หน้า 2 จากทั้งหมด 3

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 11:07 am
โดย เด็กเลี้ยงไม้
ขอบคุณครับ
พอเข้าใจเรื่องตัวเลขคราวๆและ
แต่ต้องศึกษาอีกที   :)

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 11:22 am
โดย neo_potato_Th
ถามพี่ ส สลึงครับว่าพี่หาFCFของกลุ่มประกันยังไง??

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 1:52 pm
โดย ส.สลึง
neo_potato_Th เขียน:ถามพี่ ส สลึงครับว่าพี่หาFCFของกลุ่มประกันยังไง??
ต้องออกตัวก่อนนะครับ
ว่าผมไม่ได้คำนวณหา intrinsic value ด้วย dcf แต่อย่างใด
ผมจึงไม่จำเป็นต้องมีการคาดการณ์ที่แม่นยำ

ดังนั้น fcf ที่ผมใช้จึงไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
แต่อาศัยความง่ายเป็นหลัก
และอาศัยติดตามการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี

fcf ของผม = เงินสดจากการดำเนินงาน + เงินสดจากการลงทุน
หรือ = เงินสด ณ วันสิ้นงวด - เงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน

เป็น fcf แบบบ้านๆ :)
ที่พอจะบอกความน่าสนใจลงทุนได้
แต่สิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากกว่า
คือที่มาของ fcf และที่ๆ fcf ไป

ปล.
บ.ประกัน ผมก็คิดเหมือนกันครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 9:55 pm
โดย neo_potato_Th
ลองนึกภาพเป็นเครื่องจักรดูครับ  (สุมมติไม่คิดค่าเสื่อมนะคับ)
สมมุติผมมีเครื่องจักรมหัศจรรย์ที่สามารถใส่เงินเข้าไป100บาทแล้วจะได้เงินออกมา 120 บาท FCF หรือ owner earning ก็คือ 20บาทเป็นเงินสดที่เข้ากระเป๋าเรา!  สมมมุติเครื่องจักรเราใส่เงินได้เต็มที่1000บาท


ทีนี้เริ่มต้นปีที1
เรามีเครื่องจักร1เครื่อง ใส่เงินไป 1000บาท ได้เงินมา 1200บาท -->กำไรสุทธิ= 200บาท เราจึงตัดสินใจเอาเงินไปลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 1เครื่องหมดตังไป100บาท ได้เครื่องจักรมา1เครื่อง  ดังนั้นเหลือFCFเข้ากระเป่าเรา100บาท  

ปีที่2 เรามีเครื่องจักร2 เครื่อง  ใส่เงินไป2000บาทได้เงินมา 2400บาท กำไรสุทธิ 400บาท  ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 1 เครื่อง หมดตัง ไป 100 บาท ดังนั้นเหลือ FCF 300 บาท

ปีที่3 มีเครื่องจักร3เครื่อง  ใส่เงินไป 3000บาท ได้เงินมา 3600 บาท กำไร 600บาท  สมมุติปีนี้รู้สึกว่าตัวเองรวยแล้วเลิกเอาเงินไปเที่ยวเชียงใหม่หาหลินปิงดีกว่า       ไม่คิดจะขยายกิจการอีกต่อไป จะเดินเครื่องด้วยเครื่องจักร3เครื่องไปเรื่อยๆตั้งแต่ปีที่4

สมุมติเงินเฟ้อ3% ใช้อัตราคิดลด10%
ดังนั้นปีที่4 terminal value= 600*100/(10-3)=8571

ถามว่าจะซื้อเครื่องจักรดีมั้ยที่ราคา 3000บาท

มาดูกันFCFปีที่1 = 100บาท  ปีท่2=300บาท  ปีที่3=600บาท  terminalvaue= 8571

intrinsicvalue= 100/1.1+300/1.1^2+600/1.1^3+8571/1.1^3
=90.9+247.93+450.79+6440   =7229 บาท

ดีลนี้MOSน่าพอใจซื้อดีกว่า:D

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 8:57 am
โดย sphere
Voldtrest เขียน:

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 10:26 am
โดย neo_potato_Th
ก็ขึ้นกับFCFละครับว่า2014จะเป็นเท่าไหร่อย่างในcase ผมเดาว่าไปต่ออีก15% ก็ใช้FCFของ2014 x 10

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 10:44 am
โดย sphere
ผมดูอีกทีแล้วเข้าใจแล้วครับ ผมดูหลักผิดไปเองแหละ :oops:  วิธีนี้จริงๆก็น่าจะใช้ได้ดีนะครับแต่ว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวคูณของปีสุดท้ายแต่ถ้าเราคิดแบบconservativeก็น่าจะช่วยให้ค่าไม่ผิดพลาดมาก

ส่วนวิธีนี้จะให้ผลแตกต่างจากDCFแบบดั้งเดิมไหมหรือมีจุดอ่อนยังไงผมว่าต้องเชิญระดับอาจารย์อย่างคุณฉัตรชัย หรืออ.มนมาวิจารณ์แล้วล่ะครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 11:14 am
โดย neo_potato_Th
ผมว่าใช้terminal valueก็ได้ไม่ต้องคิดมาก :lol:

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 11:37 am
โดย chatchai
วิธีการคิดราคาแบบ ดันโด เป็นวิธีที่ผมใช้ครับ

แต่ FCF ที่ผมทำประมาณการนั้น

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 12:18 pm
โดย sphere
แล้วถ้าเราจะเริ่มประมาณการงบการเงินควรเริ่มยังไงครับ เช่น มีหนังสือ หรือหลักการอะไรแนะนำไหมครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 2:32 pm
โดย neo_potato_Th
ขอบคุณมากครับ :D

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 4:35 pm
โดย ส.สลึง
[quote="chatchai"]เราควรที่จะศึกษาและฝึกทำประมาณการงบการเงินนะครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 4:56 pm
โดย ส.สลึง
neo_potato_Th เขียน:ทีนี้เริ่มต้นปีที1
เรามีเครื่องจักร1เครื่อง ใส่เงินไป 1000บาท ได้เงินมา 1200บาท -->กำไรสุทธิ= 200บาท เราจึงตัดสินใจเอาเงินไปลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 1เครื่องหมดตังไป100บาท ได้เครื่องจักรมา1เครื่อง  ดังนั้นเหลือFCFเข้ากระเป่าเรา100บาท  

ปีที่2 เรามีเครื่องจักร2 เครื่อง  ใส่เงินไป2000บาทได้เงินมา 2400บาท กำไรสุทธิ 400บาท  ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 1 เครื่อง หมดตัง ไป 100 บาท ดังนั้นเหลือ FCF 300 บาท
จากตัวอย่าง ผมว่าดูจะสุดโต่งไปหน่อย :) ...
เพราะเครื่องจักรแรกซื้อมาในราคา 1,000
แต่เครื่องที่ 2 ซื้อมาในราคาแค่ 100

อันนี้ผมแซวเล่นครับน้อง neo :wink: ...

สำหรับการพิจารณา FCF ของผม ผมจะมองอะไรที่ต่างไปครับ
ลืมเรื่อง DCF ไปได้เลย เพราะผมไม่ใช้

บ. A ทำธุรกิจเหมือน บ. B
บ. A มีเครื่องจักร 6 เครื่อง ผลิต FCF ได้ปีละ 600
ส่วน บ. B มีเครื่องจักรเครื่องเดียว ผลิต FCF ได้ปีละ 100
ต่อมาทั้ง 2 บ. ประสงค์จะเพิ่มกำลังผลิต
โดยลงทุนเพิ่มเครื่องจักรใหม่ 1 เครื่อง มูลค่า 2,000
ซึ่งทั้ง 2 บ. จะใช้เงินจากเงินทุนหมุนเวียน กับกู้มาบ้างส่วน

สิ่งที่ผมสนใจคือ
กำลังจะเกิดขึ้นกับ บ. A และ บ. B บ้าง
เมื่อปีต่อๆไป FCF ของ บ.A และ บ. B ลดลง...

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 4:14 pm
โดย neo_potato_Th
เราควรที่จะศึกษาและฝึกทำประมาณการงบการเงินนะครับ  อย่างพยายามคิดง่ายๆ  ถ้าง่ายแต่ผิดพลาดเยอะ  คงไม่ดี  จริงไหมครับ

สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินสด  เช่น  สถาบันการเงิน  ประกันต่างๆ  คงไม่สามารถใช้วิธีการนี้ได้ครับ
เห็นดว้ยครับ
แล้วการประมาณการควรจะทำยังไงบ้างครับ??
-extrapolateไปเลย??
-ยังไงดี??

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 4:31 pm
โดย neo_potato_Th
extrapolateไปเลยคงไม่work
ผมว่าต้องดูเป็นรายบริษัทไปว่าGPM,SGA,NPM มันเป็นสัดส่วนยังไง
เช่นSGAเพิ่มตามยอดขายตามๆสัดส่วนเท่าๆกันรึเปล่า?? GPM,NPMอนาคตจะเป็นยังไง

ส่วน CWC อ่านในหนังสือท่านแม่ทัพ มี2แบบคือบางครั้งเค้าถือว่าเป็น0ในบางธุรกิจเช่น modern trade พูดง่ายๆคือไม่ต้องใส่เงินเข้าไปในระบบเพิ่ม-->มีอีกรึเปล่าใครรู้ช่วยตอบที

ส่วนอีกแบบคือ CWCเพิ่มเป็นอัตราส่วนตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น เช่นเป็นสัดส่วน20%ของยอดขายไปเรื่อยๆCWCจะต้องเพิ่มเรือ่ยๆ

ชักงงแล้ว :shock:

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 8:10 pm
โดย sphere
จริงๆเรื่องการประมาณการนี่ทำให้เราเช็คได้เลยนะครับว่าเราเข้าใจบริษัทขนาดไหน ผมเคยคิดว่าเข้าใจแต่พอประมาณการแล้วกลายเป็นว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่เราไม่รู้

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 8:11 pm
โดย picklife
:D ขอบคุณน้องneoครับที่ช่วยสอนDCFแบบบ้านๆให้ เพิ่งจะเข้าใจConcept.....แต่ดูแล้วขอกลับไปใช้PEเหมือนเดิมดีกว่าครับ :oops:

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 8:24 pm
โดย neo_potato_Th
pwz เขียน:จริงๆเรื่องการประมาณการนี่ทำให้เราเช็คได้เลยนะครับว่าเราเข้าใจบริษัทขนาดไหน ผมเคยคิดว่าเข้าใจแต่พอประมาณการแล้วกลายเป็นว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่เราไม่รู้
เห็นด้วยๆ :D

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 12:50 am
โดย sphere
ผมสองเอาวิธีนี้ไปใช้เทียบกับิธีของคุณสุมาอี้ดูโดยเอาเอาตัวอย่างหุ้นmintแล้วใช้FCFปีที่8ตามหนังสือคูณด้วยราคาขายที่10และ15เท่าเอามาบวกเงินสดแล้วลบหนี้สินปรากฏว่าได้ราคาห่างจากหนังสือมาก(แต่ตัวคูณที่15เท่าถ้าไม่เอามาลบหนี้สินจะได้ใกล้เคียงหนังสือ) ดังนั้นจุดอ่อนของวิธีนี้ที่เห็นได้ชัดๆเลยก็คือตัวคูณที่เราไม่รู้จะประมาณการจากอะไรดีเพราะถ้าเอาเท่ากับPEปัจจุบันมันก็จะover valueมาก หรือจะคูณโดยประมาณการตามคุณสมบัติหุ้น ถ้าgoodคูณ10 greatคูณ15  :?:  :?:  :?:

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 12:53 am
โดย neo_potato_Th
ทำเป็นterminal valueแก้ได้มั้ยครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 6:21 pm
โดย sphere
neo_potato_Th เขียน:ทำเป็นterminal valueแก้ได้มั้ยครับ
ถ้าทำเป็นterminal valueก็กลายเป็นdcfแบบปกติ สรุปว่าDCFคิดแบบบ้านๆไม่ได้ :cry:

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 9:06 pm
โดย neo_potato_Th
pwz เขียน: ถ้าทำเป็นterminal valueก็กลายเป็นdcfแบบปกติ สรุปว่าDCFคิดแบบบ้านๆไม่ได้ :cry:
ผมว่ามันง่ายกว่าเราไปนั่งประมาณาราคา/FCF อีกนะครับ
แต่อย่างว่าเราไม่ได้ถือบริษัทนั้นไปตลอดไป :?

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 19, 2010 11:04 pm
โดย ziannoom
[quote="chatchai"]วิธีการคิดราคาแบบ ดันโด เป็นวิธีที่ผมใช้ครับ

แต่ FCF ที่ผมทำประมาณการนั้น

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 9:18 pm
โดย Mote_VI
ผม VI มือใหม่ครับ
ผมอ่าน หนังสือ ประเมินมูลค่าหุ้นของพี่ สุมาอี้ มาแล้วครับแต่ยังสงสัยดังนี้ครับ
มูลค่าต่อหุ้นที่วัดได้เป็นมูลค่าปัจจุบันหรือมูลค่าตลอดอายุของกิจการครับ

1. ถ้าเป็นมูลค่าปัจจุบัน เราก็ซื้อต่ำกว่า มี margin of safety พอสมควร เช่น  2/3 ของราคาที่คำนวณได้ แล้วเราควรจะขายที่เท่าไรครับ เพราะเราไม่รู้มูลค่าขึ้นไปถึงไหน อาจทำให้เราเสียโอกาสในการทำกำไรที่มากกว่าที่เราควรจะได้

2. ถ้าเป็นมูลค่าตลอดอายุของกิจการ เราซื้อต่ำกว่าที่เราคำนวณได้ อย่างตัวอย่างในหนังสือ เช่น HMPRO  มี upside ไม่ถึง 1 เท่า จากราคาตอนที่เราคำนวณ แต่ที่เคยอ่านในหนังสือหลายๆเล่ม หุ้นพื้นฐานดี มีกำไรและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้าถือนานประมาณ 5 ปีขึ้นไป มูลค่าหุ้นจะขึ้นไป 5 เท่า 10 เท่า 15 เท่า  หรือมากกว่านั้น
รบกวนหน่อยครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 9:45 pm
โดย j21
[quote="Mote_VI"]ผม VI มือใหม่ครับ
ผมอ่าน หนังสือ ประเมินมูลค่าหุ้นของพี่ สุมาอี้ มาแล้วครับแต่ยังสงสัยดังนี้ครับ
มูลค่าต่อหุ้นที่วัดได้เป็นมูลค่าปัจจุบันหรือมูลค่าตลอดอายุของกิจการครับ

1. ถ้าเป็นมูลค่าปัจจุบัน เราก็ซื้อต่ำกว่า มี margin of safety พอสมควร เช่น

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 9:56 pm
โดย neo_potato_Th
มูลค่าที่คำนวนได้ คือมูลค่าของปีนั้นๆครับ

จะซื้อเมื่อ
-มีmosเพียงพอ เช่น คำนวนได้100บาท ก็เข้าซื้อซัก 50บาท

จะขายเมื่อ
-ราคาเกินintrinsic value =100บาท ราคามันจะไปต่อก็ช่างมันเถอะปล่อยให้คนอื่นเค้าได้กำไรมั่ง
-คิดผิด
-เจอตัวอื่นที่ดีกว่า

3ข้อ ลอกพี่Bluebloodมา :D

สุดท้ายก็อยุ่ที่ว่าvaluationเราแม่นจิงอะป่าว:D

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 11:16 pm
โดย ส.สลึง
neo_potato_Th เขียน:สุดท้ายก็อยุ่ที่ว่าvaluationเราแม่นจิงอะป่าว:D
เสริมให้ครับ :) ...
ถ้าการลงทุนของเรามี MOS
Valuation ก็ไม่จำเป็นต้องแม่นเป๊ะๆ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 11:27 pm
โดย neo_potato_Th
ส.สลึง เขียน: เสริมให้ครับ :) ...
ถ้าการลงทุนของเรามี MOS
Valuation ก็ไม่จำเป็นต้องแม่นเป๊ะๆ
แม่นแล้ว:D

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 10, 2010 9:37 pm
โดย Mote_VI
ขอบคุณมากครับ รบกวนอีกครั้งครับ
1. เราต้องคำนวณ DCF ทุกปีหรือเปล่าครับ เพราะจะมีพื้นฐานหรือปัจจัยต่างๆเปลี่ยนไป เช่น กำไร นโยบายการขยายกิจการของบริษัท เป็นต้น
ถ้าคำนวณใหม่แล้ว ถ้ามูลค่าที่คำนวณได้ต่ำกว่าราคาปัจจุบันพอสมควรก็ถือต่อ ถ้ามูลค่าที่คำนวณได้สุงกว่าราคาปัจุบันก็ขาย ผมคิดถูกไหมครับ

2. สมมุตินะครับ ถ้าพื้นฐานและปัจจัยต่างๆไม่เปลี่ยน เช่น ปี52  คำนวณได้มูลค่าที่แท้จริง 7.2 บาท ปี53   กำไรก็เพิ่มขึ้นตามที่เราคาดการณ์ตอนปี52 แต่มูลค่าที่แท้จริง ณ ปี 52 ก็คงไม่ใช่ 7.2 บาท แล้วใช่ไหมครับ มันจะต้องสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินที่ลดลงตามเงินเฟ้อ (ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่า) หรือจากกำไรทีตั้งต้นที่จะใช้คำนวณเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ต้องคำนวณใหม่ ผมคิดถูกไหมครับ

รบกวนอีกครั้งครับ

DCF แบบบ้านๆ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 10, 2010 9:47 pm
โดย Mote_VI
ไม่รู้เข้ามาผิดห้องหรือเปล่า แต่เห็นพี่ๆแต่ละคนตอบคำถามแล้ว VI ขั้นเทพทั้งนั้นเลย จึงขอรบกวนพี่ๆหน่อยครับ เพื่อเป็นความรู้

จาก Mote_VI มือใหม่ และคิดว่ามาถูกทางแล้วสำหรับการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่า