Thai VI

คุณ greenday

เท่าที่สังเกตุดูนะครับ หุ้นที่เติบโตเร็ว มักมีพฤติกรรมมูลค่าสูงกว่า Book Value เมื่อ (เป็นที่นิยม) p/bvสูง ค่า p/e ให้สูงขึ้น

pppc p/e=10.07 , p/bv=1.71

wg p/e=8.13 , p/bv = 0.81 ถ้า wg มีความนิยมเพิ่มขึ้น เป็น p/bv=1.71 จะทำให้ p/e= 11.26

ถ้าเปรียบเทียบเหมือนรถแข่ง pppc ระยะทางไกลกว่าแต่ความเร็วสูงกว่า wg

แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นอยู่ที่ว่าใครคุ้มค่ากว่าในการทุนโดยระบุระยะเวลาเท่าๆกัน

โดยความเป็นจริง ถ้ายอมรับกัน หุ้นที่ได้รับความนิยมสูงกว่า จะทำกำไรจากมูลค่าหุ้นในตลาดขณะนั้นสูงกว่าหุ้นที่มีค่า p/bv ต่ำกว่า โดยมากตลาดต้องอยู่ขาขึ้น
ตลาดหุ้นไทยยังสามารถเติบโตไปได้อีก

ดังนั้นการถือหุ้น 2 ตัวนี้ ในช่วงตลาดขาขึ้น(ในอนาคตข้างหน้า) pppc ย่อมทำกำไรได้สูงกว่า wg จากมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายจริงในขณะนั้น

ส่วน egcomp ผมถือว่าดีที่สุดในช่วงนี้แล้วครับ

หวัดดีครับ ท่าน buglife อย่าแย่งผมซื้อนะ อิอิ

แหะๆ ผมจะเอาตังค์ที่ไหนมาแย่งซื้อละครับ คุณเจ๋ง

เจ้านกฟินิค แพงเหลือใจ
AA ยังไม่ดูงบแบบงูๆ ปลาๆ (ของผม) เลย
TCP เห็นงบแย้วกัว (ดูแบบงูๆ ปลาๆ ของผม)

คุณเจ๋ง คิดว่าตัวไหนดีสุด อิอิ

คุณมือใหม่ครับ

Metco นี่ก็ดีนะ แต่โดยธรรมชาติมักจะขายไม่ดีช่วง 6 เดือนแรกของปี จะขายดีช่วง 6 เดือนหลัง ผมคิดว่า มันยังจะลงอีกเล็กน้อย หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสนี้ เว้นแต่ว่ามีโครงการใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่เห็นครับ ส่วนการปรับปรุงการผลิต ก็ทำไปแล้ว(ตามที่อ่านใน รายงานที่ได้รับมา) สิ่งนี้ก็เห็นผลไปแล้ว เลยรอดูไปเรื่อย ๆก่อนดีกว่านะครับ

ผมส่ง pl ครับ P/E ปีนี้น่าจะอยู่ประมาณ7 q1 มีกำไรถึง 2บาท ทั้งปีน่าจะมีกำไร 7 บาท P/BV 1.58 ROE 17.56% บริษัทมีการเติบโตของกำไรและรายได้ตลอด ปันผลดี5-6 %

ROE และ GROWTH สูง ต้องยกให้ PL และ TPCORP ครับ

แก้ไขข้อมูลครับ

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าปีที่แล้วเป็นปีสุดท้ายที่ PPPC ได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีนะครับ คือไม่ต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาล แต่ในช่วงแปดปีต่อจากนี้ยังได้รับความคุ้มครองอยู่โดยเสียภาษีเพียงครึ่งเดียวของที่ต้องจ่าย

ไม่ค่อยแน่ใจนะครับ จำไม่ได้จริงๆว่าอ่านมาจากที่ไหน

บริษัทได้รับสิทธิและประโยชน์จากการได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนสำหรับโครงการ 2 ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิเป็นเวลา 8 ปี สิ้นสุดเดือนกันยายน 2545 และได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิต่ออีก 5 ปี ในอัตราร้อยละ 50 ของอัตราปกติจากวันที่ 1 ตุลาคม 2545 ในฐานะที่เป็นกิจการที่ไดรับการส่งเสริมการลงทุน

ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2546

ปกตินี่บริษัทนิติบุคคลเสียภาษีอัตราร้อยละเท่าไหร่เหรอครับ

ผมขอแย้ง PPPC หน่อยนะครับ อย่าซีเรียส ถือว่าเป็นอีกมมมองแล้วกันนะครับ

ผมว่า PPPC เป็นห้นรอบๆนะครับ เนื่องจากราคาของเยื่อกระดาษน่าจะเหมือนสินค้า Commodity อื่นๆนะครับ ดังนั้นถ้าพิจารณาบางช่วงจะดเหมือนบริษัทเติบโต

เริ่มจากพิจารณายอดขายของบริษัทนะครับ

2543------------ 2544---------- 2545---------------- 2546

5,097.95--------- 4,318.18---------- 3,974.47----------- 4,184.21

หรือถ้าดกำไรสทธิจากการดำเนินงานที่แท้จริงในปี 2546 ก็ลดลงจากปี 2545 แต่ที่แสดงในงบกำไรขาดทนในปี 2546 มากกว่าเนื่องจาก ในปี 2545 บริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษ คือ หนี้สญจำนวน 275.06 ล้านบาท และค่าช่วยเหลือทางเทคนิคจำนวน 105.25 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าบริษัทก็ไม่ได้มีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน ไม่ว่าจะด้านยอดขายหรือกำไรสทธิ

และที่สำคัญบริษัทมีความสามารถในการหา FCF เพิ่มใกล้เคียงกับ WG ครับคือ WG จะเพิ่มปีละ 5.50 บาทต่อห้นหรือเทียบกับราคาห้นที่ 30 บาทคิดเป็น 5.45 เท่าของ FCF และ PPPC ได้ปีละ 15 บาทต่อห้นเมื่อเทียบกับราคาห้นที่ 98 บาทคิดเป็น 6.53 เท่าของ FCF

เพียงแต่ว่า WG นั้นปัจจบันมีเงินสดเหลือในบริษัทเมื่อคิดต่อห้นแล้วมากกว่า PPPC มากครับ คือ WG มีประมาณ 11 บาทต่อห้น ในขณะที่ PPPC มีเงินสดเพียง 153.74 ล้านบาทหรือ 1.40 บาทต่อห้นเท่านั้นเองครับ

ถ้าเราหักเงินสดสทธิออกจากราคาห้น WG อัตราส่วนต่างๆของ WG น่าจะดีกว่า PPPC นะครับ

PPPC ปี 46 full capacity แล้ว, growth น่าจะ น้อย ตอนนี้มี Phoenix 1 and 2. ขยายโรงงานค่อนข้างลำบาก เพราะวัตถุดิบหลักเป็นไม้ euca ซึ่งใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกมาก ......... ราคา pulp ในตลาดโลกกำลังขึ้น แต่ราคาขายอิง $US ซึ่งอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ...... ขายในประเทศ 60 % กว่าๆ ลูกค้าคือบริษัทในเครือปูน ซึ่งเป็นเครือเดียวกัน ..... ราคา pulp ค่อนข้างเป็น cyclical .... link เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ

http://www.gotomanager.com/app/details. ... ide,search

ผมกำลังนึกถึง บัตรประชาชนแบบใหม่ Smart Cards ระบบ Computer Online น่าจะลดการใช้กระดาษลงได้เยอะนะ

จริงๆแล้วก็อยากส่งศิษย์เอกผมคุณ METCO ลงท้าชิงครับ แต่
คิดว่าตอนนี้ยังสู้ไม่ได้ ต้องรอให้เจ้า metco ของผมมันลดน้ำ
หนักเหลือสัก 250 ก่อนครับ แล้วจะส่งเข้าประกวดใหม่ อย่าง
คุณ banchap ว่าครับ อีก 3 เดือนน่าจะผอมพอขึ้นชกได้

ส่วนศิษย์ฝึกใหม่ปีที่แล้ว OGC ลงสังเวียนครั้งแรก ผลงานไม่
เข้าตาครับ ทั้งๆที่ตอนแรกฟอร์มออกจะดี คงต้องเข้าคอร์สใหม่
อีกสัก 3 เดือน แล้วค่อยมาดูว่าจะพอขึ้นชกไหวหรือเปล่า

ส่วนเหตุผลหลักที่ผมส่ง WG ลงไปทดสอบสนามก็เพราะเครื่อง
ค่าเงินดอลล์ครับ (นึกว่าคุณ chatchai จะพูดถึง) คือถ้าเงินดอลล์
อ่อนลงมากๆ และบาทแข็งขึ้นพอควร WG จะมีต้นทุนถูกลงเรื่อยๆ
แถมอัตราการใช้เคมีภัณฑ์ในประเทศมีแน้วโน้มสูงขึ้นอย่างน้อยก็
จนกว่าจีนจะเจ๊งหรือหยุดสร้างสาธารณูปโภค ทำให้ WG มีภาษี
ดีในแง่ความสดในยกหลังๆ ครับ

ส่วน PPPC การคาดการณ์ความต้องการทำได้ยากพอควร เพราะ
ปัจจัยเรื่องราคากระดาษ ทำให้ยกหลังๆ อาจจะหมดแรงเอาง่ายๆ

เพียงแต่ว่า WG นั้นปัจจบันมีเงินสดเหลือในบริษัทเมื่อคิดต่อห้นแล้วมากกว่า PPPC มากครับ คือ WG มีประมาณ 11 บาทต่อห้น ในขณะที่ PPPC มีเงินสดเพียง 153.74 ล้านบาทหรือ 1.40 บาทต่อห้นเท่านั้นเองครับ

ถ้าเราหักเงินสดสทธิออกจากราคาห้น WG อัตราส่วนต่างๆของ WG น่าจะดีกว่า PPPC นะครับ[/quote]


ขอเรียนถามพี่ฉัตรชัยหน่อยนะครับ ผมอยากถามมานานแล้วแต่ไม่กล้าถามและกลัวว่าถ้าถามจะดีหรือไม่ แต่ก็ถามก็แล้วกันครับว่า ถ้าพี่ไม่ซื้อ WG หรือว่าวันหนึี่ง WG พื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปมาก พี่จะซื้อหุ้นอะไรครับ ที่ผมถามนี่อย่าว่ามาขอปลากินนะครับ เพราะผมเชื่อว่าคนเรามี circle of competence ต่างกัน แต่ที่ถามเพราะผมอยากจะมองแนวทางการลงทุนของพี่น่ะครับ ผมพยายามสังเกตุหลายคน พี่เคยบอกว่าพี่เป็นคล้าย Philip Fisher มากกว่า fisher เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตติดต่อกันหลายปี เน้น scuttlebut เน้นการลงทุนในหุ้นน้อยตัว เน้นปัจจัยคุณภาพ ถ้าพี่ลงทุนแบบ Fisher พี่จะซื้อหุ้นอะไรครับนอกจาก WG พี่ไม่ตอบก็ได้นะครับ

มุมมองที่ต่างกันดีครับ รับฟังได้สบาย เพราะผมจะเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้อยู่

ขอถาม wg นะครับ คุณ chatchai

wg ธุรกิจถือว่าเล็กมาก รายได้ต่อปี ไม่ถึง 65 ล้านบาท คู่แข่งในธุรกิจเป็นยังไง
ถ้าดูรายได้ ของ wg แล้ว ก็ขึ้นลงเป็นช่วงเหมือนกัน

2003 2002 2001 2000 1999
65.84 52.90 38.58 43.24 65.65

ก็ขึ้นลงเป็นวัฎจักรเหมือนกัน pppcยังดูดีกว่า

Net Profit(%) 9.85 8.29 6.13 6.38 9.40
ถ้าเทียบกับ pppc กินขาดเลย

wg ผมก็ชอบตรงที่กระแสเงินสดมีเยอะ จ่ายปันผลในสูง แต่บางปีไม่มีจ่ายนะครับ
แต่เป็นข้อคิดนะครับ เงินสดเยอะเราไม่รู้ว่าผู้บริหารนำไปใช้ทำอะไร ถ้าคิดจะให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยน่าจะให้นานแล้ว บางปีไม่ให้ปันผลทั้งๆที่ ผลประกอบมีกำไรสูง น่าคิดไหมครับ

ถ้าคุณ chatchai หรือท่านอื่นๆที่ถือหุ้น wg มานาน ช่วยบอกแนวทางการดำเนินธุรกิจของผู้บริหารหน่อยสิครับ

บริษัทที่มีเงินสดเยอะเกิน โดยไม่มีโครงการใหม่ๆ น่าคิดนะครับ (wg ถึงอยู่ในกลุ่ม commerce ต้องมีเงินสดไว้กองหนึ่ง แต่เยอะเกินความจำเป็น)

ผมไม่ใช่ลงทนแบบ Fisher นะครับ อ่านหนังสือแกยังไม่จบบทแรกเลยครับ

และไม่ใช่ Buffett ด้วย ถ้าจะคล้ายน่าจะเป็น Lynch มากกว่านะครับ เพราะตั้งแต่เลิกสบบหรี่ ผมก็หาแต่ก้นบหรี่นะครับ

ที่ถามว่าถ้าขาย WG แล้วจะไปซื้อห้นบริษัทไหน ถ้าถามจริงๆ แตอบแบบไม่เกรงใจนะครับ ว่ายังไม่มีเลยครับ ยังหาไม่เจอที่ถกใจจริงๆ

ขอแย้งนะครับ

- งบประมาณที่ผมดูของ pppc ในการบริหารงานลดลงเรื่อยทุกปี แสดงถึงความโปร่งใสของผู้บริหาร

- ธุรกิจด้านกระดาษดูไม่อยากเลย ความต้องการใช้มีสูงขึ้นเรื่อย ภาวะที่ pppc ประสบปัญหาอยู่คือ กำลังการผลิตมีไม่เพียงพอ กับ การส่งช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งตัว แต่มุลค่าการขายในประเทศไม่ได้ลดน้อยลงเลยนะครับ
หลายปีที่ผ่านมา pppcพยายามเจาะตลาดต่างประเทศและประสบความสำเร็จ grow ก้าวหน้าทุกๆปี

- ที่ผมชอบที่สุดคือบริษัทไหนพยายาม ลดหนี้สินออกจากองค์กร ทำให้ book ในบัญชีบางรายการอาจดูไม่สวย แต่ถ้าย้อนดูดีๆแล้ว บริษัทเหล่านี้ถือว่า ผู้บริหารดำเนินธุรกิจอย่างโปรงใส

อิอิ ตามอ่านอยู่ครับ ถกกันอย่างคนที่ educated แบบนี้ น่าอ่านจริงๆ

PPPC เริ่ม implement ระบบ SAP ทำให้ลดต้นทุนได้ระดับหนึ่ง ค่าซื้อระบบก็ค่อนข้างถูก เพราะได้รับการสนับสนุนจาก ปูนใหญ่

tvi4ever เขียน: ถ้าเราหักเงินสดสทธิออกจากราคาห้น WG อัตราส่วนต่างๆของ WG น่าจะดีกว่า PPPC นะครับ

ถ้าท่านไม่ได้ซื้อกิจการทั้งกิจการจริงๆ..อย่าคิดด้วยวิธีหักเงินสดออกจากราคาหุ้นเลยครับ ผมว่าจะกลายเป็นการลำเอียงมากไปหน่อย ไม่รู้นะ..ผมไม่เคยเห็นใครใช้กัน """"ยกเว้น เงินสดในหุ้นมีมาก จนอยู่ใกล้ๆหรือมีมากกว่าราคาหุ้น """" ท่านฉัตรชัยก็เน้นว่าให้ดูกระแสเงินสดอิสระ มากกว่าเงินสดสะสม

ถ้าต้องการดูเงินสดสะสมหรือรายการเทียบเท่าเงินสดสะสมแท้ๆ... ผมแนะนำให้ลงทุนกับพันธบัตรรัฐบาลดีกว่าครับ เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที บางรุ่นก็ให้ดอกเบี้ยดีมากๆด้วย

ผมยอมแพ้ตั้งแต่เห้นชื่อเจ้าของกระทู้แล้วครับ
ใจเย็นๆครับเสี่ยเจ๋ง หุ้นมันกำลังลง

ผมเหลืองบอีกกีอกหนึ่งสำหรับตัวนี้ ยังต่อราคาอยู่เลย

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ท่าน CEO ไม่ตั้งกระทู้แบบนี้ แล้วจะได้เห็นหุ้นที่ดีกว่า EGCOMP หรือ อิอิ

บอกตามตรงตอนนี้ถือ EGCOMP อยู่ตัวเดียว

แต่ขอส่ง UVAN เข้าประกวดครับ P=29.5
PE 6.48
P/BV 2.64
D/P%5.08

สินทรัพย์ 1240M
หนี้สิน 190M
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1050M
ทุน 470 M
D/EQ 0.18%

รายได้ 1959M
กำไร 400M
ROA% 50.78
ROE% 53.28
Profit Margin 20.43%
Marget Cap 2773M

EPS03 4.55
EPS02 3.12
EPS01 2.69
EPS00 2.50
EPS99 2.83

ชอบที่ PE ต่ำ
D/E ต่ำมากๆ
ROA,ROE สูงมากๆ ตั้ง 50%
Profit Margin ก็สูง 20%
EPS โตทุกปี หลายเปอร์เซนต์ด้วย

ที่ไม่ชอบคือ
P/B สูงไปหน่อยนะตอนนี้
สภาพคล่องน้อย
Market Cap เล็กไปหน่อย
กำไรย้อนหลังดูได้กลับไปแค่ 5 ปีเอง
เป็นธุรกิจเกษตร Commodity
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจน้ำมันปาล์มเลย ็Ho Ho Ho

แค่เสนอเล่นๆหนะครับพี่ Jeng เผื่อใครมีข้อมูลอื่นๆอีก

อยากส่งโรงหนังเมเจอร์เข้าแข่งขัน แต่เดี๋ยวต้องขอเวลาหาเหตุผลประกอบครับ :lol:

เห็นพี่ Jeng เชียร์หุ้นตัวไหนเป็นลงทุกที PSL , EGCOMP ,THAI
ช่วยฝากๆ UVAN ด้วยนะครับเผื่อกลับไปศึกษาแล้วกลับมาซื้อจะได้ราคา
P/BV ต่ำๆกว่านี้
แฮ่ๆ แซวเล่นขอรับ

สงสัยวันหลังต้อง log in ถ้าต้องการ Post เสียแล้ว
มีผู้เยี่ยมเยือน หลากอารมณ์ เกินไปแฮะ
UVAN ข้างบนผม Post เอง

หุ้นดีแต่ราคาสาละวันเตี้ยลง :lol:

วันนี้ปิดที่ 67.5 แฮะ

อ้าวตลาดปิดแล้วหรือ

ซื้อมาอีก ที่ 67 บาท

ฮิฮิ จะเก็บให้หมดช่วงนี้
อยากลงต่ำดีนัก กวาดให้หมด

โอย ซื้อถูกกว่าผมตั้ง 4 บาท เจ็บจาย ( แซวเล่น )

ส่ง mbk ด้วยคนครับ เหตุผลแบบงูๆปลาๆ xd 1.5 หุ้นดก .50 บาท เท่านั้น :lol:

เรียนถามพี่ๆหน่อยนะครับ ว่า Wg มีเงินสด 11 บาท ดูตรงไหนของ งบการเงินหรือครับ

สวัสดีครับ พออ่านกระทู้ที่คูณ jeng ส่งเข้าประกวด ก็เลยหันไปเก็บ egcomp ครับ ได้มาที่ 67 บาท แต่ไม่รู้ข้อสรุปเรื่อง vat เลยครับ แต่ถ้าเกิดต้องจ่ายจริงๆ คงจะมีผลกับงบดุลแน่ๆ ครับ ตอนนี้ ถ้าลงต่อคงจะทยอยซื้อครับ ส่วนหุ้นที่อยากส่งเข้าประกวด อยากส่ง
se-ed เข้าประกวด เพราะมีจุดแข็งตรงที่ เป็นผู้นำในการขายหนังสือ สามารถเติบโตได้อีกเยอะ อีกทั้งผู้บริหารก็เก่ง สามารถหาช่องทางเพื่อจะทำกำไรให้มากขึ้นดูจาก โครงการขาย computer ICT และก็ยังจ่ายปันผลเป็นสัดส่วนที่สูง กำไรก็เติบโตขึ้นทุกปี
แต่ก็มีข้อเสีย ตรงมี warrant นี่แหละครับ แต่ก็เห็นว่า ผู้บริหารมีนโยบายในการซื้อหุ้นคืน ถึงแม้จะซื้อในจำนวนที่ไม่เท่ากับที่แจก warrant ก็เหอะ แต่อย่างน้อย ก็ยังมีนโยบายครับ และข้อเสียอีกอย่างผมคิดว่า หุ้นนี้มีการซื้อขายกันน้อย ทำให้ราคาไม่ค่อยวิ่ง แต่ถ้าวิ่งก็ม้วนเดียวเหมือนกันครับ
เป็นความเห็นส่วนตัวครับ แต่ตอนนี้ ขอตัวไปเก็บ wg กับ egcomp ต่อ ก่อนครับ :lol: