หน้า 2 จากทั้งหมด 2

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 10:47 pm
โดย hongvalue
[quote="sai"]
ปล. น้องฮงนี่ช่วงนี้ดูใจเย็นขึ้นนะครับ แอบชมในใจ เหอเหอ

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 10:48 pm
โดย tanapol
ผมเห็นด้วยกับน้อง sai นะครับ
ว่า...แนวทาง...มันแล้วแต่จริตคน

ผมว่าช่วงนี้ คนเล่น technical ก็อาจจะ ดี๊ด๊าได้มากกว่า...เพราะหุ้นขึ้น...จิ้มไร...โอกาสกำไรก็เยอะกว่า...ลองถ้าหุ้น sideway...ผมว่าอาจจะ cut บ่อยกว่าก็ได้

ส่วนตัวผมคงเน้น vi เป็นหลัก...จึงไม่น่าจะมี bias นะครับ
(จริงๆ มาให้กำลังใจน้องฮง เพราะโดยส่วนตัวชื่นชมมากกกกกก)

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 11:00 pm
โดย hongvalue
tanapol เขียน: (จริงๆ มาให้กำลังใจน้องฮง เพราะโดยส่วนตัวชื่นชมมากกกกกก)
จริงๆแล้วผมว่าพี่ tanapol ก็รู้เยอะมากนะครับ
และมีความใฝ่รู้มากกว่าผมเสียอีกครับ
ช่วงนี้ผมเจอคนเยอะแล้วเจอคนไฟแรงเยอะมาก
ทำให้มานั่งคิดว่าผมคงต้องหัดพูดให้น้อยลง
และรับฟังให้มากขึ้นแล้วล่ะครับ :D

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 11:04 pm
โดย newbie_12
[quote="hongvalue"][quote="sai"]
ปล. น้องฮงนี่ช่วงนี้ดูใจเย็นขึ้นนะครับ แอบชมในใจ เหอเหอ

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 11:07 pm
โดย nanchan
เรื่องการมีเงินสด ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยแน่นอน
เพราะผมก็ไม่เชื่อเรื่องการถือหุ้น100%ตลอดเวลาอยู่แล้ว
แต่การบอกว่ายังไงก็ต้องเหลือเงินสดตลอดเวลา
มันฟังดูง่ายไป และไม่ค่อยเป็นศาสตร์และศิลเท่าไหร่

ผมว่าเราควรเอาเรื่องMoney Managementมาใส่

อย่างเช่นคุณลงทุนครั้งแรก30% เมื่อพอร์ตมีกำไร20%
คุณก็ใส่เงินเพิ่มไปซัก10-20%ตามความชอบนะ

พอคุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆพอร์ตคุณก็จะมีแต่หุ้น
ถ้าพอร์ตกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แน่นอนครับ ยังไงก็อย่าลืมมองทางลง ไว้ด้วย

แม้แต่การใช้มาร์จิ้น ผมว่าก็ไม่ใช่ใช้ไม่ได้
แต่ก็ควรอยู่ในความเสี่ยงที่ควบคุมได้

นะครับ กุ๊กกุ๊ก

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 11:13 pm
โดย nanchan
ส่วนเรื่องการลงทุนเราควรศีกษาจากใคร

ถ้าให้ผมเลือก ผมขอศึกษาจากคนที่ประสบความสำเร็จก่อนหละครับ
และมันก็เป็นแนวทางการศึกษาที่ง่ายสุดแล้ว
การศึกษาจากคนที่ประสบความสำเร็จ
และคนที่ล้มเหลว โดยอย่าจริตไปทำตามคนล้มเหลวหละ

เสร็จแล้วค่อยมาดัดจริตตัวเองจะดีกว่า

ถ้าคุณคิดว่าคุณเกิดมาแล้วจริตคุณดีเลิศเลอแล้วหละก็
ก็ไม่ต้องไปโรงเรียนหรอกครับ

กุ๊กกุ๊ก

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 12:11 am
โดย poppo
ผมกำลังพยายามศึกษาเรื่อง money management และทดลองกับพอร์ตตัวเองอยู่ครับ

หลักการคือ

1 ต้องมีเงินสดเหลือตลอด

2 การเลือกหุ้น ต้องเลือกหุ้นดี ยีลด์ 8%เป็นอย่างน้อย และค่อนข้างแน่ใจได้ว่า ยีลด์จะเพิ่มขึ้น ตลอดเวลา 5 ปีข้างหน้า

ตอนนี้ ผมมีหุ้นประมาณ 90% ของพอร์ท ถ้าหุ้นตกไป ก็จะทยอยซื้อเพิ่ม แต่จะหยุดเมื่อมีเงินสดน้อยกว่า 10% ของพอร์ท

เช่น สมมุติ ผมมีพอร์ท 5 ล้าน ผมก็จะต้องมีเงินสดอย่างน้อย 5 แสน

ถ้าหุ้นตก 10% เหลือ 4.5 ล้าน ผมก็จะซื้อเพิ่มอีก 5หมื่น ประมาณนี้ครับ

และด้วยการเลือกหุ้นแบบข้อสอง ผมเชื่อว่า หุ้นไม่น่าตกลงมากกว่า 50%  ( อันนี้เข้าข้างตัวเอง) :lol:  :lol:

และน่าจะมีปันผลไหลเข้าพอร์ท พอให้เก็บหุ้นในช่วงวิกฤตได้ :wink:

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 12:18 am
โดย kornjackrit
ผมชอบคำพูดนี้นะคับ แต่ไม่ทราบใครพูดไว้

" แมวสีอะไีรก็ได้ ขอให้จับหนูได้เป็นพอ "

ผมว่าสุดท้ายแล้วเป้าหมายของการลงทุน
ส่วนใหญ่แล้วก็คือการทำ "กำไร"

ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ วิธีที่ได้กำไรเร็วที่สุด
ด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุด ในเวลาที่สั้นที่สุด
และลงทุนแล้วมีความสุขใจหรือสบายใจมากที่สุด

ส่วนจะเป็นวิธีไหนนั้น มีร้อยแปดครับ
ขึ้นอยู่กับความชอบ และความเหมาะสมส่วนบุคคล

ผมเพิ่งอ่านหนังสือเรื่อง The winning investment habits of George Soros
and Warren Buffet

หลักการสำคัญก็คือเราต้องมีแนวทางของตัวเองครับ

แนวทางของผู้ที่ประสบความสำเร็จเป็นเพียงแค่แบบอย่าง
ให้เราเลือกเอาสิ่งที่เหมาะกับเรามาประยุกต์ใช้มากกว่า
ที่จะเลียนแบบหรือยึดถือเป็นหลักทั้งหมด

ส่วนตัวผมชื่นชอบเรื่องการลงทุน
ดังนั้นไม่ว่าจะรูปแบบใด หรือลักษณะไหน
ของเพียงมันน่าสนใจ และมีเหตุมีผล
มีหลักการมารองรับ ผมก็จะพยายามศึกษา

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 12:24 pm
โดย yoyo
สงสัยนิดหน่อยครับ...
เหลือเงินสดไว้ตลอด... เพื่อที่จะเอาไว้ซื้อหุ้นเผื่อกรณีมีวิกฤต (อย่างเช่นปีที่แล้วเป็นต้น)

แล้วสมมติว่าเราทำได้ตามนั้นจริงๆ เมื่อวิกฤตเกิดขึ้น เราจะทำยังไงต่อครับ.. ถ้าเอาเงินไปซื้อหุ้นเพราะเห็นว่าราคามันถูก มันก็ไม่เหลือเงินสดสิครับ

ผมว่าการเหลือเงินสดไว้ตลอดดูไม่ค่อย Flexible เท่าไหร่.. ส่วนตัวผมสัดส่วนเงินสด ควรจะขึ้นอยู่กับความถูกความแพงของหุ้นเป็นหลักครับ..
- ถ้าหุ้นที่ถืออยู่หรือหุ้นในตลาดมันถูกมากๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่หุ้นราคาถูก แบบนี้เงินสดอาจจะไม่เหลือเลยก็ได้
- ถ้าหุ้นมันถูกแบบกลาง หุ้นดีๆถูกพอหาได้ แต่ก็ต้องใช้ความพยายามระดับนึง ก็อาจจะเหลือไว้นิดหน่อย
- ถ้าหุ้นมันแพงมาก หาหุ้นยังไงก็ไม่เจอ แบบนี้จะถือเงินสดมัน 100% เลยก็ไม่เป็นไรครับ

แบบนี้ผมว่าดูจะเข้ากับหลักการ VI ดีกว่านะ Flexible กว่าด้วย

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 7:30 pm
โดย leotis
เห็นด้วยกับแนวทางของพี่โยโย่ครับ เพราะตอนนี้ผมมีตังค์อยู่ในพอท 300 บาท :oops:

โดยส่วนตัวก็ดูหุ้นอยู่ประมาณ 30-40 ตัวเองครับ -.- แต่ถ้าศึกษาจริงจังก็ 8-10 ตัว คิดว่ามันแพงไปละก็หยุดซื้อ แต่ถ้ายังถูกก็ซื้อหมด ขนาดทุ่มทุนสร้างยังอยากได้เพิ่มอีกสัก 3 ตัวเลยครับ  :lol:

ส่วนแนวทาง fundflow ของพี่ฮง ผมว่ามันก็เป็น ตัวที่ช่วยเตือนเรานะครับ มันยังมีความเป็นไปได้จากข้อมูลอ้างอิง :wink:

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 9:33 pm
โดย dome@perth
yoyo เขียน:ส่วนตัวผมสัดส่วนเงินสด ควรจะขึ้นอยู่กับความถูกความแพงของหุ้นเป็นหลักครับ..
- ถ้าหุ้นที่ถืออยู่หรือหุ้นในตลาดมันถูกมากๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่หุ้นราคาถูก แบบนี้เงินสดอาจจะไม่เหลือเลยก็ได้
- ถ้าหุ้นมันถูกแบบกลาง หุ้นดีๆถูกพอหาได้ แต่ก็ต้องใช้ความพยายามระดับนึง ก็อาจจะเหลือไว้นิดหน่อย
- ถ้าหุ้นมันแพงมาก หาหุ้นยังไงก็ไม่เจอ แบบนี้จะถือเงินสดมัน 100% เลยก็ไม่เป็นไรครับ
เยี่ยมครับ :cool: เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ดั้งนั้น เพื่อไม่ให้ "เสียโอกาสลงทุน ของเงินสด" ต้องมีหุ้นที่ศึกษาไว้รองรับ
เงินสดที่ได้มาจาก

- การขาย หุ้นตัวที่ถึงเป้าหมาย
- รายได้ประจำ
- เงินปันผล


กระโดดออกจากตัวที่หมดแรง ขึ้นม้าตัวใหม่ที่แรงกว่า
ไม่ต้องลงมานั่งรอ
แต่ทางปฏิบัติ
ทำได้ดีแค่ใหนขึ้นอยู่กับ
ความสามารถ จังหวะ การตัดสินใจ และ โอกาสครับ

คนที่รู้จักหุ้น หลายตัว อย่าง โจ ลูกอิสาน เลย ไม่มีคำว่า "แล้งหุ้น" (หาหุ้นดี แต่ถูก ไม่เจอ)ได้เปรียบคนในตลาดเสมอ
ไม่ปล่อยให้เงินสดนอน อยู่เสียโอกาส:lol:

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 9:53 pm
โดย bossaway
เห็นด้วยครับ จะได้ไม่เสียโอกาสของเงิน เงินมีต้นทุนครับ

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 10:22 pm
โดย tum_H
ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะ

รอบนี้พี่กองทุยทั้งนอกและใน วางหมากมาอย่างดีประกอบกับสถานการณ์
ต่างประเทศเป็นจัย รอบนี้ขึ้นมาได้จากลูกกระจ๊อกก่อน เหลือตัวพ่อที่ยังดู
ไม่ไปไหน

ทำให้ set ที่ดูเหมือนจะอ่อนแรงกลับยังมีพลังเฮือกใหญ่ที่เป็นเงาแฝงอยู่
ด้านหลัง ไว้เป็นหมัดเด็ดอีกชุด(หรือเปล่า)

วิ่งแบบไม่ยอมหยุดพัก มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าเนีย ยังไงใครถึงเป้าแล้ว
ก้อระมัดระวังตัวกันด้วยนะครับ

ส่วนตัวผมร้องได้คำเดียว โอ้โห นายแน่มาก :shock:

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 08, 2009 10:53 pm
โดย Linzhi
ผมพบว่าการซื้อหุ้นดี ๆ เก็บไว้ที่ราคาเหมาะสม ก็ไม่ต้องทำอะไรมากแล้วครับ

ก็ถือรอไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังเติบโตอยู่ หรือหาหุ้นที่ดีกว่าเจอ

เก็บเงินก้นถุงไว้บ้าง เผื่อหุ้นในพอร์ตตัวไหนมันจะลงไปเยอะกว่าที่ควรจะเป็น
เหมือนซื้อ options short เอาไว้ แบบใช้เงินสด ซื้อที cover หุ้นทุกในพอร์ต ฮา

หรือสลับตัวบ้าง ถ้าหุ้นบางตัวมันแรงไป หรือ บางตัวอืดไป หรือสภาวะแวดล้อมเปลี่ยน

แผนการผมคือลองไปศึกษา options/futures ดู แต่ไม่รู้ work ป่าว
แต่หุ้นในพอร์ตหลายตัว คิดว่าทั้งราคาและคุณภาพดีพอถือยาวได้ (มั้ง  :lol: )

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 09, 2009 3:42 pm
โดย nw108
:lol:


      พยายามลงทุนอย่างต่อเนื่องครับ


เเต่สารภาพจริงๆว่าช่วงนี้ถือเงินสดเยอะมาก เกือบ50 %


ถ้าไม่มองตัวเลข700 ของ set ดูเเล้วยังมีหลายตัวที่ไม่เป็นที่นิยมของตลาด


ยังมีกำไรผลประกอบการ เเละสินทรัพย์ดูน่าสนใจ สงสัยว่าต้องหันไปมองหุ้น


ตัวอื่นๆนอกจากตัวที่เล็งไว้ ซะเเล้วหุ้นดีที่มองไว้ราคาซื้อไม่ลงจริงๆ

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 09, 2009 10:31 pm
โดย leotis
ตัวอื่นๆนอกจากตัวที่เล็งไว้ ซะเเล้วหุ้นดีที่มองไว้ราคาซื้อไม่ลงจริงๆ
หุ้นดีบางตัวที่ผมถือไว้ราคาไปแบบนี้ผมยังอยากจะขายออกเลยครับ :twisted:

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2009 2:35 pm
โดย GUNN
ความเห็นส่วนตัวครับ
ช่วงต้นปี แนะนำให้คนรู้จักหลายๆคน ซื้อหุ้นไว้บ้าง
ผล คือ ไม่มีใครยอมซื้อ

ส่วนตอนนี้ แนะนำให้ หยุดซื้อหุ้น
ผล คือ ไม่มีใครยอมหยุดซื้อหุ้น

หุ้น กระเพื่อม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2009 5:46 pm
โดย kmphol
kornjackrit เขียน: ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ วิธีที่ได้กำไรเร็วที่สุด
ด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุด ในเวลาที่สั้นที่สุด
และลงทุนแล้วมีความสุขใจหรือสบายใจมากที่สุด
พีว่าน่าจะเปลี่ยนจาก กำไรเร็วที่สุด เป็น กำไรมากที่สุด
ถ้าเราเลือกกำไรเร็วที่สุดอาจเป็นกำไรที่น้อยที่สุดก็ได้นะ
แบบที่เดย์เทรดชอบทำ
:lol: แซวเล่นนะ