Thai VI

ผมติดใจอยู่อย่างเดียว เมื่อไหร่ One Up ภาษาไทย ที่ ดร นิเวศแปล จะวางแผงซะทีครับ รอเง่กแล้วผม

ก็คงเหมือนลิทธิ แนวคิด หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์
กว่าจะมาเป็นที่ยอมรับ ทุกวันนี้
ก็ต้องผ่านการพิสูจน์ ถกเถียงกันมามากต่อมากครับ

เรื่องแนวคิดการลงทุน รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่าครับ
เถียงกันไปมา ก็ไม่มีข้อสรุป เอาเวลาไปหาหุ้นดีๆ น่าจะดีกว่า

โอ้ กว่าจะอ่านจบ

ทึ่ไหนเนี่ย ต้อนรับกันดุจัง มีนิพพง นิพพานด้วย อะไรจะขไหนหนาด
(วัยรุ่นงง)

แต่อ่านแล้วก็ดีใจนะครับที่ไม่ใช่ web นี้

ดีใจคร้าบ...

คนเรามันไม่เก่งเหมือนกัน เป้าหมายของการลงทุนเนี่ยคือเอากำไร จะเพื่อสะสมยามเกษียณ จะเอาเพื่ออิสรภาพทางการเงินหรือว่า ไปทำอะไรก็แล้วแต่
ซึ่งก็คือเรามาหาเงินจากตลาดหุ้น จากการลงทุน ก็ไม่ต่างจากการทำงานอื่นๆ แต่นี่ใช้เงินมาทำงานด้วยนั่นเอง
การที่เรามาเถียงคนอื่นว่าต้องทำยังงั้นอย่างงี้ มันก็เท่านั้นเพราะเงินใครเงินมัน ดร. ท่านแสดงความเห็นกรับฟังไว้ บางทีมันอาจเข้ากับนิสัยเราไม่ได้เลยก็ได้ ก็ไม่ต้องรับมาปฏิบัติ
แต่หาวิธีไหนก็ได้ที่มันได้กำไรอ่ะเอาที่คุณถนัดก็ใช้ได้แล้ว แต่วิธีที่คุณว่าดีน่ะ ต้องได้กำไรนะครับไม่งั้นสู้เปลี่ยนนิสัยแล้วลองทำตามเซียนหุ้นที่ลงทุนแบบสบายใจดีกว่าครับ

ผมเองก็ยังติดการเก็งกำไรบ้าง แต่ก็เลือกแต่หุ้นที่ถือได้จริงๆ อาจจะไม่ใช่ VI 100 % แต่อย่างน้อยก็เลิกนิสัยการเก็งกำไรรายวันไป เพราะผมทำแล้วขาดทุน
ผมเองอ่านวิธีของ ดร. หรือ buffet ก็ไม่ถึงกับชอบวิธีของท่านเหล่านั้น แต่นับถือความอดทนและความสามารถของเค้า
ผมกลับชอบแบบที่เขียนในกุญแจ 5 ดอก ที่หาตัวเร่งด้วย เรื่อง DCA มันเกินความรู้และประสบการณ์ของผมที่จะประเมินออกมา
หรือการบริหารพอร์ตผมก็ยังใช้แบบดูเทคนิคประกอบเพราะมันพอใช้ได้ดีจริงๆ(แต่ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์)
วิธีการที่เราเลือกหลากหลายครับ เราไม่ว่ากันเพราะอาชีพของเรายังต่างกันเลย หน้าตา ความคิดไม่เหมือนสักอย่าง

แล้วจะมาว่าแนวทางคนอื่นทำไม
ของสำคัญอยู่ที่ว่าลงทุนอย่างไรให้ได้เงินไม่ขาดทุนนั่นแหละ จะนำมาซึ่งแนวทางที่คุณชอบเหมาะสมและได้เงิน แต่ VI แบบ ดร.นิเวศน์ หรือ บัฟเฟต เป็นวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าดีแค่ไหนครับ

ch_army เขียน:คนเรามันไม่เก่งเหมือนกัน เป้าหมายของการลงทุนเนี่ยคือเอากำไร จะเพื่อสะสมยามเกษียณ จะเอาเพื่ออิสรภาพทางการเงินหรือว่า ไปทำอะไรก็แล้วแต่
ซึ่งก็คือเรามาหาเงินจากตลาดหุ้น จากการลงทุน ก็ไม่ต่างจากการทำงานอื่นๆ แต่นี่ใช้เงินมาทำงานด้วยนั่นเอง
การที่เรามาเถียงคนอื่นว่าต้องทำยังงั้นอย่างงี้ มันก็เท่านั้นเพราะเงินใครเงินมัน ดร. ท่านแสดงความเห็นกรับฟังไว้ บางทีมันอาจเข้ากับนิสัยเราไม่ได้เลยก็ได้ ก็ไม่ต้องรับมาปฏิบัติ
แต่หาวิธีไหนก็ได้ที่มันได้กำไรอ่ะเอาที่คุณถนัดก็ใช้ได้แล้ว แต่วิธีที่คุณว่าดีน่ะ ต้องได้กำไรนะครับไม่งั้นสู้เปลี่ยนนิสัยแล้วลองทำตามเซียนหุ้นที่ลงทุนแบบสบายใจดีกว่าครับ

ผมเองก็ยังติดการเก็งกำไรบ้าง แต่ก็เลือกแต่หุ้นที่ถือได้จริงๆ อาจจะไม่ใช่ VI 100 % แต่อย่างน้อยก็เลิกนิสัยการเก็งกำไรรายวันไป เพราะผมทำแล้วขาดทุน
ผมเองอ่านวิธีของ ดร. หรือ buffet ก็ไม่ถึงกับชอบวิธีของท่านเหล่านั้น แต่นับถือความอดทนและความสามารถของเค้า
ผมกลับชอบแบบที่เขียนในกุญแจ 5 ดอก ที่หาตัวเร่งด้วย เรื่อง DCA มันเกินความรู้และประสบการณ์ของผมที่จะประเมินออกมา
หรือการบริหารพอร์ตผมก็ยังใช้แบบดูเทคนิคประกอบเพราะมันพอใช้ได้ดีจริงๆ(แต่ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์)
วิธีการที่เราเลือกหลากหลายครับ เราไม่ว่ากันเพราะอาชีพของเรายังต่างกันเลย หน้าตา ความคิดไม่เหมือนสักอย่าง

แล้วจะมาว่าแนวทางคนอื่นทำไม
ของสำคัญอยู่ที่ว่าลงทุนอย่างไรให้ได้เงินไม่ขาดทุนนั่นแหละ จะนำมาซึ่งแนวทางที่คุณชอบเหมาะสมและได้เงิน แต่ VI แบบ ดร.นิเวศน์ หรือ บัฟเฟต เป็นวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าดีแค่ไหนครับ

เขียนโดนใจ โอ๊ยๆๆ
เราอ่านแล้วไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นตัวเดียวกับท่าน
เราเอาวิธีการของท่านแล้วมาหุ้นเองก็ได้
เรียกว่า..พัฒนาการใหม่ หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
หรือเรียกว่าลอก...แต่ไม่เลียนแบบ