Thai VI

มีข่าวอะไรหรือเปล่าวันนี้ทำไมลดกระหน่ำจัง
ว่าวันซื้อได้ที่ 69 ว่าดีสุดๆแล้ว วันนี้มี 67-68
โฮ โฮ เงินหมดแล้ว

นั่นนะซิอิอิ ถือยาว

ถ้าเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีกำไร pe ต่ำแบบนี้ นะ ผมยึดคติ ไม่ขาย ไม่ขาดทุน

แต่ถ้าเป็นหุ้นเก็งกำไร พื้นฐานไม่ดี pe ไม่ต่ำ ลงมากๆ สงสัยต้อง cut loss

มาเปิดดูตอนเย็น ต๊กใจหมดเลยครับพี่เจ๋ง ต่ำสุด 66.5 โห ....พูดไม่ออกเลย

ตบมาเบาะ ๆ ที่ 68 ครับ

เชียร์กันเข้าไปครับ

ตลาดไม่ดีหุ้นให้มันดีแค่ไหนมันก็ไม่ไปไหนหรอก ขำจริงๆอะ

คนที่ซื้อแล้วติดคงไม่ได้เชื่อคนที่โพสต์ในเวบหรอกนะครับ เพราะคนในเวบนี้อ่านอะไรต้องคิดเป็นนะครับ

Anonymous เขียน:เชียร์กันเข้าไปครับ

ตลาดไม่ดีหุ้นให้มันดีแค่ไหนมันก็ไม่ไปไหนหรอก ขำจริงๆอะ

คนที่ซื้อแล้วติดคงไม่ได้เชื่อคนที่โพสต์ในเวบหรอกนะครับ เพราะคนในเวบนี้อ่านอะไรต้องคิดเป็นนะครับ

อ้อลืมไป ถ้าซื้อเพราะเชื่อจากการอ่านเวบบอร์ดจะกลายเป็น นักลงทุนโง่นะครับ

หมูหมาพูดนะไม่มีน้ำหนักหรอก แต่พวกคนดังพูดนี่สิ

ซื้อ egcomp ที่ราคา 70 บาท ทิ้งไว้ซัก 5 ปี

อย่างแย่สุด ตลอด 5 ปี เอากำไรเท่าเดิม ปีละ 12 บาท

อะไรจะเกิดขึ้น

1. ได้ปันผล 2.75 บาท ต่อปี เท่ากับ 3.93 % ต่อปี

กำไร 5 ปี ปีละ 12 บาท ก็ได้กำไรทั้งหมด 60 บาท ปันผล 2.75 คูณ 5 ปี เท่ากับ 13.75

ต้นทุนของเราจะเหลือ 70 - 13.75 = 56.25 บาท

ในขณะที่ ในช่วง 5 ปีนี้ จะมีช่วงที่ตลาดหุ้น กลับมาดี

ถึงตอนนั้น ถ้าให้ PE 10 egcomp จะอยู่ที่ 120 บาท

เอาเป็นว่า ผ่านไป 5 ปี ลงทุน 70 ได้ปันผล 13.75 แล้วราคาไปอยู่ที่ 120

สมเหตุสมผลหรือไม่

ถ้าคิดว่าสมเหตุสมผล ก็ซื้อ ถ้าคิดว่าไม่ ก็ไม่ต้องซื้อ

ถ้าคิดว่าตัวอื่นดีกว่า ก็ไปซื้อตัวอื่น

อย่าคิดมาก ก็แค่เรื่องการลงทุน

จะโจมตีกันไปทำไม ไม่รู้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า

ตีหุ้นไมได้ก็เลยตีตัวบุคคลไปเลย

ถ้าอยากได้หุ้นมากๆ กรุณาเขียนแง่ไม่ดีของ egcomp อย่างมีเหตุมีผล มีหลักฐาน

น่าจะดีกว่า ใช้คำพูดลอยๆ ไร้สาระจริงๆ

นี่เป็นการมองอย่างแย่ แต่ถ้ามองอย่างดี ก็มองกันเอาเองนะครับ

tom ครับ มี ถ้าเรารู้ว่า ภายใน 5 ปีนี้ egcomp จะไปอยู่ที่ 120 เพราะมันกำไร 12 บาทต่อปี ตอนช่วงที่คนอารมณ์ดีๆ อาจจะไปเทรดกันที่ PE 10

สมัยก่อน egcomp กำไร 3 บาท แต่เทรดกันที่ pe 30 ซื้อขายกันที่ราคา 90 บาทนะครับ

ถ้าเรารู้ว่า ยังไง egcomp จะไปที่ 120 ราคายิ่งลงเราต้องยิ่งดีใจนะครับ

แต่เราไม่มีทางรู้ว่ามันจะลงแค่ไหน ที่พี่ซื้อไว้ 71 พี่ก็เลยไม่ขาย

ส่วนราคาลงมา พี่ยังไม่ซื้อเพิ่ม เพราไม่มีเงิน แต่ถ้ามันลงมาเยอะๆซิ พี่อาจจะไปหาเงินมาซื้อนะ

เรื่องแบบนี้เปลี่ยนจากตกใจเป็นดีใจได้หรือไม่

พี่ไม่ได้หมายถึงคุณ Fitch ครับ

พี่เจ๋งครับ คือผมตกใจที่ไม่ได้ซื้อเพิ่มหน่ะพี่ ไม่ใช่กลัวมันตกหรอกครับพี่ เพราะตอนผมมาดูเขาเทรดกันที่ 68.5 ตอนใกล้ปิดตลาดแล้วครับ เสียดายจริงๆ ครับ

ความจริงก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องมาpostเชียให้ซื้อหรือไม่ซื้อหรอกครับ
แต่เห็นมีคุณเจ๋งยืนรับหน้าอยู่คนเดียว
ถ้าคุณวิเคราะห์ว่าหุ้นมันดี ยิ่งลงยิ่งต้องซื้อครับ
น่ารับทั้ง2ตัวคือegcomp และratch
สภาพคล่องสูงซื้อง่ายขายคล่อง (ถ้าต่ำๆผมคงเก็บอุบไว้คนเดียว)

อยู่ในอุตสาหกรรมที่การแข่งขันไม่มาก ใครๆก็ต้องใช้ คู่แข่งเข้ามาได้ยากเพราะลงทุนสูง
มีกำไรแน่นอนเพราะกฟฝ.รับซื้อในราคาต้นทุน+กำไร(ถ้าไม่มีการป.ป.)
peไม่ถึง10 แม้จะมีบางท่านว่าp/e ใช้ดูไม่ได้100%แต่ก็บอกอะไรพอสมควร
ปันผล4-5%/ปี

หลายๆโบรกแม้จะบวกภาษีที่egcompจะเสียเพิ่มเข้าไปแล้วแต่ราคาเป้าหมายก็ยังมากกว่า85บาทอยู่ดี

อิอิ ในที่สุด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน ก็มาช่วยผมไว้จนได้

พี่หมอประจวบ มีอะไรก็โพสเยอะๆนะครับ อยากอ่านความคิดพี่ครับ

อืม tom ครับ พี่ว่าสถาณการณ์ยังไม่ค่อยดี คือลงพี่ก็ดีใจ

แต่ อยากให้ลงมากกว่านี้อีกอะ ทำไงดี

Jeng เขียน:ซื้อ egcomp ที่ราคา 70 บาท ทิ้งไว้ซัก 5 ปี

อย่างแย่สุด ตลอด 5 ปี เอากำไรเท่าเดิม ปีละ 12 บาท

อะไรจะเกิดขึ้น

1. ได้ปันผล 2.75 บาท ต่อปี เท่ากับ 3.93 % ต่อปี

กำไร 5 ปี ปีละ 12 บาท ก็ได้กำไรทั้งหมด 60 บาท ปันผล 2.75 คูณ 5 ปี เท่ากับ 13.75

ต้นทุนของเราจะเหลือ 70 - 13.75 = 56.25 บาท

ในขณะที่ ในช่วง 5 ปีนี้ จะมีช่วงที่ตลาดหุ้น กลับมาดี

ถึงตอนนั้น ถ้าให้ PE 10 egcomp จะอยู่ที่ 120 บาท

เอาเป็นว่า ผ่านไป 5 ปี ลงทุน 70 ได้ปันผล 13.75 แล้วราคาไปอยู่ที่ 120

สมเหตุสมผลหรือไม่

ถ้าคิดว่าสมเหตุสมผล ก็ซื้อ ถ้าคิดว่าไม่ ก็ไม่ต้องซื้อ

ถ้าคิดว่าตัวอื่นดีกว่า ก็ไปซื้อตัวอื่น

อย่าคิดมาก ก็แค่เรื่องการลงทุน

จะโจมตีกันไปทำไม ไม่รู้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า

ตีหุ้นไมได้ก็เลยตีตัวบุคคลไปเลย

ถ้าอยากได้หุ้นมากๆ กรุณาเขียนแง่ไม่ดีของ egcomp อย่างมีเหตุมีผล มีหลักฐาน

น่าจะดีกว่า ใช้คำพูดลอยๆ ไร้สาระจริงๆ

นี่เป็นการมองอย่างแย่ แต่ถ้ามองอย่างดี ก็มองกันเอาเองนะครับ

ผมก็เคยคิดอย่างนั้นไปเหมือนกันเมื่อสองปีก่อนตอนที่ หุ้นตัวนี้ราคาอยู่ที่ 30 บาทกว่าๆ ตัวเลขอาจไม่ใช่อย่างที่พี่เจ๋งคิดเท่าไรแล้วพอดีมีเงินเหลือจาก money market พวก พันธบัตรที่ mature ออกมาแล้วได้ yield ต่ำประมาณ 5% ตอนนั้นยังซื้อมาเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก

ใจไม่แข็งพอเท่าไร ตอนนี้เหลือหุ้นแค่ 1/4 ของที่ซื้อมาทั้งหมดตอนนั้นแหละครับ ทำให้นึกว่าถ้าเราไม่รีบร้อนขายไปเก็บไปยาวๆเลยน่าจะได้ลุ้นเจ๋งๆ สักตั้งดีมั๊ย

เอ้า ตอนแรกว่าจะไม่เสริมเรื่องความเห็นเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้อีกแล้ว
แต่ไหนๆ พี่เจ๋งก็พยายามสุดโต่งขนาดนี้ก็เลยขอหวนมาร่วมแจมซะหน่อยนะครับ

ยังไงก็เป็นความเห็นส่วนตัวก็รึกัน โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านครับ

egcomp เป็น first spin off ของ กฟผ ที่เป็นต้นแบบของการแปรรูปทรัพย์สินของราชการ เมื่อ 10 ปีก่อน นี่คือรากฐานความเป็นมาของบริษัท คราวนี้เรามาดูกันที่พื้นฐานของบริษัท ว่าเมื่อก่อน องค์การที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้มีอะไร

คำตอบคือ ไม่มีเลยใช่ไหม....เพราะอะไร....เพราะ nature ของสินค้าที่ผู้บริโภคจะนำไปใช้หรือเกิดการบริโภคนั้นต้องประกอบด้วยหลายอย่างที่สำคัญที่สุดคือ ระบบสายส่งเนื่องจากไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ไม่สามารถ stock ไว้ได้ ดังนั้นการที่จะนำไฟฟ้าไปสู่คนบริโภคต้องพิ่งพาอาศับระบบ transmission ซึ่งเป็นทรัพย์สินของราชการ คราวนี้ถ้าเรามาวิเคราะห์ดีๆเกี่ยวกับ cost center ของ ลักษณะธุรกิจการไฟฟ้าแล้วเจ้าสายส่งนั้นเหมือนเป็น center ที่ไม่สามารถสร้างผลกำไร แต่จำเป็นต้องมี เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูงมากกกกก มากเสียจนเรียกได้ว่าไม่สามารถคุ้มทุนได้ เนื่องจากสายส่งต่างๆ ต้องมีการวางเครือข่ายไปให้ได้ครอบคุมมากที่สุด และต้องมีการบำรุงรักษาใน สเกลขนาดใหญ่ ( หมายถึงเป็นพื้นที่ที่ใหญ่มากๆ เท่ากับขนาดของประเทศไทยก็ว่าได้ )


post ก่อนดีกว่าเดี๋ยว หลุดหมด

ต่อๆๆๆ

คราวนี้เรามาดูกัน ในปัจจุบัน กฟผ หรือทางราชการช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ เอกชนเข้ามาแข่งขัน (ได้ในระดับที่อยู่ในการควบคุม ) โดยผ่านการประมูลโครงการ โครงการ spp ipp ต่างๆ ถึงได้กำเนิดขึ้นมาแล้วยังไงก็ถ้าจะขายไฟฟ้าก็ต้อง ขายกลับคืนให้ กฟผ. เป็นผู้รับซื้อคืนในอัตราที่ได้เซ็นสัญญากันไว้ ( ส่วนใหญ่ก็จะเป็น cost plus basis กันทั้งนั้น )
คือว่า ถ้าใครมีไฟฟ้าเหลือจากตัวเองที่ปั้นได้ จะขายให้ กฟผ. นั้น กฟผ. ยินดีรับซื้อนะครับ แต่อัตราจะไม่ใช่อัตราเดียวกับที่ ipp spp เค้าได้ และรับซื้อเฉพาะ ช่วง peak demand และต้องมี บลา บลาๆๆๆๆ ตามที่ กฟผ. เค้ากำหนดเยอะแยะมากมาย........แต่ spp ipp นั้นไม่ได้ปั่นไฟใช้เองแต่ ตั้งโรงไฟฟ้ามาผลิตเพื่อขายเลย ก็เลยต้องเซ็นสัญญาระยะยาว กับทาง กฟผ....


คราวนี้ กฟผ. เมื่อ spin off เจ้า egcomp มาเป็นตัวที่ 1
อยากทรายมั๊ยครับว่าตัวที่สองคือใคร ratch ไงครับ
คราวนี้ เมื่อ identity ที่แยกตัวออกมามีลักษณะเป็นองค์การธุกิจ หนำซ้ำยังมีผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เข้าไปด้วยเป็นจำนวนมาก เพราะ egat ไม่ได้ถือหุ้น มากกว่า 50% ใน egcomp นะครับอย่าลืม

ทำไม net มันฟ้องว่า couldn't connect to database หว่า
พิมพ์ก็ช้าอยูแล้วนะเนี่ย.....เอ้า ต่อๆๆๆๆ

การดำเนินการทางธุรกิจนั้นผมยอมรับว่า ต้องมีกำไร มีขาดทุนแน่นอน การที่ egcomp จะขายหุ้นให้ได้นั้น ตัวบริษัทเองต้องสามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ( ในอนาคต เพราะตอนนั้น ทุกอย่างยังเป็นวุ้นเลย ) เรื่องอะไรที่ กฟผ. จะเอา bad chunk มาแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้ว performance ของตัวเองนั้นมันแย่ ในธุรกิจหลักที่เป็น profit center ของตัวเองก็ยังหากำไรไม่ได้
แต่ผมว่าน่าจะเป็นในทางตรงกันข้ามมากกว่านะครับ....egat ก็เลยอย่างน้อยต้องพยายาม สนับสนุน (ไม่ทางใดก็ทางนึง ) เพื่อให้ลูกคนโต คนนี้เดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ก่อน ที่เห็นๆ อย่างน้อยก็ ยอมขาย บฟร กะ บฟข...ให้ก็รึกันเรียกง่ายๆ ว่าเอามาทำทุน ทำก้นถุงก็รึกัน จากนี้ไป ลูกโตแล้วนะ หากินเองได้ เป็นผู้ใหญ่แล้ว เรียนจบแล้ว ยังไง ป๋าก็ยังคอยช่วยอยู่ห่างๆ......

ไม่งั้นผมถามหน่อยวันนี้กำเงิน 524ล้านหุ้น x 70 บาท
เท่ากับ ประมาณ 37000 ล้านบาทไปซื้อ บฟร กะ บฟข...ไม่รู้เค้าจะขายให้หรือเปล่าด้วยซ้ำ

net เป็นอะไรหว่า ตัดเองอีกแล้ว.....ทำไงดีเนี่ย...

ลงอีกก็ดีครับ พี่เจ๋ง จะำได้ซื้อได้อีก พอดีเหลืออีกกระปุกนึง อิอิ :lol:

egcomp ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้มากเท่าไหร่

ขอยอมรับครับ ซื้อเพราะเห็นมันถูกเวอร์ +ธุรกิจขายไฟยังไงก็ไม่มีวันเจ๋ง +ไฟฟ้าใช้เพิ่มทุกวัน + ธุรกิจผ่านร้อน-หนาวมา +เงินปันผลที่จะได้เร็วนี้ +สภาพคล่องสูงขายได้ตลอดเวลา+อื่นช่วยนึกหน่อย

ราคา 68บาทปัจจุบัน+ปันผลอีก 1.5 บาท ของครึ่งปี

บอกได้คำเดียวคับถูกเวอร์

ยังคาใจแค่ เรื่อง vat. + นโยบายถือหุ้น-สัญญาของ กฟฝ.

คุณ Fitch พิมพ์ เสร็จ ก่อนส่ง กด save ไว้ก่อน กันเหนียว แล้วค่อยกดส่ง ถ้าพลาด เราก็ดึงข้อมูลกลับมาได้ครับ

XD 31 มี.ค 47 นะครับ