Thai VI

ฮง level up ขึ้นอีกแล้ว

รวบรวมแนวความคิดได้เยี่ยมมาก

นับถือๆ

กล้วยไม้ขาว เขียน:เทพหน้าเด็กกลับมาให้ความรู้อีกครั้ง
ขอบคุณมากๆครับ อธิบายและเรียบเรียงได้ดีมากครับ

ผมพยายามจะเขียนหลักการ TA และ MM ที่ประยุกต์ใช้กับ VI เหมือนกัน
แต่อธิบายได้ไม่ดี ไม่ละเอียดและไม่ชัดเจนเท่านี้ เพราะความรู้ผมยังน้อยนัก

เดี๋ยวนี้คุณฮงสุดยอดยิ่งกว่าเดิมอีกนะครับ นอกจากลงทุนเก่งแล้วยังสอนคนเก่งอีก

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ
เรื่อง mm นี้เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงแต่ผมว่ามันก็สำคัญครับ
บางทีอาจจะอยู่ที่ขนาดของพอร์ตด้วยถ้าคนนพอร์ตใหญ่มากๆซื้อหุ้นแล้วจะไปรอขายที่ราคาเดียวที่เขาพอใจก็คงเป็นเรื่องที่ถือว่าเสี่ยง เช่น

นาย ก มีหุ้น a 10 ล้านหุ้น หุ้น ก เล่นกันวันละ ไม่เกิน 7 ล้านหุ้นเรียกว่าเฉพาะ order ที่นายคนนี้อยากออกคนเดียวก็มากกว่าที่ทั้งวันเทรดกันซะอีก เวลาจะออกจะทำไงคิดดูว่าถ้านายคนนี้โชว์ offer ออกมา 10 ล้านหุ้นใครจะไปซื้อหุ้นนายคนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนตกใจ เฮ้ย ใครตั้งขายทีเดียว 10 ล้านหุ้นว่ะไม่ยอมยกออกตั้งทุกวันเลย ถ้าตั้งขายแบบนี้คนอื่นที่อยากขายเหมือนกันก็โยนซ้ายเพราะบอกว่าขืนมาต่อคิวหลังไอ้นี้ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้ขายไหม ดังนั้นคนมีหุ้นเยอะๆคงต้องยอมขายหมูระหว่างทางบ้างเพื่อลดจำนวนหุ้นจากที่เยอะเวอร์ๆลงเพื่อเวลาหุ้นขึ้นมาถึงจุดที่ตัวเองพอใจจะได้ออกที่เหลือได้หมดแบบนี้เป็นต้น

ผมคิดว่าถึงเป็น vi ก็ไม่เสียหายที่จะรู้เรื่องบริหารพอร์ตไว้บ้างครับเพราะสุดท้ายถ้าคุณได้ผลตอบแทนไปเรื่อยๆระยะยาวพอร์ตคุณก็จะโตถึงจุดที่ไม่สามารถเคาะขวาทีเดียวหมดโยนซ้ายทีเดียวหมดได้แบบตอนพอร์ตเล็กๆ

ความเห็นผมประมาณนี้ครับ

ต่อแถวๆ ฟังอาจารย์ฮงวายู

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับหลายคนก็ที่มา comment ก็เก่งมากๆ ถ้าช่วยๆกันเขียนเนื้อหาเพิ่มด้วยก็จะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ยิ่งขึ้นครับ

พูดจริงๆว่าเนื้อหาที่โพสกับเนื้อหาที่สอนจริงๆไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ เพราะตอนสอนก็พูดเรื่องกราฟแต่ไอ้ที่โพสตะกี้ต้องคิดสดเพราะที่นี้ไม่ให้โพสเรื่องกราฟ

6.เหตุผลที่ใช้ซื้อกับขายคนละเหตุผล
เช่น ซื้อหุ้นแบบ nav เพราะประเมิณว่ามีสินทรัพย์มากและน่าจะ unlock แต่ปรากฏว่าพอไม่ unlock ก็หันมาบอกว่า แต่หุ้นเขาก็ยังดีนะปีหน้าน่าจะเริ่มปันผลได้แล้วนะ แถมปีนี้ยอดขายโตตั้ง 5% สุดยอดเลยนะตัวเอง บริษัทที่ปีหน้า(คาดว่าจะปันผลได้)กับยอดขายโตขนาดนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะ เรื่องประมาณนี้พอเคยเจอกับตัวจริงๆนะครับ คือถ้าตอนคุณซื้อคุณคิดว่าราคาจะขึ้นเพราะอะไรแต่พอเรื่องนั้นมันไม่เกิดขึ้นแล้วคุณก็หันไปพูดประเด็นอื่นแทนก็เข้าข่ายนี้ครับ

ข้อ 7 ก็คือนักลงทุนที่ดูงบส่วนใหญ่ชอบจะดูบรรทัดสุดท้ายแต่ผมว่าแนวคิดแบบนี้ไม่ปลอดภัยผมจะให้ดูอะไรบางอย่าง

งงไหม บริษัทอะไรค่าเสื่อมลดลงตั้งเกือบครึ่งแนะไม่มีสินทรัพย์ไว้ดำเนินธุรกิจแล้วหรืออย่างไร บางคนอ่านแล้วก็ผ่านไปไม่ได้สังเกตุอะไรไปสนตรงที่กำไรมันโตเยอะ แต่จริงๆแล้วถ้าเขาได้กำไรเท่าไหร่คุณจะหักกำไรของเขาออกด้วยตัวเลข 43 ล้านตัวเลขนี้มาจากไหนก็มาจากรูปนี้
ก็คือจริงๆแล้วมีการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ซึ่งทำให้ค่าเสื่อมลดลง(คิดว่าอายุการใช้งานนานขึ้นค่าเสื่อมต่อปีก็เลยลดลง)ซึ่งค่าเสื่อมลดทำให้กำไรเพิ่มขึ้นแต่ถ้าเราเทียบกับปี 2552 ซึ่งไม่ได้ใช้เกณฑ์แบบนี้ตัวเลขที่ได้จะไม่สามารถเทียบกันได้ตรงๆเราเลยต้องปรับเล็กน้อย

ผมเอางบบริษัทจดทะเบียนจริงๆมาให้ดูโดยไม่ได้ให้เห็นชื่อหุ้น
ผมไม่ได้สื่อว่าบริษัทนี้น่าซื้อหรือไม่น่าซื้อ ผมไม่รู้ผมเพียงแต่จะพูดเรื่องบัญชีที่มือใหม่ควรระวังใครที่รู้ว่าเป็นบริษัทไหนก็ไม่จำเป็นต้องพูดชื่อหุ้นก็ได้เพราะเดี่ยวคนนึกว่ามาเชียร์มาทุบ ผมไม่ได้มีหุ้นตัวนี้และไม่ได้เตรียมจะเก็บหุ้นตัวนี้นะครับ กรุณาเข้าใจไว้ก่อน มันเป็นเพียงแค่เอกสารประกอบการโพส

นอกจากประเด็นนี้ก็มีอีกเยอะแต่คงบรรยายไม่หมด เอาเป็นว่าถ้าเห็นกำไรแบบไม่ได้มาจากการดำเนินงานคุณก็หักออกไป ขาดทุนที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานคุณก็บวกกลับเข้ามาประมาณนี้ครับ

หายไปนานเลยนะครับ

ขอบคุณครับ เยี่ยมมากครับ

ขอบคุณพี่ฮงมากๆครับบบ

ยอดเยี่ยมครับ

รออ่านต่อครับ ขอบคุณครับ

MM คืออะไร ย่อมาจากอะไรหรอครับ

picklife เขียน:MM คืออะไร ย่อมาจากอะไรหรอครับ

Money Management บริหารหน้าตัก บริหารเงิน บริหารทุน.

ประมาณนี้ครับ ใช่ป่าวหว่า

picklife เขียน:MM คืออะไร ย่อมาจากอะไรหรอครับ

ละลายในปากไม่ละลายในมือเคยกินไหมครับ

ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์
พร้อมสูบทุกความรู้ที่คุณมี แต่เน้นเฉพาะการวิเคราะห์มูลค่าเชิงปัจจัยพื้นฐาน

hongvalue เขียน:

picklife เขียน:MM คืออะไร ย่อมาจากอะไรหรอครับ

ละลายในปากไม่ละลายในมือเคยกินไหมครับ

อ้วตกลงคือสายไหม หรือครับ

ขอบคุณคร้าบ อ.ฮง
ได้ความรู้มากมายเลยครับ

hongvalue เขียน:

picklife เขียน:MM คืออะไร ย่อมาจากอะไรหรอครับ

ละลายในปากไม่ละลายในมือเคยกินไหมครับ

มุขแป๊กเหรอ อายจังไม่มีคนออกมาฮาเลยอะ

คือจริงๆตอนแรกคิดว่าจะไม่เขียนต่อเพราะเห็นคนไปมุงดูดราม่ากันหมดเลยคิดว่าเขียนไปคนคงไม่ได้เข้ามาอ่านแต่วันนี้ดราม่าจบแล้วมีคนบอกรอฟังต่อก็เลยต่อล่ะกัน


ขอเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่อง pbv สนุกๆล่ะกัน
อันนี้เอาให้ดูเป็นเอกสารของปี 2008 ปลายปี
เอ้า ทำตัวแดงอีกทีว่าไม่ได้ใบ้หุ้นเป็นเอกสาร 3 ปีก่อน

เอามาให้ดูเผื่อบางทีไม่เคยผ่าน crisis ว่าเวลาตลาดแย่ๆหุ้นที่เทรดต่ำกว่า 20% ของ bv ก็มีหลายตัวทีเดียวและข้อสัุงเกตุของผมก็คือว่า pbv ที่ถูกมากๆแบบสุดๆอาจจะไม่ได้การันตีว่าเวลาตลาดฟื้นตัวแล้วหุ้นพวกนั้นไม่จำเป็นต้องวิ่งแรงที่สุดผมยกตัวอย่าง
pf rcl thcom พวกนี้ขึ้นน้อยกว่าตลาดอีกทั้งๆที่ pbv มันต่ำมากๆในตอนนั้นเพราะกำไรมันไม่ได้กลับมา ส่วนอีกหลายตัวก็ perform เท่าตลาดทั้งๆที่ pbv ก็ถูกสุดๆ ตัวที่ outperforme สุดๆเลยคือ kce thai ที่กำไรมัน turnaround กลับมา
จริงๆแล้วถ้าไปดูหุ้น 10 เด้งหลายๆตัวว่าตอน bottom pbv เท่าไหร่แล้วผมว่าจะเห็นภาพเองว่าถ้าคุณอยากรวยปัจจัยอะไรกันแน่ที่สำคัญในการจะหาหุ้นเทพ

ไหนๆพูดเรื่อง pbv ขึ้นมาแล้วผมเลยขอโชว์ slide หุ้น 10 เด้ง kce ที่ผมเพืงทำเสร็จไว้ซัก 3 อันแล้วกันคราวนี้ cap ให้เต็มรูปเลยไม่แหว่งแล้ว

ก่อนเล่าขอให้อ่านตรงนี้ก่อน
ผมไม่ได้มีหุ้น kce ใครสิ่งที่จะเล่าเป็นเพียงเรื่องในอดีตสิ่งที่จะเล่าไม่ได้มีการคาดการณ์อนาคต ไม่ได้มีการชี้นำราคาเป้าหมาย
อันนี้ผมไปดูมาว่า kce ในตอนนั้นขาดทุนหนักเพราะอะไรก็ได้รู้มาว่าส่วนนึงมาจากการเฮดราคาทองแดงพลาดซึ่งมันก็ตามาด้วยรูปนี้
อย่างที่รู้ๆกันคือก่อนหน้านี้ kce จะมีของเสียเยอะซึ่งภายหลังได้โปรแกรม sap มาทำให้ลดของเสียไปได้เยอะแล้วกำลังผลิตเขาก็กลับตาม auto industry ถ้าไปดู gross margin ของเขาในช่วงที่ order กลับที่ผมไปทำตัวเลขมามันสูงถึง 24-25% ที่นี้ตอนนั้นถ้าคุณไปดูจะเห็นว่าเขาปิดโรงงานบางปูไปกำไรยังดีขนาดนั้นเลยถ้าเปิดใหม่ล่ะกำไรจะขนาดไหน อะไรทำนองนี้

คือผมบอกก่อนว่าผมไม่ได้รวยจาก kce แต่ผมอยากรู้ว่าการจะรวยจากวิกฤติเราจะย้อนรอยอะไรได้บ้างที่ผมทำเอกสารเป็น excel แล้วค่อยลง pwp เพราะอะไรเพราะอีกหน่อยพอเกิดวิกฤติอีกผมคงจำไม่ได้แล้วถ้าแค่เคยอ่านผ่านๆแต่ถ้าทำ presentation ไว้ละเอียดมากๆ แค่เปิดย้อนดูก็ได้ case study ดีๆเพียบเลยจริงไหม ผมเลยยอมนั่งไล่ story หุ้นทุกตัว จริงๆของ kce มันละเอียดกว่านี้มากๆแต่นี้ไม่ใช่กระทู้หุ้น 10 เด้งเลยขอพูดแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ

สุดท้ายนี้ให้ดูการฟื้นตัวของกำไร ที่นี้ไอ้การทำเรื่องพวกนี้เราจะทำแค่หุ้นตัวนี้ไม่ได้เพราะว่ามันจะมีข้อสงสัยว่าทำไมเราไม่เลือกตัวอื่นในกลุ่มนั้นแทนในตอนนั้นซึ่งผมก็มีการศึกษาในเรื่องนี้ด้วยว่าเหตุผลอะไรที่เราจะเลือกหุ้น a แต่ไม่เลือกหุ้น b ซึ่งจะนำมาเล่าในโอกาศต่อๆไป

สุดท้ายนี้กลัวงานเข้าจริงๆ กลัวงานเข้ามากๆ
ขอย้ำนะว่าไอ้ที่เล่านี้ไม่ได้เชียร์หุ้น kce หุ้นมันขึ้นมาเป็น 10 เด้งแล้ว ใครที่เห็นผมเล่า kce แล้่วคิดว่าผมมีหรือผมเชียร์ขอทำตัวแดงๆ

ว่า ผมไม่ได้มีหุ้นข้างบนเป็นการเล่า case study ในอดีตทั้งหมดไม่มีการคาดการณ์อนาคตแต่อย่างใดกรุณาอ่านดีๆและอย่าตีความว่าผมเชียร์หุ้น ผมนำสิ่งเหล่านี้มาเล่าให้ฟังเฉยๆ ขอย้ำผมไม่ได้มีหุ้น kce

ที่นี้ถ้าคุณไปเจาะหุ้น 10 เด้งละเอียดๆผมคิดว่าคุณก็จะเริ่มจับจุดได้ว่ามันจะมีอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่าหุ้นมันจะเทพ แต่คุณคงไม่สามารถซื้อได้ต่ำสุดแล้วขายได้สูงสุด แต่มันจะช่วยให้คุณรู้ว่าใครจะเป็น winner ได้มากทีเดียว

PRO_BABY เขียน:

hongvalue เขียน:

picklife เขียน:MM คืออะไร ย่อมาจากอะไรหรอครับ

ละลายในปากไม่ละลายในมือเคยกินไหมครับ

อ้วตกลงคือสายไหม หรือครับ

ช็อกโกแล็ต m&m อะไม่เคยกินเหรอ
อิอิ

ผมแซว picklife เล่นน่ะดูท่าทางเขาชอบกินช็อกโกแล็ต อิอิ

ผมว่าใครเป็นมือใหม่อยากรู้เรื่องอะไรถามมาก็ได้ครับ
ถ้าตอบได้จะตอบถ้าตอบไม่ได้จะไปเรียกคนเก่งๆมาช่วยตอบ

ถามเป็นหลักการไม่เอาแบบว่าเอาไงกับหุ้นตัวนั้นตัวนี้ดีแบบนี้ไม่เอานะ

จากที่ศึกษามา สัญญาณที่อะไรที่ใช้พิจารณา คัดกรอง คัดเลือก ที่จะลงทุน
เช่น การเพิ่มขึ้นอย่างมากของกำไร. การเปลี่ยนแปรงโครงสร้างธุรกิจ เทรนด์ของสินค้าอุตสาหกรรม ฯลฯ

การเข้าลงทุน ต้องสะสมเป็นไตรมาส โดยรอผลประกอบการหรือเทรนด์เริ่มชัดเจน. หรือซื้อครั้งเดียวเลยครับ
ขอบคุณครับ

สุดยอดจริงๆคนๆนี้ ติดตามผลงานคุณ Hongvalue มานาน อยากเป็นกำลังใจให้นะคะ เพื่อPost บทความที่มีประโยชน์กับนักลงทุนหน้าใหม่อย่างงี้ไปนานๆ

ขอบคุณครับ ขอนำไปทบทวนกับการลงทุนของตัวเอง

ขอบคุณมากๆ ครับ

อายุน้อย แต่เก่งมากๆๆๆ

อยากให้คุณ hongvalue แวะมาให้ความรู้ชาว Thavi อยู่เรื่อยๆ ... อย่าหายไปอีกนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

เดี๋ยวนี้คนมองโลกในแง่ร้ายจ้องจับผิดมันเยอะขึ้นจริงๆ
จนถึงขนาดเซียนเขายังต้องทำตัวแดงๆไว้ป้องกันตัวเอง ถึงกับต้องทำขนาดนี้...
ไม่ให้ถูกคนว่าร้ายเอาได้ เหนื่อยใจแทนจริงๆ
แทนที่จะจ้องซื้อตามเซียน เอาเวลาไปวิเคราะห์ทำการบ้านด้วยตัวเองด้วย
ขาดทุนแล้วมันโทษใครไม่ได้หรอกเน้อ

thaloengsak เขียน:เดี๋ยวนี้คนมองโลกในแง่ร้ายจ้องจับผิดมันเยอะขึ้นจริงๆ
จนถึงขนาดเซียนเขายังต้องทำตัวแดงๆไว้ป้องกันตัวเอง ถึงกับต้องทำขนาดนี้...
ไม่ให้ถูกคนว่าร้ายเอาได้ เหนื่อยใจแทนจริงๆ
แทนที่จะจ้องซื้อตามเซียน เอาเวลาไปวิเคราะห์ทำการบ้านด้วยตัวเองด้วย
ขาดทุนแล้วมันโทษใครไม่ได้หรอกเน้อ

สัจธรรมเว็บบอร์ดที่มีมาทุกยุคทุกสมัยครับ


ขายแล้วบอกหาว่าทุบ
ขายแล้วเงียบบอกว่าทิ้ง
โพสแล้วขึ้นหาว่าลาก
โพสแล้วลงหาว่าไม่แน่จริง
โพสอดีตคนบอกใครๆก็รู้โพสทำไมหุ้นขึ้นกับอนาคต
โพสประมาณการอนาคตถ้าได้ไม่ถึงคนบอกเงินอำมหิต
ทำไฟล์แจกคนหาว่าปั่นหุ้น
มีไฟล์ไม่แจกคนบอกไอ้นี้ใจแคบกั๊ก

ทำไมมันขึ้นแบบนี้เหรอครับ
You do not have the required permissions to view the files attached to this post.

Maya.- เขียน:ทำไมมันขึ้นแบบนี้เหรอครับ
You do not have the required permissions to view the files attached to this post.

เข้า Login ก่อนครับ

hongvalue เขียน:

thaloengsak เขียน:เดี๋ยวนี้คนมองโลกในแง่ร้ายจ้องจับผิดมันเยอะขึ้นจริงๆ
จนถึงขนาดเซียนเขายังต้องทำตัวแดงๆไว้ป้องกันตัวเอง ถึงกับต้องทำขนาดนี้...
ไม่ให้ถูกคนว่าร้ายเอาได้ เหนื่อยใจแทนจริงๆ
แทนที่จะจ้องซื้อตามเซียน เอาเวลาไปวิเคราะห์ทำการบ้านด้วยตัวเองด้วย
ขาดทุนแล้วมันโทษใครไม่ได้หรอกเน้อ

สัจธรรมเว็บบอร์ดที่มีมาทุกยุคทุกสมัยครับ


ขายแล้วบอกหาว่าทุบ
ขายแล้วเงียบบอกว่าทิ้ง
โพสแล้วขึ้นหาว่าลาก
โพสแล้วลงหาว่าไม่แน่จริง
โพสอดีตคนบอกใครๆก็รู้โพสทำไมหุ้นขึ้นกับอนาคต
โพสประมาณการอนาคตถ้าได้ไม่ถึงคนบอกเงินอำมหิต
ทำไฟล์แจกคนหาว่าปั่นหุ้น
มีไฟล์ไม่แจกคนบอกไอ้นี้ใจแคบกั๊ก

น้องฮง และ คุณ thaloengsak ครับ ถ้าเราคิดว่า เราทำไปเพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ก็อย่าไปน้อยใจเลย
สังคมที่ดีต้องช่วยกันสร้าง ไม่ใช่ช่วยกันติและทำลาย เหมือนดั่งมดงาน

ปล. รออ่านกระทู้ต่อครับ

ผมเป็นกำลังใจให้ครับ

ส่วนตัวอยากลองดูว่าคนเ่ก่ง ๆ เค้าคิด เค้าวิเคราะห์ยังไง
จะได้นำมาปรับ ไปวิเคราะห์กับ บ. ที่เราสนใจบ้างครับ

ยังไงก็ข้อให้ทำเสร็จโดยเร็ววันครับ เพื่อเป็นแนวทางครับ
ขอบคุณสำหรับ สิ่งดี ๆ และ เจตนาดี ๆ ครับ