, ส่วน10%ของเงินเดือนก็ฝากBrokeซื้อเเบบDCAไปเรื่อยๆ...อยากได้Linkกระทู้"ต้มกบ"ครับ

เกือบเดือนที่ผ่านมานี้ การที่หลุด 1000 จุด(จิตวิทยา) แล้ว panic ลงไป 843 (ขายแหละ) การเด้งมาได้ถึง 950 ผมว่าธรรมดามาก
ผมเชื่อว่า ใน 1 เดือนข้างมันจะปรับตัวแคบเข้าหา จุดสมดุล ค่าใดค่าหนึ่ง อาจจะ 900 ฉะนั้นระหว่างนี้อาจมี 860 880 อีก แล้วก็มีเด้ง มา 910 930 อีก
ข้างบนนี้ เทคนิคล้วนๆ

ที่เป็นอย่างนั้น เพราะ กรีซ ยังไม่จบ มีขอลดหนี้ มียืดระยะเวลาใช้หนี้ พักหนี้ ขายของถูกๆ ออกจาก ยูโรป คงใช้เวลา 6เดือน - 1 ปี กว่าจะตัดใจ
ใช้เวลาอีก X ปี กว่าจะฟื้น
อีก 4 ประเทศ PIIS จะเป็นงัย แบบ กรีซไหม??
ธนาคารใน ฝรั่งเศษ เยอรมัน อังกฤษ และ อื่นๆ จะต้องลดทุน 30 % 50% 90% (แบบ 10 เหลือ 1 บางธนาคารอาจ 100 เหลือ 1) แล้ว เพิ่มทุน (รัฐ หรือ องค์กร จะมาช่วยลงทุน ก็ต้องแน่ใจว่า ลงไปแล้วเงินไม่หาย ก็ต้องกดราคารับซื้อหุ้นเพิ่มทุน)

ผมเชื่อว่าราคาหุ้นของธนาคารเหล่านี้ เหมาะสมกะสภาพฐานะขณะนี้แล้ว แต่ถ้าเหตุการณใน อีก 6 เดือนข้างหน้า ..... ลงได้อีกแยะ
มองยาวๆอีกนิด แค่ 1 เดือนที่ผ่านมา กะอีก 1 เดือนข้างหน้ายังบอกอะไรไม่ชัดหรอก