หน้า 2 จากทั้งหมด 3

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 4:06 pm
โดย เด็กใหม่ไฟแรง
ขอบคุณมากครับพี่หมอนุ่น
ทราบว่าพี่หมอนุ่นไปจองที่นั่งเป็นคนแรกของห้องประชุมเลยเมื่อวานนี้
ให้ความรู้คนกับช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก...เช่นการเป็นหมอ....เป็นการสร้างบารมีที่สุดยอดครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 6:09 pm
โดย noooon010
:oops: ขอบคุณครับ คุณเด็กใหม่ครับ
อย่างไรผมก็รักอาชีพของผมนะครับ
ตรวจคนไข้แล้วมีความสุขขณะทำงานนี่ดีมากๆจริงๆครับ แต่ที่ผมไปสอบถามอาจารย์เค้าเพราะว่า ผมต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนต่อเพิ่มเติมครับ (รู้สึกว่า ตนเองยังด้อยอยู่มากครับ) :oops:

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 6:10 pm
โดย noooon010
ทางอาจารย์ไพบูลย์ฝากผู้เข้าฟัง และผู้สนใจสามารถอาสามาเป็นอาสาสมัครช่วยงาน money talk ได้นะครับ เมื่อวานนี้ทีมงานทำงานกันหนักครับ

ใครสนใจลองติดต่อสอบถาม อาจารย์ไพบูลย์นะครับผม

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 6:14 pm
โดย noooon010
มาต่อช่วงที่ 2นะครับ

Megatrend

ก่อนการอ่านบทความมี link ความรู้มาเสริมนิดนึงครับ

OECD คืออะไรเอ่ย (มีกล่าวถึงในงานครับ)

http://www.google.co.th/search?q=oecd&i ... =firefox-a

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 6:21 pm
โดย คนคอน
ขอบคุณครับ สำหรับสิ่งดีๆแบบนี้ :bow:  :bow:

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 6:51 pm
โดย noooon010
ดร.นิเวศน์ ถ้าพูดถึง trend ดร.จะซื้อตาม trend เพราะ trend ใหญ่ๆมาเป็น 10 ปีครับ

อย่างหุ้นที่ ดร.ซื้อลงทุน ก็ซื้อหลังจาก trend มาแล้ว 5 ปีครับ

คุณอภิรักษ์ ขณะนี้ G20 และ OECD กำลังศึกษาพัฒนาเศรษฐกิจโลกในระยะยาว มากกว่าจะดูเฉพาะเรื่องของ GDP อย่างเดียวครับ # trend ที่ 1 ครับ

จะเน้นการเติบโตของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ลดการ speculation
และเริ่มคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่นปัญหา climate change

trend ที่ 2


จะเริ่ม focus ที่ Asia มากยิ่งๆขึ้นไป
และการจัดตั้งสมาคมใน asia เช่น ASIAN ที่จะเริ่มมี FTA (Free Trade Area)
จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

ความรู้เสริมครับ(มีกล่าวถึงในงานสัมนาครับ)

- ASEAN 3 + คือ กลุ่มประเทศสมาชิกใน ASEAN ร่วมกับ ประเทศอีก 3 ประเทศ

คือ จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี ครับ


- ASEAN 6+ คือ กลุ่มประเทศ ASEAN 3+ รวใกับประเทศ india , australia และ new sealand ครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 6:56 pm
โดย noooon010
โครงการที่เริ่มเห็นเริ่มได้ยินกัน เช่น การสร้างรถไฟที่มีขนาดรางใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น รถไฟรางคู่ ที่จะมีประเทศจีนมาลงทุน โดยเชื่อมเส้นทางตั้งแต่ประเทศ จีนตอนใต้ ไทย และ ปาดังเบซา (malaysia) ครับ

หากสังเกต ปธน. Obama ก็มาเยือน ประเทศใน asia บ่อยขึ้น โดยล่าสุดมาเยือน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีนครับ

Trend ที่3 ต้องรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อเกิดภัยทางธรรมชาติเช่น อุทกภัย จะมีผลต่อพืชผลทางการเกษตร

ทำให้เกษตรกร มีรายได้ที่ลดลง

เมื่อรายได้ลงลง consumption ก็ลดลง GDP ก็ลดลงเช่นกันครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 7:01 pm
โดย noooon010
trend ที่ 4 : การ urbanization จะเริ่มมีการย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เมืองใหญ่ๆ และเริ่มพัฒนาเมืองที่อยู่ติดๆกัน เช่นเชียงใหม่ เชียงราย

จะมองเห็นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คน ตรงจุดนี้ก็เป็นโอกาสของ developer ครับ

Trend ที่ 5 : mobility and connectivity

เราเริ่มเห็น low cost airline การเชื่อมต่อกันของคนอีกซีกโลกหนึ่งมาสู่อีกซีกโลกหนึ่งง่ายๆผ่านทาง facebook , twitter และโปรแกรมต่างๆครับ(social media)

เมื่อเกิดการเชื่อมต่อได้ง่าย การเดินทางไปมาประเทศต่างๆเริ่มง่ายขึ้น ก็จะส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยว

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 7:22 pm
โดย noooon010
P'joke สุมาอี้

- trend เป็นธรรมชาติของมนุษย์
- fasion มักเปลี่ยนประมาณ 3 เดือน แต่ trend ระยะยาวจะนานกว่านั้น
- ในต่างประเทศจะมีคนคอยศึกษาการเปลี่ยนแปลงของ trend ต่างๆครับ
- megatrend ต้องต่อเนื่องยาวนานมากๆ อย่างน้อย 3- 5 ปีครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 7:25 pm
โดย noooon010
พอดีเกิดต้องไปทำธุระทางบ้านนิดนึงนะครับ พรุ่งนี้จะมาสรุปเพิ่มเติมนะครับ

สามารถอ่านกระทู้เกี่ยวกับงาน investor day เมื่อวานนี้ได้ที่กระทู้น้อง champ นะครับผม

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 15&start=0

ขอบคุณครับ :D

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 7:54 pm
โดย kotaro
ขอบคุณพี่หมอนุ่นครับ

:bow:

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 7:58 pm
โดย o-bo-ja-ma
ขอบคุณมากครับสำหรับคนไกลกรุงอย่างผม

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 8:02 pm
โดย knupp
ขอบคุณมากครับ  :P

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 8:14 pm
โดย NewSmartInvestor
ขอบคุณมากๆ ครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 8:46 pm
โดย choke81
ขอบคุณครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 10:53 pm
โดย MYBIZ
ขอบคุณครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 5:05 am
โดย PaZZaHut
ขอบคณครับ ^^

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 9:55 am
โดย nanoVI
:D  :D ขอบคุณหมอนุ่นมากครับ :D  :D

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 2:56 pm
โดย noooon010
มาต่อนะครับ วันนี้เลิกครึ่งวันครับ(ผมไม่ได้เป็นข้าราชการนะครับ)
ก่อนหน้านี้ต้องขอโทษด้วยนะครับ

คำว่า Fashion ต้องเขียนแบบนี้ครับ (อายจัง)

P'joke สุมาอี้ (ต่อ)

Trend
1. Aging population
2. The rise of china (and emerging market)
3.  Urbanization

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 3:03 pm
โดย noooon010
ดร.นิเวศน์ ท่านพูดว่า เมื่อการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น กิจการที่เกี่ยวข้อง เช่น การโรงแรม สายการบิน ก็น่าจะมีอัตราการเติบโตที่มากขึ้น

ปกติการท่องเที่ยวจะโตประมาณ 7-8% /ปี ครับ
พอเกิดความวุ่นวายทางการเมือง หรือเกิดภัยทางธรรมชาติ เช่น สึนามิ การท่องเที่ยวก็จะชะลอตัวลง แต่มักไม่เกิน 1 ปีครับ

(ถ้าต้องการติดตามกิจการโรงแรมมักจะดูที่ อัตราการใช้ห้องพัก การขึ้นราคาค่าห้องพัก สามารถอ่านได้ในหนังสือ ตลาดหุ้นไทย  the survival kit ของพี่โจ๊ก นะครับ) :D

จุดสังเกตของกิจการที่มี growth rate สูง จะดึงให้คู่แข่งเข้ามา ดังนั้นถ้ากิจการมี barrier to entry ที่แข็งแกร่งก็จะน่าสนใจกว่าครับ

กิจการบางอย่าง boom ได้สักพัก ถ้าเกิดเหตุที่เราไม่คาดฝันก็จะเกิดปัญหาตามมา

เช่น ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงในต้นปี 2551 คนจะนึกถึงพลังงานทดแทน
แต่หลังจากนั้นเกิดวิกฤติ hamburger ความต้องการพลังงานลดลงอย่างมาก

ดังนั้นก่อนลงทุนต้องเข้าใจลักษณะกิจการที่จะเข้าไปลงทุนด้วยนะครับผม

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 3:12 pm
โดย noooon010
megatrend นั้นมีจริง แต่บริษัทที่เกาะ trend อาจไม่ประสบความสำเร็จในการทำกิจการก็ได้ครับ

*** มีให้เห็นกันเรื่อยๆนะครับ อย่างช่วง internet boom >> กิจการต้องเลือก business model ที่สามารถแข่งขันกับคนอื่นๆได้ เช่นการเลือกที่จะไม่ทำบางอย่าง ที่ไม่ถนัด หรือเป็นกิจการที่ไม่สามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นๆได้/ผู้เขียน

ประเทศที่มีประชากรจำนวนมากๆ(เช่นประเทศ จีน , อินเดีย) มักจะเป็นตลาดแรงงานที่น่าสนใจ ค่าแรงมักจะถูกกว่าประเทศอื่นๆ

ดร.สังเกตว่า ภายในระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา มีไม่กี่ปีเท่านั้น(น้อยกว่า 5 ปี)ที่คนจนลง ส่วนใหญ่จะมีรายได้มากขึ้น
และปรากฏการณ์นี้มักพบได้ทั่วโลก ดังนั้นจะพบว่า เงินตราที่อยู่ในระบบจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นเราจะเห็นว่า กองทุนรวมจะโตได้เร็ว เพราะเมื่อเรามีรายได้มากขึ้น มีเงินเก็บมากขึ้น (ต้องรู้จักเก็บ และเลือกใช้จ่าย) เราจะแสวงหาการลงทุนที่สร้า้งผลตอบแทนในอัตราสูงขึ้นให้แก่ตัวเราเอง

เรื่องการใช้จ่ายนี่ผมเห็นด้วยกับ ดร.นะครับ
ระหว่างสัมนามีการพูดถึงโทรศัพท์ที่ ดร.ใช้
เป็นรุ่นพอๆกับที่ผมมีนะครับ
ท่านไม่ได้ใช้ smart phone เพราะท่านไม่เห็นความจำเป็นในจุดนี้
(อันนี้แล้วแต่วิสัยทัศน์แต่ละบุคคลนะครับ)/ผู้เขียน

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 3:18 pm
โดย noooon010
P'joke สุมาอี้

ปัจจุบัน ประชากรในวัยทำงานลดลง แต่กลุ่มผู้สูงอายุมีสัดส่วนที่มากขึ้นกว่าสมัยก่อน

(ผมขออนุญาติเสริม link อ้างอิงพี่ joke นะครับ)
http://pubnet.moph.go.th/readabstract.p ... inal18.pdf

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 3:37 pm
โดย noooon010
คุณอภิรักษ์

บ้านเราพึ่งการส่งออก 70% ซึ่งทำให้เวลาที่เกิดปัจจัยภายนอก เช่น crisis ต่างๆ
จะทำให้เศรษฐกิจของบ้านเราเสียหายตามไปด้วย

ดังนั้น รัฐบาลจะพยายามลด"สัดส่วน"ของการส่งออก
(= ไม่ได้ลดการส่งออกนะครับ) แะลเพิ่ม domestic market ให้มากขึ้น
ปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็น organic , อาหารสด , อาหารไทย มากขึ้น

และ service industrial จะมีโอกาสโตได้อีกครับ

มีการพูดถึงประเทศฝรั่งเศสที่มีขนาดประเทศใกล้เคียงกับบ้านเรา เค้าเน้น fashion การท่องเที่ยว ไวน์ ฯลฯ

เดิม เราเน้นธุรกิจบริการในเมืองใหญ่ๆ

แต่ตอนนี้ เราเริ่มให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาท้องถิ่นมากขึ้น
(มีกล่าวถึงในหนังสือ a day เล่มใหม่ด้วยนะครับแอบแจมครับ)

:D

คำว่า creative economy เริ่มมีคนพูดถึงบ่อยๆครับ
http://www.google.co.th/search?q=creati ... =firefox-a

มีการพูดถึงประเทศเกาหลี
ผมแนะนำให้เพื่อนๆลองอ่าน เรื่องเกี่ยวกับ korea 2010 นะครับ
(มีในหนังสือ open dragon เล่ม 3 ครับจะเข้าใจมากขึ้นเยอะเลยครับ)

ปัจจุบัน ค่าเงินบาทแข็ง
เราพยายามที่จะนำเงินบาทไปซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 3:45 pm
โดย noooon010
ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของคนเราเริ่มสูงขึ้น ดังนั้นถ้าจะดู trend ต้องไปดูที่ประเทศที่มีผู้สูงอายุที่มีสัดส่วนมากๆ เช่น ประเทศญี่ปุ่น จะพบว่า ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น จึงควรมีนโยบายสนับสนุนให้เกิดการออมเพื่อเตียมไว้สำหรับวัยเกษียน
อายุครับ

เวลามีวิกฤติทางการเมือง จะเกิดผลกระทบระยะสั้นต่อการท่องเที่ยว และจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ

ปัจจุบันรัฐบาลพยายามให้มี good governance มีความโปร่งใสมากขึ้น
เน้น CSR เช่นให้มี CSR club
เริ่มมีการคิดจะทำภาษีที่ดิน

และสามารถอ่านนโยบาย และแผนต่างๆได้ที่ web นี้ครับ
http://www.pm.go.th/

(อ่านแล้วเหมือนอ่านนโยบายรัฐบาลหน่อยนะครับ ไม่ได้อยาก post เรื่องการเมืองนะครับ)

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 3:47 pm
โดย noooon010
มีธุระอีกแล้ว ต้องขอตัวก่อนนะครับผม ไว้จะค่อยๆมา post ต่อทีหลังนะครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2010 4:34 pm
โดย ws
ขอบคุณมากครับ

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 21, 2010 8:47 am
โดย ake3004
thanks kab :D

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 21, 2010 5:09 pm
โดย noooon010
มา post ต่อครับ

พี่โจ๊ก

นอกจาก trend 3 trend ข้างต้นแล้ว พี่เค้ายังแนะนำ trend ที่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆเช่น
- กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- คนเริ่มต้องการ life balance มากขึ้น คนจะเริ่มให้เวลากับตนเอง และครอบครัวมากขึ้นครับ




Aging population

ปัจจุบันประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นทุกปี แต่จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง
คาดว่า ในปี คศ. 2050 จำนวนประชากรของโลกอาจไม่มากขึ้น และอาจมีจำนวนประชากรที่ลดลง

ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่า ทรัพยากรจะหมดโลก แต่อาจไม่เป็นแบบนั้น

อายุเฉลี่ยของคนเราสูงขึ้น
เดิมในปี คศ. 1900 อายุเฉลี่ยของประชากรใน Eastern Europe อยู่ที่ 47 ปี
ปัจจุบัน อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ปีครับ


สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 21, 2010 5:18 pm
โดย noooon010
ปัจจุบัน สังคมญี่ปุ่น และยุโรป จะเรียกว่าสังคมของผู้สูงอายุ

(มีประชากรที่อายุ > 60ปี เป็นสัดส่วนที่มากกว่า 25 % ของประชากรทั้งหมอของประเทศ)

ภายในอีก 20 ปี ข้างหน้า ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จะมีจำนวนมากขึ้นเป็น 2 เท่าของปัจจุบัน

และในอีก 25 ปี มีความเป็นไปได้ที่ ประเทศไทยอาจเป็นสังคมของผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์

ดร.นิเวศน์ให้ความเห็นว่า

เดิม การลงทุนของคนรุ่นเก่าคือการมีลูก เพราะเชื่อว่า เมื่อเราเลี้ยงดูบุตร/ธิดาจนเค้าเติบโตขึ้น
ภายหลังเค้าจะมาเลี้ยงดูเราเมื่อยามแก่ชรา
แต่ก็พบว่า มันอาจไม่เป็นเช่นนั้น
(ขออนุญาติขยายความโดยนำประโยคจากหนังสือลงทุนหุ้นอย่างพอเพียงนะครับ/ผู้เขียน)

ในปี 2010 เป็นปีแรกที่

- OECD และจีน มีประชากรในวัยทำงานลดลง

เดิมจีนมีนโยบาย one child policy ปัจจุบัน รัฐบาลจีนยังยืนยันที่จะคงนโยบายดังกล่าวไว้จนถึงปี 2015

ซึ่งนโยบายดังกล่าวทำให้คนที่อยู่ในวัยทงาน ลดลง 200 ล้านคน
(หากเทียบกับการไม่มีนโยบายดังกล่าว)

ดังนั้นจะพบว่า ผู้มีรายได้ จะมีสัดส่วนที่น้อยลงเมื่อเทียบกับผู้ไม่มีรายได้

ดังนั้น รัฐอาจต้องหานโยบายในการที่จะหาทุนทรัพย์มาเลี้ยงดูผู้สูงอายุมากขึ้น เช่นการเก็บภาษีให้มากขึ้น

สรุปงานตลาดนัดผู้ลงทุนไทย วันเสาร์ที่ 18 กย.53 ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 21, 2010 5:28 pm
โดย noooon010
ดร.นิเวศน์เสริมว่า เชื้อโรค และมหันตภัยเช่น สึนามิ อาจมีส่วนช่วยลดจำนวนประชากรผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอกว่าคนหนุ่มสาว
เช่นตอนที่เกิดโรค SARS


พี่โจ๊ก
ปัจจุบันรัฐบาลของบางประเทศเริ่มมีนโยบายให้เกิดการเกษียนอายุให้ช้าลง เช่นให้เกษียนอายุตอนอายุ 65 ปี
เช่นในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส
(3 ปีก่อนมีประท้วงที่ฝรั่งเศสเรื่องนี้ครับ น่ากลัวเหมือนกัน/ผู้เขียน)

การเลือกลงทุนหุ้นที่เกี่ยวกับ Aging population น่าจะให้ความสนใจด้าน health care

เช่น

- วิจัยยา
- บริษัทประกันสุขภาพ
- รพ.เอกชน

ซึ่่งในประเทศไทยหุ้นที่เกี่ยวข้องที่พี่เค้าพูดถึง คือหุ้นของ รพ.เอกชนครับ

ค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทยมีอัตราต่ำกว่าประเทศอื่นมากๆ แม้แต่ที่ประเทศสิงคโปร์ และคุณภาพของแพทย์เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆมีคุณภาพเฉลี่ยสูงกว่า และทำงานได้มากกว่า

(3 ปีก่อน ผมไปดูงานที่ รพ.ตันต๊อกเส็ง ที่สิงคโปร์ แพทย์ 2 คนมีหน้าที่ให้น้ำเกลือ ซึ่งเป็นหน้าที่ของพยาบาลที่เมืองไทยครับ/ผู้เขียน)

โดยเฉพาะนโยบาย health care reform ของ คุณ Obama ก็จะเสริมให้เกิอดการ outsource คนไข้จาก USA มารักษาที่เมืองไทยมากขึ้น ดังนั้นหุ้นของ รพ.ที่รักษาผู้ป่วยต่างชาติจะน่าสนใจมากขึ้นในระยะยาวครับ

ส่วนหุ้นประกันบ้านเรา ยังไม่น่าสนใจมากนักในมุมมองของพี่เค้าเพราะคนไม่ค่อยทำประกันสุขภาพกับ บ.ประกัน
(ดร.นิเวศน์ท่านเห็นด้วยในจุดนี้ครับ)