Thai VI

42 จะซื้อหุ้นเอาปันผลต้องซื้อก่อนขึ้น XD แล้วขายระหว่างที่ขึ้น XD อยู่ก็ยังได้รับปันผล

43. การดู PE ต้องดู E อนาคต ไม่ได้ดู E ในอดีต เพราะเราหวังกำไรในอนาคต ไม่ได้หวังกำไรในอดีต

44. ซื้อหุ้นตอนที่ข่าวร้าย ได้ margin of safety
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า บริษัทยังแข็งแกร่งอยู่เหมือนเดิม

.
   45. อย่ายึดติดกับคำว่าต้องกระจายความเสี่ยงโดยถือหุ้นหลายตัวในหลายกลุ่ม ถ้าเลือกได้หุ้นที่ดีมีน้อยตัวจะดูเเลได้งายกว่า
.

[quote="oldnew"].

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ดีๆ
 :roll:

yoyo เขียน:39. คำสั่ง ATC และ ATO เป็นคำสั่งที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการลงทุนได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ .. เพราะฉะนั้นอย่าไปใช้มันเด็ดขาด ถ้าอยากซื้อราคาปิด ให้ตั้งราคาซื้อสูงๆไว้เดี๋ยวได้เอง

อยากให้ดูหน้าหุ้น  SPG  เพราะผมเชื่อว่าเขา key ชื่อหุ้นผิด เชื่อว่าเขาต้องการ key SGP  ราคาประมาณ 7 บาทกว่า  แต่เพราะว่า key ผิดเป็น SPG ขณะที่ราคาก่อนปิดประมาณ 53 บาท  แต่เขา key ที่ ATC  ...เลยได้เป็น กว่า 70 บาทแทน....... ceiling เลยทั้งจำนวน 9800 หุ้น

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... c&start=60

เอามั้ง
46.เป็นVi ใช่ว่าต้องให้เมียถือหุ้นแทน
47.Viก็ใช้Money managementมาช่วยได้นะ การถือหุ้นร้อย%ทุกสภาวะความกดดันอากาศอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นตามสภาวะ หน้ามืดตามัวได้
48.Viไม่จำเป็นต้องกินข้าวแกงจานละ10บาท เพียงคิดแค่ว่ามันมีmargin of safety
49.Viซื้อหุ้นเมื่อมี margin of Safety  เพียงพอ
แต่Viกว่า ซื้อหุ้นเมื่อ โอโห ขนาดราคานี้คิดว่ามีmargin of safety แล้วราคายังถูกกว่าอีกนะนี่
50.ถ้าปู่บัฟเฟตมองว่าราคาน้ำมันจะไป200ดอล แล้วซื้อหุ้นปิโตรไชน่าเก็บไว้เรียกได้ว่าเป็นVi
เราซื้อหุ้นpttepไว้ แล้วก็บอกเค้าไปว่าคิดว่าราคาน้ำมันจะไป200ดอล เราก็อาจได้ชื่อว่าเป็นViเช่นกัน แต่ถ้าดูต่อว่ามีกี่หลุม คุณก็จะได้เป็นViกว่าอีกนิด
51.คำจำกัดความViไม่มีใครกำหนดคุณได้นอกจากตัวคุณเอง
52.เกิดเป็นViต้องมีความอดทน หุ้นตกกี่หนทนเก็บเอาไว้ จะมีใครรู้มันจะร่วงไปถึงไหน ถึงขาดทุนยังไง ก็เสียใจไม่เป็น
53.หุ้นViเป็นinfinity จนกว่าคุณจะขายหุ้นออกไป

54.แนวคิดนักลงทุนVi Nonameเมื่อ5ปีที่แล้ว อาจจะมีแนวคิดที่ไม่ตรงกับนักลงทุนVi Noname ปีปัจจุบัน บางครั้งก็จำเป็นต้องup dateข้อมูลใหม่นะ
55.เมื่อนักลงทุนViตัวเบิ้มขาย ก็จะมีนักลงทุนViต้วเบิ้มน้อยลงขายลงมาต่อ
แล้วก็จะมีนักลงทุนViตัวน้อยๆ ค่อยๆขายต่อ คนที่รับคือแมงเม่า
56.นักลงทุนแนวVi ไม่จำเป็นจะต้องไปดูหมิ่นศาสตร์การเรียนรู้อื่นๆหรอกนะ
โดยเฉพาะถ้าใช้ไม่เป็น หรือไม่เคยฝึกฝน เรียนรู้

57. วิธีการลงทุนแบบ VI อาจจะไม่ใช่วิธีการลงทุนที่ดีที่สุดของท่าน

58. การลงทุนที่ดีที่สุดของตัวท่าน มีแบบเดียว และอาจจะไม่ซ้ำกับใคร จงใช้เวลาทั้งชีวิตค้นหามัน

59. ความรอบรู้สำคัญ แต่การตรึกตรองว่าความรู้อะไรสำคัญ สำคัญกว่า

60.การเป็นนักลงทุนแนวViใช่ว่าจะต้องได้กำไรเสมอไป
บางปีคุณอาจเป็นViฟลุ๊คกำไร200% บางปีอาจเป็นViไม่ฟลุ๊คขาดทุน70%
บางปีอาจเสมอตัว ความแน่นอนก็ไม่มีเช่นกัน
61.เมื่อมีVi Nonameพูดเรื่องการใช้มาร์จิ้น แล้วทำกำไรได้มหาศาล พึงนึกไว้ว่านั่นไม่ใช่หลักลงทุน นั่นคือเรื่องการmoney managementแบบสุดโต่งaggresive
62.นักลงทุนVi Nonameบางท่านทำได้ แต่จงอย่านึกว่าท่านจะทำได้เหมือนนักลงทุนVi Nonameท่านนั้น จงนึกไว้ว่าหน่วยก้านมันผิดกัน ไอ้ศร
63.ไม่ค่อยมีนักลงทุนViพูดเรื่องความไม่ประมาท แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ ว่าจงอย่าประมาท ฉนั้นก็จงนำมาใช้เถอะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ดี
64.นักลงทุนViบางท่านระยะสั้นตามข่าว ระยะยาวตามผลกำไร แต่ก็มีนักลงทุนViบางระยะตามเขา กลับไปดูข้อ55
65.การเรียนรู้Emotionของตนเอง แม้ไม่ใช่หลักการลงทุน แต่ก็ควรเรียนรู้เพื่อนำมาบริหารพอร์ตลงทุน นั่นล้วนแล้วเกี่ยวกับเรื่องmoney management,risk manangement ...

66. นำเวลาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์กับตนเอง และสังคมบ้าง
หากนั่งดูราคาหุ้นอย่างเดียว ก็จะกลายเป็น day trading ไป

67.บางครั้งการพูดความจริงเกี่ยวกับการกระทำบางอย่าง เช่นขายหุ้นไป 99% แล้ว แล้วมาเยาะเย้ยคนมีหุ้น 100% เช่นเดียวกับการซื้อหุ้นเต็ม port แล้ว long ไว้ด้วย 10 สัญญา

...อพราะในความเป็นจริง การสรางผลตอบแทนในระยะยาวของแต่ละคน คงไม่มีใครทำได้มากกว่าใคร

ที่สำคัญ เราควรชนะใจตนเอง และให้เกียรติคนอื่นๆ

มีความสุขกับการลงทุนนะครับ  :D

noooon010 เขียน:เช่นเดียวกับการซื้อหุ้นเต็ม port แล้ว long ไว้ด้วย 10 สัญญา

พิมพ์ตกไปว่า ในกรณีหุ้นพุ่งไม่หยุดแบบกระทิง 10 ตัว

คุณนันเขียนได้ใจมากเลยครับ  :D

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=39777

60เท่าไหร่ไม่รู้ บัปเฟตที่ยกย่องให้เป็นViโลก มีเงินเหลือตอนเศรษฐกิจตกต่ำสุด และสามารถไปซื้อหุ้นราคาถูกได้

nanchan เขียน:เอามั้ง
46.เป็นVi ใช่ว่าต้องให้เมียถือหุ้นแทน

ข้อนี้อาจฟังแล้วแปลกๆ แต่มันเป็นผลกระทบของครอบครัวนะครับ
เมียผมจะให้โอนหุ้นให้เป็นชื่อเมียทั้งหมด โดยเอาชื่อนักลงทุนที่น่าเคารพท่านนึงมาอ้าง  :lol:
ดังนั้นจึงต้องบอกว่า พยายามพูดให้น้อยนะครับ เรื่องนี้ เดี่ยวจะมาขออีก  :lol:

newbie_12 เขียน:43. การดู PE ต้องดู E อนาคต ไม่ได้ดู E ในอดีต เพราะเราหวังกำไรในอนาคต ไม่ได้หวังกำไรในอดีต

สงสัยครับ ดูได้จากเวปไหน เวปโดราเอมอนรึเปล่า

67.บางครั้งการพูดความจริงเกี่ยวกับการกระทำบางอย่าง เช่นขายหุ้นไป 99% แล้ว แล้วมาเยาะเย้ยคนมีหุ้น 100% เช่นเดียวกับการซื้อหุ้นเต็ม port แล้ว long ไว้ด้วย 10 สัญญา

คุ้นๆ ว่าเห็นมีกระทู้ เกี่ยวกับข้อความนี้นะครับ

เริ่มออกทะเลไปไกล

เดี๋ยวมือใหม่จะอ่านจนงง นี่มันข้อคิดที่เต็มใจจะให้มือใหม่ให้อ่าน หรือเป็นข้อความเย้ยหยัน เหน็บแนม

โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ

nanchan เขียน:http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=39777

60เท่าไหร่ไม่รู้ บัปเฟตที่ยกย่องให้เป็นViโลก มีเงินเหลือตอนเศรษฐกิจตกต่ำสุด และสามารถไปซื้อหุ้นราคาถูกได้

68. แล้วครับพี่nanchan


คนต่อไปก็ 69 นะ....เลขสวยเชียวว  

พี่นิวบี้12ครับ...ผมว่าถึงมือใหม่ รู้ไว้ก็ดีนะครับ  ผมมองว่าก็เป็นการให้ความรู้อีกมุมนึงมากกว่าที่ว่าจะเป็นการเหน็บแนมนะครับ

ย้ำอีกที ..คนต่อไป 69 นะ  

ขอใช้สิทธิ์เลขสวยนะคับ

69.  ซื้อหุ้นตามเซียนแล้วหุ้นลง ไม่ใช่ความผิดของเซียน อย่าไปโทษเค้า ให้โทษการตัดสินใจของคุณเอง  :D

newbie_12 เขียน:เริ่มออกทะเลไปไกล

เดี๋ยวมือใหม่จะอ่านจนงง นี่มันข้อคิดที่เต็มใจจะให้มือใหม่ให้อ่าน หรือเป็นข้อความเย้ยหยัน เหน็บแนม

โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ

ผมเขียนให้อ่าน
เพราะว่า เราพบเห็นเรื่องเหล่านี้ได้เสมอๆ
ตาม web board อย่าง pantip ก็เคยเห็นคนพูดเช่นนี้ได้บ่อยๆ

สุดท้ายแล้ว เขียนเพียงเพื่อ

... อยากให้เรานึกถึงใจเค้าใจเรา
... อยากให้ตัดอามรณ์ออกไป และกลับมาใช้เหตุผล
คิด แล้วตรึกตรองว่า เป้าหมายในการลงทุนของเราคือสิ่งใด

ระยะเวลาลงทุนของเราสำคัญแค่ไหน

สิ่งที่เราอ่านจากหนังสือที่เกี่ยวกับ value invester
เราอ่านแล้ว ปฏิบัติได้ / ไม่ได้ อย่างไร
นำมาคิด และปรับ philosophy ให้เหมาะสมกับตัวเรา

หวังเพียงเท่านั้นครับ
หาก post ข้อความไม่ถูกต้อง ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

krisy เขียน:26. เลิกตัดสินว่าหุ้นดีไม่ดี จาก financial ratio ตัวสองเดียว ให้ดูทุก ratio รวมกัน

27. ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย หรือ minority interest หรือ MI เกิดก็ต่อเมื่อ บริษัทแม่มีการลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม ส่วนที่บ.แม่ไม่ได้ถือหุ้น นั่นแหละเรียกว่า MI ดังนั้นถ้าแม่ลงทุนในลูก 99.99% ก็แทบจะไม่มี MI ในงบ

28. รายการพิเศษมีไว้ให้ดึงออกจากงบเวลาคิด ratio ถ้าอัตราส่วนเหวี่ยงมากๆลองดูว่ามีรายการแปลกๆปนอยู่ไหม หรืออาจต้องใช้ยอดต้นปีปลายปีมาเฉลี่ยก็ได้ หรือดูว่าสูตรผิดไหม

29. ตรวจสุขภาพงบการเงินบ่อยแค่ไหน ทุกไตรมาส หรือ ทุกปี ขึ้นอยู่กับความขยันและเนื้อหาของกิจการที่ลงทุน เสี่ยงมากก็ดูบ่อย อันนี้ไม่ต้องถามใครที่ไหน ถามใจก็พอว่ารับได้ไหม ถ้าดูแค่ปีละหน

ดีครับ  โดยเฉพาะข้อ 27 ที่เห็นบ่อย  แต่ไม่เคยใส่ใจ

70  จงเชื่อเถิดว่าผู้บริหารที่ไม่มีธรรมาภิบาลทำได้ทุกอย่าง  อย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว

ปีเตอร์ลินช์เคยบอกว่า

สิ่งที่ทำให้บริษัทหนึ่งแตกต่างจากบริษัทหนึ่ง จริงๆแล้ว คือ กำไร ครับ  :8)

กำไรคือของจริงครับ

โห...สุดยอดเกร็ดความรู้ทั้งนั้น กลั่นกันมาจากประสบการณ์อันยาวนานเลยนะเนี๊ยะ...    

ต้องขอโทษคุณนิวบีด้วยครับ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น
สิ่งที่ผมเขียนมันเกิดจากประสบการณ์เล็กๆน้อยๆของผม จริงๆโดยส่วนมากผมเขียนโดยไม่ได้คิดถึงคนอื่นด้วยซ้ำ
อาจจะมีข้อ46ที่คิดถึงบ้าง แต่ก็นึกว่าขำขำ

ส่วนเรื่องดูEอนาคต ของคุณนิวบี นี่ ผมก็คิดว่าแค่แซวเท่านั้นแหละ ไม่ได้เย้ยหรอกนะ
เสริมให้อีกนิดแล้วกัน ถ้าใช้คำว่าดูEอนาคตได้ก็แสดงว่า คงไม่ใช่อนาคตแล้วมั้ง อนาคตยังไม่เกิดจะดูได้อย่างไร
ถ้าบอกว่าคาดการณ์ก็พอไหว
ถึงแม้จะคาดการณ์พอไหว ก็มักเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เสมอ เพราะฉนั้นเหตุผลต่างๆจึงตามมาคือไม่ประมาท,การบริหารเงิน เป็นต้น

ส่วนข้อ55ผม บางทีผมก็ปฏิบัติเช่นนั้น ถ้าจะมีซักคนตาม ก็ต้องระวังเช่นกัน 555

อีกข้อ แล้วผมขอจบนะครับ เพราะความคิดคนๆนึง มันคงไม่ตรงกับทุกคน ถ้ามีต่ออีกหลายข้อก็อาจจะทำให้เข้าว่าเป็นการเย้ยหยันกันได้

ข้อ71 การเป็นนักลงทุนVi ควรเรียนรู้เพิ่มเติมเสมอ เปิดใจ
แม้แต่บัปเฟตยังฟังชาร์ลีมังเจอร์ ซึ่งเป็นนักลงทุนรุ่นเด็กกว่า

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ

ผมว่า เอาไปใส่ในกระทู้คุณค่าได้เลยนะครับ

71. การลงทุนแบบ VI นั้นคือการวิเคราะห์หุ้นว่าควรมีมูลค่าเท่าใด ราคาถูกกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่? มิใช่การวิเคราะห์ว่า VI ท่านอื่นกำลังทำอะไร ซื้อหรือว่าขายหุ้นตัวไหน..

72. งบการเงินโดยส่วนใหญ่แล้วแต่งได้ ส่วนงบที่แต่งได้ยากที่สุดคืองบกระแสเงินสด เพราะฉะนั้นเราควรวิเคราะห์ให้ทุกงบ โดนเอางบกระแสเงินสดมาช่วย re-check ความน่าเชื่อถือของงบอื่นๆ

73. บริษัท A ถือบริษัท B ตั้งแต่ 50% ขึ้นไป ( หรือ รวมถึงกรณีที่มีอำนาจในการตัดสินทางธุรกิจของบริษัท B) ในงบรวมของ A จะเอางบของ B มารวมด้วย

74. Ratio สำคัญอีกตัวหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงแต่ผมว่าสำคัญ คือ Effective tax rate = ภาษี/กำไรก่อนภาษี *100 ใช้ในการวิเคราะห์หุ้นที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีในงบแต่ละรอบบัญชี อย่าคิดว่ามันจะเท่ากับตลอด อาจจะมีเพิ่มมีลดได้

75. การถือหุ้นตัวเดียว อาจจะไม่ได้เสี่ยงอะไรมาก ถ้าถือหุ้นซัก 20% ของ port แล้วถือเงินสด 80% เพราะฉะนั้นการดูความเสี่ยง ไม่ใช่การดูจำนวนหุ้นที่เราถืออย่างเดียว ควรไปดูที่สัดส่วนของหุ้นตัวนั้นๆ เทียบกับ Asset รวมของเราจะดีกว่า