Thai VI

นอกเหนือจากเวลาเรื่องหุ้น...

ไปรับ-ส่ง ลูก เมีย  พาไปเที่ยว
ไปเป็นผู้ปกครองของลูกในงานโรงเรียน
เป็นสุดยอดพ่อบ้าน
ทำอาหารเตรียมตอนเย็น กินกันพร้อมหน้าพร้อมตา

สรุป...ให้เวลากับครอบครัวให้ได้มากที่สุด

นี่ล่ะที่อยากจะทำ...และต้องได้ทำ

สามัญชน เขียน:ผมก็เคยถามตัวเองครับ
แล้วก็ไม่โดนใจสักที
คือมีแต่โดนชั่วคราวแต่ไม่นานก็เปลี่ยนใจ

ถามมากๆเข้าก็เลยไปหาคำตอบว่า
แล้วคนอื่นๆล่ะเขาต้องการอะไร
แบบว่าอยากรู้จริงว่าจะมีอะไรเด็ดๆและโดนเต็มๆไหม
และถ้าตัวเองมีอิสระแล้วจะทำอะไรถึงจะวีไอกว่า
ก็ปรากฏว่ามีคนเตรียมคำตอบไว้ให้แล้ว

คำตอบก็อยู่ตรงปลายจมูกนี่เอง
เพียงแต่ประยุกต์นิดหน่อยให้ตรงตัวเองขึ้นเท่านั้น
แต่หลักๆเขาว่าไม่หนีไปจากนี้แน่
แต่ศัพท์แสงและรายละเอียดอาจจะต่างกันบ้างเท่านั้นเอง

คุณหมอสามัญชน ยังไม่ได้ดู VCD ที่ผมให้ไปงานจิบเบียร์หรือครับ
ปรัชญาของตะวันตก วิทยาการทางจิตวิทยาต่างๆ
เปรียบเทียบไม่ได้เลยกับ สิ่งที่อยู่ใน VCD
คุณหมอดู VCD หลายๆรอบนะครับ

ตอนนี้มีรายได้ หมื่นกว่าๆ โดยไม่ต้องทำงาน แต่มันเหงาอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ (โสด)

อยากเจอเพื่อนๆ อยากคุยกับลูกค้า เจ้านาย และมีปัญหาต่างๆ ให้แก้ไข

ใครอยากอิสระลองใคร่ครวญให้ดีนะครับ คนเราไม่เคยพอกับสิ่งที่ตัวเองมีครับ

คนรวยทำไมถึงยังโกงกิน  ไม่เสียภาษีอย่างถูกต้อง

 ตอบ   มหาสมุทรว่ากว้างแต่ความโลภของคนเรามากกว่าเยอะ

          พ่อหลวง  เลยถึงบอกว่าให้  " พอ "  ไงหละครับ  

          คำว่า  " พอ "  นี่ได้หลายความนะครับ

  พอ  --->  พอเพียง  =  ใช้จ่ายตามสถานะการเงินไม่ก่อหนี้  กิน ใช้  เก็บ

  พอ  ---->  หยุดไขว่คว้า =  บางคนรวยมากจน ไม่รู้จะเอาเงินไปใช้อะไร

                  ตายไปก็เอาไปไม่ได้   หยุด  แล้วหันมาทำเพื่อส่วนรวมดีกว่าครับ





-------------------------------------------------------------------------


สำหรับผม ก็เลี้ยงพ่อแม่  และสร้างวัด กับ พระประธานครับ  

ใฝ่ฝันเอาไว้เลย

auspicja เขียน:ตอนนี้มีรายได้ หมื่นกว่าๆ โดยไม่ต้องทำงาน แต่มันเหงาอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ (โสด)

อยากเจอเพื่อนๆ อยากคุยกับลูกค้า เจ้านาย และมีปัญหาต่างๆ ให้แก้ไข

ใครอยากอิสระลองใคร่ครวญให้ดีนะครับ คนเราไม่เคยพอกับสิ่งที่ตัวเองมีครับ

เยี่ยมครับ    ผมเห็นคุณหมออาวุโสบางคน 70กว่ายังมาตรวจเลยครับ เพียงแต่เป็นตรวจพวกสุขภาพที่งานไม่หนักมาก เรรื่องอิสรภาพทางการเงินผมว่าระดับนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ข้อดีก็คือได้พบปะผู้คน พูดคุย หาเพื่อนกินข้าว เดินทางมาทำงานแต่เช้า(สงสัยคนแก่นอนไมมาคาอยหลับ) เหนือ่ยหรือเบื่อก็เลิก กลับบ้าน

เที่ยวรอบโลกครับ

อ่านแล้วก็สงสัยว่าจะมีนักลงทุนสักกี่คนจะไปถึงจุดนั้น
นับเป็นเปอร์เซ็นต์จะถึงสัก 10% ไหมน้า

มาขายฝันด้วยคนครับ

คิดว่าพอได้เป็นอิสรภาพทางการเงินแล้ว... (ไม่ได้หมายถึงรวยมากๆนะครับ)

จะมีทุนการศึกษาของตัวเองครับ... คงไม่เยอะ แต่สม่ำเสมอ...

จะมีกระท่อมไม้เล็กๆ (เอาแบบ cottage นะ) แต่อบอุ่นและทันสมัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ริมลำธารน้ำไหลเย็นครับ...

จะมีลูกๆ ที่หาทางทำมาหากินเองเป็น... เพื่อพ่อแม่จะได้จู๋จี๋กันยามแก่... อิอิ...

จะคอยดูแลพ่อแม่ของผม พ่อแม่ของภรรยาในอนาคต รวมถึงตัวภรรยาด้วย... ให้อยู่สสุขสบายแบบไทยๆ ไม่ฟุ้งเฟ้อ...

จะออกทะเลไป snorkeling ที่ทะเลอันดามันบ่อยๆ และจะซื้อตีนกบเป็นของตัวเอง แต่คงไม่ดำแบบใช้ถัง เพราะขี้เกียจครับ... ไปทะเลต้องขอแบบมีอิสระ และได้โงหัวขึ้นมาดูเหนือน้ำด้วย... (คำว่า snorkeling นี่ห้ามสับสนกับ snogging นะครับ แต่ก็นะ... ทะเลสวยๆใสๆ ได้ snog คนที่เรารักไปด้วยจะสุขใจแค่ไหนนะ... งืมมม)

คิดออกแค่นี้... อ๊ะๆ ยังมีอีกอันครับ...

จะมีโถฉี่ที่ห้องน้ำที่บ้านครับ...

ท่องเที่ยวไปในแบบที่ชอบครับ เช่น เรือสำราญ(ผมดูสารคดีแล้วน่าสนใจดีครับ แต่ผมคงต้องฝึกฝนภาษาอังกฤตมากหน่อยถึงจะเที่ยวได้สนุก  :)  )

แล้วก็ศึกษาธรรมมะบ้าง ทำบางอย่างเพื่อสังคมบ้างอะไรบ้างก็ดีนะครับ  :B

ผมเคยตอบไว้ในห้องสินธรดังนี้ครับ


ก่อนจะเป็นไททางการเงิน
เราต้องประเมินหรือตั้งเป้า
ความต้องการความสะดวกสบายทางวัตถุ
และความรู้จักพอเพียงทางจิตใจของตัวเราเองก่อนครับ

ไม่งั้น มีสิบล้าน ร้อยล้าน ก็ยังไม่เป็นไททางการเงิน
ในขณะที่บางคน  มีแค่ห้าล้านก็เป็นไททางการเงินได้แล้ว
จากการใช้จ่ายอย่างประหยัด

ตามความเห็นของผมซึ่งยังยึดติดอยู่ในทางโลกย์
จะเป็นไททางการเงินหรือไม่
ต้องประเมินจากความต้องการความสะดวกสบายทางวัตถุของตัวเราเองก่อน

บางคนใช้จ่ายเดือนละสองแสนบาท
มียี่สิบล้านก็ยังไม่เป็นไท
ส่วนคนที่  อยู่ได้ด้วยค่าใช้จ่ายเดือนละหนึ่งหมื่น สองหมื่นบาท  
แบบรู้จักพอเพียงตามอัตภาพ
สิบล้านบาท ก็ถือว่าเป็นไทแล้วครับ

ไม่มีใครบอกได้ นอกจากตัวเราเองว่า
แค่ไหนคือความพึงพอใจตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเอาเอง

คนมีเงินร้อยล้าน  ไม่ได้หมายความว่า
จะเป็นคนมีความสุขทางใจมากกว่าคนมีเงินล้าน
แค่เป็นคนที่ สามารถแสวงหาความสะดวกสบายทางร่ายกาย
ได้มากกว่าคนที่มีเงินน้อยกว่าเท่านั้น

บิล เกตสามารถซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัตถุ ทางร่ายกาย
ได้มากกว่าใครในโลกนี้
แต่ีไม่ได้หมายความว่า บิล เกตจะมีความสุขทางใจ
มากกว่าพระธุดงค์ตามป่า  
ซึ่งไม่สิ่งอำนวยความสะดวกทางร่างกายเลย

หลังจากได้อ่านที่เฮียคลายเคลียดโพสแล้วทำให้ผมคิดได้ว่า

อิสระภาพทางการเงินที่ดีในความคิดผมก็คือ ทำให้เงินลงทุนโตได้ถึงร้อยล้านบาทแล้วก็พยายามสร้างผลตอบแทนให้ได้ประมาณ12%ต่อปี ซึ่งน่าจะทำได้ครับ นั่นก็คือได้อิสระภาพทางการเงินประมาณเดือนล่ะ 1ล้านบาท เพียงพอสำหรับชีวิตที่เป็นอิสระครับ  :)