มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 32
เข้ามารออ่านด้วยคนครับ ถ้าท่านใดติดใจสำหรับเฮีย sai จะเป็น 1 ใน 4 ขุนพลที่จะขึ้นเวทีให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาไทยวีไอครั้งใหม่นี้ด้วยครับ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 33
เหมือนให้พี่มี่ ออกสงครามเลย :lol: :lol:ball048 เขียน:แป้บเดียวคำถามเพียบเลย พี่sai สู้ๆครับ
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 38
ถามด้วยคน
อะไรทำให้พี่หนักแน่นในการตัดสินใจของตัวเองได้ขนาดนี้ครับ
มีเวลาที่สับสน ลังเล ในการตัดสินใจบ้างไหมครับ
ถ้ามีแล้วใช้อุบายอย่างไรแก้ไขครับ
ถ้าไม่มีเลย อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ไม่ลังเลใจเลยครับ
อะไรทำให้พี่หนักแน่นในการตัดสินใจของตัวเองได้ขนาดนี้ครับ
มีเวลาที่สับสน ลังเล ในการตัดสินใจบ้างไหมครับ
ถ้ามีแล้วใช้อุบายอย่างไรแก้ไขครับ
ถ้าไม่มีเลย อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ไม่ลังเลใจเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 983
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 39
เข้ามารอฟังครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
Re: มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 42
เจอกระทู้แล้วตกใจเล็กน้อยครับ เพราะส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีความรู้และความสามารถเพียงพอที่จะแบ่งปันให้คนอื่นเลยครับ ต้องออกตัวก่อนว่าตัวผมเองทั้งการเรียนในระบบ(ผมจบแค่ม.3เองครับ) และ ประสบการณ์การลงทุนยังถือว่าน้อยมากมากครับเมื่อเทียบกับพี่พี่ หลายหลายคนในเวปที่มาแบ่งปันความรู้ให้กับพี่น้องเรา เช่น พี่โจ(ลูกอีสาน) พี่นริศ และ น้อง yoyo นี่ยังไม่รวมถึงเพื่อนเพื่อนพี่พี่ที่ไม่ค่อย post แต่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนระดับสูงมาก แต่เนื่องจากพี่พี่อาจเป็นนักลงทุนประเภท know but dont show เท่านั้นเอง (คืออาจจะไม่ค่อยชอบ post ออกสื่อสาธารณะ แต่หลายท่านผมมีโอกาสได้คุยด้วยแล้ว ได้ความรู้เกินความคาดหวังทุกครั้งที่คุยเลยทีเดียว ) กลับกันตัวผมเองจริงจริงเป็นคนรู้น้อยครับ แต่มีลักษณะ show but dont know (คือรู้เท่าที่พูด แต่ชอบพูดชอบแสดงออก เพราะลึกลึกผมเชื่อว่าเราเป็นคนรู้น้อยleksmile เขียน:เห็นเซียนๆเทพๆหลายๆท่านมีกระทู้ส่วนตัวไว้คอยให้คนมาถามขอมุมมองcและปรึกษาการลงทุน แก้ไขปัญหาต่าง ส่วนตัวมองว่าท่าน Sai ฝีมือกล้าแข็งมากพอที่จะเป็นผู้ให้ ให้มุมมองและคำปรึกษาดีๆแก่ VI หน้าใหม่ๆ หรือ VI หน้าเก่าที่อยากมีมุมมมองที่ต่างเพื่อมองรอบได้
หากเราพยายามพูดทุกอย่างที่รู้เผื่อมันผิดอาจจะมีคนคอยแก้ไขให้ เราจะได้เข้าใจถูกต้องขึ้นครับ ) ทำให้หลายหลายคนคิดว่าผมรู้เยอะ จริงจริงรู้เท่าที่พูดไปนั่นแหละ หมดแล้วหมดเลย แต่ยังไงผมจะลองพยายามตอบเท่าที่ รู้นะครับอันไหนตอบไม่ได้ต้องขออภัยจริงจริงครับ
Small Details Make a Big Difference
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 43
Keyของ smt ที่จะสามารถ drive ราคาหุ้นไปได้หลักหลัก คงเป็นส่วนของการเพิ่มกำลังการผลิตครับ โดยมีการเพิ่มกำลังการผลิต mma ในส่วนของงาน hdd 60% ,mma อื่นอื่น 60 % , ic packaing 70 % แต่มีงบลงทุนใหม่ไม่มากคือมี capex ราวราว 200 ล้านเศษเศษเท่านั้น ทำให้รายได้น่าจะโตเร็วกว่าค่าเสื่อมทำให้ อัตรากำไรสุทธิดีขึ้นครับ ประกอบกับดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และ การ เพิ่มกำลังการผลิตส่วนมากจะเป็นการเพิ่มในส่วนที่มีอัตรากำไร(ที่ไม่รวมค่าเสื่อม) ที่สูงเป็นหลักครับ ดูจากยอดขายระดับนี้ ถ้าเพิ่ม npm ได้เล็กน้อย กำไรสุทธิก็น่าจะโตได้เยอะมากครับ ประกอบกับแนวโน้มสินค้าของ smt เท่าที่ผมติดตามดู กลุ่มที่ smt เจาะนั้นจะเป็นกลุ่มตลาดใหม่ซึ่งส่วนมากยังไม่เป็นสินค้า mass product ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า และ เป็นสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตดีครับ เช่นจอ touchscreen ส่วนตัวผมมองว่าวิวัฒนาการของโทรศัพท์ทั่วโลกในปัจจุบันเดินทางมาถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือแต่เดิมโทรศัทพ์รุ่นใหม่ใหม่นั้นจะเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของการดีไซด์เป็นหลัก เพิ่มฟังชั่นเล็กน้อยก็เพิ่มราคาขายออกเป็นรุ่นใหม่ (ถ้านึกไม่ออกให้ดูโนเกียช่วงก่อนก่อนเป็นหลักครับ ) แต่รอบนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงการฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลักแบบพลิกจากแบบเดิมกันเลยทีเดียว(เน้นการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการคนยุคใหม่มากขึ้น เช่น internet , email , social network ) โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า smart phone จะเข้ามาแทนที่ simple phone ในสัดส่วนที่เยอะมากครับในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากการเปิดตัวของ android ที่เปิดเป็น open soure ทำให้จะมีการพัฒนาการใช้งานโปรแกรมต่างต่างชนิดที่เรียกว่าอดใจไม่ใช้ไม่ได้จริงจริง สำหรับวัยรุ่นและ วัยทำงาน ครับ และ smt จะจับกลุ่มที่เป็นไฮเทคเสมอ เพื่อป้องกันการแข่งขันเรื่องราคา(เนื่องจากเคยโดนจีนแย่งส่วนแบ่งตลาดตอนจอ lcd ไปครั้งนึงค่อนข้างเยอะในปี 2548 ทำให้ปรับกระบวนโดยเน้นทำ r&d และทำสินค้าที่เป็นไฮเทคเป็นหลัก เช่นจอ touch screen ซึ่งเป็นสินค้าตัวหนึ่งของเค้าโดยจอพวกนี้ จะแบ่งเป็น สองรุ่นคือแบบ Resistive กับ Capacitive โดยในช่วงแรก smt ก็ทำตัว resistive ( คือหน้าจอโทรศัทพ์แบบสัมพัสรุ่นแรกครับที่อยู่ใน pda โดยเวลาสัมผัสจะมีแรงหน่วงหน่อย และ สามารถใช้ปากกาหรือเล็บจิ้มได้ครับ ) แต่เมื่อภายหลังมีจอรุ่นใหม่คือ capacitive ( คือจอที่ใช้การสัมผัสของนิ้วเป็นตัวสัมผัสได้โดยตรง ง่ายง่ายคือหน้าจอแบบของ iphone ครับที่รองรับระบบ มัลติทัช แบบที่สามารถสัมผัสพร้อมกันสองตำแหน่งในเวลาเดียวกันแบบที่เวลาเล่นเน็ตแล้วซูมเข้าซูมออกแบบนั้นแหละครับ )เค้าก็หันมาเน้นทำตัว capasistive แทนเพื่อเป็นการเพิ่มมาร์จิ้น ส่วนสินค้าตัวอื่นอื่นก็เช่นเดียวกันครับ เท่าที่เช็ดดูล้วนแต่เป็นสินค้าที่น่าจะรักษาการเติบโตในระดับที่สูงต่อเนื่องได้ 2-3 ปีสบายครับ ด้านล่างเป็นตัวอย่างสินค้าและ คอนเม้นที่ผมเคย post ไว้ครับที่ห้อง smt ขอย้ายมารวมที่นี่ด้วยเลยล่ะกันครับleksmile เขียน:ขอเริ่มก่อนเลยล่ะกันครับ
คุณ Sai มีมุมมองยังไงกับหุ้น SMT บ้างครับ มี Key อะไรที่น่าสนใจ ที่จะผลักดันราคาขึ้นไปได้บ้าง
ขอไปทำงานก่อนนะครับ พอดีคนงานไปชุมนุมเยอะเลย เดี๋ยวว่างจะมาตอบใหม่ครับ :lol:sai เขียน:เข้าใจว่าในส่วน q 4 รายได้ mma ในส่วนของ hdd ยังเป็นสัดส่วนเยอะอยู่นะครับ (เนื่องจากงานในส่วนนี้ เวลารับงานเข้ามาต้องซื้อของจากลูกค้าเข้ามาด้วย เมื่อเสร็จชิ้นงานจึงบวกต้นทุนออกไปด้วยในราคาขาย ทำให้ยอดขายดูสูงแต่ มาร์จิ้นดูต่ำ ) แต่ถ้ามองในปีนี้จะเห็นว่าสัดส่วนที่บริษัทเน้นการขยายนั้นจะเน้นขยายในส่วนที่มี gpm สูงขึ้น โดย mma hdd (เดินเต็มกำลังการผลิตตอนนี้ มีการเพิ่มกำลังการผลิต 60 % ตัวนี้ gpmที่ไม่รวมค่าเสื่อม ประมาณ 10 % ครับ ) ส่วนที่สองคือ mma ส่วนอื่นอื่นเช่น ทัชกรีนโทรศัทพ์มือถือ , micro projector (ส่วนนี้มีการเพิ่มกำลังการผลิต 60 % โดย gpm ที่ไม่รวมค่าเสื่อมอยู่ที่ 30 % up ) และ ส่วนสุดท้ายคือส่วนของ ic จะมีการขยายกำลังการผลิต 70 % โดยส่วนนี้มี gpmที่ไม่รวมค่าเสื่อม 50 % ตามที่ผู้บริหารให้สัมภาษณ์น่าจะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตปลายเดือนนี้ ตัวมาร์จิ้นที่จะเป็นอย่างไร คงต้องรอดูตั้งแต่ q1 เป็นต้นไปจึงพอจะเห็นภาพชัดขึ้นครับ แต่เท่าที่ผมมีข้อมูลอยู่ถึงเรื่องการขยายกำลังการผลิต และ ตัวสินค้าจำพวก มาร์จิ้นสูงในปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นทั้งหมดแบบก้าวกระโดดครับ ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดแผนงานต่างต่างในปีนี้ ผมคัดลอกมาจากหนังสือชี้ชวนนะครับ
จากข้อมูลเท่าที่ตามได้ จึงน่าจะเป็นไปได้ว่า smt น่าจะทำ gpm npm ได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา (จริงจริงผมกะไว้เยอะกว่านักวิเคราะห์นะครับ แต่ขอดูงบ q1 ก่อนค่อยสรุปอีกที )
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ธรุกิจอิเลคทรอนิคมีธรรมชาติของธรุกิจหลักหลัก สองสามประการที่เป็นความเสี่ยงคือ ตัวธรุกิจเองเป็นธรุกิจที่มีภาวะไม่สมดุลย์ของอุปสงค์และอุปทานได้ค่อนข้างง่าย จุดที่ควรลงทุนมากที่สุดต้องเป็นจุดที่ฟังค์ชั่นและ ราคาของสินค้าปลายทาง สามารถตอบโจทย์ของชนหมู่มากได้ จะทำให้ธรุกิจโตขึ้นมากมาก และ จำนวน อุปทานจะเติบโตไม่ทัน โดยกินรอบระยะเวลาราว 2-3 ปี (ผมมองว่าสินค้าหลายหลายตัวของ smt เดินทางมาถึงจุดแถวนี้แล้วครับ สังเกตุจากผู้คนรอบข้าง ไม่ใช้ bb ก็ iphone และ สินค้าไฮเทคอื่นอื่น ดูแล้วก็มีเทรนด์การใช้จำนวนค่อนข้างมาเริ่ต้นในปีนี้ด้วยครับ เทรนด์น่าจะยังไปต่อได้อีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อยครับ) เรื่องที่สองคือธรุกิจอิเลคโทรนิคนี้เป็นธรุกิจที่ต้องลงทุนค่อนข้างมากในส่วนของเครื่องจักร แต่ ในปีนี้ถ้าลองติดตามดูจะเห็นว่าแม้ smt มีแผนการขยายงานค่อนข้างมาก แต่กลับมีงบลงทุนใหม่เพียงราว 200 ล้านเศษเท่านั้น เข้าใจว่ามีการลงทุนใหญ่ใหญ่ใน 1-2 ปีที่ผ่านมาพอสมควรครับ ทำให้ปัญหาการลงทุนในส่วนนี้น่าจะยังไม่เห็นใน 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อยครับ คงต้องรอดูครับว่าผู้บริหารจะทำได้อย่างที่เล่าไว้หรือไม่ แต่การที่บริษัทรับคนงานเพิ่มถึงหนึ่งเท่าตัว 2000 คน บริษัทคงต้องมั่นใจถึงยอดขายที่จะเข้ามาพอสมควรครับ (การรับพนักงานประจำเพิ่มเยอะขนาดนี้ผมว่าเป็นเรื่องใหญ่พอควร ต้องมั่นใจออร์เดอร์ในอนาคตอย่างน้อยสองปี ไม่งั้นผมว่าไม่คุ้มแน่เลย เพราะถ้าเกิดกรณีออร์เดอร์ลดลงกระทันหัน จะปลดคนงานออกคงไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งค่าใช้จ่าย ค่าชดเชย จึงเชื่อว่าsmt ต้องมั่นใจในงานในอนาคตพอสมควรครับ )
นอนไม่หลับเลยเขียนซะยาวเลยครับ เหอเหอ มีหุ้นอยู่นะครับ อาจจะมี bias ครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับผม
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 248
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 45
พี่ sai ยังไม่มาเจิมสักที
แกล้งมองไม่เห็นหรอพี่
:lol: :lol:
แกล้งมองไม่เห็นหรอพี่
:lol: :lol:
มโนปุพพังคมาธัมมา - ในตัวของเรามีใจเป็นใหญ่
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 248
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 46
แป่ว เวงกำ กระทู้ขึ้นหน้าสอง
หน้าแหก หมอไม่รับเย็บ :oops: :oops:
หน้าแหก หมอไม่รับเย็บ :oops: :oops:
มโนปุพพังคมาธัมมา - ในตัวของเรามีใจเป็นใหญ่
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
- SupachaiZ594
- Verified User
- โพสต์: 834
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 48
ขอบคุณพี่ Sai ครับที่กรุณาน้อง ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 558
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 49
:D
-พี่ sai ครับทราบว่าพี่เริ่มลงทุนปี 08 อยากทราบแนวคิดที่เข้ามาเริ่มลงทุนแนว vi เคย ลงทุนมาก่อนไหม๊ครับ
-เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน เยอะไหม๊ครับ แบ่งมาลงทุนอย่างไรตอนเริ่มต้น ทราบว่าพี่มีครอบครัวแล้ว น่าจะมีรายจ่ายเยอะอยู่
- วิธีคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจ ในช่วงเริ่มต้นพี่ใช้ หลักการใดในการคัดกรองบ้างครับ
ขอบคุณครับ
-พี่ sai ครับทราบว่าพี่เริ่มลงทุนปี 08 อยากทราบแนวคิดที่เข้ามาเริ่มลงทุนแนว vi เคย ลงทุนมาก่อนไหม๊ครับ
-เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน เยอะไหม๊ครับ แบ่งมาลงทุนอย่างไรตอนเริ่มต้น ทราบว่าพี่มีครอบครัวแล้ว น่าจะมีรายจ่ายเยอะอยู่
- วิธีคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจ ในช่วงเริ่มต้นพี่ใช้ หลักการใดในการคัดกรองบ้างครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 919
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 50
ผมอยากเข้ามาคารวะพี่ sai ด้วยคนครับ
นอกจากความสามารถทางด้านการลงทุน ที่คงไม่ต้องโฆษณาใดๆอีก
พี่มี่ยังมีทักษะทางด้านสังคมสูงมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ
เป็นคนนอบน้อมถ่อมตนสุดๆ มีจิตวิทยาสูงมากๆ
ใจดี มีเมตตา และจริงใจกับเพื่อนๆ มากครับ
ผมว่าลักษณะเหล่านี้ ทำให้พี่มี่ ประสบความสำเร็จในการลงทุนเร็วมากๆ
เป็นเซียนได้ ทั้งๆที่ลงทุนมาไม่นานเลยครับ
คารวะ ด้วยใจครับ
นอกจากความสามารถทางด้านการลงทุน ที่คงไม่ต้องโฆษณาใดๆอีก
พี่มี่ยังมีทักษะทางด้านสังคมสูงมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ
เป็นคนนอบน้อมถ่อมตนสุดๆ มีจิตวิทยาสูงมากๆ
ใจดี มีเมตตา และจริงใจกับเพื่อนๆ มากครับ
ผมว่าลักษณะเหล่านี้ ทำให้พี่มี่ ประสบความสำเร็จในการลงทุนเร็วมากๆ
เป็นเซียนได้ ทั้งๆที่ลงทุนมาไม่นานเลยครับ
คารวะ ด้วยใจครับ
- Baby Genius
- Verified User
- โพสต์: 220
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 51
เข้ามาทักทายครับ
เห็นด้วยกับคุณ tanapol เรื่องอัธยาศัยและความมีน้ำใจของ พี่ sai ครับ
อยากขอรบกวนถามความเห็นเกี่ยวกับ THCOM ด้วยนะครับ หากไม่มีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบ พี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
เห็นด้วยกับคุณ tanapol เรื่องอัธยาศัยและความมีน้ำใจของ พี่ sai ครับ
อยากขอรบกวนถามความเห็นเกี่ยวกับ THCOM ด้วยนะครับ หากไม่มีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบ พี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 53
ยังรู้สึกดีเหมือนเดิมครับ ก่อนไปฟังรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับช่องใหม่คือ mango ทีวีครับ กลัวว่าจะขาดทุนแล้วมาฉุดกำไรรวมลง แต่เท่าที่ฟังผู้บริหารดูมั่นใจมากกว่า จากที่เค้าออกตลาดด้วยตนเองเค้าเชื่อว่าไม่ขาดทุนแน่นอน ส่วนรายได้ที่ผู้บริหารเล่าว่าส่วนมาก ครึ่งปีแรกจะน้อยกว่าครึ่งปีหลัง เราคงต้องเทียบปีต่อปี คงเอาครึ่งปีแรกปีนี้ ไปเทียบกับครึ่งปีหลังปีที่แล้วไม่ได้ เนื่องจากปีนี้น่าจะมีการปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี รวมรวมคิดว่าเป็นปีที่ดีของ nbc อีกหนึ่งปีครับ :lol:damiano เขียน:เอาด้วยๆ
หลังจากฟัง nbc ในงานออฟเดย์ พี่ซาอิ รู้สึกยังไงต่อหุ้นตัวนี้บ้างครับ
Small Details Make a Big Difference
- centrady
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 54
เข้ามาฟังอีกคนครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 55
การเริ่มต้นของผมคงไม่เหมือนคนอื่นเท่าไรนะครับ เนื่องจากผมเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักหุ้นเลย ในชีวิตรู้จักแต่ ล้อตเตอรรี่ และ หวยเท่านั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นคือวันนั้นผมไปส่งหมูยอครับ ลูกค้าเป็นร้านขายอาหารเวียตนามอยู่ที่ห้างเอสพละนาดชั้นใต้ดิน หลังจากส่งเสร็จผมก็ทานข้าวกับครอบครัวเรียบร้อย ขณะกำลังจะกลับบ้านผมเดินผ่านหน้าห้องสมุดมารวย และ มีรายการสัมนาเรื่องหุ้นอยู่ โดยมีดร.นิเวศน์ กับคุณ นิศารัตน์ พิธีการมันนี่แชลนอล เรื่องรวยหุ้นอย่างพอเพียง ลูกสาวก็ถามว่าเค้าทำอะไรกัน ผมเลยชวนลูกสาวนั่งฟังครับ หลังจากฟังได้สักพักก็สะดุดคำพูดหนึ่งของดร. ว่า ถ้าเราลงทุนในหุ้นดีดี เป็นเวลา ยี่สิบปี เงินสดในวันนี้ของเราจะโตขึ้น 1 digit ตอนนั้นผมฟังแล้วตกใจมาก ถึงกับนอนไม่หลับเลย อดฝันหวานไม่ได้ว่าอีก 20 ปีข้างหน้าเราจะกลายเป็นเศรษฐีแล้วหรือ แหมดีจัง (โดยที่ไม่รู้เรื่องการลงทุนเลยครับ และไม่รู้ด้วยว่าปี 2008 จะเจอเหตุการณ์หุ้นตกถล่มทลาย เหอเหอ ) หลังจากนั้นจึงกลับมาปรึกษากันกับภรรยาว่าผมสนใจที่จะลงทุนหุ้น ภรรยาก็คัดค้านมาตลอด จนกระทั้งผมได้เอาไฟลส์เสียงของคุณ yoyo และ คุณ blueblood ให้เธอฟัง เธอฟังแล้วก็ตอบเราด้วยท่าทีอ่อนหวานว่า เอ็งทำไม่ได้หรอก คนเหล่านั้นเป็นคนที่มีความรู้ มีชาติตระกูล แต่ถ้าอยากลองเล่นจริงจริงให้ลองไปหาข้อมูลดู แล้วลงทุนด้วยเงินน้อยน้อยก่อน ก็เริ่มต้นจากการอ่านหนังสือของ บัฟเฟต์เป็นหลัก และ สักสองเดือนให้หลังก็เริ่มรู้จักเวปนี้ครับ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกชอบ และ รู้สึกว่าเป็นหลักการลงทุนที่มีเหตุผล เลยตั้งใจตั้งแต่ตอนนั้นว่าจะเลือกแนวทางนี้ครับผม :lol:killyz เขียน:จุติเทพเซียนโกะ sai
รบกวน mod ย้ายเข้าห้องกระทู้คุณค่าทีน่ะครับ
ขอทราบประวัติในการเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นน่ะครับ
ทำไมถึงสนใจลงทุนในหุ้น แล้วค้นพบแนวทางและหลักการได้อย่างไร
Small Details Make a Big Difference
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 57
หาข่าวก็ดูจากแหล่งทั่วไปนี่แหละครับ เช่น thaivi , moneychannel , หนังสือพิมพ์ online ต่างต่าง และ efinnace เป็นต้นครับ ส่วนการมอง มูลค่าที่แท้จริงผมอาศัยจากการดูย้อนหลังของหุ้นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และ สอบถามจากรุ่นพี่พี่ที่ลงทุนมานานกว่าหลายหลายคน รวบรวมหลายหลายมุมมอง แล้ว สรุปเอาครับ :lol:neo_potato_Th เขียน: เห้นด้วยครับ
อยากได้แนวทางที่พี่มี่ใช้
วันๆทำยังไง หาข่าวยังไง ดูintrinsic valueยังไง มองtrendยังไง
รอฟังด้วยคน :lol:
Small Details Make a Big Difference
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
มุมมองลงทุนสไตล์ Sai
โพสต์ที่ 60
เรื่องลังเลนี่เป็นบ่อยมากเลยครับ ช่วงแรกแรกยิ่งเป็นหนัก เนื่องจากน้องสาวและน้องเขยเค้าเป็นนักลงทุนอย่างเดียวเหมือนกัน แต่เป็นแนวเทคนิคอลเต็มตัว ปีแรกตอนเราขาดทุนหนักหนัก ผลตอบแทนของน้องกลับดีกว่ามากมาก แต่พอมาดูรายละเอียดการลงทุนของเค้าแล้ว ก็เข้าใจว่าไม่เหมาะกับการลงทุนของเรา ของแบบนี้คงอยู่ที่นิสัยส่วนตัวด้วยว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหนครับส่วนวิธีการที่แก้ไขเวลาลังเลสับสนผมเคยโพลต์วิธีทำไว้ที่กระทู้หนึ่งครับ ถ้าจะเอาไปทำตามดูก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับผมกล้วยไม้ขาว เขียน:ถามด้วยคน
อะไรทำให้พี่หนักแน่นในการตัดสินใจของตัวเองได้ขนาดนี้ครับ
มีเวลาที่สับสน ลังเล ในการตัดสินใจบ้างไหมครับ
ถ้ามีแล้วใช้อุบายอย่างไรแก้ไขครับ
ถ้าไม่มีเลย อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ไม่ลังเลใจเลยครับ
sai เขียน: ผมมีโอกาสได้คุยกับ yoyo ที่ห้องสมุดมารวย พอเจอสิ่งหนึ่งซึ่งผมคิดว่าสำคัญกับการลงทุนแนว วีไอมากมาก เรื่องความรู้ความสามารถสำหรับ น้อง โยแล้วคงไม่มีใครสงสัยอยู่แล้วว่า เก่งขนาดไหน แต่ผมพบว่าสิ่งที่เค้าเป็นวีไอที่ประสบความสำเร็จอาจจะมาจากสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า ความเชื่อ ที่มั่นคงและหนักแน่น ดูเค้าเชื่อในสิ่งที่เค้าคิดและเค้าทำจริงจริง และ หนักแน่นกับวิธีคิดมาก ผมรู้ทันทีว่านั้นคือสิ่งที่ผมขาด (เพราะชอบโดดไปโดดมาเดี๋ยวหลักการนั้นบ้างหลักการนี้บ้างชอบเปลียนแปลงบ่อย ) กลับถึงบ้านเลยเขียนกระดาษแป๊ะข้อความนึงไว้ทั่วบ้านเลย และ พิมพ์เป็น สกรีนเซอร์เวอร์ที่คอมพิวเตอร์ และ หน้าจอ มือถือ ว่า " จะไม่ยอมเปลียนแปลง" ผลที่ได้คือ 1. ผมเริ่มไม่เปลียนแปลงหลักการลงทุนมาก ยึดหลักการมากขึ้น เวลาเห็นป้ายเตือนสติ 2. ภรรยาผมเวลาเห็นป้ายหรือบนมือถือบนคอมพิวเตอร์ เค้าจะยิ้มแบบมีความสุขมาก (ไม่รู้แกเข้าใจไรผิดหรือเปล่า )
Small Details Make a Big Difference