Thai VI

Tibular เขียน:Rich dad, poor dad. นี่ต้องอ่านดีๆนะครับ เอาเรืื่่่องดีๆมาปรับใช้
แต่ไม่ใช่ว่าต้องเชื่อหมด บางอย่างนี่ไม่เหมาะสมกับสังคมบ้านเรา
เรื่องของความกตัญญูีนี่แทบไม่มีเลย เอาแ่ต่ว่าพ่อตัวเอง ถึงจะชื่นชม
บ้างก็ในแง่ที่พ่อเป็นครู เรื่องเงินทองใครๆก็อยากได้ คิโยซากิ
เค้าฉลาดเขียนครับ ที่ร่ำรวยมาได้เพราะงานสอน และตลาดบ้านเมกาช่วงนั้น
มันขาขึ้น เรื่องแนวความคิดทางบัญชีเค้าก็ถูกบ้าง แต่บอกไม่หมด
แต่เรื่องจิตวิทยาการพูดและเขียนนี่ขอนับถือจริงๆ อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ
เรื่องการสอน เรื่องเกมกระแสเงินสด ก็ดีจริง สรุปว่าเค้าก็เก่งมาก

แต่ความร่ำรวยไม่ใช่ทุกสิ่งนะครับ ก็อยากจะเตือนเด็กๆรุ่นใหม่ๆไว้ว่า
ใ้ห้ระวังแนวความคิดเรื่องอิสระทางการเงินไว้มากๆ มันอันตรายถ้า
ไม่เข้าใจจริง จะกลายเป็นเพ้อฝันไป หรือทำให้เราทำอะไรเกินตัวจน
เสียหายได้ ให้ลงทุนในตัวเองแบบที่ปู่บัฟเฟตบอกไว้ดีกว่าครับ

ต้องขอโทษที่อาจจะออกความเห็นขัดแย้ง เพราะเห็นว่าบางทีความเห็นต่างๆ
มันเออออกันเกินไปอาจทำให้มองโลกผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงได้

เห็นด้วยครับ หลังๆมาผมเริ่มจับได้ว่า ธุรกิจของเค้าคือการขายการศึกษานี่เอง และเล่มหลังๆนี่ เริ่มออกทะเลไปมาก

แต่ก็ต้องขอบคุณนะครับ ที่ทำให้ผมตาสว่างเพราะ rich dad
จำได้ว่า ได้อ่านตอนนั้น ตอนอายุ 16 เหมือนกับได้คำตอบของชีวิตเลยครับ

และในปี เดียวกัน ได้รู้จักบัฟเฟตต์ จากหนังสือ วาทะของ วอเรน บัพเฟตต์ ที่ ดร. เกรียงศักดิแปล แต่ตอนนั้นยังไม่เข้าใจอะไรเลย

ตอนอายุ 20 ได้ เข้าร่วมอบรมนักลงทุนรุ่นเยาว์ และได้อ่านหนังสือ แก่นแท้ของบัฟเฟต์ เล่มที่ ดร.นิเวศน์แปล และเข้าใจการลงทุนในหุ้นมากขึ้น หลังจากนั้น ก็ตัดสินใจว่า ชีวิตนี้จะเป็น vi นี่แหละครับ

แต่กว่าจะได้ลงทุนจริงๆ ก็เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์นี่เองครับ ก่อน ตัดสินคดียึดทรัพย์ 1 สัปดาห์ เพราะ พึ่งทำงานครับ ที่บ้าน ไม่ค่อยมีฐานะ ต้องเริ่มด้วยมือเปล่าล้วนๆ 555


** แต่ถ้าจะถามว่า เริ่มลงทุนจริงๆเมื่อไหร่ ต้องย้อนไปตอน ม.1 ครับ
เป็นหุ้นสหกรณ์ของโรงเรียน ตอนนั้น อาจารย์ให้สิทธิ์ซื้อได้ คนละ 100 บาท

ตอนนั้นยังเด็กมากครับ แต่สิ้นปี รับปันผล 87 บาท คิดเป็น 87% จำมาจนทุกวันนี้ครับ

วันนี้ มามองย้อนกลับไป นั่นมันหุ้น โคตรเทพเลยครับ ปันผลปีแรกก็เกือบได้ทุนคืนแล้ว ส่วนกำไรจริงๆไม่ทราบ แต่ถ้าคิดเล่นๆ โดยให้ ถือว่า กำไร 100 บาทต่อหุ้น (สำรอง 13% จ่ายปันผล 87%)

ดูความแข็งแกร่งของกิจการ หนี้ระยะยาวไม่มี เงินสดเพียบ ต้นทุนบริหารจัดการต่ำ ธรรมมาภิบาลพอสมควร เป็นธุรกิจผูกขาด ในโรงเรียนประจำที่มีนักเรียน 450 คน ที่กำลังขยายเป็น 1000 คนในระยะเวลา 3 ปี

ถ้าให้ pE ในปีนั้น 20 เท่า

ผมว่า ราคาหุ้น ควรจะอยู่ ที่ 2000 บาท

ผมอยากเจอหุ้นแบบนี้อีกสักครั้งครับ

**** ปัจจุบัน หุ้นตัวนั้นยังคงอยู่ พื้นที่ของสหกรณ์เพิ่มขึ้น ประมาณ 2 เท่า นักเรียนประจำ ที่กินนอนอยู่ในโรงเรียน ประมาณ 1200 คน และนักเรียน ไป-กลับ อีก 100 คนเศษๆ และยังมีโอกาส ทำยอดขายที่สูงกว่าปกติได้ในช่วงที่มีกิจกรรมอย่าง กีฬาสี จัดสอบแข่งขันทักษะทางวิชาการ สอบเข้าเรียนต่อ ม.1 ม.4 (ตอนที่ผมอยุ่จำได้ว่า ของที่อาจารย์สั่งมาสต๊อกไว้เท่าไหร่มีอันขายเกลี้ยง เพราะ นักเรียน มาสอบ ประมาณ 1000-1500 แต่ผู้ติดตามอีก 3-4 คน)

ล่าสุด น้องชายผม ที่เรียนพึ่งจบม.6 เมื่อเดือน มีนาคม ได้รับเงินต้นคืน 2000 บาท (เต็มโควต้า) และปันผล 1600 บาท คิดเป็น 80% ยังคงสุดยอดอยู่เหมือนเดิม

ผมเริ่มลงทุนจริงๆ ตอน 30 เลี้ยงวัวฝูงหนึ่ง ผ่านไป 6 ปี ล้างคอก ทุนหาย ประมาณ 70% แต่ได้ประสบการณ์มากมาย เลยคิดเปลี่ยนแนว และมาเจอ เวป TVI เข้ามาอ่าน ร่วมปีควบคู่กับการลงทุนจำลองใน settrad เปิดพอร์ทจริงๆ เดือน ตุลา 52  

ผมเริ่มศึกษาเรื่องเงินๆ ทองๆ ตอนอายุ 15ครับ
เริ่มจาก Rich Dad ครับ โดยแม่นำมาให้อ่าน[โดนบังคับอ่าน]
แล้วก็มาติดใจเลยสนใจนับแต่นั้นมา
จนถึงตอนนี้ก็....2ปีละครับ ตอนนี้อายุ17ปีนิดๆ
ลงทุนในหุ้นตัวแรกผ่านพอร์ตแม่ครับ แม่สนับสนุนด้านนี้มาก
ตอนนี้ก็พยายามหาหนังสือมาอ่านให้มากที่สุดครับ

 :oops:

เด็กสมัยนี้ฟิตจิงๆ :lol:

ผมเริ่มตอนอายุ 27 ครับ
จะครบ 1 ปี อีกไม่กี่เดือนครับ

เท่าที่นึกออก เริ่มตอนป.5 อายุ 10 ขวบได้มั้ง เอาแสตมป์ต่างประเทศมาขาย ที่บ้านสนับสนุนให้ทำธุรกิจ แสตมป์ใช้แล้ว ซื้อที่เป็นร้อยๆดวง มันถูก

เอามาขายดวงล่ะ 5 บาท บางดวงจัดชุดได้ก้อขาย 20 - 50 บาท ปรากฏว่าขายได้หมด วันหนึ่งๆกำไรเป็นร้อยๆ ดีใจมากเลย สุดท้ายก็เลิกขายไป เพราะสินค้าหมด.......

แล้วมาเริ่มอีกทีก็มหาลัย จับอะไหล่รถขาย แต่ไม่ค่อยรุ่ง เพราะไม่ขยันเท่าที่ควร

เริ่มลงทุนในกองทุนอายุ 26 แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดพอร์ท ไม่รู้เหมือนกันว่ารออะไร แต่ตั้งใจว่าจะเปิดไม่เกินเดือนพฤษภานี้แน่นอน

ผมเริ่มลงทุนในหุ้นอายุ  13 ครับ(ตอนนี้ 14)

ถ้าลงทุนอื่นๆก็ขายรูบิค (ล่าสุด แต่ปรากฏว่าขายไปได้ปี
นึง  ก็ต้องเลิกเพราะผลสอบดึ่งลงไปที่สุดท้ายของห้อง
อย่าตกใจ 79.00 % มั้งครับ คนอื่นมันเก่งเกิ๊นนน )

neo_potato_Th เขียน:เด็กสมัยนี้ฟิตจิงๆ :lol:

สงสัยคนนี้จะฟิตที่สุด :lol:

น้อง hutza พึ่ง ม.1 ก็นั่งหาตังแล้ว

เริ่ม 23 กลางๆครับ ตอนนี้เกือบจะ 24 กลางๆละครับ

กระทู้นี้หลอกถามอายุเรา

เมินซะเถอะ

ไม่ตอบซะให้ยากหรอกว่าลงทุนตอนอายุ 33 น่ะ

[quote="hutza"]ผมเริ่มลงทุนในหุ้นอายุ

เริ่มลงทุนในหุ้นเมื่อวานซืนนี้เองอ่ะครับ


ต้องเรียนรู้อีกมากมาย....

เริ่มตอน 23 ครับ ซื้องกองทุนรวมก่อน ตอนนั้นไม่รู้เรื่องครับ เห็นหุ้นขึ้นเอาๆ ก็เลยตะบันซื้อ

ผม 24 ครับ เริ่่มลงเงินจริงได้เดือนเดียวนี่เอง

หุ้นตัวแรกที่ซื้อคือ Advanc ครับ

จะเรียกว่าดวงได้มั้ย ซื้อตอนหุ้นตก ที่ศาลประกาศยึดทรัพย์ทักษิณ

ตอนนี้ราคาขึ้นมา + ปันผล ก็อุ่นใจ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

เข้ามาเว็บ thaivi ได้ประมาณสองสามอาทิตย์ สนใจแนวทาง vi ครับ

มีแต่เด็กๆ ทั้งนั้น

ผมขออ่านเฉยๆ ก็แล้วกัน

Generation 0
ซื้อสติ๊กเกอร์รูปตัวการ์ตูนมาขายเพื่อน ตอนป ห้า (เชิงข่มขู่ เอิ๊ก)
ลงทุนเรียนภาษาอังกฤษ แบบอันลิมิตเต็ด ชั่วโมง ตอน ป หก และ ม หนึ่ง
ซื้อขายเงินในเกมส์รักนรกออนไลน์ เอ้ย แร็คนาร็อคครับ

Generation 1
ผมเริ่มตอนเดือนสิงหาคม-กันยายนปี 2552 ครับ พูดถึงพอเรามามองย้อนกลับไป มันเหมือนเป็นโชคชะตาเลยทีเดียว(ช่วงนั้นอกหัก รักคุด เลยมุ่งอ่านหนังสือที่ชอบ) เพราะว่าผมชอบแนวบริหารธุรกิจมาตั้งแต่ม ต้น แต่จับไม่ถูกจุด ส่วนใหญ่อ่านพวกจิตวิทยาความสำเร็จ จนกระทั่งมาพบคุณเพื่อนคนนี้แนะนำให้อ่าน Rich Dad Poor Dad นั่นเอง

Generation 2
อย่างแรก คือต้องขอบคุณหนังสือของโรเบิร์ตคิโยซากิ ได้เปิดตาทางการเงิน ผมลองไปศึกษาธุรกิจเครือข่ายอยู่หลายสำนัก จุดมุ่งหมายของการไปศึกษาไม่ใช่เพื่อทำ แต่เพื่อรู้  เรายังคิดว่ามันไม่ใช่ ผมก็อ่านหนังสือแนวการเงินเรื่อยมาหลังจากนั้น จนได้รู้จักกับนักลงทุน VI  that is Warren E. Buffet นั่นเอง :lol:  :lol:

Generation 3
ลงทุนในความรู้ของตัวเอง เกี่ยวกับหุ้นครับ
ผมชอบแนวคิดของท่านอาจารย์ เบนจามิน เกรแฮม เป็นพิเศษ จะอ่านทั้งที ต้องให้ถึงแก่น

อนาคตอันใกล้คงเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ครับ ต้องรอครบยี่สิบปีบริบูรณ์ก่อน อีกเพียงแค่ไม่กี่วัน ห้าห้า

[quote="ArtTheOracle"]Generation 0
ซื้อสติ๊กเกอร์รูปตัวการ์ตูนมาขายเพื่อน ตอนป ห้า (เชิงข่มขู่ เอิ๊ก)
ลงทุนเรียนภาษาอังกฤษ แบบอันลิมิตเต็ด ชั่วโมง ตอน ป หก และ ม หนึ่ง
ซื้อขายเงินในเกมส์รักนรกออนไลน์ เอ้ย แร็คนาร็อคครับ

Generation 1
ผมเริ่มตอนเดือนสิงหาคม-กันยายนปี 2552 ครับ พูดถึงพอเรามามองย้อนกลับไป มันเหมือนเป็นโชคชะตาเลยทีเดียว(ช่วงนั้นอกหัก รักคุด เลยมุ่งอ่านหนังสือที่ชอบ) เพราะว่าผมชอบแนวบริหารธุรกิจมาตั้งแต่ม ต้น แต่จับไม่ถูกจุด ส่วนใหญ่อ่านพวกจิตวิทยาความสำเร็จ จนกระทั่งมาพบคุณเพื่อนคนนี้แนะนำให้อ่าน Rich Dad Poor Dad นั่นเอง
****ข้อย้ำเตือนหนึ่งอย่างสำหรับหนังสือเล่มนี้  จงอย่าเชื่อทั้งหมด แนวคิดเป็นสิ่งที่ทรงพลัง แต่มุมมองของนักธุรกิจและนักลงทุนแต่ละคน ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผมจำได้เรื่องนึง คือผู้เขียนบอกว่า "จงใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว เพราะวอเรนต์บัฟเฟตก็ทำเช่นนั้น" และ ธุรกิจเครือข่าย ไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ต้องมีทั้ง ต้นทุน ราคา และกำไร  ในการหาความรู้ทุกครั้ง ต้องวิเคราะห์ครับ****

Generation 2
อย่างแรก คือต้องขอบคุณหนังสือของโรเบิร์ตคิโยซากิ ได้เปิดตาทางการเงิน ผมลองไปศึกษาธุรกิจเครือข่ายอยู่หลายสำนัก จุดมุ่งหมายของการไปศึกษาไม่ใช่เพื่อทำ แต่เพื่อรู้

[quote="Qคุง"][quote="killyz"]ตอน ป.2 ไปซื้อนมเม็ดมา 1 กระปุก แล้วแบ่งขายเป็นเม็ดล่ะบาท
สุดท้ายก็เลิกขาย เพราะอาจารย์มาเตือน

ลงทุนครั้งแรกตอน 8 ขวบครับ เอา ตัวตุ่น ปากกา ลูกแก้ว ต่างหูของน้องสาว ลิปสติกของแม่ ไปบังคับขายป้าข้างบ้านครับ  :D
มันเรียกว่าลงทุนป่าวเนี่ย ?  :lol:

ลงทุนในตลาดหุ้นตอนอายุ 23 ครับ เมื่อปี 49 ด้วยทุน 1 แสนบาท เทรตทางอินเตอร์เน็ตครับ  เริ่มต้นก็อ่านตีแตก รอบเดียว (ยังไม่จบดีด้วย) แล้วก็เริ่มเล่นเลย  ตอนแรกคิดว่าจะเป็น VI เล่นไปเล่นมากลายเป็นซื้อขายรายวัน ซะงั้น เนื่องจากอดทนต่ออารมณ์เย้ายวนของตลาดไม่ไหว      

สุดท้ายขาดทุนยับครับ ....  

ปิดพอร์ทไปโดยปริยาย...

เก็บเนื้อเก็บตัวรักษาแผล กลับมาใหม่เมื่อปี 12 พย 52 คราวนี้ศึกษาใหม่จะเป็น VI เต็มตัวให้ได้  ซื้อหุ้นไว้หนึ่งตัว กะว่า อีก 1 ปีมาเจอกัน
สุดท้าย...

ทนแรงเย้ายวนจากตลาดไม่ไหวอีกแล้ว     ซื้อมาขายไปเหมือนเดิม  แต่คราวนี้ไม่ขาดทุน  

แต่กลับมานั่งคิด ไม่ไหวๆ  เครียด   งานการไม่ได้ทำเลย นั่งจ้องจอคอมทั้งวัน  เสียการเสียงานหมด

และแล้วก็ได้เจอกับเว็บนี้  จึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งวิถี VI ของผม  

แต่นแต๊นนนน

เริ่มตอน 23 ปีครับ
ตอนนั้นอ่าน ห่านทองคำ buffetology แล้วฮึดเหิมมาก ซัดไปอย่างมั่นใจ
ปรากฏว่า -4X %  

21ครับ

ผมเริ่มตอนอายุ 20 พอดีเลยครับ เมื่อปี 44  ผ่านรอบหุ้นขึ้นแรงๆ มา 2 รอบ แล้ว แต่ไม่ได้อะไรเลยนอกจากประสบการณ์  ได้มาเร้ว แต่เสียง่าย ต่อจากนี้ไปก้เลยอยากจะเป้น VI

เริ่มเร็วกันจัง
ซื้อหุ้นครั้งแรกตอน ๒๕ ค่ะ  :D

ArtTheOracle เขียน: Generation 1
ผมเริ่มตอนเดือนสิงหาคม-กันยายนปี 2552 ครับ พูดถึงพอเรามามองย้อนกลับไป มันเหมือนเป็นโชคชะตาเลยทีเดียว(ช่วงนั้นอกหัก รักคุด เลยมุ่งอ่านหนังสือที่ชอบ) เพราะว่าผมชอบแนวบริหารธุรกิจมาตั้งแต่ม ต้น แต่จับไม่ถูกจุด ส่วนใหญ่อ่านพวกจิตวิทยาความสำเร็จ จนกระทั่งมาพบคุณเพื่อนคนนี้แนะนำให้อ่าน Rich Dad Poor Dad นั่นเอง

555 ซื้อหุ้นครั้งแรกพร้อมผมเรย แถมอกหักพร้อมกันอีกตะหาก แต่เล่มที่ผมอ่านตอนนั้นคือตีแตกครับ ตอนนั้นผม 24 ครับ

เริ่มตอนอายุ 30 ครับ

เริ่มตอนอายุ 31 ปีครับ