Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 16, 2012 1:44 pm
เข้าไปดูตามลิ้งค์ ทำไมกลายเป็น ดร.ศุภวฺุฒิ หว่า?
ให้เลือกดูวันที่ 13 มีนาคม 2555 ครับดำ เขียน:เข้าไปดูตามลิ้งค์ ทำไมกลายเป็น ดร.ศุภวฺุฒิ หว่า?
ขอบคุณมากครับ ยิ่งฟังยิ่งศรัทธา อาจารย์นิเวศน์ idol ของผมครับ ผมได้มีโอกาสพบท่านและเข้าไปทักท่าน เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 55 ที่ผ่านมา แต่คุยนิดเดียวเพราะคนรอคิวเยอะ มีความรู้สึกว่าอาจารย์เป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีมากIi'8N เขียน:http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... p?listid=5
ดร. พูดแบบข้างบนเลย
รายการตอนนี้ น่าสนใจคือ .... ดร.นิเวศน์ ออกรายการกับคุณภาววิทย์
จริงๆผมว่านอกจากท่านอาจารย์ นิเวศน์ ยังท่านอาจารย์ไพบูลย์ อาจารย์ถาวร พอได้คุยviim เขียน:ขอบคุณมากครับ ยิ่งฟังยิ่งศรัทธา อาจารย์นิเวศน์ idol ของผมครับ ผมได้มีโอกาสพบท่านและเข้าไปทักท่าน เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 55 ที่ผ่านมา แต่คุยนิดเดียวเพราะคนรอคิวเยอะ มีความรู้สึกว่าอาจารย์เป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีมากIi'8N เขียน:http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... p?listid=5
ดร. พูดแบบข้างบนเลย
รายการตอนนี้ น่าสนใจคือ .... ดร.นิเวศน์ ออกรายการกับคุณภาววิทย์
ยังเหลือรุ่นพี่เก่าๆ มาเยี่ยมเยียนน้องๆ รู้สึกอบอุ่นใจมากครับJeng เขียน:ดีครับ pekko
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ซึ่งตรงนี้อยากถามพี่เจ๋งเป็นวิทยาทานว่า
1. กรณีเงินลงทุนไม่มากและซื้อทุกเดือนในจำนวนเงินเท่าๆ กัน ถ้าหุ้นที่เราซื้อราคาตลาดต่อหุ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ มันมีผลต่อจิตวิทยาว่าเราได้จำนวนหุ้นลดน้อยลงเรื่อยๆ จนซื้อไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนอย่างเคย
กรณีนี้เราควรกำหนดจำนวนซื้อขั้นต่ำหรือไม่(แต่ไม่เกินเงินลงทุน/เดือน ถ้าราคาตลาดและพื้นฐานยังอยู่ในวิสัยที่เราพอรับได้)
2. จาก 1. ถ้ามีเงินเหลือ หรือหุ้นตัวนั้นความน่าสนใจลดลง และหุ้นตัวอื่นไม่มีตัวใดเลยที่น่าสนใจเท่าตัวเดิม เราควรจะ
2.1 ถือเงินสดไว้เฉย
2.2 ซื้อตัวหุ้นตัวเดิม
2.3 ซื้อหุ้นตัวใหม่ที่มีความน่าสนใจรองๆ ลงมา
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ทุกครั้งที่ซื้อ ก็ไม่ต้องคิดถึงของเดิม คือคิดที่ต้นทุนใหม่ไปเลย
ว่าราคาใหม่นั้น น่าซื้อหรือไม่ ถ้าน่าซื้อก็ซื้อครับ
ส่วนกรณีจะกำหนดเงินขั้นต่ำหรือไม่ ไม่ทราบเหมือนกัน คือ พอใจซื้อแค่ไหนก็ซื้อเหอะ
ถ้าราคาสูงขึ้น และตัวอื่นไม่น่าสนใจ
ก็เก็บเงินไว้ก่อน
[color=#0000FF](วิชาหยุดซื้อ คนส่วนใหญ่ฝึกไม่สำเร็จ)[/color]
ใน 1 ปี มักมีเหตุอาเพศ อะไรบางอย่าง ทำให้หุ้นลงหนักๆ
ประมาณ 1 ครั้ง ถึงเวลานั้น ค่อยซื้อก็ยังไม่สาย
อืม ถามนำหละซิ น่าจะรู้อยู่แล้ว 555
พอมันลงมาขนาดนั้น เราเริ่มไม่แน่ใจว่ามันถูก หรือเราถูกหลอก หรือเราโง่ ที่อาจจะวิเคราะห์ผิด หรือ..บริษัทเปลี่ยนไป ....Jeng เขียน:หมายเหตุ ใช้ได้กับ การซื้อหุ้นแนว vi นะครับ
หากไปซื้อตามใคร ที่ราคาสูงๆ แล้วราคาล 50 % ซื้อเพิ่ม แบบนี้ก็ไม่เวิกนะครับ
การซื้อแนว vi ถ้าจะพูดกว้างๆ ราคาที่คุณซื้อนั้น คุณมั่นใจแล้ัวว่า
โอเค เมื่อเทียบกับพื้ันฐานของหุ้นที่คุณซื้อ
ไม่ว่าคุณจะดู pe growth roa roe หนี้สิน คู่แข่ง และอื่นๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าราคาลงมา 50 % คุณต้องกระโดดดีใจ ว่าสถานการณ์แบบนี้ ทำให้คุณมีโอกาสทอง
ในการซื้อหุ้น ที่คุณศึกษามาอย่างดีแล้วว่าดีเยี่ยม แต่ซื้อได้ในราคาครึ่งเดียว
ถ้ามันลงไปอีก คือ ราคาลดลง 75 %
คุณก็ต้องว๊าว สุดยอดมาก แบบนี้ซื้อได้ในราคา หนึ่งในสี่
นั้นหมายความว่า เมื่อราคากลับมาที่เดิม คุณจะได้กำไร ตัวล่างสุด 3 ท่วมนะครับ
วิจารณ์ได้นะครับ หาทางออกให้เพื่อใครเห็นราคาลงแล้วเครียด
อย่าไปเครียดเลยครับ เพราะตอนที่ซื้อก็ซื้อเพราะกิจการมันดีไม่ใช่หรือ ไ่ม่ได้ซื้อมาขาย
ระยะสั้นๆ หากซื้อแล้วหุ้นขึ้น คุณจะซื้อเพิ่ม คุณก็ต้องซื้อแพง
vi น่าจะชอบที่จะซื้อหุ้นดี ราคาถูก นะครับ
ผมเป็นตรงข้ามนะ ผมไม่อยากซื้อ เพราะจะทำให้ต้นทุนผมสูงขึ้น...กำไร (%) ลดลงทันที... เฮ้อ...Jeng เขียน:ถ้าคิดถึงต้นทุนเดิม ก็หลอกตัวเองซิ ว่ายังซื้อต่ำอยู่
สมมุติว่า หุ้น abc ซื้อที่ราคา 5 บาท พอหุ้นขึ้นมา 10 บาท ซื้อเท่าเดิม
แล้วบอกว่า ทุนอยู่ที่ 7.5 มันก็แปลกๆนะ
ตอนแรกคือทุน 5 บาท พอขึ้นมา 10 บาท ก็ได้กำไร 100 %
แต่ยังไม่ขาย เพราะพื้นฐานไม่เปลี่ยน
แต่เห็นราคา 10 บาท เสียดาย อยากซื้อเพิ่ม
หากไม่คิดต้นทุนเดิม ที่มีกำไร
เราจะซื้อหรือไม่
แต่พอมีทุนเดิม 5 บาท
เรากดซื้อที่ 10 บาท แบบสบายๆ เพราะคิดว่ายังไงก็ยังกำไร
พี่ว่าคิดแบบ สำหรับพี่ ไม่ถูกต้องครับ
แต่สำหรับคนอื่น ไม่ทราบเหมือนกัน