Thai VI

กรณีที่พี่หมอยกตัวอย่าง  การฆ่าสัตว์เพื่อนำมาให้พระฉัน  คงเป็นการตัดสินได้ลำบากสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ศึกษาธรรมะ

แต่หัวข้อของกระทู้  เป็นการลงทุน  ซึ่งผมคิดว่าเรามีทางเลือกมากมาย  มีหลายบริษัทให้เลือกลงทุน

ยังดีกว่า  ถ้าเราเกิดมาที่บ้านทำธุรกิจค้าขายที่ผิดศีล  คงลำบากใจกว่าแน่ๆ

แล้วถ้าเราลงทุนในบริษัทที่ส่วนเสริมเบญจธรรม  เราจะได้บุญเสริมด้วยกำไรหรือเปล่าละครับ  

ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ( คุยเฉพาะประเด็น การฆ่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารเท่านั้น)

          ผมว่า  พวกเราทุกคน  คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับว่า  มนุษย์เราจำเป็นต้องกินอาหารโปรตีนจากเนื้อสัตว์  เพื่อเลี้ยงซ่อมแซมร่างกายให้เติบโต ถ้าจะอาศัยเฉพาะโปรตีนจากพืชก็ไม่พอสำหรับมนุษย์
         หากเราไม่กินอาหารโปรตีน จากสัตว์   เผ่าพันธ์มนุษย์อาจจะหายไปจากโลกนี้ไปแล้วก็ได้
         ธรรมชาติของร่างกายมนุษย์  ต้องการอาหารโปรตีนจากเนื้อสัตว์  จะกินเนื้อสัตว์ก็ต้องทำการฆ่าสัตว์ ก็เป็นเรื่องธรรมดา
         ธรรมชาติ  กำหนดมาอย่างนี้  แล้วเราจะฝืน หรือปฏิเสธธรรมชาติอย่างนั้นหรือ  เรื่องนี้ บางคนก็เห็นว่าการฆ่าสัตว์มาเป็นอาหารเป็นเรื่องปกติของมนุษย์  บางคนก็ว่าเป็นบาป  อย่าฆ่าสัตว์  แต่ตนเองก็กินเนื้อสัตว์  บางคนอาจจะสับสน ไม่อยากคิด   สรุปแล้วมึความคิดต่างกันหลายแนวความคิด
         ตัวอย่าง  ที่ใกล้ตัวตนของเรา  พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรา ฆ่าเป็ดไก่ ปลา มาทำเป็นอาหารเลี้ยงดูพวกเรา(บริษัท cpf ยังไม่เกิด) เลี้ยงดูเราจนเติบ
ใหญ่  เราจะกล่าวหาปู่ย่าตายาย ของเราเป็นคนบาปได้หรือครับ
         ผมสรุป  ในความรู้สึกของผม  การฆ่าสัตว์  เพื่อนำมาเป็นอาหารไม่เป็นการทำบาป
         การถือหุ้น ที่ทำธุรกิจฆ่าเป็ด ไก่ ปลาและกุ้ง   เช่น cpf  ก็เป็นเช่นเดียวกันครับ  
         ช่วงก่อนที่ผมถือหุ้น cpf  ผมมีความรู้สึกสุขใจมาก  ไม่มีความรู้สึกเป็นบาปเลย
        ผมว่า............บาปหรือบุญอยู่ในใจของคนเรา

        สวรรค์อยู่ในอก  นรกอยู่ในใจ  
        สวรรค์ นรก  ของพวกเราอยู่ที่ไนเอ่ย  :?:  :?:  

------------------------------
ความรู้  คู่คุณธรรม

[quote="HARINLUX"]

ผมก็ยังไม่เลิกกินเนื้อนะครับ
แต่ ความเห็นส่วนตัว

ท่าน พล.ต. จำลอง ศรีเมือง
ไม่กินเนื้อสัตว์
แต่ยังแข็งแรงมากเลยนะครับ

ผมคิดว่า เนื้อสัตว์ไม่จำเป็น หรอกครับ
กินมาก โรคมาก เบียดเบียนมาก

พุทธศาสนา สอนให้เราไม่ยึดมั่น ถือมั่น

แม้แต่ความดี  เราก็ยังไม่ควรที่จะยึดมั่นเลยครับ

บางคนเศร้าเสียใจที่เสียโอกาสในการทำความดี  ซึ่งไม่ควร  

เวลาพระฉัน  ท่านฉันเนื้อสัตว์เพื่อความเอร็ดอร่อย  หรือว่า  ท่านฉันอาหารเพื่อประทังชีวิต

http://www.buddhadasa.com/FAQ/FAQ_5.html[/url]

แหล่งที่มา: คัดบางตอนจากหนังสือดอกโมกข์ ฉบับพิเศษ พุทธทาสวจนา พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๓๙
หน้า ๑๘๙-๑๙๓

ถ้าลงมือปฎิบัติจริง ความสงสัยมันจะไปเอง ..

อยากทราบมุมมองพี่เด็กใหม่ด้วยครับ ว่าคิดอย่างไร ทำอย่างไร ทำแล้วได้ผลอย่างไร
และอยากทราบมุมมองพี่คนแก่มือเก่าว่าต่างจากเด็กใหม่ๆไหมครับ
รบกวนด้วยครับ  :lol:

อยากทราบมุมมองพี่เด็กใหม่ด้วยครับ ว่าคิดอย่างไร ทำอย่างไร ทำแล้วได้ผลอย่างไร
และอยากทราบมุมมองพี่คนแก่มือเก่าว่าต่างจากเด็กใหม่ๆไหมครับ
รบกวนด้วยครับ  

ไม่แน่ใจว่า พี่หมอสามัญชนถามเกี่ยวกับอะไรครับ
ในคำว่า คิดอย่างไร ทำอย่างไร ทำแล้วได้ผลอย่างไร
เลยตอบไม่ถูกครับ
ปกติผมก็เขียนบรรยายอะไรได้ไม่ตรงหรือเหมือนการคิดหรือพูดอยู่ด้วยครับ

ส่วนพี่คนแก่มือเก่า ผมพอจะคุ้นๆครับ จะลองถามดูนะครับ :lol:

เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:อ่านเรื่องนี้แล้ว อยากฟังทัศนะของพี่ๆหลายๆคนเลยครับ
โดยเฉพาะ พี่หมอสามัญชน พี่ฉัตร พี่ป้อม พี่picatos และอีกหลายๆพี่ครับ

แบบว่าอยากฟังทัศนะพี่เด็กใหม่ด้วยน่ะครับ

ขอเพิ่มคำถามอีกข้อนะครับ
การซื้อหุ้นแบบเทคนิคจะผิดศีลไปด้วยไหมครับ
เพราะคนซื้อไม่ได้มองว่าบริษัททำผิดศีลหรือไม่
เขามองแต่กราฟราคาเท่านั้นเอง

Aommm เขียน:http://www.buddhadasa.com/FAQ/FAQ_5.html[/url]

แหล่งที่มา: คัดบางตอนจากหนังสือดอกโมกข์ ฉบับพิเศษ พุทธทาสวจนา พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๓๙
หน้า ๑๘๙-๑๙๓

          องค์การยูเนสโก ยกย่องท่านพุทธทาสภิกขุ  เป็นบุคคลำคัญของโลก  จากการเผยแผ่พุทธศาสนา  ของท่าน
          อ่านคำบรรยายธรรมะ  ของท่านมีความละเอียดและลึกซึ้งมาก  บางเรื่องที่สงสัย เช่น เรื่องนรกสวรรค์  บุญบาป  การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  เป็นต้น อ่านแล้วเข้าใจได้ เป็นการบรรยายที่มีรายละเอียดและให้เหตุผลประกอบ  
          ว่างๆ  ลองหยิบหนังสือของท่านมาอ่านดู  ก็ดีนะครับ :lol:  :lol:

------------------------
ความรู้  คู่คุณธรรม

แบบว่าอยากฟังทัศนะพี่เด็กใหม่ด้วยน่ะครับ

ขอเพิ่มคำถามอีกข้อนะครับ
การซื้อหุ้นแบบเทคนิคจะผิดศีลไปด้วยไหมครับ
เพราะคนซื้อไม่ได้มองว่าบริษัททำผิดศีลหรือไม่
เขามองแต่กราฟราคาเท่านั้นเอง

ขออภัยเพิ่งเข้าใจครับว่าถามผมว่าผมคิดอย่างไร เพราะผมไปถามคนอื่นเขา

ผมเองเดินมาในสายที่ค่อนข้างเคร่งครัดครับ
แนวปฏิบัติ รวมทั้งชีวิตประจำวัน และความเชื่ออาจจะเคร่งครัดไป หรือขาดเหตุผลสำหรับพี่ๆหลายๆคน

บางท่านหากได้ฟังแล้วอาจจะรู้สึกไม่เห็นด้วย
ซึ่งคิดในใจก็ไม่เป็นไร
แต่หากให้ความเห็นในที่สาธารณะ แล้ว
อาจจะส่งผลกรรมได้ครับ
ผมจึงไม่ได้ออกความเห็นครับ

ส่วนตัว
เมื่อไรถ้าทราบว่ามีโอกาสผิดศีลผิดธรรม ก็ต้องละเว้น
หลายครั้งที่ทำไปแล้ว มารูุ้ทีหลัง ก็ต้องรีบดำเนินการแก้ไข

ตอนนี้เองยังมีหุ้นบางหุ้นที่เกรงว่าการเพิ่ม line ธุรกิจ
อาจจะกระทบต่อความเชื่อส่วนตัวที่เคร่งครัดของผมเอง
ทำให้ต้องติดตามใกล้ชิด และอาจจะต้องปรับเปลี่ยนการถือครอง
หากเป็นไปอย่างที่คาดครับ

สรุปโดยรวมกว้างๆคือ
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดในกระทู้ที่ link จาก พันทิพย์ครับ

ส่วน technical นั้น ผมไม่มีความรู้เลย ไม่เคยใช้ ทำให้อาจจะตอบไม่ได้ครับ
แต่หากคนที่ใช้เขาไม่รู้ว่ากิจการทำอะไร ก็น่าจะไม่ผิดศีล
แต่อย่างอื่นๆ เช่นการหวังผลระยะสั้น ผมขออนุญาตไม่ออกความเห็นครับ

ขอบคุณพี่หมอที่ให้เกียรติให้ออกความเห็นแบบคนไม่ค่อยรู้ปริยัตินะครับ

teetotal เขียน:ผมก็ยังไม่เลิกกินเนื้อนะครับ
แต่ ความเห็นส่วนตัว

ท่าน พล.ต. จำลอง ศรีเมือง
ไม่กินเนื้อสัตว์
แต่ยังแข็งแรงมากเลยนะครับ

ผมคิดว่า เนื้อสัตว์ไม่จำเป็น หรอกครับ
กินมาก โรคมาก เบียดเบียนมาก

เคยมีประสบการณ์ไปอยู่ที่โรงเรียนผู้นำไม่กี่วัน
ผู้ช่วยครู (คนที่เคยไปจะเข้าใจครับว่าผมหมายถึงใคร)
ให้ข้อมูลมาว่า...

มนุษย์เป็นสัตว์กินพืชครับ

โดยแยกแยะพฤติกรรมของสัตว์กินพืช
กับสัตว์กินเนื้อ ตัวอย่างเช่น...

การกินน้ำ

สัตว์กินพืช กับสัตว์กินเนื้อ จะกินน้ำไม่เหมือนกัน

สำหรับความคิดส่วนตัว
ผมเห็นด้วยนะ
และคิดว่าการที่มนุษย์กินเนื้อสัตว์
เพราะมนุษย์เรียนรู้วิธีใช้ประโยชน์จากไฟ

เรื่องมนุษย์เป็นสัตว์กินเนื้อหรือกินพืช
ขอตอบแบบแยกเป็นสองประเด็นนะครับ

1. ประเด็นทางโลก. วงการวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นอย่างนี้ครับ
การดูว่าสัตว์ชนิดไหนกินเนื้อหรือกินพืช. ให้ดูที่ลักษณะของฟัน
สัตว์กินพืชจะเป็นฟันกราม. เพราะถูกดีไซน์มาสำหรับบดเคี้ยว
สัตว์กินเนื้อจะเป็นลักษณะเป็นฟันเขี้ยว เพราะถูกดีไซน์มาสำหรับกัดและฉีก
มนุษย์เรานั้นมีทั้งฟันเขี้ยวและฟันกราม จัดอยู่ในกลุ่มกินทั้งพืชและเนื้อ
ส่วนพฤติกรรมการกินน้ำ. ทฤษฎีนี้ผมก็เพิ่งเคยได้ยิน
ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกหลักทางวิชาการแค่ไหน
แต่ก็เข้าใจว่าสัตว์แต่ละชนิดไม่น่าจะแตกต่างกันในเรื่องกินน้ำ
เพราะถึงยังไงก็ต้องก้มกินน้ำจากลำธารเหมือนกัน และไม่เห็นจะมีสัตว์ชนิดไหนนอกจากมนุษย์ที่สามารถผลิตภาชนะสำหรับกินน้ำได้
และจะใช้ลักษณะการกินน้ำมาแยกกลุ่มการกินพืชหรือกินเนื้อ ก็ไม่น่าจะ validity

ส่วนเรื่องสารอาหารสำหรับมนุษย์น้ัน
ทางการแพทย์ยืนยันว่า
โปรตีนจากพืชไม่เพียงพอ
มนุษย์จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาโปรตีนจากเนื้อสัตว์สำหรับสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
โดยเฉพาะในวัยเด็กน้ัน. ต้องการเป็นอย่างมาก
ถึงขั้นที่ว่าถ้าขาดแล้วจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยและอาจเสียชีวิตได้เลย
โรค kwashiorkor ก็เป็นตัวอย่างสำหรับผู้ที่ขาดโปรตีน

ส่วนวัยผู้ใหญ่นั้น ผลกระทบจะน้อยกว่า เพราะเลยวัยที่จะต้องเติบโตแล้ว. แต่ถ้าขาดก็อาจจะมีผลในเรื่องภูมิต้่านทานโรค และการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

2. ทางธรรม
ร่างกายที่ได้รับเฉพาะสารอาหารจากพืช

แม้จะไม่เพียงพอสำหรับความสมบูรณ์แข็งแรง
แต่ก็เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ และอาจจะอยู่ได้นานด้วยถ้าเลยวัยเด็กไปสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับโรคหลอดเลือดและหัวใจ
ดังนั้นเราจึงเห็นอริยสงฆ์บางท่านที่ฉันมังสะวิรัติอย่างเดียว
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะท่านไม่ได้ยึดติดกับความสมบูรณ์ของร่างกายเท่าใดนัก
ที่จริงอย่าว่าแต่ร่างกายเลยกระทั่งจิตใจนี้ท่านก็ได้สละให้กับธรรมมะหมดแล้วด้วยซ้ำ

:lol:

ผมก็แค่ฟังมาอีกมีครับพี่หมอ
ขอบคุณครับ

แล้วอย่างอาหารของ cpf หรือ tuf ที่ไปช่วยคนประสบภัยแบบนี้ถือเป็นแบบไหนครับ

ไม่มีประโยชน์ในการมาเถียงในเรื่องนี้
เรื่องที่ยกมาเป็นเรื่องที่เล็กน้อยเหลือเกิน เรื่องที่เราควรพิจารณาจริงคือวันนี้เราได้ทำความดีแล้วหรือไม่?
หากในวันนี้เรายังไม่ทำความดีมีประโยชน์อะไรที่เราจะกล่าวถึงความดีหรือความผิดกัน?

ผมขอแสดงความคิดเห็นแบบคนที่ยังมีกิเลศเต็มรูปแบบนะครับ

ผมคิดว่าการไม่ลงทุนในกิจการที่ผิดศีลเป็นความดีระยะไกลครับ
คือต่อให้เราลงทุนหรือไม่ลงทุน กิจการพวกนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป
ถ้าเราทำความดีพื้นฐานซึ่งผมเรียกว่าความดีระยะใกล้อย่างเช่น
การกตัญญูต่อพ่อแม่  ความรับผิดชอบต่อครอบครัว การไม่สร้าง
ความเดือดร้อนให้คนอื่น  ได้ดีแล้ว การไม่ลงทุนในกิจการที่ผิดศีล
ก็ถือได้ว่าเป็นความดีที่เพิ่มเติมเข้ามา

ในทางกลับกัน ถ้าเราไม่ลงทุนในกิจการที่ผิดศีล แต่เราไม่ได้ดูแลพ่อแม่ให้ดี
ยังขับรถผิดเลนแล้วแทรกคนอื่น  ยังใช้เงินใช้คนรู้จักฝากลูกเข้าโรงเรียน
ผมก็ไม่คิดว่าการไม่ลงทุนในกิจการที่ไม่ผิดศีลมันจะช่วยอะไรได้

อีกอย่าง ผมมองว่าบางทีประเภทของกิจการอาจไม่ได้เป็นคำตอบทั้งหมดครับ  
มันอยู่ที่วิธีการดำเนินธุรกิจด้วย ยกตัวอย่าง ธุรกิจโฆษณาถ้าสื่อสารดีๆก็แล้วไป
แต่ถ้าสื่อสารแบบยั่วให้เกิดกิเลส ผมก็ไม่ชอบครับ หรืออย่างเครื่องดื่มอาหารเสริม
มันเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าบริษัทโฆษณาเกินจริงโดยใช้พรีเซนเตอร์ที่น่าเชื่อถือ ผมก็ไม่ชอบ  

อีกอย่าง ผมไม่ได้มองแค่ว่าเราเลือกลงทุนหรือไม่ลงทุนในบริษัทประเภทไหน
ถ้ากิจการของบริษัทไม่ผิดศีล แต่เราใช้วิธีการที่ผิด มันก็คงไม่ดีอยู่นั่นเอง

เดินสายกลาง ถือศีล 5 ให้ทานตามกำลังทรัพย์ ภาวนา เมื่อมีโอกาส ขอให้ทุกท่านเกิดปัญญา และนำ มรรค 8 มาใช้ในการดำรงชีวิตน่ะครับ  :D