Thai VI

ถอดเสื้อกาวน์-หูฟัง...ก้าวสู่ 'เซียนวีไอ'



ปัจจุบัน"นพ.บำรุง ศรีงาน" ยึดอาชีพหลักเป็นนักลงทุนเต็มขั้น หมออำลาชีวิตราชการมาตั้งแต่ปี 2549 เพราะต้องการย้ายครอบครัวเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง

ซึ่งสามารถไป Company Visit และประชุมผู้ถือหุ้นได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องการให้ลูกๆ 3 คน ได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ

"ตอนนั้นผมมีกำไรจากหุ้น 7 ล้านบาท รวมกับเงินต้นมีเงินในกระเป๋า 15 ล้านบาท เลยคุยกับแฟนว่าถ้าเราตั้งค่าใช้จ่ายต่อปี 1.5 ล้านบาท ถ้าทำกำไรแบบไม่คาดหวังมากได้ปีละ 5% ก็พออยู่ได้ เขาก็เชื่อใจเราเพราะทุกปีทำได้มากกว่านั้นมาตลอด"

ชีวิตประจำวันของหมอ นอกจากเลี้ยงลูก ออกกำลังกาย หาข้อมูลสำหรับการลงทุนแล้ว ยังมีหน้าที่เป็นประธานชมรมไทยวีไอ ดอทคอม ส่วนตัวได้รับประโยชน์จากเว็บไซต์นี้เยอะมากเลยรับอาสาหน้าที่หลัก คือ ดูแลสมาชิกและช่วยจัดงานสัมมนา

ปัจจุบันเงินลงทุนทั้งหมดหมออยู่ในหุ้นทั้ง 100% หมอให้เหตุผลว่า จะไปลงทุนอย่างอื่นก็ไม่ชำนาญพอ ทุกคนมีโอกาสที่จะออกจากงานประจำมาเป็นนักลงทุนอย่างเดียวได้ และมีรายได้มากกว่างานประจำ แต่ขอให้มั่นใจก่อนว่า "คุณพร้อมแล้ว"

สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ขอให้ศึกษาหาความรู้ให้มากๆ การได้กำไรมาแบบไม่มีความรู้อันตรายมาก ขอให้พิสูจน์ตัวเองสัก 3-4 ครั้ง ช่วงแรกๆ อย่าลงทุนหนัก เพราะจะทำให้เกิด "ความกลัว-ความโลภ" มาเบียดบัง "ความรู้" ที่เราจะได้รับ

"พอมีความรู้ทรัพย์ก็มาเอง การลงทุนหาความรู้ คือ สิ่งสำคัญที่สุด อย่างผมใช้เวลาถึง 5 ปีพอฐานไม่แน่นทุกอย่างมันจะพังง่ายๆ ขอให้ค่อยๆ ใช้เวลาศึกษาให้มากพอ"

คุณหมอบอกว่า จากวันแรกถึงตอนนี้ พอร์ตเติบโตขึ้นเยอะมาก กำไร 10% ในอดีตกับ 10% ตอนนี้มันต่างกันมากมาย พอร์ตในตอนนี้ถือว่าโตมาพร้อมกับความรู้ แต่การใช้ชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดตอนนี้คือการลงทุนให้กับลูกๆ โดยเฉพาะเรื่อง "การศึกษา" ล่าสุดกำลังสร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัว และคิดที่จะเป็นนักลงทุนชั่วชีวิตแน่นอน


“ส่วนตัวผมยังใช้ชีวิตแบบสามัญชนตามชื่อที่ใช้ในเว็บไซต์ ใช้ชีวิตเหนือธรรมดาก็ไม่ดี ต่ำกว่าธรรมดาก็ไม่ดี สุดท้ายก็คือเดินทางสายกลาง แค่นี้ก็มีความสุข” นพ.บำรุง กล่าวปิดท้าย

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... นวีไอ.html

นับถือๆ .....    

   

ขอน้อมจิตคารวะครับ

   

   

สุดยอดเลยครับพี่หมอขอคาระวะด้วยคน

   

Little Boy เขียน:

manza125 เขียน:

บุคคลต้นแบบแห่ง IV

แต่เอ๋... ไม่สงสัยกันหรอว่า

แต่จริงแล้วหุ้นตัวใหญ่ที่สุดในพอร์ตตอนนี้เป็นหุ้น ในกลุ่มเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่เพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจจากผู้วางเครือข่าย โทรศัพท์บ้านมาเป็นอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ (ขอไม่บอกชื่อเพราะอาจเป็นการชี้นำ)

คืออะไร

tutinglee เขียน:

Little Boy เขียน:

manza125 เขียน:

บุคคลต้นแบบแห่ง IV

แต่เอ๋... ไม่สงสัยกันหรอว่า

แต่จริงแล้วหุ้นตัวใหญ่ที่สุดในพอร์ตตอนนี้เป็นหุ้น ในกลุ่มเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่เพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจจากผู้วางเครือข่าย โทรศัพท์บ้านมาเป็นอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ (ขอไม่บอกชื่อเพราะอาจเป็นการชี้นำ)

คืออะไร

หุ้นที่หมอซื้อผมเคยมีหมดเลย แต่ต่างตรงที่ผมใจมด ไม่กล้าถือยาว 555

Paul VI เขียน:

tutinglee เขียน:

Little Boy เขียน:

manza125 เขียน:

บุคคลต้นแบบแห่ง IV

แต่เอ๋... ไม่สงสัยกันหรอว่า

แต่จริงแล้วหุ้นตัวใหญ่ที่สุดในพอร์ตตอนนี้เป็นหุ้น ในกลุ่มเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่เพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจจากผู้วางเครือข่าย โทรศัพท์บ้านมาเป็นอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ (ขอไม่บอกชื่อเพราะอาจเป็นการชี้นำ)

คืออะไร

หาได้ถือหุ้นตัวเดียวกับท่านประธานด้วย

แนวทางเรียบง่าย อธิบายชัดเจน
ดั่งเปิดของที่ปิด หงายของที่คว่ำ แล้วชี้ให้ดู
ตามดู แล้วตามรู้ (แล้วตามรวย)
(...จะกึ๋ยย อย่าโลภหนอ อย่าโลภหนอ )

         

เยี่ยมครับ

เห็นแล้วเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองบ้างครับ ของคุณที่คุณหมอช่วยสละเวลามาดูแลเว็ปนี้ครับ

บอกได้คำเดียวว่า พี่หมอสุดยอดมากครับ

“ส่วนตัวผมยังใช้ชีวิตแบบสามัญชนตามชื่อ ที่ใช้ในเว็บไซต์ ใช้ชีวิตเหนือธรรมดาก็ไม่ดี ต่ำกว่าธรรมดาก็ไม่ดี สุดท้ายก็คือเดินทางสายกลาง แค่นี้ก็มีความสุข”

ผมสงสัยมาตลอดว่าทำไมท่านประธานถึงใช้
ชื่อนี้ นับถือคุณหมอจริงๆครับ ข่าววงในบอก
ว่าตอนนี้คุณหมอ 9 หลักกว่าๆแล้ว แต่ยังใช้
ชีวิตแบบ สามัญชน น่านับถือจริงๆครับ

ขอบคุณครับ ผมคิดว่าจากบทความนี้น่าจะได้จุดเปลี่ยนสำคัญของการเป็นนักลงทุนของผม เพื่อไปสู่เป้าหมายคืออิสรภาพทางการเงิน ที่สำคัญที่สุดคือการได้ใช้เวลากับคนที่เรารักเต็มที่

ผมได้เรียนรู้จากบทความนี้ว่า การหาความรู้สำคัญที่สุด จากนั้นเราต้องหา "Style" ให้เหมาะกับ "จริต" ของตนเองให้พบ ไม่หลอกตัวเอง เพราะเรามีนักลงทุนเก่งๆมากมายที่เราสามารถเรียนรู้ "Style" ของคนเหล่านั้นได้ คุณหมอก็เป็นคนหนึ่ง(Style ของคุณหมอเน้นได้กำไรจาก Capital Gain+มีความรู้ในตัวหุ้นละเอียด+มีความกล้าหาญคือถ้าโอกาสมาถึงก็ทุ่มซื้อไปเต็มที่ บางครั้งถือหุ้นตัวเดียว+จิตใจเเข็งเเกร่ง...ขายในราคาเหมาะสม)

ว่าด้วยเรื่อง "Style" ผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด(ถัดจากการหาความรู้) เราต้องรู้ว่าตนเองเป็นเเบบใด กล้ายอมรับตนเอง (แต่ผมยังหลอกตนเองอยู่จนกระทั่งได้อ่านบทความของคุณหมอรอบที่ 2 อ่านวันนี้กับคอมตัวเดิม เเต่คิดได้มากกว่าเดิมมากๆๆๆ)

ขอ Share หน่อยนะครับ(บางทีที่ผม Post นี้อาจต้องไปอยู่ในกระทู้ "สารภาพบาป" มากกว่า)
คือ เดิมทีผมชอบและอยากเป็นนัหลงทุน Style "Warren Buffett" เเบบที่เลือกหุ้นเหมือนเลือกภรรยา ซื้อขายหุ้นไม่เกิน20ครั้งในชีวิต อยู่กินกับเงินปันผล....แต่มันไม่ใช่ "จริต" ของผม ตั้งเเต่ผมเข้าลงทุนในตลาดเมื่อพ.ค. 2009 ผมเล่นหุ้นStyle "มวยวัด" ซื้อขายไม่รู้ลึก กำไรนิดก็ขายหมู ไปซื้อกระบือ ในPortมีหุ้น 10-20 ตัว ขาดทุนก็ Cut Loss ตกใจก็ แต่ยังโชคดีที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นและยังอ่านหนังสือ, อ่านบทความหาความรู้จาก Web Thai VI อยู่บ้าง สิ้นเดือนธ.คดัชนีตลาดหุ้นขึ้นมา 50% แต่Portผมได้กำไรแค่ 5%

จุดเปลี่ยนเเรกของผมคือ "ความรู้" ครับ ผมได้อ่านหนังสือนักลงทุนดันโด(Dhandho invester) พออ่านจบ กลับไปอ่านหนังสือ"ตีแตก"เเบบละเอียดอีกที(ของเดิมอ่านผ่านๆ) ต่อด้วยอ่าน "Value way"

ผมกลับทำกำไรเพิ่มขึ้นจากช่วง พ.ค.54 ที่มีปัญหาการเมืองถึงปัจจุบัน กำไรในPortผมเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของเงินต้น(ดัชนีตลาดหุ้นก็เพิ่มขึ้น 25% 750-1,000 จุด)

ผลกำไรดีขึ้นเเต่...แต่ผมยังไม่ชนะตลาดอยู่ดีเพราะ
1) สภาพจิตใจที่ไม่เข้มเเข็ง ไม่มีวินัย ยังขายหมูอยู่(แม้จะเลี้ยงหมูไว้จนเเก่ขึ้นก็ตามที)
2) ผมพยายามปฏิเสธ "จริต" ของผมเอง ใช้Styleลูกผสม แต่ไม่รู้ลึกรู้จริงซักอย่าง ผมหลอกตัวเอง ผมอยากเป็นเเบบ Buffett ผมต้องถือหุ้นไว้กินปันผล ทั้งๆบางตัวมันได้ราคาตามเป้าที่เคยคำนวณไว้เเล้วก็ไม่ขายแต่ "จริต" ของผมไม่เหมาะกับ Style ของ Buffett(ไม่ได้ว่า Style ของ Buffett ไม่ดีนะครับ)

...แต่พอได้อ่านบทความของคุณหมอ(อีกครั้ง) ผมต้องเลิกหลอกตัวเองและเลือก Style ที่เหมาะกับ "จริต" ของผมและมุ่งศึกษา "Style" ที่เลือกให้รู้จริง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ให้ได้

สุดท้ายนี้ขออนุญาติ ยกคุณหมอเป็น Benchmark ของผมนะครับ ผมจะพยายามก้าวไปถึงอิสรภาพแบบคุณหมอให้ได้ และถ้าไปถึงจุดนั้นเมื่อไร(จุดที่สามารถเปลี่ยนให้การเป็นหมอของผมกลายเป็นงานอดิเรกและมีเวลาให้ครอบครัว) ผมจะมาPostตอบในกระทู้นี้อีกครั้ง ไว้รออ่านนะครับ....

กลับมาPostเเล้วครับหลัง Submit ข้อความไม่กี่วินาที...แต่ยังทำไม่ได้ตามเป้านะครับ ขอเเก้ประโยคเเรกครับ ของเดิมอ่านเเล้วเเปลกๆ
.
.
.
.
ขอบคุณคุณหมอมากครับ ผมคิดว่าจากบทความนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ..."สำหรับ"...การเป็นนักลงทุนของผม เพื่อไปสู่เป้าหมายคืออิสรภาพทางการเงิน ที่สำคัญที่สุดคือการได้ใช้เวลากับคนที่เรารักเต็มที่

ขอโทษทีครับ

ผมว่าบัฟเฟตก็ไม่เชิงมีราคาเป้าหมายนะ
คือถ้ามันยังดีราคาเป้าหมายก็คืออนันต์
แต้่้าตลาดให้ราคาเวอร์มากก็ขาย
ก่อนจะบอกว่าเราชอบสไตล์ไหน
อาจจะต้องรอตกผลึกความคิดก่อนคับ
ผมว่าคุณหมอทำการบ้านหนัก5-7ปี
ความคิดอ่านแกเลยลึกซึ้งจนตกผลึก
ลองกลับไปอ่านร้อยคนร้อยหุ้นtopดูสิคับ
แล้วจะรู้ว่าคุณหมอไปไกลกว่าจุดเริ่มมากกว่าจะเปนเหมือนวันนี้

ขอบคุณ ความเห็นของคุณnut776 มากมากครับ ผมต้องไปศึกษาเพิ่มเติมอีกมากเลยครับ เเต่ก็สู้ครับ ถ้าเรายังสนุกเเละมีความสุขกับการลงทุน...(:

ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนหัวข้อแล้วละครับ

กลับมาอ่านซ้ำ ได้ข้อคิดดีๆ ออกไปเสมอครับ

คุณหมอบำรุง หาหุ้น เก่งจัง

เทพ !!

พันแล้วครับ ไม่ใช่ร้อย !!!

[quote="Little Boy"][quote="manza125"]:bow:

บุคคลต้นแบบแห่ง IV

แต่เอ๋... ไม่สงสัยกันหรอว่า
[quote]
แต่จริงแล้วหุ้นตัวใหญ่ที่สุดในพอร์ตตอนนี้เป็นหุ้น ในกลุ่มเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่เพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจจากผู้วางเครือข่าย โทรศัพท์บ้านมาเป็นอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ (ขอไม่บอกชื่อเพราะอาจเป็นการชี้นำ) [/quote][/quote]

คืออะไร[/quote]

เป็นรถแจสรึป่าว

เข้ามาศึกษาครับ นับถือคุณหมอจริง ๆ : )

บุคคลต้นเเบบครับ

ขอบคุณมากครับ