Thai VI

reiter เขียน:

PATU เขียน:มาเก็บความรู้ค่ะ

เห็นพี่ๆแม่น DCF แบบนี้ เลยอยากถามว่าพี่ๆใช้วิธีนี้ทำ Valuation หุ้นที่จะซื้ออย่างจิงจังเลยรึป่าวค่ะ

พอดีไม่ค่อยมีเวลา เลยจะทำแค่ Forecast PL 2010F 2011F แล้วดูค่า Multiples เอา

ส่วนใหญ่ผมจะใช้ในบริษัทที่ cash flow กับ earning ไม่ค่อยไปด้วยกันคับ นั่นคือพวกบริษัทที่ใช้ WC ต่ำๆ ลงทุนกับ CAPEX น้อยๆ รายจ่ายจำนวนมากเป็นรายจ่ายทางบัญชีจากค่าเสื่อม

บริษัทลักษณะนี้ ดูด้วยตา PE อาจจะแพงไม่น่าลงทุน เพราะ E ไม่ได้สะท้อนคุณภาพของ free cash flow

เช่นนี้ ผมจะหามูลค่ายุติธรรมด้วย DCF ครับ

แป๊ะครับ อย่างนี้พอเราได้FairValueจากDCFแล้วก็เท่ากับว่าเราก็FairPEด้วยใช่ไหมครับ

GeneraX เขียน:

picklife เขียน:และถ้ามันอย่างนั้น ผมก็สามารถใช้หลักการณ์เดียวกันมาคิดโดยใช้ ROEของบริษัทหรือการGrowthของeps มาคิดหาPEที่เหมาะสมได้เหมือนกันปะครับ?

การนำ DFC มาใช้คำนวนหา P/E ที่เหมาะสมนั้น จะต้อง adapt เข้ากับ dividended discounted model ครับ (เราจะใช้ dividend มาเป็นตัวแทนของ CF)

picklife เขียน:

reiter เขียน:

PATU เขียน:มาเก็บความรู้ค่ะ

เห็นพี่ๆแม่น DCF แบบนี้ เลยอยากถามว่าพี่ๆใช้วิธีนี้ทำ Valuation หุ้นที่จะซื้ออย่างจิงจังเลยรึป่าวค่ะ

พอดีไม่ค่อยมีเวลา เลยจะทำแค่ Forecast PL 2010F 2011F แล้วดูค่า Multiples เอา

ส่วนใหญ่ผมจะใช้ในบริษัทที่ cash flow กับ earning ไม่ค่อยไปด้วยกันคับ นั่นคือพวกบริษัทที่ใช้ WC ต่ำๆ ลงทุนกับ CAPEX น้อยๆ รายจ่ายจำนวนมากเป็นรายจ่ายทางบัญชีจากค่าเสื่อม

บริษัทลักษณะนี้ ดูด้วยตา PE อาจจะแพงไม่น่าลงทุน เพราะ E ไม่ได้สะท้อนคุณภาพของ free cash flow

เช่นนี้ ผมจะหามูลค่ายุติธรรมด้วย DCF ครับ

แป๊ะครับ อย่างนี้พอเราได้FairValueจากDCFแล้วก็เท่ากับว่าเราก็FairPEด้วยใช่ไหมครับ

DCF เป็น indicator ที่ดีในระดับหนึ่งครับ ว่าหุ้นตัวนี้ควรถูกเทรดที่พีอี เท่าไร

แต่อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวผมมักจะใช้แนวคิดที่ได้จากการคำนวณ DCF อาทิเช่น บริษัทต้องใช้ WC มากแค่ไหน กำไรที่ได้มาต้องเอาไปลงกับเครื่องจักรจนหมดหรือไม่ ( inventory CAPEX ) มาเป็นตัวบ่งบอกถึงความแข็งแรงของธุรกิจ เพื่อช่วยใช้ประเมิน PE ที่เหมาะสมเอาเสียมากกว่าจะใช้ค่าที่ได้จากการคำนวณ DCF มาประเมิน PE โดยตรง