++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 31
แต่ละคนก็มีความคิดอ่านเป็นของตนเอง ยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตนเองคิด "ความคิดเห็นที่แตกต่าง" นี่ไม่ใช่หรือที่ทำให้เกิดไอเดีย เกิดความรู้ขึ้นมาได้ ผมว่ามีความคิดอย่างไรก็ต้องพูดออกไปอย่างนั้นน่ะถูกแล้วล่ะครับ แต่อย่ากระทบกระทั่งกันจนบานปลาย ขอให้ถกเถียงกันด้วยเหตุผล จะได้ได้ประโยชน์ด้วยกันทุกๆฝ่าย :D :D :D
-
- Verified User
- โพสต์: 919
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 32
http://www.commodityonline.com/news/Gol ... 0-3-1.htmlGold, commodities are not in bubbles: Jim Rogers
Similarly, last week, Rogers blasted short-sell guru Jim Chanos for predicting that Chinese economy is in a bubble that would burst anytime now. Rogers hit back saying people like Chanos who did not know the spelling of China some years back are now pretending to be experts on China.
"China is not in a bubble. But the Chinese economy needs to cool, he said.
จิม เค้ามาช่วยยืนยันครับว่า...จีนยังไปได้ :P
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 33
มีน้องหลายๆคนถามผมหลังไมค์ในเรื่องฟองสบู่จีนและค่าเงินยุโรป
ผมตอบไปว่า
ผมไม่รู้อยู่สองเรื่อง คือเรื่อง "ข้อมูลที่ได้ไม่มากพอที่จะตัดสิน และ ความฉลาดรอบรู้ที่จะสามารถกำหนดทิศทางของเหตุการณ์ในปีนี้หรือห้าปีหน้าได้"
ซึ่งผมว่าทั้งสองข้อ คนที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละประเทศเขามีข้อมูลมากกว่าและฉลาดกว่าผมเยอะ ช่วยกันเต็มที่อยู่แล้วครับ
ส่วนหน้าที่เราซึ่งเป็นนักลงทุนก็ต้อง "หาและตรวจสอบข้อมูลของบริษัทที่เราลงทุนให้มากที่สุดเพื่อการตัดสินใจ และ สร้างความฉลาดรอบรู้ในตัวธุรกิจที่เราลงทุนเพื่อที่สามารถกำหนดทิศทางของเหตุการณ์ในปีนี้หรือห้าปีข้างหน้าให้ได้ครับ"
ผมตอบไปว่า
ผมไม่รู้อยู่สองเรื่อง คือเรื่อง "ข้อมูลที่ได้ไม่มากพอที่จะตัดสิน และ ความฉลาดรอบรู้ที่จะสามารถกำหนดทิศทางของเหตุการณ์ในปีนี้หรือห้าปีหน้าได้"
ซึ่งผมว่าทั้งสองข้อ คนที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละประเทศเขามีข้อมูลมากกว่าและฉลาดกว่าผมเยอะ ช่วยกันเต็มที่อยู่แล้วครับ
ส่วนหน้าที่เราซึ่งเป็นนักลงทุนก็ต้อง "หาและตรวจสอบข้อมูลของบริษัทที่เราลงทุนให้มากที่สุดเพื่อการตัดสินใจ และ สร้างความฉลาดรอบรู้ในตัวธุรกิจที่เราลงทุนเพื่อที่สามารถกำหนดทิศทางของเหตุการณ์ในปีนี้หรือห้าปีข้างหน้าให้ได้ครับ"
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 34
ขอแย้ง Jim Rogers ก็แล้วกัน...
ประเทศจีน พลาดแล้วครับ ปล่อยให้เกิดฟองสบู่โดยไม่รู้ตัว เพราะในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาได้ peg กับดอลล์ แทนที่จะปล่อยให้แข็งค่าขึ้น
ทำให้กระแสเงินทุนไหลบ่า และ แบงก์ชาติจีนดูดสภาพคล่องออกไม่หมด
M2 เติบโตขึ้นราว 30% ทั้งที่ควรโต่แค่ 10% (อัตราการเติบโต บวกด้วย เงินเฟ้อ) ส่วนที่เกินไปนั้น ได้สร้างฟองสบู่ในสินทรัพย์ โดยเฉพาะ อสังหาฯ ไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้จีนเองก็รู้ดี...กำลังเจาะฟองสบู่อยู่ โดยหารู้ไม่ว่า มันอาจทำให้แตกได้ง่ายมากๆ เลย เพราะ ฟองลูกนี้ใหญ่เหลือเกิน หลังจากสะสมเงินทุนส่วนเกินมานานนับ 10 ปีแล้ว
ราคาอสังหาฯในเซี่ยงไฮ้ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ยอดขายบ้านเพิ่ม 200% แบบนี้ไม่เรียกฟองสบู่ ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว
ผมมีมุมมองที่ตรงข้ามกับเจ้าพ่อ commodity จิม โรเจอร์ เลย .... commodity น่าจะเดินเข้าสู่ขาลงอย่างแรง เพราะ ผู้ซื้อรายใหญ่ คือ จีน และ ยุโรป กำลังจะพบปัญหาใหญ่ครับ
ประเทศจีน พลาดแล้วครับ ปล่อยให้เกิดฟองสบู่โดยไม่รู้ตัว เพราะในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาได้ peg กับดอลล์ แทนที่จะปล่อยให้แข็งค่าขึ้น
ทำให้กระแสเงินทุนไหลบ่า และ แบงก์ชาติจีนดูดสภาพคล่องออกไม่หมด
M2 เติบโตขึ้นราว 30% ทั้งที่ควรโต่แค่ 10% (อัตราการเติบโต บวกด้วย เงินเฟ้อ) ส่วนที่เกินไปนั้น ได้สร้างฟองสบู่ในสินทรัพย์ โดยเฉพาะ อสังหาฯ ไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้จีนเองก็รู้ดี...กำลังเจาะฟองสบู่อยู่ โดยหารู้ไม่ว่า มันอาจทำให้แตกได้ง่ายมากๆ เลย เพราะ ฟองลูกนี้ใหญ่เหลือเกิน หลังจากสะสมเงินทุนส่วนเกินมานานนับ 10 ปีแล้ว
ราคาอสังหาฯในเซี่ยงไฮ้ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ยอดขายบ้านเพิ่ม 200% แบบนี้ไม่เรียกฟองสบู่ ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว
ผมมีมุมมองที่ตรงข้ามกับเจ้าพ่อ commodity จิม โรเจอร์ เลย .... commodity น่าจะเดินเข้าสู่ขาลงอย่างแรง เพราะ ผู้ซื้อรายใหญ่ คือ จีน และ ยุโรป กำลังจะพบปัญหาใหญ่ครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 35
ถูกต้องที่สุดครับ บางที ศก. ทั้งโลก อาจจะใหญ่ไปสำหรับนักลงทุนในตลาดบ้านเราnaris เขียน:มีน้องหลายๆคนถามผมหลังไมค์ในเรื่องฟองสบู่จีนและค่าเงินยุโรป
ผมตอบไปว่า
ผมไม่รู้อยู่สองเรื่อง คือเรื่อง "ข้อมูลที่ได้ไม่มากพอที่จะตัดสิน และ ความฉลาดรอบรู้ที่จะสามารถกำหนดทิศทางของเหตุการณ์ในปีนี้หรือห้าปีหน้าได้"
ซึ่งผมว่าทั้งสองข้อ คนที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละประเทศเขามีข้อมูลมากกว่าและฉลาดกว่าผมเยอะ ช่วยกันเต็มที่อยู่แล้วครับ
ส่วนหน้าที่เราซึ่งเป็นนักลงทุนก็ต้อง "หาและตรวจสอบข้อมูลของบริษัทที่เราลงทุนให้มากที่สุดเพื่อการตัดสินใจ และ สร้างความฉลาดรอบรู้ในตัวธุรกิจที่เราลงทุนเพื่อที่สามารถกำหนดทิศทางของเหตุการณ์ในปีนี้หรือห้าปีข้างหน้าให้ได้ครับ"
ผมความรู้น้อยนะครับ แต่ยกตัวอย่าง Dubai World ก็กลัวกันมาก สุดท้ายก็มีทางออกครับ
คริคริ
Smile Now. Cry Later.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 36
วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
ถ้าวันนี้สิ่งที่เราสนใจ
ไม่ใช่ธุรกิจที่ดี
และไม่มีผู้บริหารที่มีความสามารถ
แทนที่จะเอาเวลาไปวิเคราะห์
เศรษฐกิจมหภาค
สู้ผมเอาเวลาไปหากิจการที่น่าสนใจ
จะมีประโยชน์ แล้วก็เหมาะสมกับ
การเป็นนักลงทุนตัวเล็กๆคนนึงแล้วครับ
ปล.
อ.นิเวศน์ ไม่มีเจตนาอย่างที่พี่เข้าใจครับ
เวลาเขียนบทความ นักเขียนต้องมีเป้าหมาย
ซึ่งบทความชิ้นนี้ ตีพิมพ์ในคอลัมน์มุมมองของ Value Investor
คนฉลาดๆอย่างพี่น่าจะเข้าใจว่า อ.เขียนจากมุมไหน
แล้วก็เขียนให้ใครอ่าน ซึ่งอ.แค่ต้องการย้ำเตือนสติ
สำหรับนักลงทุนที่เป็น VI หรือใฝ่ฝันอยากเป็น VI ว่า
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นสิ่งไม่จำเป็นต้องรู้
แต่ในสังคมมีคนที่สับสนในชีวิตอยู่เยอะ
ก็เลยสนอกสนใจการคาดการณ์เหล่านี้มากเป็นพิเศษ
นสพ. ข่าวทีวีออกมาให้ความเห็นไม่ซ้ำกัน
คนนู้นเห็นอย่าง คนนั้นเห็นอย่าง
คนที่สับสนอยู่แล้วก็ยิ่งสับสนมากขี้นไปอีก
แม้แต่ VI พันธฺ์แท้ถึงจะพยายามหลบข้อมูลเหล่านี้ก็อาจจะไขว้เขวได้
อ. จึงมีความเห็นว่าข้อมูลพวกนี้เป็นขยะ
เก็บไว้ก็รกหัว ไม่มีประโยชน์สำหรับ VI
ก็ให้โยนๆทิ้งมันไปเสียบ้าง เหมือนขยะ
ถ้าวันนี้สิ่งที่เราสนใจ
ไม่ใช่ธุรกิจที่ดี
และไม่มีผู้บริหารที่มีความสามารถ
แทนที่จะเอาเวลาไปวิเคราะห์
เศรษฐกิจมหภาค
สู้ผมเอาเวลาไปหากิจการที่น่าสนใจ
จะมีประโยชน์ แล้วก็เหมาะสมกับ
การเป็นนักลงทุนตัวเล็กๆคนนึงแล้วครับ
ปล.
อ.นิเวศน์ ไม่มีเจตนาอย่างที่พี่เข้าใจครับ
เวลาเขียนบทความ นักเขียนต้องมีเป้าหมาย
ซึ่งบทความชิ้นนี้ ตีพิมพ์ในคอลัมน์มุมมองของ Value Investor
คนฉลาดๆอย่างพี่น่าจะเข้าใจว่า อ.เขียนจากมุมไหน
แล้วก็เขียนให้ใครอ่าน ซึ่งอ.แค่ต้องการย้ำเตือนสติ
สำหรับนักลงทุนที่เป็น VI หรือใฝ่ฝันอยากเป็น VI ว่า
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นสิ่งไม่จำเป็นต้องรู้
แต่ในสังคมมีคนที่สับสนในชีวิตอยู่เยอะ
ก็เลยสนอกสนใจการคาดการณ์เหล่านี้มากเป็นพิเศษ
นสพ. ข่าวทีวีออกมาให้ความเห็นไม่ซ้ำกัน
คนนู้นเห็นอย่าง คนนั้นเห็นอย่าง
คนที่สับสนอยู่แล้วก็ยิ่งสับสนมากขี้นไปอีก
แม้แต่ VI พันธฺ์แท้ถึงจะพยายามหลบข้อมูลเหล่านี้ก็อาจจะไขว้เขวได้
อ. จึงมีความเห็นว่าข้อมูลพวกนี้เป็นขยะ
เก็บไว้ก็รกหัว ไม่มีประโยชน์สำหรับ VI
ก็ให้โยนๆทิ้งมันไปเสียบ้าง เหมือนขยะ
-
- Verified User
- โพสต์: 354
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 37
ดร. ท่านมีเจตนารมณ์ที่ดีในการสอนและเตือนใจนักลงทุนคุณค่าครับ
ผมเองก็พยายามยึดถือแนวทางของท่านมาใช้เท่าที่จะพอทำได้
อย่างไรก็ตามบทความนี้อาจจะใช้ถ้อยคำรุนแรงไปหน่อยครับ
เราก็พยายามมองที่เจตนา่ท่านก็แล้วกันครับ
ผมเองก็พยายามยึดถือแนวทางของท่านมาใช้เท่าที่จะพอทำได้
อย่างไรก็ตามบทความนี้อาจจะใช้ถ้อยคำรุนแรงไปหน่อยครับ
เราก็พยายามมองที่เจตนา่ท่านก็แล้วกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 146
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 39
อะไรดีละ wrote:
วิธีคิดแบบ ดร.นิเวศน์ไงครับ
คนที่คิดว่า นักเศรษฐศาสตร์ เหมือน หมอดู.... 555
ผมคิดว่าคงตีความอะไรผิดไปมาก เท่าที่ติดตามบทความหรือรายการของ คร. ในความหมายของท่านคือ นักเศรษฐศาสตร์ อาจคาดการผิดหรือถูกก็ได้ไม่มีใครรู้ได้ เช่นเดียวกับหมอดูที่เวลาดูดวง อาจทายถูกหรือไม่ถูกก็ได้ ไม่ใช่หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์ คือหมอดู อันนี้ทำให้ความหมายผิดไปมากครับ
สิ่งสำคัญ ดร เคยพูดตลอดว่าท่านให้ความสำคัญกับกิจการที่ลงทุนเป็นหลัก ไม่ได้ให้ความสำคัญ ต่อปัญหา การเมือง เศรษฐกิจมหภาค เพราะงั้นข่าวสารเชิงคาดการเศรษฐกิจมหภาค จึงมีความสำคัญน้อยมาก หรืออาจไม่มีความหมายเลยก็ได้ จึงอาจเทียบได้ว่าเป็น"ขยะ"
ขยะในความหมาย อาจเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ สำหรับเราหรือ เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ได้ ก็ไม่ต่างขยะ ไม่ว่างจะเป็นสิ่งของ หรือข้อมูลข่าวสาร แต่ขยะในที่นี่อาจมีประโยชน์สำหรับคนอื่น ที่จำเป็นต้องใช้ก็ได้นะครับ (เพราะงั้นตีความผิดไปพูดผิดๆ อาจทำให้ท่านเกิดความเสียหายได้)
ปล. ปกติอ่านอย่างเดียว เห็นตีความคลาดเคลื่อนไปเยอะเลย อยากแสดงความคิดเห็นบ้าง จริงๆแล้ววิกฤตเศรษฐกิจ ก็เกิดขึ้นโดยตลอดทั่วโลก อาจทำใกดผลกระทบ เล็กบ้างใหญ่บ้าง
ผมชอบกฏเหล็กข้อที่ 3. ของคุณสุมาอี้ ที่ว่า" ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์บริษัทและอุตสาหกรรมให้มากที่สุด ไม่ต้องให้ความสำคัญกับการทำนายทิศทางเศรษฐกิจมหภาค เรือทุกลำต้องเผชิญพายุเหมือนกันหมด จงพยายามเลือกเรือลำที่ดีที่สุดแทนที่จะพยายามคาดเดาว่าพายุจะมาเมื่อไร " หรือไม่ก็ออกจากตลาดไปซะ
วิธีคิดแบบ ดร.นิเวศน์ไงครับ
คนที่คิดว่า นักเศรษฐศาสตร์ เหมือน หมอดู.... 555
ผมคิดว่าคงตีความอะไรผิดไปมาก เท่าที่ติดตามบทความหรือรายการของ คร. ในความหมายของท่านคือ นักเศรษฐศาสตร์ อาจคาดการผิดหรือถูกก็ได้ไม่มีใครรู้ได้ เช่นเดียวกับหมอดูที่เวลาดูดวง อาจทายถูกหรือไม่ถูกก็ได้ ไม่ใช่หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์ คือหมอดู อันนี้ทำให้ความหมายผิดไปมากครับ
สิ่งสำคัญ ดร เคยพูดตลอดว่าท่านให้ความสำคัญกับกิจการที่ลงทุนเป็นหลัก ไม่ได้ให้ความสำคัญ ต่อปัญหา การเมือง เศรษฐกิจมหภาค เพราะงั้นข่าวสารเชิงคาดการเศรษฐกิจมหภาค จึงมีความสำคัญน้อยมาก หรืออาจไม่มีความหมายเลยก็ได้ จึงอาจเทียบได้ว่าเป็น"ขยะ"
ขยะในความหมาย อาจเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ สำหรับเราหรือ เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ได้ ก็ไม่ต่างขยะ ไม่ว่างจะเป็นสิ่งของ หรือข้อมูลข่าวสาร แต่ขยะในที่นี่อาจมีประโยชน์สำหรับคนอื่น ที่จำเป็นต้องใช้ก็ได้นะครับ (เพราะงั้นตีความผิดไปพูดผิดๆ อาจทำให้ท่านเกิดความเสียหายได้)
ปล. ปกติอ่านอย่างเดียว เห็นตีความคลาดเคลื่อนไปเยอะเลย อยากแสดงความคิดเห็นบ้าง จริงๆแล้ววิกฤตเศรษฐกิจ ก็เกิดขึ้นโดยตลอดทั่วโลก อาจทำใกดผลกระทบ เล็กบ้างใหญ่บ้าง
ผมชอบกฏเหล็กข้อที่ 3. ของคุณสุมาอี้ ที่ว่า" ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์บริษัทและอุตสาหกรรมให้มากที่สุด ไม่ต้องให้ความสำคัญกับการทำนายทิศทางเศรษฐกิจมหภาค เรือทุกลำต้องเผชิญพายุเหมือนกันหมด จงพยายามเลือกเรือลำที่ดีที่สุดแทนที่จะพยายามคาดเดาว่าพายุจะมาเมื่อไร " หรือไม่ก็ออกจากตลาดไปซะ
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 41
ผมชอบกฏเหล็กข้อที่ 3. ของคุณสุมาอี้ ที่ว่า" ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์บริษัทและอุตสาหกรรมให้มากที่สุด ไม่ต้องให้ความสำคัญกับการทำนายทิศทางเศรษฐกิจมหภาค เรือทุกลำต้องเผชิญพายุเหมือนกันหมด จงพยายามเลือกเรือลำที่ดีที่สุดแทนที่จะพยายามคาดเดาว่าพายุจะมาเมื่อไร " หรือไม่ก็ออกจากตลาดไปซะ
ไม่น่าเชื่อว่า แม่ทัพสุมาอี้จะคิดแบบนี้ เหมือนนำทหารไปติดกับดัก "ขงเบ้ง" เลยนะสิ
คุณสุมาอี้ อาจไม่รู้จักชาวประมง และ ไม่เคยดูหนังเรื่อง Perfect Storm
เรือดีมาก กัปตันและลูกเรือ เก่งสุดๆ ถ้าเป็นพายุธรรมดา น่าจะผ่านมาได้
แต่เมื่อเจอพายุแบบ 3 ลูกซ้อนๆ เข้ามาทุกทิศทางต่อเนื่อง...เสร็จครับ
วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ และ วิกฤติต้นยำกุ้งก็เหมือนกัน ผมเชื่อว่ามีหลายคนต้อง จบชีวิต นักลงทุน ไปกับ พายุยักษ์ 2 ลูกนั้น....
ผมขอไว้อาลัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สิ่งที่ ดร.นิเวศน์ กับ คุณสุมาอี้ เขียนไว้คล้ายๆ กันนะครับ.... พวกเขาใช้คำว่า "เดา" .... คือ มั่วๆ เดาเอา
แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐศาสตร์ เป็นวิชาการพยากรณ์เศรษฐกิจ ที่คล้ายๆ กับ การพยากรณ์อากาศ มากกว่า
คือ ต้องมีตัวเลข ข้อมูล มีแนวโน้ม มีสัญญาณส่อเค้าลางที่อันตราย
แม้จะมีโอกาสผิดพลาดบ้าง แต่โอกาสถูกมีสูงถึง 70-80% ไม่ใช่การมั่วเดา อย่างแน่นอน
บางทีเราการพยากรณ์ก็อาจไม่ชัดเจนว่า ไต้ฝุ่นจะรุนแรงเพียงใด จะวิ่งเข้าทำลายเมืองใดอย่างชัดเจน มันอาจพลาดก็ได้
ก็คล้ายๆ กับ การทำนายทาง ศก.เหมือนกัน แต่มันก็มีข้อมูล และ สมมติฐานที่ชัดเจน ที่ช่วยในการพยากรณ์ ไม่ใช่ "เดามั่ว" นะครับ
ไม่น่าเชื่อว่า แม่ทัพสุมาอี้จะคิดแบบนี้ เหมือนนำทหารไปติดกับดัก "ขงเบ้ง" เลยนะสิ
คุณสุมาอี้ อาจไม่รู้จักชาวประมง และ ไม่เคยดูหนังเรื่อง Perfect Storm
เรือดีมาก กัปตันและลูกเรือ เก่งสุดๆ ถ้าเป็นพายุธรรมดา น่าจะผ่านมาได้
แต่เมื่อเจอพายุแบบ 3 ลูกซ้อนๆ เข้ามาทุกทิศทางต่อเนื่อง...เสร็จครับ
วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ และ วิกฤติต้นยำกุ้งก็เหมือนกัน ผมเชื่อว่ามีหลายคนต้อง จบชีวิต นักลงทุน ไปกับ พายุยักษ์ 2 ลูกนั้น....
ผมขอไว้อาลัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สิ่งที่ ดร.นิเวศน์ กับ คุณสุมาอี้ เขียนไว้คล้ายๆ กันนะครับ.... พวกเขาใช้คำว่า "เดา" .... คือ มั่วๆ เดาเอา
แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐศาสตร์ เป็นวิชาการพยากรณ์เศรษฐกิจ ที่คล้ายๆ กับ การพยากรณ์อากาศ มากกว่า
คือ ต้องมีตัวเลข ข้อมูล มีแนวโน้ม มีสัญญาณส่อเค้าลางที่อันตราย
แม้จะมีโอกาสผิดพลาดบ้าง แต่โอกาสถูกมีสูงถึง 70-80% ไม่ใช่การมั่วเดา อย่างแน่นอน
บางทีเราการพยากรณ์ก็อาจไม่ชัดเจนว่า ไต้ฝุ่นจะรุนแรงเพียงใด จะวิ่งเข้าทำลายเมืองใดอย่างชัดเจน มันอาจพลาดก็ได้
ก็คล้ายๆ กับ การทำนายทาง ศก.เหมือนกัน แต่มันก็มีข้อมูล และ สมมติฐานที่ชัดเจน ที่ช่วยในการพยากรณ์ ไม่ใช่ "เดามั่ว" นะครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1558
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 42
รับฟังความคิดเห็น แต่ต้องตัดสินใจกันเอาเอง
จะขายหุ้นทิ้งหมดเพื่อลดความเสี่ยงรักษาเงินต้นไว้ ไว้ซื้อของถูกตอนวิกฤตเศรษฐกิจมา
หรือจะหาหุ้นดีๆ ถือไว้เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการลงทุน สามารถถือมันผ่านวิกฤตไปได้ หรือถ้าไม่มีวิกฤติเกิดขึ้นจริงก็ไม่เป็นการเสียโอกาส
ส่วนตัวผมเลือกถือครับ เพราะคิดว่าถ้ามีวิกฤตก็สามารถผ่านไปได้ ถ้ามีของถูกให้ซื้ออีกก็เก็บเงินมาซื้ออีก
จะขายหุ้นทิ้งหมดเพื่อลดความเสี่ยงรักษาเงินต้นไว้ ไว้ซื้อของถูกตอนวิกฤตเศรษฐกิจมา
หรือจะหาหุ้นดีๆ ถือไว้เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการลงทุน สามารถถือมันผ่านวิกฤตไปได้ หรือถ้าไม่มีวิกฤติเกิดขึ้นจริงก็ไม่เป็นการเสียโอกาส
ส่วนตัวผมเลือกถือครับ เพราะคิดว่าถ้ามีวิกฤตก็สามารถผ่านไปได้ ถ้ามีของถูกให้ซื้ออีกก็เก็บเงินมาซื้ออีก
-
- Verified User
- โพสต์: 404
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 43
ผมว่า ดร. และพี่ ๆ VI ทุกคน ก็ไม่ได้เจตนาจะว่าเรื่องของเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องไม่ที่ไม่มีหลักการ หรือไม่มีประโยชน์นะครับ แต่ในฐานะนักลงทุนเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องที่นักลงทุนแบบ VI ให้ความสำคัญเป็นลำดับหลัง ๆ จะวิกฤติไหน ๆ สุดท้าย ถ้าบริษัทที่เราลงทุนมันดีจริง สุดท้ายมันก็กลับมาครับ ในมุมมองนักลงทุนมือใหม่อย่างผม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ ผมไม่มีความสามารถพอครับที่จะไปเข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ (แค่เรื่องลงทุนก็ยังงง ๆ ตั้งหลายอย่างเลยครับ :oops: )
แต่เข้าใจเจตนาดีของพี่อะไรดีล่ะ และขอบคุณมากครับ และคิดว่าเรื่องเศรษฐศาสตร์มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองประเทศ และโลกนี้มากครับ แต่ในฐานะนักลงทุน.....ถ้าเศรษฐกิจขาลงจริง ๆ ใครหลายคนคงหลายภาคส่วนคงเศร้า เป็นทุกข์ ยกเว้น....ชาว VI (เหมือนคนโรคจิตแฮะ :oops: ) ที่จะได้หาบริษัทดี ๆ มาเป็นเจ้าของเพิ่มในราคาไม่แพง
แต่เข้าใจเจตนาดีของพี่อะไรดีล่ะ และขอบคุณมากครับ และคิดว่าเรื่องเศรษฐศาสตร์มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองประเทศ และโลกนี้มากครับ แต่ในฐานะนักลงทุน.....ถ้าเศรษฐกิจขาลงจริง ๆ ใครหลายคนคงหลายภาคส่วนคงเศร้า เป็นทุกข์ ยกเว้น....ชาว VI (เหมือนคนโรคจิตแฮะ :oops: ) ที่จะได้หาบริษัทดี ๆ มาเป็นเจ้าของเพิ่มในราคาไม่แพง
ซื้อหุ้นไม่มี MOS ก็เหมือนขึ้นเรือไม่มีเสื้อชูชีพ
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 45
การฟื้นตัวของ ศก. กับ การฟื้นตัวของดัชนีหุ้น จะเป็นรูปแบบเดียวกันครับ...
ตอนนี้หลายสำนักศก.คาดกันว่าปีนี้จะโต 3-4% กันทั้งนั้น แต่สำหรับผมแล้ว อาจเป็นเพราะว่า ผมเห็นในสิ่งที่พวกเขายังไม่เห็นหรือเปล่า
ระเบิดเวลา วิกฤติยูโรโซน วิกฤติแหนมเนือง วิกฤติเกี๋ยวซ่า รอเราอยู่
สำนักเศรษฐบู๊ตึ๊ง จึงคาดการณ์ได้ที่ 0% เท่านั้น ครึ่งแรก +3% ส่วนครึ่งหลังน่าจะ -3% รวมๆ แล้วเหลือ 0%
นักวิเคราะห์ถ้าคิดว่า ศก.โต 3% บริษัทต่างๆ ก็น่าจะมีกำไรเพิ่มเล็กน้อย ก็เลยประเมินดัชนีหุ้นสิ้นปีนี้ไว้สูงกว่า 800 จุด
แต่ถ้าเป็นผมก็ประเมิน ศก.โตแค่ 0% โดยครึ่งหลังโต -3% เพราะมองว่า ศก.จะฟื้นตัวเป็น W (โอกาสสูงกว่า 80%) ดังนั้น เมื่อ ศก.ฟื้นตัวแบบนี้ ดัชนีหุ้นก็คงไม่ต่างกัน เราอาจเห็นดัชนียืน 400-500 จุดได้อีกครั้งครับ
คือเป็นห่วง VI บางคนที่ลงมาร์จิ้นเต็มๆ .... พายุรอบนี้อาจเป็น perfect storm ลูกใหญ่อีกครั้ง.... อาจจะแทบไม่สามารถพยุงตัวให้รอดมาได้
การพยายามรักษา ชีวิตของนักลงทุน VI ไว้ คือ จุดมุ่งหมายของกระทู้นี้ครับ
ตอนนี้หลายสำนักศก.คาดกันว่าปีนี้จะโต 3-4% กันทั้งนั้น แต่สำหรับผมแล้ว อาจเป็นเพราะว่า ผมเห็นในสิ่งที่พวกเขายังไม่เห็นหรือเปล่า
ระเบิดเวลา วิกฤติยูโรโซน วิกฤติแหนมเนือง วิกฤติเกี๋ยวซ่า รอเราอยู่
สำนักเศรษฐบู๊ตึ๊ง จึงคาดการณ์ได้ที่ 0% เท่านั้น ครึ่งแรก +3% ส่วนครึ่งหลังน่าจะ -3% รวมๆ แล้วเหลือ 0%
นักวิเคราะห์ถ้าคิดว่า ศก.โต 3% บริษัทต่างๆ ก็น่าจะมีกำไรเพิ่มเล็กน้อย ก็เลยประเมินดัชนีหุ้นสิ้นปีนี้ไว้สูงกว่า 800 จุด
แต่ถ้าเป็นผมก็ประเมิน ศก.โตแค่ 0% โดยครึ่งหลังโต -3% เพราะมองว่า ศก.จะฟื้นตัวเป็น W (โอกาสสูงกว่า 80%) ดังนั้น เมื่อ ศก.ฟื้นตัวแบบนี้ ดัชนีหุ้นก็คงไม่ต่างกัน เราอาจเห็นดัชนียืน 400-500 จุดได้อีกครั้งครับ
คือเป็นห่วง VI บางคนที่ลงมาร์จิ้นเต็มๆ .... พายุรอบนี้อาจเป็น perfect storm ลูกใหญ่อีกครั้ง.... อาจจะแทบไม่สามารถพยุงตัวให้รอดมาได้
การพยายามรักษา ชีวิตของนักลงทุน VI ไว้ คือ จุดมุ่งหมายของกระทู้นี้ครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 46
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อ ศก.ดิ่งลงครั้งที่ 2 ...
ทั่วโลก จะถึงกับถอดใจ เพราะ นโยบายการเงิน และ การคลัง เล่นกันจนสุดขั้วแล้ว ศก.ก็ยังไม่ฟื้น แถมลงอีกต่างหาก....
หมดอาวุธจะไปสู้แล้ว
เมื่อถึงเวลานั้น อาวุธใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้นมา "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ก็จะถูกหยิบยกเพื่อพิจารณาใช้ต่อกรกับ วิกฤติขาลงรอบ 2 นี้ครับ 555
ทั่วโลก จะถึงกับถอดใจ เพราะ นโยบายการเงิน และ การคลัง เล่นกันจนสุดขั้วแล้ว ศก.ก็ยังไม่ฟื้น แถมลงอีกต่างหาก....
หมดอาวุธจะไปสู้แล้ว
เมื่อถึงเวลานั้น อาวุธใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้นมา "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ก็จะถูกหยิบยกเพื่อพิจารณาใช้ต่อกรกับ วิกฤติขาลงรอบ 2 นี้ครับ 555
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 47
เวเนซูเอลา ลดค่าเงิน 50% เมื่อสัปดาห์ก่อน
ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเงินเฟ้อ....
สุดยอดมากๆ .... แปลว่า แถวๆ อเมริกาใต้ก็มีปัญหาเหมือนกัน...
กำหนดนโยบายแบบตามใจฉันอย่างนี้ อีกไม่นาน ซาเวซ เหนื่อยแน่ครับ
ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเงินเฟ้อ....
สุดยอดมากๆ .... แปลว่า แถวๆ อเมริกาใต้ก็มีปัญหาเหมือนกัน...
กำหนดนโยบายแบบตามใจฉันอย่างนี้ อีกไม่นาน ซาเวซ เหนื่อยแน่ครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 2
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 48
ผมเริ่มเห็นด้วยกับ ดร.นิเวศน์ นิดๆ แล้วนะครับ ในประเด็นที่ว่า ควรจะให้ความสำคัญกับมหภาคน้อยกว่าวิเคราะห์บริษัท เพราะว่า จากสถานการณ์ในกระทู้ก็ดี หรือกระทั่งสถานการณ์นอกกระทู้ของวงการเศรษฐศาสตร์ก็ดี แทบจะสรุปได้ว่า
ถ้ามีนักเศรษฐศาสตร์ดังๆ คนนึง ออกมาพยากรณ์อะไรไว้สักอย่างนึง ด้วยหลักวิชาการทีน่าเชื่อถือ เป็นเหตุเป็นผลไปหมด ... ภายในเวลาไม่นาน อาจจะมีนักเศรษฐศาสร์ดังๆ อีกคนมาพยากรณ์อะไรที่ตรงกันข้ามกันเลยซะงั้น ทั้งนี้ยังใช้หลักวิชาการทีน่าเชื่อถือและดูเป็นเหตุเป็นผลในทางเศรษฐศาสตร์ไปหมดคล้ายๆกันอีกต่างหาก
แล้วถ้านักเศรษฐศาสตร์ในโลกเป็นกันแบบนี้ การทื่นักลงทุนหรือผู้คนอื่นๆ ให้ความสำคัญกับนักเศรษฐศาสตร์น้อยลงเนี่ย ผมว่าพวกนักเศรษฐศาสตร์ควรจะทำใจแทนการพูดถึงความสำคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ครับ
ถ้ามีนักเศรษฐศาสตร์ดังๆ คนนึง ออกมาพยากรณ์อะไรไว้สักอย่างนึง ด้วยหลักวิชาการทีน่าเชื่อถือ เป็นเหตุเป็นผลไปหมด ... ภายในเวลาไม่นาน อาจจะมีนักเศรษฐศาสร์ดังๆ อีกคนมาพยากรณ์อะไรที่ตรงกันข้ามกันเลยซะงั้น ทั้งนี้ยังใช้หลักวิชาการทีน่าเชื่อถือและดูเป็นเหตุเป็นผลในทางเศรษฐศาสตร์ไปหมดคล้ายๆกันอีกต่างหาก
แล้วถ้านักเศรษฐศาสตร์ในโลกเป็นกันแบบนี้ การทื่นักลงทุนหรือผู้คนอื่นๆ ให้ความสำคัญกับนักเศรษฐศาสตร์น้อยลงเนี่ย ผมว่าพวกนักเศรษฐศาสตร์ควรจะทำใจแทนการพูดถึงความสำคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ครับ
เงินทองหน่ะมายา ข้าวปลาสิของจริง
ข้าวของเครื่องใช้ก็มายา สุขีใจกายถึงดีจริง
ข้าวของเครื่องใช้ก็มายา สุขีใจกายถึงดีจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 49
My worry is about whether were going to have a sustainable recovery, Justin Lin, World Bank chief economist, said this week to the Council on Foreign Relations in Washington. I think a second dip is a very likely scenario.
โหๆ ขนาด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ WB เชียวนะ...
คาดการณ์ second dip.... อันตรายมากๆ....ครับ
โหๆ ขนาด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ WB เชียวนะ...
คาดการณ์ second dip.... อันตรายมากๆ....ครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 51
[quote="อะไรดีละ"]การฟื้นตัวของ ศก. กับ การฟื้นตัวของดัชนีหุ้น จะเป็นรูปแบบเดียวกันครับ...
ตอนนี้หลายสำนักศก.คาดกันว่าปีนี้จะโต 3-4% กันทั้งนั้น
ตอนนี้หลายสำนักศก.คาดกันว่าปีนี้จะโต 3-4% กันทั้งนั้น
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 52
พี่อะไรดีละ บอกว่าพี่ใช้ตัวเลขในการวิเคราะห์ GDP
ผมอยากรู้ว่าทำไมปลายปีต้อง -3% ทำไมไม่ -5% หรือ -2% มันมีตัวเลขไหนที่บอก
รบกวนพี่ช่วยให้ความรู้แก่ผู้น้อยด้วยนะครับ
อันนี้ ประมาณการของผมนะครับ..... อาจเป็น -5% ก็ได้ ใครจะรู้
นั่นหมายถึง ศก.ปีนี้เผลอๆ ทั้งปีอาจติดลบนิดหน่อย... คล้ายปีก่อน
แต่ต่างกันตรง ปีก่อน ต้นร้าย ปลายดี แต่ปีนี้ ต้นดี ปลายร้าย
Perfect Storm แบบนี้ จาก ฟื้นตัว V ก็กลายเป็น W
ขอให้โชคดีกับหุ้นที่พวกท่านคิดว่า "ดี" สุดยอด
รอดพ้นจากวิกฤติมาพร้อมๆ กับ กำไร นะครับ....
ผมอยากรู้ว่าทำไมปลายปีต้อง -3% ทำไมไม่ -5% หรือ -2% มันมีตัวเลขไหนที่บอก
รบกวนพี่ช่วยให้ความรู้แก่ผู้น้อยด้วยนะครับ
อันนี้ ประมาณการของผมนะครับ..... อาจเป็น -5% ก็ได้ ใครจะรู้
นั่นหมายถึง ศก.ปีนี้เผลอๆ ทั้งปีอาจติดลบนิดหน่อย... คล้ายปีก่อน
แต่ต่างกันตรง ปีก่อน ต้นร้าย ปลายดี แต่ปีนี้ ต้นดี ปลายร้าย
Perfect Storm แบบนี้ จาก ฟื้นตัว V ก็กลายเป็น W
ขอให้โชคดีกับหุ้นที่พวกท่านคิดว่า "ดี" สุดยอด
รอดพ้นจากวิกฤติมาพร้อมๆ กับ กำไร นะครับ....
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 919
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 53
ผมขอกล่าวชื่นชมพี่อะไรดีล่ะ ครับ
ว่ากล้าแสดงความคิดเห็นที่ต่างไป
ในเว็บแห่งนี้...ซึ่งส่วนใหญ่ จะมีความคิด ว่า
ให้ถือหุ้นที่ แข็งแกร่ง แล้วไม่ต้องดูสภาวะเศรษฐกิจว่าจะขึ้นหรือจะลง
และผมก็เป็นผู้หนึ่ง ซึ่งเชื่อในหลักการของวีไอ นี้เช่นกัน
เพราะผมเชื่อว่า ไ่ม่มีใครสามารถทำนายเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำครับ
ผมชื่นชมพี่ที่มีความอดทนต่อ การโดนแสดงความไ่ม่เห็นด้วยต่างๆ นานา
อาจเป็นคำพูดที่ฟังแล้วไม่ค่อยสุภาพก็ดี คำพูด ประชดประชันก็ดี
ผมขอสนับสนุนให้พี่ กล้าโพส กล้าแสดงความเห็นที่แตกต่างออกไป อย่างนี้มากๆครับ
แต่ผมก็ขอรบกวนพี่...ว่าปีหน้า ลองเอากระทู้นี้มาปัดฝุ่น แล้ว เช็คดูว่า
คำทำนาย...จะเป็นจริงเหมือน เค้าว่าหรือเปล่านะครับ
เผื่อถ้ามันไม่จริง...จะได้เบน แนวคิดของพี่อะไรดีล่ะ ให้มาเชื่อเหมือนกับผม
ซึ่งคิดว่า เศรษฐศาสตร์ กว่าจะรู้จริงถึงผล มันก็คือเกิดแล้ว
(แต่ถ้าจริง ความคิดผมก็เบนไปทางพี่อะไรดีล่ะ...ว่าเศรษฐศาสตร์...ก็ใช้ทำนายเศรษฐกิจได้ครับ)
ว่ากล้าแสดงความคิดเห็นที่ต่างไป
ในเว็บแห่งนี้...ซึ่งส่วนใหญ่ จะมีความคิด ว่า
ให้ถือหุ้นที่ แข็งแกร่ง แล้วไม่ต้องดูสภาวะเศรษฐกิจว่าจะขึ้นหรือจะลง
และผมก็เป็นผู้หนึ่ง ซึ่งเชื่อในหลักการของวีไอ นี้เช่นกัน
เพราะผมเชื่อว่า ไ่ม่มีใครสามารถทำนายเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำครับ
ผมชื่นชมพี่ที่มีความอดทนต่อ การโดนแสดงความไ่ม่เห็นด้วยต่างๆ นานา
อาจเป็นคำพูดที่ฟังแล้วไม่ค่อยสุภาพก็ดี คำพูด ประชดประชันก็ดี
ผมขอสนับสนุนให้พี่ กล้าโพส กล้าแสดงความเห็นที่แตกต่างออกไป อย่างนี้มากๆครับ
แต่ผมก็ขอรบกวนพี่...ว่าปีหน้า ลองเอากระทู้นี้มาปัดฝุ่น แล้ว เช็คดูว่า
คำทำนาย...จะเป็นจริงเหมือน เค้าว่าหรือเปล่านะครับ
เผื่อถ้ามันไม่จริง...จะได้เบน แนวคิดของพี่อะไรดีล่ะ ให้มาเชื่อเหมือนกับผม
ซึ่งคิดว่า เศรษฐศาสตร์ กว่าจะรู้จริงถึงผล มันก็คือเกิดแล้ว
(แต่ถ้าจริง ความคิดผมก็เบนไปทางพี่อะไรดีล่ะ...ว่าเศรษฐศาสตร์...ก็ใช้ทำนายเศรษฐกิจได้ครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 54
[quote="อะไรดีละ"]พี่อะไรดีละ บอกว่าพี่ใช้ตัวเลขในการวิเคราะห์ GDP
ผมอยากรู้ว่าทำไมปลายปีต้อง -3% ทำไมไม่ -5% หรือ -2% มันมีตัวเลขไหนที่บอก
รบกวนพี่ช่วยให้ความรู้แก่ผู้น้อยด้วยนะครับ
อันนี้
ผมอยากรู้ว่าทำไมปลายปีต้อง -3% ทำไมไม่ -5% หรือ -2% มันมีตัวเลขไหนที่บอก
รบกวนพี่ช่วยให้ความรู้แก่ผู้น้อยด้วยนะครับ
อันนี้
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 55
ผมเชื่อว่าวิกฤตเศรษฐกิจมันยังไม่จบ... มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด double dip... ฟองสบู่ในตลาด emerging ต้องแตกในสักวัน...
แต่ทำยังไงได้... ปี 2008 subprime ระเบิด หุ้นตกเละกระจาย ผมยังถือหุ้นเกิน 100% อยู่เลย...
คราวนี้อาจจะต้องโง่ซ้ำซาก แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่ทำแน่ๆ คือ ถือหุ้นเกิน 100%...
แต่ทำยังไงได้... ปี 2008 subprime ระเบิด หุ้นตกเละกระจาย ผมยังถือหุ้นเกิน 100% อยู่เลย...
คราวนี้อาจจะต้องโง่ซ้ำซาก แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่ทำแน่ๆ คือ ถือหุ้นเกิน 100%...
-
- Verified User
- โพสต์: 181
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 56
ปกติแล้วปีที่เศรษฐกิจดีหรือ GDP เป็นบวก มีมากกว่าปีที่เศรษฐกิจแย่ๆ และเราเพิ่มผ่านฟองสบู่แตกเศรษฐกิจแย่ๆไป
อยากมองว่าปีที่ผ่านมาหุ้นหลายตัว ธุรกิจหลายอย่างกลับมีผลประกอบการที่สูงขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันสูงกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตมาก
ถ้าคิดว่าจะมีวิกฤตอีกก็คงต้องรีบหาหุ้นที่จะเป็นเบอร์ต้นๆในธุรกิจนั้นๆ เพราะหลังวิกฤตครั้งหน้าบริษัทที่ว่าก็คงจะยิ่งโตขึ้นไปอีก
น่าจะดีกว่าที่จะคิดว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร
อยากมองว่าปีที่ผ่านมาหุ้นหลายตัว ธุรกิจหลายอย่างกลับมีผลประกอบการที่สูงขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันสูงกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตมาก
ถ้าคิดว่าจะมีวิกฤตอีกก็คงต้องรีบหาหุ้นที่จะเป็นเบอร์ต้นๆในธุรกิจนั้นๆ เพราะหลังวิกฤตครั้งหน้าบริษัทที่ว่าก็คงจะยิ่งโตขึ้นไปอีก
น่าจะดีกว่าที่จะคิดว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 57
tanapol เขียน:ผมขอกล่าวชื่นชมพี่อะไรดีล่ะ ครับ
ว่ากล้าแสดงความคิดเห็นที่ต่างไป
ในเว็บแห่งนี้...ซึ่งส่วนใหญ่ จะมีความคิด ว่า
ให้ถือหุ้นที่ แข็งแกร่ง แล้วไม่ต้องดูสภาวะเศรษฐกิจว่าจะขึ้นหรือจะลง
และผมก็เป็นผู้หนึ่ง ซึ่งเชื่อในหลักการของวีไอ นี้เช่นกัน
เพราะผมเชื่อว่า ไ่ม่มีใครสามารถทำนายเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำครับ
ผมชื่นชมพี่ที่มีความอดทนต่อ การโดนแสดงความไ่ม่เห็นด้วยต่างๆ นานา
อาจเป็นคำพูดที่ฟังแล้วไม่ค่อยสุภาพก็ดี คำพูด ประชดประชันก็ดี
ผมขอสนับสนุนให้พี่ กล้าโพส กล้าแสดงความเห็นที่แตกต่างออกไป อย่างนี้มากๆครับ
แต่ผมก็ขอรบกวนพี่...ว่าปีหน้า ลองเอากระทู้นี้มาปัดฝุ่น แล้ว เช็คดูว่า
คำทำนาย...จะเป็นจริงเหมือน เค้าว่าหรือเปล่านะครับ
เผื่อถ้ามันไม่จริง...จะได้เบน แนวคิดของพี่อะไรดีล่ะ ให้มาเชื่อเหมือนกับผม
ซึ่งคิดว่า เศรษฐศาสตร์ กว่าจะรู้จริงถึงผล มันก็คือเกิดแล้ว
(แต่ถ้าจริง ความคิดผมก็เบนไปทางพี่อะไรดีล่ะ...ว่าเศรษฐศาสตร์...ก็ใช้ทำนายเศรษฐกิจได้ครับ)
ผมว่าเรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยจะดีกว่าครับ...
วิกฤติต้มยำกุ้ง...มีนักเศรษฐศาสตร์ทั้งไทย เทศ เตือนมาก่อนเป็นปีครับ
วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ก็มีนักเศรษฐศาสตร์เห็นมาก่อนแล้วหลายปีเช่นกันครับ
อย่าได้สงสัยเลยกับการพยากรณ์เตือนภัย ศก. ปัญหาก็คือ timing และ ระดับความรุนแรงต่างหาก ...... เป็นเรื่องที่ยากไปอีกขั้นครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 58
สิ่งที่ควรทำก็คือ เลือกฟัง นักเศรษฐศาสตร์ทีเก่ง และ ไม่เลือกข้างครับ
ถ้าเป็นของ ฝั่ง รัฐบาล ก็แน่นอนย่อมเชียร์อยู่แล้ว คาดการณ์สวยหรู "อวย" ทุกนโยบายจะช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ แม้แต่ กอช. ยังเชียร์กันเลย
ถ้าเป็นฝ่ายค้าน ก็จะโจมตีทุกนโยบาย คาดการณ์เลยร้าย มีแต่คำติ ไม่มีคำแนะนำแต่อย่างใด
สำหรับ ระดับโลกก็ฟัง ศจ.รูบินี, ศจ.ครุกแมน, สตีเฟน โรช นะครับ
ผมจะไปรู้อย่างชัดเจนได้ยังไงว่าปีนี้จะโตเท่าไหร่
ไม่ใช่คนกำหนดนโยบายนี่ครับ
ถ้าคนกำหนดนโยบายมีกึ๋นพอ...
แม้เกิดวิกฤติโลก ศก.ไทยอาจจะโต 2-3% ก็ได้
ก็แค่ใช้นโยบายตาม "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ไง
แต่ถ้ายังงงๆ นึกว่าปีนี้สดใสแน่นอน ไม่มีการเตรียมพร้อมเลย ก็เหนื่อยครับ
ถ้าเป็นของ ฝั่ง รัฐบาล ก็แน่นอนย่อมเชียร์อยู่แล้ว คาดการณ์สวยหรู "อวย" ทุกนโยบายจะช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ แม้แต่ กอช. ยังเชียร์กันเลย
ถ้าเป็นฝ่ายค้าน ก็จะโจมตีทุกนโยบาย คาดการณ์เลยร้าย มีแต่คำติ ไม่มีคำแนะนำแต่อย่างใด
สำหรับ ระดับโลกก็ฟัง ศจ.รูบินี, ศจ.ครุกแมน, สตีเฟน โรช นะครับ
ผมจะไปรู้อย่างชัดเจนได้ยังไงว่าปีนี้จะโตเท่าไหร่
ไม่ใช่คนกำหนดนโยบายนี่ครับ
ถ้าคนกำหนดนโยบายมีกึ๋นพอ...
แม้เกิดวิกฤติโลก ศก.ไทยอาจจะโต 2-3% ก็ได้
ก็แค่ใช้นโยบายตาม "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ไง
แต่ถ้ายังงงๆ นึกว่าปีนี้สดใสแน่นอน ไม่มีการเตรียมพร้อมเลย ก็เหนื่อยครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 59
สำหรับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ นักเศรษฐ์ศาสตรบอกมาตั้งหลายปี ???ผมว่าเรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยจะดีกว่าครับ...
วิกฤติต้มยำกุ้ง...มีนักเศรษฐศาสตร์ทั้งไทย เทศ เตือนมาก่อนเป็นปีครับ
วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ก็มีนักเศรษฐศาสตร์เห็นมาก่อนแล้วหลายปีเช่นกันครับ
อย่าได้สงสัยเลยกับการพยากรณ์เตือนภัย ศก. ปัญหาก็คือ timing และ ระดับความรุนแรงต่างหาก ...... เป็นเรื่องที่ยากไปอีกขั้นครับ
ถ้าเราเชื่อนักเศรษฐศาสตร์ แล้วล้าง port รอไปตั้งหลายปี ไม่ขาดทุนกำไรแย่เหรอครับ ???
ถ้าลงในหุ้นดีๆเป้นเวลาหลายปี อย่างน้อยต้องขึ้นละ 1 เด้ง เลือกดีๆอาจจะ 2-3 เด้งได้
ผมว่าล้าง port รอ คงจะเสียโอกาสไปเปล่าๆ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 60
เป็นกำลังใจให้คุณอะไรดีล่ะที่ให้ข้อคิดทีดี..ชอบครับ
ส่วนเรื่องการpost พาดพิง ถากถาง ทับถม นั้น ผมขอให้ความเห็นแบบรวม ๆ ว่าอยู่ที่การตีความ และทุกคนอาจพลาดได้ ก็ขอได้ตระหนักพยายามเลี่ยง ซึ่งผู้ตัดสินคือ moderator (ไม่ควรเป็นสมาชิกด้วยกัน).... หากพิจารณาว่าไม่เหมาะสมก็ขอเพียงรับผิดขออภัยกัน ก็น่าจะยอมรับได้ (ก็ตามที่ modurator ตัดสิน)
เกี่ยวกับเรื่องวิกฤติที่อาจมีขึ้นนั้น คงไม่สามารถมีใครฟันธงได้ อาจบอกได้เพียงแนวโน้ม ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์ที่เคยทำนายถูกก็มีมาก ที่ผิดก็ไม่น้อย...เพราะว่าการทำนายอนาคตนั้นอาจดูเหมือนว่าจะถูกต้องจากข้อมูลปัจจุบัน....แต่เศรษฐกิจมีชีวิต คือ dynamic ตลอดเวลา......กล่าวคือปัจจัยมีมากมายและแต่ละปัจจัยไม่เคยนิ่ง การตัดสินใจต่างของผู้นำ ก็ไม่อาจคาดเดาได้.....จึงไม่อาจฟันธงอนาคตได้
อย่างไรก็ดี การตระหนักมากขึ้น เมื่อมีใครทักก็น่าจะทำให้ลงทุนได้รอบคอบขึ้น เพราะว่า ขณะนี้กูรูหลายท่านก็มีความเห็นว่าอย่าชะล่าใจ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด....แต่เขาว่าหากมีจริงก็คงไม่เท่ากับวิกฤติปี 51
ด้านการลงทุนเราได้ผ่านวิกฤติปี 51 แล้ว เชื่อว่าจะอย่างไรเราน่าจะมีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งแล้วรู้ว่าต้องทำอย่างไร....มาอีกทีชาว VI อาจชอบก็ได้....เพราะว่าได้กำไรเป็นทวีคูณในปีถัดไปเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องการpost พาดพิง ถากถาง ทับถม นั้น ผมขอให้ความเห็นแบบรวม ๆ ว่าอยู่ที่การตีความ และทุกคนอาจพลาดได้ ก็ขอได้ตระหนักพยายามเลี่ยง ซึ่งผู้ตัดสินคือ moderator (ไม่ควรเป็นสมาชิกด้วยกัน).... หากพิจารณาว่าไม่เหมาะสมก็ขอเพียงรับผิดขออภัยกัน ก็น่าจะยอมรับได้ (ก็ตามที่ modurator ตัดสิน)
เกี่ยวกับเรื่องวิกฤติที่อาจมีขึ้นนั้น คงไม่สามารถมีใครฟันธงได้ อาจบอกได้เพียงแนวโน้ม ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์ที่เคยทำนายถูกก็มีมาก ที่ผิดก็ไม่น้อย...เพราะว่าการทำนายอนาคตนั้นอาจดูเหมือนว่าจะถูกต้องจากข้อมูลปัจจุบัน....แต่เศรษฐกิจมีชีวิต คือ dynamic ตลอดเวลา......กล่าวคือปัจจัยมีมากมายและแต่ละปัจจัยไม่เคยนิ่ง การตัดสินใจต่างของผู้นำ ก็ไม่อาจคาดเดาได้.....จึงไม่อาจฟันธงอนาคตได้
อย่างไรก็ดี การตระหนักมากขึ้น เมื่อมีใครทักก็น่าจะทำให้ลงทุนได้รอบคอบขึ้น เพราะว่า ขณะนี้กูรูหลายท่านก็มีความเห็นว่าอย่าชะล่าใจ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด....แต่เขาว่าหากมีจริงก็คงไม่เท่ากับวิกฤติปี 51
ด้านการลงทุนเราได้ผ่านวิกฤติปี 51 แล้ว เชื่อว่าจะอย่างไรเราน่าจะมีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งแล้วรู้ว่าต้องทำอย่างไร....มาอีกทีชาว VI อาจชอบก็ได้....เพราะว่าได้กำไรเป็นทวีคูณในปีถัดไปเหมือนเดิม