Thai VI

พี่หมอเตือนไว้พอดีเลยครับ

ผมมี case study ไว้ให้ดูด้วย
ลองไป search ดูหุ้น fuqi เป็นหุ้นขายเครื่องประดับในจีน ลักษณะคล้ายๆกับ jubile นี่แหละครับ ในพวก yahoo google finance

case คล้ายๆที่พี่หมอเตือนไว้เลย

ปีนี้ที่ผ่านมา 3 ไตรมาสแรกบริษัททำกำไรไว้ดีมาก ดีจนดูเป็นหุ้นชั้นยอด ผมก็ติดตามดูอยู่แอบซื้อติด port ไปนิดหน่อย แล้วพออ่านๆเจาะไปเรื่อยๆก็เห็นว่าบริษัทนี่มันใช้ inventory สูงมาก ถ้าลงทุนแบบนี้ต่อไปกำไรมาเท่าไหร่ก็ต้องเอาเงินไปลงทุนตลอด แถมอาจจะยังต้องเพิ่มทุนเรื่อยๆด้วย ก็เลยขายหุ้นทิ้งไป

ขายหุ้นทิ้งผ่านไป 3 วัน บริษัทประกาศลดเป้าหมายกำไร Q4 ลงเท่าตัว พร้อมบอกว่าต้องย้อนหลังแก้งบ 3 ไตรมาสของปีที่แล้ว ให้กำไรลดลง เพราะว่าบันทึก Inventory มีปัญหา แล้วปัญหาก็ตามมาอีกเป็นระลอกใหญ่ บริษัทโดนนักลงทุนฟ้องร้องมากมาย และก่อนหน้านั้นมันก็มี sign บอกมาบ้างเหมือนกัน เพราะบริษัทนี้มีหุ้นที่ถูก short คิดเป็นประมาณ 50% ของหุ้นที่ Float อยู่ ซึ่งสูงมากๆ

หลังประกาศข่าวนี้ออกมา หุ้นลงจาก 19 ไปเหลือ 10 ในวันเดียว.. เห็นแล้วยังเสียวไม่หาย

ที่ยก case มานี้เพราะเห็นว่าคล้ายกับที่พี่หมอเตือนนะครับ ไม่ได้หมายความว่า jubile นั้นไม่ดี เพียงแต่ว่าต้อง check ให้ดีๆครับ เรื่อง inventory นี่

เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

เนื่องจากว่า ผู้ลงทุนมีคำถามเรื่องนี้ ซึ่งเป็นคำถามที่กิจการอื่นๆก็โดนไม่ใช่แต่ Jubile เท่านั้น

แล้วทำไมคุณไม่ถามถึง pranda ,gfm ,swang หรือ thl บ้างล่ะ
เพราะเป็นอุตสาหกรรมเดี๋ยวกัน
แต่ทำไมตั้งคำถามกับ jubile อย่างเดียวล่ะ

บริษัทกลุ่มนี้ก็ต้องใช้อัญมณีมาทำ ใช้เครื่องเงินมาทำ ใช้ทองและแพลตินั่มมาทำเครื่องประดับ
แล้วไม่มีใครเคยถามถึงปัญหาเรื่อง Inventory พวกนี้หรือ

ถ้าหากมันมีปัญหา ก็ใช้เวลาในการดูใจของผู้บริหารว่าเป็นอย่างไง
ดูใจคณะกรรมการตรวจสอบว่าเป็นเช่นไร

ผมไม่ค่อยเห็นคนที่ออกมาพูดประเด็นเหล่านี้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อซักค้านประเ็ด็นเหล่านี้เท่าไรนักครับ กรุณาไปใช้สิทธิ์ในการตั้งคำถามในเวทีผู้ถือหุ้นบ้างเถอะ เพื่อเป็นการให้ความรู้คนอื่นๆด้วยว่า ท่านสงสัยแบบนี้ มันเป็นวิทยาทานสำหรับนักลงทุนที่เดินมาที่หลัง ที่รู้ว่าคนที่เข้าร่วมประชุมนั้น สงสัยในประเด็นเหล่านี้ เมื่อกลับไปอ่านเจอ เพื่อนนักลงทุนเหล่านั้นได้ความรู้ไปในตัวด้วย ไม่ใช่นั่งเดาว่า มันเป็นแบบนี้เพราะแบบนี้ มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น หยุดเถอะครับ ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวหุ้นมันเองบ้างเถอะ
ดูพฤติกรรมของกรรมการ ดูการแสดงออกของเหล่าคณะกรรมการ เฝ้าดูการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบบัญชีว่า มีความเข้มข้นมากหรือไม่
พวกนี้แหล่ะเป็นสิ่งที่นักลงทุนโดยเฉพาะผู้ถือหุ้นควรเข้าไปดู

ผมอ่านของพี่ miracle แล้วโดนใจครับ แต่ผมไม่ได้ว่าอะไรพี่หมอนะครับ ผมรู้ว่าพี่หวังดีกับทุกคนเสมอ

เรื่องธรรมาภิบาลพิสูจน์ยากครับ ผมก็ถือหุ้นที่เจ้าของไม่น่าไว้ใจเหมือนกันเลยรู้ว่าเรื่องพวกนี้บางทีมันเป็น perception ซึ่งอาจจะต่างจาก reality มันยากที่คนเราจะมองผ่านอคติในจิตใจได้ แต่ถ้ารู้ว่าเรามีอคติก็จะจัดการกับมันได้ครับ

JUBILE เนี่ย ผมอ่านๆดูเหมือนคนจะอ่านงบดุลแค่ด้านเดียวนะครับ ต้องอ่านทั้ง 2 ฝั่งนะครับ อย่างเพิ่งบอกว่าเค้าประเมินผิดจนกว่าจะได้อ่านอีกฝั่งนึงครับ

miracle เขียน:เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

เนื่องจากว่า ผู้ลงทุนมีคำถามเรื่องนี้ ซึ่งเป็นคำถามที่กิจการอื่นๆก็โดนไม่ใช่แต่ Jubile เท่านั้น

แล้วทำไมคุณไม่ถามถึง pranda ,gfm ,swang หรือ thl บ้างล่ะ
เพราะเป็นอุตสาหกรรมเดี๋ยวกัน
แต่ทำไมตั้งคำถามกับ jubile อย่างเดียวล่ะ

บริษัทกลุ่มนี้ก็ต้องใช้อัญมณีมาทำ ใช้เครื่องเงินมาทำ ใช้ทองและแพลตินั่มมาทำเครื่องประดับ
แล้วไม่มีใครเคยถามถึงปัญหาเรื่อง Inventory พวกนี้หรือ

ถ้าหากมันมีปัญหา ก็ใช้เวลาในการดูใจของผู้บริหารว่าเป็นอย่างไง
ดูใจคณะกรรมการตรวจสอบว่าเป็นเช่นไร

ผมไม่ค่อยเห็นคนที่ออกมาพูดประเด็นเหล่านี้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อซักค้านประเ็ด็นเหล่านี้เท่าไรนักครับ กรุณาไปใช้สิทธิ์ในการตั้งคำถามในเวทีผู้ถือหุ้นบ้างเถอะ เพื่อเป็นการให้ความรู้คนอื่นๆด้วยว่า ท่านสงสัยแบบนี้ มันเป็นวิทยาทานสำหรับนักลงทุนที่เดินมาที่หลัง ที่รู้ว่าคนที่เข้าร่วมประชุมนั้น สงสัยในประเด็นเหล่านี้ เมื่อกลับไปอ่านเจอ เพื่อนนักลงทุนเหล่านั้นได้ความรู้ไปในตัวด้วย ไม่ใช่นั่งเดาว่า มันเป็นแบบนี้เพราะแบบนี้ มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น หยุดเถอะครับ ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวหุ้นมันเองบ้างเถอะ
ดูพฤติกรรมของกรรมการ ดูการแสดงออกของเหล่าคณะกรรมการ เฝ้าดูการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบบัญชีว่า มีความเข้มข้นมากหรือไม่
พวกนี้แหล่ะเป็นสิ่งที่นักลงทุนโดยเฉพาะผู้ถือหุ้นควรเข้าไปดู

ไม่เข้าใจว่าโวยวายอะไรครับ มีคนหวังดีออกมาเตือน ไม่ได้ตั้งคำถามในความโปร่งใสใดๆ

พวก pranda ,gfm ,swang ก็ในเว็บเรา ไม่ได้มีคนเล่นเยอะขนาด jubile นี่ครับ ช่วงนี้หุ้น jubile กำลังดัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเกิดอาการ "ตามเซียน" หรือเปล่า มีข้อทักท้วงในข้อใด ก็ออกมาเตือนกัน นี่เป็นข้อดี ไม่เห็นจะต้องโวยวายอะไรเลยครับ

เรื่องให้ไปถามในประชุมผู้ถือหุ้น ก็บางคนเค้าไม่ได้ถือนี่ครับ จะให้เค้าไปถามทำไม แต่ด้วยประสบการณ์ ก็เลยเตือนๆ นิดหน่อย

รักหุ้นได้ แต่อย่าตาบอดครับ แล้วก็ควรจะรับรู้ได้ ไม่ว่าข้อมูลที่ได้มา จะเป็นข้อมูลด้านดี และข้อมูลด้านไม่ดี

newbie_12 เขียน:

ผมมองในอีกแง่มุมหนึ่งมากกว่า
เพราะ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการประชุมผู้ถือหุ้น
โวยวายไปผมก็มีแต่เสียกับเสีย สำหรับคนที่มาเปิดประเด็นแย้งกัน

แต่ Inventory หากมากเกินไป มันทำให้เสียโอกาสที่เงินหมุนไปหารายได้เพิ่มเติม ในรูปอื่นๆ
หากน้อยเกินไป เสียโอกาสในการดำเนินงานทางธุรกิจ

จุดนี้ต้องดูพฤติกรรมของผู้บริหารมากกว่า
ผู้บริหารเข้ามีธรรมภิบาลหรือไม่ ตั้งสำรองเหมาะสมหรือเปล่า มากกว่า

หุ้นที่เข้ามาใหม่ต้องใช้เวลาในการเข้าใจมัน
ไม่ใช่ยกตัวอย่างในอดีตที่ตัวเองประสบเจอะเจอมาเป็นบรรทัดฐาน
หรือ เอาความคิดตัวเองมาเป็นบรรทัดฐาน เพราะมันอาจจะผิดได้
(ตามหลักกาลามสูตร) หรือ ความคิดนั้นเหมือนกับของเรา
พวกนี้ต้องให้ความสำคัญมากๆไว้ครับ

ผมเหนื่อยที่อธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือเพราะบ้างประเด็นเป็นประเด็นที่
มีคำตอบอยู่ในตัวตอนประชุมผู้ถือหุ้นอยู่แล้ว
แต่มีคนที่ให้ความสำคัญในการประชุมหรืออ่านบันทึกประชุมมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

ตกลงว่าตอนนี้คุยกันเรื่อง
"ความสำคัญของการดู Inventory" หรือว่า
"ความสำคัญของการประชุมผู้ถือหุ้น" ... ผมชักงงๆ
แต่ที่แน่ๆ ผมว่าไม่ได้คุยกันเรื่อง "ผู้บริหารของบริษัทไหนซื่อสัตย์หรือไม่" แน่ๆ ครับ

ใจเย็นๆกันดีกว่า  :lol:

ผมขอยกกรณีของ SVOA ที่ตั้งแต่ปี 2008-2009 มีปัญหาเรื่อง inventory
ตัวนี้ชัดเจนว่า
ถ้าหากผู้บริหารนั้น ประเมินตลาดผิดพลาด ทำให้ inventory บวม ไม่สามารถเอาเงินไปบริหารบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และ ผู้ถือหุ้นก็เห็นตัวนี้ ผู้ถือหุ้นก็ถามให้เกิดประเด็นในรายงานประชุม
เพื่อที่ตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารว่ามีการดำเนินงานดีหรือเปล่า

จุดนี้มันสัมพันธ์กันหมด ว่าถ้า ผู้บริหารนั้นสามารถขับเคลื่อนบริษัทได้ดี
สินทรัพย์ หนี้สิน และ ทุนก็สะท้อน
รวมไปถึง ส่วนของงบกระแสเงินสด งบกำไรขาดทุน เดินไปแบบไม่ติดขัดอะไร

มันแยกกันออกได้ แต่ จริงมันสะท้อนเป็นแบบกระจกเงากันอยู่

ผมก็บอกหลายต่อหลายครั้งแล้ว
การติดตามการทำงานของผู้บริหารนั้นเราดูง่ายๆจากการดำเนินงานของบริษัท ผ่านตัวงบที่เป็นอดีต ว่า สิ่งที่ผู้บริหารนั้นพูดผ่านสื่อ หรือทำนั้นประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไง

และถ้าเกิดคำถามก็ควรถามกันว่า เป็นเพราะอะไร

yoyo เขียน: แต่ที่แน่ๆ ผมว่าไม่ได้คุยกันเรื่อง "ผู้บริหารของบริษัทไหนซื่อสัตย์หรือไม่" แน่ๆ ครับ

โยครับ ถ้าคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมประเมินราคาเพชรผิดเนี่ย ผมว่าไม่ปกตินะครับ คง imply เป็นแบบอื่นไม่ได้ครับ
แต่ jubile ประเมินผิดหรือเปล่าเนี่ย ผมไม่ทราบครับ

สามัญชน เขียน: ท่านบอกให้สมาชิกใช้ความระมัดระวังเช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ
ไม่ใช่บริษัทอื่นๆเราระวังแต่จูบิลี่ไม่ระวัง
และความระวังนี้ควรจะมีอยู่กับตัวตลอดไปไม่ว่าจะเล่นหุ้นตัวไหนหรือเล่นมานานเท่าไหร่

จากที่โพส ผมไม่เห็นจะมี Bias ของพี่หมอตรงไหนเลยคับ ก็เหมือนผู้ใหญ่ห่วงลูกหลานธรรมดา ให้มีสติ ขับรถไปเที่ยวก็ให้ขับระมัดระวัง ดูซ้ายขวา ระวังรถเฉี่ยวชน  ถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ผู้ใหญ่ก็ชื่นใจ หมดห่วง แค่นั้นคับ  " อย่าให้เป็นประเด็น ร้อนในกระทู้เลยคับ  "  :idea:

อ่านที่พี่หมอสามัญชนเขียน เหมือนกับว่าจะมีเตือนเกี่ยวกับอย่างอื่นอื่นด้วย คล้ายๆกับระวังการปั่นหุ้นจากกระทู้ (หรือผมจะคิดไปคนเดียว ก็ไม่รู้)

Alastor เขียน:ผมอ่านของพี่ miracle แล้วโดนใจครับ แต่ผมไม่ได้ว่าอะไรพี่หมอนะครับ ผมรู้ว่าพี่หวังดีกับทุกคนเสมอ

เรื่องธรรมาภิบาลพิสูจน์ยากครับ ผมก็ถือหุ้นที่เจ้าของไม่น่าไว้ใจเหมือนกันเลยรู้ว่าเรื่องพวกนี้บางทีมันเป็น perception ซึ่งอาจจะต่างจาก reality มันยากที่คนเราจะมองผ่านอคติในจิตใจได้ แต่ถ้ารู้ว่าเรามีอคติก็จะจัดการกับมันได้ครับ

JUBILE เนี่ย ผมอ่านๆดูเหมือนคนจะอ่านงบดุลแค่ด้านเดียวนะครับ ต้องอ่านทั้ง 2 ฝั่งนะครับ อย่างเพิ่งบอกว่าเค้าประเมินผิดจนกว่าจะได้อ่านอีกฝั่งนึงครับ

มันมีอะไรอีกฝั่งหรอคับ??

ขอบคุณจริงๆ ครับ ทั้ง คุณพี่หมอ และ คุณ yoyo

ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีจริงๆนะเวลาที่มีใครมาเตือนอะไรเรา

ดูที่เจตนา ก็พอรู้แล้วว่าเค้าหวังดี

ดูที่คุณ yoyo ยก ตัวอย่างให้ดูสิ ไม่ใช่ประโยชน์หรอกเหรอ
ผมว่าได้เข้าใจ โดยเห็นตัวอย่างเต็มๆ ดีจริงๆ

มันเป็นเพียงแง่มุมให้เราได้ระวัง เพื่อเรียนรู้ เข้าใจ และตัดสินใจที่จะดำเนินต่อไปอย่างไร

neo_potato_Th เขียน: มันมีอะไรอีกฝั่งหรอคับ??

ก็ Asset = Liability + Equity ไงครับ

ผมจำได้ว่าถ้าราคายุติธรรมของ Inventory เพิ่มบริษัทสามารถปรับมูลค่า Inventory ได้ โดยยังไม่นับเป็น Profit ไปเข้า Equity เลย ดังนั้นถ้า jubile ปรับมูลค่า Inventory เพิ่มจนดูสูงเกินจริงก็น่าจะเห็นที่ Equity ครับ
แต่ผมไป check ดูแล้ว ที่ผมคิดตอนแรกน่าจะเป็น US GAAP ครับ แต่ของไทยเป็น IFRS เลยทำแบบนี้ไม่ได้ครับ
ดูนโยบายของ jubile เอาค่าที่ต่ำกว่าของราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิ ซึ่งก็ปกติอยู่แล้ว
ถ้าจะประเมินราคาผิดก็จะเป็นตั้งแต่แรกซื้อ inventory เข้ามาเลย แบบว่าตั้งบริษัทขึ้นมากินหัวคิวก่อน ซึ่งจะสังเกตได้จาก gross margin ที่ต่ำกว่าปกติ แต่เท่าที่ดูผมว่าก็สูงนิ สูงจนไม่อยากซื้อของจาก Jubile เลยเฮะ
ผมคิดว่านักลงทุนตามดู gross margin ก็จะ monitor การดำเนินงานของบริษัทได้ครับ

กระทู้ นี้ ก็ ให้ความรู้ ไม่เฉพาะ คนที่ถือ หุ้น Jubile

ได้ดู มุมมอง ของแต่ละคน ได้ประโยชน์ กัน ถ้วนหน้า สำหรับ ผม ผมได้ความรู้ อีก ขอบคุณ ทุกคนครับ

ผมไม่ต่อความยาวสาวความยืดล่ะักัน
โพสไปก็เข้าเนื้อ ว่าผมเข้าข้างบริษัท แต่ถ้าหากใครรู้
ผมก็ไม่ใช่คนที่เข้าข้างบริษัทหรอกนักครับ
ซัดเป็นซัดเหมือนกัน ไม่ใช่มานักเดาว่า มันคืืออะไร
มันต้องแบบนั้นแบบนี้หรอกครับ

miracle เขียน:ผมไม่ต่อความยาวสาวความยืดล่ะักัน
โพสไปก็เข้าเนื้อ ว่าผมเข้าข้างบริษัท แต่ถ้าหากใครรู้
ผมก็ไม่ใช่คนที่เข้าข้างบริษัทหรอกนักครับ
ซัดเป็นซัดเหมือนกัน ไม่ใช่มานักเดาว่า มันคืืออะไร
มันต้องแบบนั้นแบบนี้หรอกครับ

ืยืนยันครับ วันประชุม คุณ มิ ซัก กรรมการ บริษัท ซะเต็มที่เลย  

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแชร์ความรู้ครับ  
ผมรักThai VI ก็เพราะอย่างนี้แหละครับ  :D  


PS
ไม่ได้เป้นเจ้าของ แต่ปลื้ม CFO เช่นกัน  :lol:

Alastor เขียน: ก็ Asset = Liability + Equity ไงครับ

ผมจำได้ว่าถ้าราคายุติธรรมของ Inventory เพิ่มบริษัทสามารถปรับมูลค่า Inventory ได้ โดยยังไม่นับเป็น Profit ไปเข้า Equity เลย ดังนั้นถ้า jubile ปรับมูลค่า Inventory เพิ่มจนดูสูงเกินจริงก็น่าจะเห็นที่ Equity ครับ
แต่ผมไป check ดูแล้ว ที่ผมคิดตอนแรกน่าจะเป็น US GAAP ครับ แต่ของไทยเป็น IFRS เลยทำแบบนี้ไม่ได้ครับ
ดูนโยบายของ jubile เอาค่าที่ต่ำกว่าของราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิ ซึ่งก็ปกติอยู่แล้ว
ถ้าจะประเมินราคาผิดก็จะเป็นตั้งแต่แรกซื้อ inventory เข้ามาเลย แบบว่าตั้งบริษัทขึ้นมากินหัวคิวก่อน ซึ่งจะสังเกตได้จาก gross margin ที่ต่ำกว่าปกติ แต่เท่าที่ดูผมว่าก็สูงนิ สูงจนไม่อยากซื้อของจาก Jubile เลยเฮะ
ผมคิดว่านักลงทุนตามดู gross margin ก็จะ monitor การดำเนินงานของบริษัทได้ครับ

เห็นภาพๆ ขอบคุณมากครับ

ผมกำลังสนใจ jubile แล้วพอดีพี่ miracle แนะนำมา เยี่ยมครับ แบบนี้ละที่อยากเห็นใน Thaivi เห็นต่างได้ไม่แตกแยก....ปิ๋ว ๆ

ขอโทษครับ พี่ Killyz ไม่ใช่พี่ miracle ครับ แต่ก็ขอบคุณพี่ miracle เหมือนกันที่ให้ความรู้ครับ

o-bo-ja-ma เขียน:ผมกำลังสนใจ jubile แล้วพอดีพี่ miracle แนะนำมา เยี่ยมครับ แบบนี้ละที่อยากเห็นใน Thaivi เห็นต่างได้ไม่แตกแยก....ปิ๋ว ๆ

ชอบครับ ประโยคนี้    

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อคิด แบ่งปันความรู้ครับ

[quote="SEHJU"][quote="tanapol"][quote="vi_tal

ขอบคุณ คุณหมอ คุณโย คุณ miracle คุณ Alastor และท่านอื่นๆ ที่เตือนและให้แง่คิดในหลายๆ มุมครับ  

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกๆ ท่านนะครับ
ไม่รู้พลาดกระทู้นี้ไปได้ยังไง  อิอิ

ครับอย่างที่พี่หมอเตือนครับ
ผมเองทางบ้านก็ทำงานอยู่ในวงนี้ครับพวกเพชร พลอย ทอง
หุ้นพวกเพชร พลอย เป้นหุ้นที่ผมจะไม่ลงทุนอย่างเด็ดขาดเลยครับ อาจเป็นเพราะรู้เกี่ยวกับวงการนี้มากไปก็ได้ครับ โดเฉพาะพลอยนี่ หาราคามาตรฐานไม่มีเลยครับ อย่างพลอยแดงหรือทับทิม มีบ่อใหม่บอ่เก่า จากคนละแหล่ง ก็คนละราคาและราคาแตกต่างกันมาก คนทั่วไปไม่มีทางรู้ว่ามาจากแหล่งไหน หรือมรกตก็ใช่ คนทั่วไปรู้แค่มรกต ไม่รู้แหล่ง แถมพลอยบางชนิดมีการเผาเพื่อเปลี่ยน สี  ก็คนละราคากับพลอยดิบอีก  การตีราคาเป็นเรื่องความพอใจของผู้ซื้อเป็นหลักอาศัยว่าเคยซื้อราคาไหน แต่เมื่อของไซค์ สีที่ต้องการหาไม่ได้ ราคาจะแพงแบบโดดได้ หุ้นพวกเพชรพลอยเป็นหุ้นที่ผมกลัวเลยหล่ะครับ เพราะเรื่องการตีราคานี่แหละครับ

ผมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การตีราคานะครับ

ปัญหาอยู่ที่ว่าขายได้ไหม

ถ้าตราบใดยอดขายโต กำไรโต กระแสเงินสดดี

แสดงว่ามีคนมาซื้อต่อไป และ ณ ราคาขายนั้นแสดงว่าแข่งขันได้ในตลาด

สรุปก็คือ มีคนหวังดีช่วยออกมาเตือนให้ระมัดระวังมากขึ้นในการลงทุน  ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ร่วมแบ่งปัน เพราะไม่ได้ระบุหรือให้ร้ายแบบเฉพาะเจาะจง  ตามข้อความ

ที่ผมท้วงนี้  ผมไม่ได้มีข้อมูลว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากล  หรือกะจะทุบหุ้นนะครับ

ท้วงเพื่อให้เราระวังเหมือนๆ  หรือเท่าๆกับบริษัทอื่นๆทั่วๆไปเท่านั้นเอง

ความเห็นที่แตกต่างน่าจะเป็นเรื่องที่ดีในเวปนี้เพื่อช่วยเตือนสติแก่นักลงทุน  เพราะบางครั้งนักลงทุนเองก็อาจจะมองหุ้นในดวงใจดีเกินไป


หากสังคมของเรามีคนช่วยกันออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างบ้างในเชิงสร้างสรรค์  น่าจะช่วยส่งเสริมให้นักลงทุนมองอย่างรอบด้านมากขึ้นได้ค่ะ

newbie_12 เขียน:
พวก pranda ,gfm ,swang ก็ในเว็บเรา ไม่ได้มีคนเล่นเยอะขนาด jubile นี่ครับ ช่วงนี้หุ้น jubile กำลังดัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเกิดอาการ "ตามเซียน" หรือเปล่า มีข้อทักท้วงในข้อใด ก็ออกมาเตือนกัน นี่เป็นข้อดี

จริงอย่างที่ ดร. ว่า จริงอย่างที่คุณ miracle ว่า  และก็จริงอย่างที่คุณ newbie_12 ว่าเช่นกัน

ยืนยันอีกคนว่าทุกบริษัทที่กล่าวมีลักษณะการประกอบธุรกิจเปิดโอกาสให้หลบเลี่ยงปรับแต่งรายการได้ง่ายกว่าทั่วไป  จึงขึ้นกับธรรมาภิบาลของผู้บริหาร อย่างที่ทุกท่านรู้ครับ

เพชรของ JUBILE มีใบรับประกันจาก GIA และ HRD ครับ เป็นส่วนนึงของนโยบายสร้างความมั่นใจให้ลูกค้่่าของบริษัท ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าทาง GIA และ HRD จะตีราคาออกมาให้เลยรึเปล่า แต่ถ้าไม่ ก็สามารถเทียบราคาจาก rapaport diamond report ได้ ซึ่งไม่คิดว่าจะยากอะไร เพราะในใบรับประกันจะต้องระบุ 4C คือ สี ขนาด การเจียระนัย และความบริสุทธิ สรุป การประเมินราคาที่เหมาะสม ไม่น่าจะยากเกินไปครับ

เพชร ไม่เหมือนพลอยร่วงครับ ราคาถูก ควบคุมโดย เดอเบียร์ พลอยร่วงราคาอาจจะขึ้นอยู่กับความพอใจขอลูกค้า แต่เพชร ไม่ครับ