พอดีผมไปผ่าตัดหูรอบสองมาครับ(โดนผ่า)
เลยตอบช้าไปหน่อย
เรื่องหุ้นเรือ ผมมาซื้อตอนที่ราคาหย่อนตัวลงมาหลังจากทำนิวไฮแบบถล่มทลายไปแล้ว ก็เลยเหมือนกับตามเก็บเศษเนื้อที่ฉลามกินไปเกือบเกลี้ยงแล้ว
ก็เลยไม่มีความหวังอะไรมากมาย พอได้กำไรนิดหน่อย(หรือไม่ก็ขาดทุนนิดหน่อย)ก็ขายไป
เรื่องหุ้นยานยนต์
ธรรมชาติของกลุ่มนี้จะมีรอบครั้งละประมาณ 12 ปี +/-3 ปี
ซึ่งตรงกับรอบของวิกฤติเศรษฐกิจพอดี
ตรงกันโดยบังเอิญหรือไม่ ผมว่าไม่บังเอิญครับ
ที่จริงกลุ่มนี้จัดอยู่ในกลุ่ม economical cycle ด้วยซ้ำ
ซึ่งแปลว่ามันดีหรือแย่ตามเศรษฐกิจโลก
ฉายานี้ไม่ได้มาด้วยโชคช่วยแต่เป็นเรื่องที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้
จังหวะซื้อก็น่าจะเป็นช่วงที่ข่าวร้ายทั้งหลายออกมาเต็มตลาดไปหมด
หรือถ้าจะดูเรื่องอารมณ์ก็จะเป็นช่วงที่สิ้นหวังสุดๆ
จังหวะนี้แหละครับนับเป็นโอกาสทองที่หายากมากๆ
( ตอนนั้น sat น่าจะอยู่แถวๆสามบาทนิดๆ
และ stanly จำได้แม่นเพราะผมจ้องอยู่
ราคา 45 บาทเท่านั้นเอง
แต่ผมไม่ได้ซื้อ stanly ที่ราคานั้นทั้งๆที่จ้องอยู่เพราะยังขาย stpi ไม่ได้

)
ส่วนจะซื้อหุ้นตัวไหน
ก็ดูว่าประวัติการทำกำไรในอดีตเป็นอย่างไรย้อนหลังไปหลายปีหน่อย
ผมชอบดู roe ครับ เพราะง่ายดี
ถ้าได้ 20% ขึ้นไปก็ถือว่าสุดยอดแล้ว
ในตลาดก็มีเพียง sat กับ stanly
roe ระดับนี้ถือว่าไม่ธรรมดาและบ่งบอกเรื่องราวต่างๆหลายเรื่องให้เรา
เช่น ถ้าเอา five force มาจับจะพบว่าอำนาจต่างๆค่อนข้างเยอะการแข่งขันไม่สูง
แต่ถ้า roe ต่ำกว่านี้เช่น irc ก็ยังจัดอยู่ในระดับรองลงมา
ส่วนพวก ah bat-3 hft ynp tru spsu พวกนี้กำไรขึ้นๆลงๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ ก็อาจจะน่าสนใจถ้าราคาต่ำจริงๆ ต่ำดูยังไงผมดูค่า p/b ครับ ง่ายดี
ส่วน distar ฝีมืออ่อนแอสุดๆเพราะขาดทุนติดต่อกันมาหลายปีแบบนี้ถือว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษจริงๆก็ไม่น่าสนใจ
แต่ถ้ามีแววว่าจะได้จากโครงการเช่ารถเมล์บวกกับราคาหุ้นถูกสุดๆ อาจจะลองลุ้นก็ได้ แต่ไม่ใช่หุ้นตีแตกแน่
อ้อ.....เรื่องใช้ roe มาช่วยนี้มีข้อคิดนิดหนึ่ง
โดยปกติเราจะใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพไปพยากรณ์พวกเชิงปริมาณ เช่นเจอหุ้น great จากการใช้ five force เราก็พอจะบอกได้คร่าวๆว่าผลกำไรบริษัทน่าจะอยู่ใน range ไหน อันนี้ใครๆก็ทำกัน
แต่ในมุมกลับ เราก็สามารถใช้เชิงปริมาณไปพยากรณ์เชิงคุณภาพได้ด้วย
อย่างหุ้น sat ผมไม่รู้ว่าเขาอยู่อันดับไหนของเมืองไทย
รู้แต่ว่าถ้าเป็น axle shaft เขาครองส่วนแบ่งสูง
แต่สินค้าอย่างอื่นเขาครองไม่เยอะ
ซึ่งไม่เหมือน stanly ที่เขาเป็นเบอร์หนึ่งชัดเจน
แต่พอเห็น roe ของ sat ย้อนหลังหลายๆปี
ผมก็เดาว่าเขาต้องเก่งพอตัว
ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถรักษาระดับ roe สูงๆได้อย่างนี้