Thai VI

ลองมั้งครับ จากที่ถืออยู่ 18 ตัว

1. Growth : GFPT,GLOBAL,LPN,NOBLE,SPALI,MCS,STPI

2. Dividend : PATO,PL,AIT,ASP,CHOTI

3. Asset Play :

4. Turn around : JAS,TCCC

5. Cycle : HANA

6. ไม่รู้ว่าอยู่กลุ่มไหนดี : KEST,PM,AJ

ผิดกลุ่มหรือถูกกลุ่ม แนะนำหน่อยนะครับ

romulus เขียน:n-park หุ้น...

หุ้นห่านทองคำครับ  

[quote="chatchai"]ช่วงนี้

สำหรับเด็กใหม่อย่างผมนี้ เจอกระทู้บอกโชว์หุ้นงี้ ใจระส่ำระสายดีจิงๆๆ
ฮ่าๆ แต่ไงก็ต้องลองศึกษาพื้นฐานหุ้นแต่ละตัวให้ดีๆ ก่อนลงทุนครับ อืมๆ

เท่าที่ดูๆมารู้สึกว่า หลายคนจะเอาหุ้นเข้าผิดกลุ่มนะครับเนี่ย น่าเป็นห่วง -_-

[quote="chatchai"]ช่วงนี้

[quote="Notelio"]เห็นด้วยกับพี่ chatchai ครับ เป็นผมคงเลือกบริษัท A แล้วพองบออกค่อยสลับไปบริษัท B

อยากให้พี่ฉัตรชัย ช่วยยกตัวอย่างสัก 1 บ. ที่เป็นหุ้น growth stock ครับ  ตัวที่ราคาไม่น่าซื้อแล้วก็ได้นะครับ เอามาศึกษาครับ ที่เรียกว่าถูกตัวแต่ตอนนี้ผิดราคา ประมาณนั้นครับ  หรือจะถูกตัวถูกราคา ก็น้อมรับครับ  :D  :D  :D

growth stock ของหลายๆคน ผมมองเป็นหุ้นวัฏจักรนะ เพียงแต่ตอนนี้เป็นวัฏจักรขาขึ้นของหลายๆอุตสาหกรรม หุ้นเหล่านั้นเลยดูคล้ายกับหุ้นโตเร็ว

GLOW is definitely a growth stock with capacity increase and commited sales volume.

growth stock หนึ่งเดียวที่ผมนึกออกจิงๆ ต้องนี้ TF ครับ โตเรื่อยๆ เฉลี่ยปีละ 10 %

ผมว่ากระทู้เช็คหุ้น อย่างนี้จริงๆ ก็มีประโยชน์ครับ เหมือนเป็นการเช็คความคิดของตัวเองกับคนอื่นๆ ว่าตรงกันมั้ย อย่างที่เขาบอกว่าของเหมือนกันคนแต่ละคนอาจจะมองแตกต่างกัน อยู่ที่ perception ของแต่ละคนครับ

A true growth stock should be one whose sales grow from higher sales volume as a result of an investment in capacity expansion krub.  

Otherwise, without investment to increase output capacity, the sales increase from an existing capacity is merely a sales recovery coming from business turn around/recovery or a business cycle.

หุ้นเติบโตเหรอครับ

กลุ่มพวกห้าง อย่างเช่น CPN อันนี้เวลาผมนึกชื่อห้างชื่อนี้มาก่อนเลย ดูเหมือนถ้าผ่านก็จะแวะประจำแล้วไปที่นั้นมันได้อะไรครบดีมีให้เลือกเยอะสะดวกอย่าง HMPRO ก็ OK และผมเชื่อว่าหลายคนคิดเหมือนผม
กลุ่มที่เป็น IT อย่างเช่น SIS, IT เหตุผลทุกวันนี้ผมดูเหมือนผมจะขาดคอมไม่ได้กับชีวิตประจำวันแล้วโปรแกรมใหม่ก็ชอบทำให้ต้องให้ Spec เครื่องเพิ่มขึ้น หรือความต้องการคุณภาพงานที่ดีขึ้นต้องไปซื้อ เครื่อง print หมึกพิมพ์ กล้อง digital คอมพิวเตอร์และสินค้า IT ดูเหมือนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนรุ่นใหม่

ส่วนความเหมาะสมของราคาหุ้นก็ว่ากันไปอีกทีนะครับ
ตัวผมไม่มีหุ้นที่บอกมาเลยเพราะผมพอร์ตเล็กเลยเน้นหาหุ้นที่ Upside มากถือก็ 1-2 ปี หรือพอเจอตัวที่ upside มากกว่าก็เปลี่ยน

ที่ผมมีก็

CSL GC JUBILE MCS MINT PATO SENA SNC TOP WG

หุ้นเติบโตสูง - ไม่มีแฮะ
หุ้นปันผล - CSL GC JUBILE MCS PATO นโยบายปันผลงาม ๆ ทั้งนั้น (เว้น MCS)
หุ้นเงินสด - WG (รอลุ้นกรุแตก)
หุ้น Turn Around - ไม่มีครับ
หุ้นวัฏจักร - TOP (หมายถึงวัฏจักรขึ้น ๆ ลง ๆ 40-50 บาท  :lol:   :lol: )
หุ้นปลีกวิเวก - SENA (เตรียมอัปเปหิล่ะ)
หุ้นเก็งกำไร - MINT (เห็นราคาลงไปเยอะ 8-9 บาทก็เลยขอหน่อย แต่ขายเกือบหมดล่ะ)

สุดท้ายแล้วหุ้นมันจะอยู่ที่กลุ่มไหน ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่ตัวหุ้นครับ มันอยู่ที่ตัวคนซื้อหุ้นมากกว่า

อย่างผม MINT คือหุ้นที่ซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่บางคนซื้อลงทุน
หรือ MCS ผมซื้อเพื่อรับปันผล แต่บางคนซื้อเพราะนึกว่าเป็นหุ้น growth (growth ที่ว่านี่ราคาหรือผลประกอบการ?)
หรือ N-PARK บางคนบอกเป็นหุ้น turn around (turn รอบเดียวรวยเลย) หรือบางคนอาจจะบอกนี่แหละ หุ้นตีแตก (ถ้าตีไม่แตก ก็บ้านแตก 5555)

[quote="jo7393"]อยากให้พี่ฉัตรชัย ช่วยยกตัวอย่างสัก 1 บ. ที่เป็นหุ้น growth stock ครับ

[quote="chatchai"][quote="jo7393"]อยากให้พี่ฉัตรชัย ช่วยยกตัวอย่างสัก 1 บ. ที่เป็นหุ้น growth stock ครับ

แล้วช่วงเวลานั้น  เราที่เราลงทุนผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้าง

ปี 2543  กำไรสุทธิ     43.24   ล้านบาท
ปี 2544  กำไรสุทธิ     38.58   ล้านบาท
ปี 2545  กำไรสุทธิ     52.90   ล้านบาท
ปี 2546  กำไรสุทธิ     65.89   ล้านบาท
ปี 2547  กำไรสุทธิ     69.50   ล้านบาท
ปี 2548  กำไรสุทธิ     87.53   ล้านบาท
ปี 2549  กำไรสุทธิ    100.61   ล้านบาท
ปี 2550  กำไรสุทธิ    131.13   ล้านบาท
ปี 2551  กำไรสุทธิ    140.38   ล้านบาท
ปี 2552  กำไรสุทธิ    134.06   ล้านบาท

เริ่มต้นปี 2543 กำไรใกล้เคียงกัน  วันเวลาผ่านไป 9 ปี  ต่างกัน 7.5 เท่า

ของเราเพิ่มขึ้น 210%  หรือปีละ 13.40% ตลอดช่วง 9 ปี

แต่บริษัทนั้นเพิ่มขึ้น 27.89 เท่าตัว  หรือปีละ 45.31%  

ตัวแรก H ตัวหลัง W  ใช่ไหมครับพี่  ตัวหลังผมถือ เป็นอันดับสองของพอร์ทอ่ะ  สงสัยต้องหาที่โตเร็วมาเสริมพอร์ท ซะแระ    ขอบคุณสำหรับตัวอย่างครับ  :D  :D

ปัญหาก็คือ ใครจะเชื่อว่าจะมี บ. ที่เติบโตได้เฉลี่ยปีละ 45% ติดต่อกันได้เป็น 10ปี แค่หา บ.แล้วเชื่อว่าจะเติบโต 20% ติดต่อกัน 5ปี   ยังหวั่นใจเลยว่า ทำได้ดังคาดไหม
สงสัยสายตาเราไม่ยาวพอ  หวังว่าแก่อีกหน่อยจะเปลี่ยนจากสายตาสั้น เป็นสายตายาว  แล้วจะช่วยได้  :lovl:  :lovl:  :lovl:

ลองไปหา annual report ของ homedepot มาอ่านดูสิครับ พอๆกันเลย หุหุ

บริษัทที่เติบโตได้มากๆ  ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่เริ่มอุตสาหกรรม  

Demand มากกกว่า Supply

แต่เมื่อ Supply เริ่มใกล้เคียง Demand อัตราการเติบโตคงจะลดลง

ถ้าจะพยายามรักษาอัตราการเติบโตที่สูงให้ได้เหมือนเดิม  ก็ต้องมีกลยุทธใหม่ๆ  เช่น  

ขยายไปยังตลาดที่ไม่คุ้นเคย  เช่น  ศูนย์การค้าอาจจะขยายสาขาไปต่างจังหวัด  ร้านอาหารเครือข่ายอาจต้องไปต่างประเทศ  

หาสินค้าใหม่ๆมาจำหน่าย  เช่น  ชาเขียว  เครื่องดื่มไม่อัดลม  คอนโดมิเนียม  อาหารกล่องไมโครเวฟ

ลงทุนเพิ่มในธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

การปรับกลยุทธ  แน่นอนว่าย่อมมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น  บ่อยครั้งที่ประสบความสำเร็จในตลาดหนึ่ง  แต่ไปล้มเหลวในอีกตลาดหนึ่ง

แต่บางบริษัทก็สามารถปรับกลยุทธได้ดีมากๆ  สามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ดีได้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี  ถ้าเราเลือกลงทุนในบริษัทที่ช่องว่างของตลาดยังไม่เต็ม  สามารถเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมเดิมๆ  ก็คงจะดี  ความเสี่ยงน้อย

ผมก็ไม่ค่อยชอบธุรกิจที่ขยายธุรกิจโดยไปทำอย่างอื่นๆที่ตัวเองไม่เคยทำ ผมไม่ค่อยเชื่อว่ามันใช่การลดความเสี่ยงจากธุรกิจที่ทำอยู่ แต่ชอบและมองหาธุรกิจที่พยายามจะ Copy สิ่งที่เคยทำ ไปเรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะถ้าธุรกิจไม่ดีจริงเขาคงไม่ทำซ้ำหรอก แต่ถ้าเขาหยุดทำซ้ำแล้วทางออกอื่นๆมาแทนมันบ่งบอกถึงมันอิ่มตัวแล้วหรือไม่ดีซะแล้ว จริงไหมครับ

มีหุ้นตัวไหนเป็นแบบนี้บ้างนะขอหน่อยสิหาอยู่