Thai VI

คนดอย เขียน:พอดีผมก็เพิ่งมาศึกษาเรื่องนี้คับ
และมีข้อสงสัยว่า
ในหนังสือหัก ณ ที่จ่ายข้อ 2.2 เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวนเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

อันนี้เราต้องเอาไปรวมกรอกด้วยมั้ยคับ
เพราะผมลองกรอกลงในช่อง "ไม่ได้รับเครดิตภาษี" ปรากฎว่า เค้าก็รวมเอาไปเป็นเงินได้เงินปันผลด้วย

อืม แต่ถ้าไม่กรอกก็ถูกหัก 10 ฟรีๆ

คนดอย เขียน: อืม แต่ถ้าไม่กรอกก็ถูกหัก 10 ฟรีๆ

อ้าว กรอกผิดนี่นา .........อย่าเพิ่งอ่านของผมนะครับ มันจะชวนงงไปกันหย่ายยยยยยยย  :lol:

คนดอย เขียน: อืม แต่ถ้าไม่กรอกก็ถูกหัก 10 ฟรีๆ

ตามนี้ครับ สรุปแล้วสรรพากรสมควรนำเงินได้ตาม ข้อ 2.2 มารวมคำนวน ฐานเราหรือ เพราะในนั้นก็เขียนอยู่ว่า "ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณ"

[quote="sorawut"]http://www.rd.go.th/publish/38788.0.html

[quote]

[quote="phemstap"][quote="คนดอย"]อืม ถ้าคิดให้ดี ปันผลที่ได้ยกเว้นกรณี BOI

ผมย้อนอ่านไปอ่านมา และประกอบกับ คำถามของคุณ Sorawut

sorawut เขียน: มีคนเคยบอกแล้วครับ ว่าต่อให้กรอกไปก็ไม่ได้ทำให้เงินได้เพิ่มขึ้น

ผมยังเคยถามแบบงงๆว่า แล้วจะมีให้กรอกไปทำไม

มาถึงตอนนี้ ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องต้องการ double check data เฉยๆ

ผมก็คิดว่าผมถึงบางอ้อแล้ว ก่อนวันที่ 21 ธันวาคม 2550 เรามีสิทธิที่จะไม่ยื่นเงินปันผลในส่วนที่ได้รับ BOI แต่หลังจากวันที่ 21 ธันวาคม 2550 มีมติ กพอ ครั้งที่ 4/2550 ออกมา ทำให้ ถ้าเราจะนำปันมารวมคำนวนใน ภงด 90 ก็ต้องนำมาคำนวนทั้งหมด รวมทั้งส่วนที่ได้รับ BOI ด้วย เพราะเหตุนี้เอง กรรมสรรพากรจึงทำช่อง รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี ขึ้นมาให้กรอก

ซึ่งตอบคำถามของคุณ Sorawut ที่ถามว่า "แล้วจะมีให้กรอกไปทำไม"

tingku เขียน: ถ้ายึดตามนี้ แสดงว่า ส่วนที่ได้รับ BOI ก็ต้องยื่นด้วยใช่ไหมครับ

ผมเคยเข้าใจมาตลอดว่า BOI ไม่ต้องยื่น เพราะสมัยก่อนยังไม่มีมติ กพอ ที่ว่า แต่หลังจากวันที่มีมติ กพอ ที่ว่ามา ก็แสดงว่าเราต้อง ยื่นส่วนที่ได้รับ BOI ด้วย ไม่ยื่นไม่ได้ใช่ไหมครับ

เอ... คุณ tingku เคยตอบผมเองอีกกระทู้นึง http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... c&start=30 ว่า

tingku เขียน: จะกรอกหรือไม่กรอกก็ได้ครับ ค่าเท่ากัน

Kao เขียน:ผมลองดูแล้วครับ
ส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี => ไม่ทำให้เงินได้พึงประเมินเพิ่มขึ้น
ส่วนที่ไม่ได้เครดิตภาษี => ทำให้เงินได้พึงประเมินเพิ่มขึ้น

คำถามคำตอบเริ่มพัวพันนัวเนีย

ผมสรุปให้เลยว่าให้กรอกทุกอย่าง (ใน 40(4)(ข)) ที่ขวางหน้า หรือไม่ต้องกรอกเลย

คำนวนความคุ้มค่าเอาครับ

[quote="phemstap"]ได้รับสายจากฝ่ายนิติกรสรรพากร คุยกันเป็นชั่วโมง เข้าใจกันดีขึ้นแล้วครับ :

1) เจ้าหน้าที่สรรพากรจะยึดมติ กพอ. ครั้งที่ 4/2550 21 ธ.ค. 2550 ซึ่งเป็นการประชุมภายในสรรพากร และทำตามคำสั่ง

[quote="Kao"][quote="phemstap"]ได้รับสายจากฝ่ายนิติกรสรรพากร คุยกันเป็นชั่วโมง เข้าใจกันดีขึ้นแล้วครับ :

1) เจ้าหน้าที่สรรพากรจะยึดมติ กพอ. ครั้งที่ 4/2550 21 ธ.ค. 2550 ซึ่งเป็นการประชุมภายในสรรพากร และทำตามคำสั่ง

[quote="sorawut"][quote="tingku"][quote="sorawut"]http://www.rd.go.th/publish/38788.0.html

[quote]

รบกวนถามหน่อยครับ พอดียื่นภาษีปีแรก อยากถามว่าผมได้รับปันผลจาก TTA, PSL (ซึ่งไม่เสียภาษี) กับ TOP (เสียภาษี) ผมยื่น TOP แค่ตัวเดียวได้หรือป่าว หรือต้องยื่นทั้ง TTA กับ PSL ด้วยครับ หรือสรุปว่าต้องยื่นปันผลทุกตัวที่ได้จากหุ้น ขอบคุณครับ

Calcio 8 เขียน:รบกวนถามหน่อยครับ พอดียื่นภาษีปีแรก อยากถามว่าผมได้รับปันผลจาก TTA, PSL (ซึ่งไม่เสียภาษี) กับ TOP (เสียภาษี) ผมยื่น TOP แค่ตัวเดียวได้หรือป่าว หรือต้องยื่นทั้ง TTA กับ PSL ด้วยครับ หรือสรุปว่าต้องยื่นปันผลทุกตัวที่ได้จากหุ้น ขอบคุณครับ

คุณ Calcio 8 ต้องลองอ่านกระทู้นี้ตั้งแต่ต้นครับ แล้วจะเข้าใจว่า ในขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด ผมแนะนำได้แค่เพียงว่า ถ้าจะทำแบบถูกใจสรรพากร ให้กรอกทุกอย่างที่เป็น 40(4)(ข) หรือไม่กรอกอะไรสักอย่างที่เป็น 40(4)(ข) ครับ

แย้งพี่tingku
นิดหน่อย ทั่วไป กฏหมายรัษฏากรเป็นตัวใหญ่สุดในด้านภาษี
ตามด้วยกฏหมายประกอบตัวกฏหมายรัษฏากร
รองลงมา กฏกระทรวง
คำสั่งกรม

ส่วนคำวินิจฉัยของกรมเป็นเพียงแค่แนวทางปฏิบัติ ไม่ถือว่าเป็นกฏหมาย
และอื่นๆก็ไม่ใช่กฏหมาย เป็นเพียงแค่แนวทางปฏิบัติเท่านั้น

อันนี้ต้องทำความเข้าใจน่าครับ

miracle เขียน:แย้งพี่tingku
นิดหน่อย ทั่วไป กฏหมายรัษฏากรเป็นตัวใหญ่สุดในด้านภาษี
ตามด้วยกฏหมายประกอบตัวกฏหมายรัษฏากร
รองลงมา กฏกระทรวง
คำสั่งกรม

ส่วนคำวินิจฉัยของกรมเป็นเพียงแค่แนวทางปฏิบัติ ไม่ถือว่าเป็นกฏหมาย
และอื่นๆก็ไม่ใช่กฏหมาย เป็นเพียงแค่แนวทางปฏิบัติเท่านั้น

อันนี้ต้องทำความเข้าใจน่าครับ

ขอบคุณคุณ Miracle คงจะจบกฎหมายมาแน่เลย

อย่างนี้ http://www.rd.go.th/publish/11162.0.html กับ http://www.rd.go.th/publish/3307.0.html
ก็คือคำสั่งกรม ควรใช้ปี 2545 เพราะบอกชัดเจนว่ายกเลิกปี 2544 ที่ประกาศไว้

ส่วน http://www.rd.go.th/publish/31010.0.html กับ http://www.rd.go.th/publish/38788.0.html
ก็เป็นแนวทางปฎิบัติ แล้วจะเลือกปฎบัติอันใดละครับ ในเมื่อไม่มีการยกเลิกตัวปี 2549 แล้วบอกว่าแทนที่ด้วยปี 2551

กพอ. หรือมติที่ประชุม 4/2550 21 ธ.ค. 2550 ก็เป็นแค่ แนวทางปฎิบัติ แต่ไม่ได้เผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ
และยึดตามแนวทางปฎิบัติของคำวินิฉัย ก.ค. 2551 หรือ http://www.rd.go.th/publish/38788.0.html

ลักษะนี้มองได้ไหมว่าสรรพากร ทำงานไม่ถูกต้อง ควรชี้แจงประชาชนให้ชัดเจน ไม่ใช่ปีก่อนยื่แบบนี้ได้ แต่ปีนี้ไม่ได้โดยไม่ชึ้แจงให้ชัด

เสริมอีกนิด กฎหมายที่ตอนนี้ไม่ชัดคือตัว มาตรา 48(3) วรรคสอง แห่งประมวลรัษ
ซึ่งไม่ได้ระบุชัดว่ายื่ดบางส่วน หรือทั้งหมดอย่างไร  :shock:

phemstap เขียน:และวินิฉัยปี 2549 ก็ควรขยายความ 48(3)(ข) ให้ชัดเจน ก่อนที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ไม่รู้ละ ช่วยผมคิดหน่อย จะเขียนไปอุธรณ์ !!!

ร้องว่า ถ้าสรรพากรระบุให้ชัดตั้งแต่ต้นว่าในกรณีต้องการเครดิตภาษีคืน จะต้องรวมเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) ทุกรายการไม่เว้นแม้แต่รายการที่ไม่สามารถเครดิตภาษีได้

ผมคงขายหุ้นของบริษัทที่ปันผลไม่สามารถเครดิตภาษีได้ออกไป เพื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่ปันผลสามารถเครดิตภาษีได้ หรือทำการวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสมมากกว่านี้

คิดได้ก่อนนอนเมื่อวาน :lol:

sorawut เขียน: ร้องว่า ถ้าสรรพากรระบุให้ชัดตั้งแต่ต้นว่าในกรณีต้องการเครดิตภาษีคืน จะต้องรวมเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) ทุกรายการไม่เว้นแม้แต่รายการที่ไม่สามารถเครดิตภาษีได้

ผมคงขายหุ้นของบริษัทที่ปันผลไม่สามารถเครดิตภาษีได้ออกไป เพื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่ปันผลสามารถเครดิตภาษีได้ หรือทำการวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสมมากกว่านี้

คิดได้ก่อนนอนเมื่อวาน :lol:

ขอบคุณคุณ sorawut มากครับ ผมว่าจะเอ่ยเพิ่มว่า ในภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ ทุกครัวเรือนก็เดือดร้อนเรื่องรายรับรายจ่าย
แล้วสรรพากรได้รับไปแล้วหัก ณ ที่จ่าย 10% ยังจะมาขูดรีดจากประชาชนตาดำๆเพิ่มอีกหรือ เห็นใจกันบ้างซิครับ ?

phemstap เขียน: ขอบคุณคุณ sorawut มากครับ ผมว่าจะเอ่ยเพิ่มว่า ในภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ ทุกครัวเรือนก็เดือดร้อนเรื่องรายรับรายจ่าย
แล้วสรรพากรได้รับไปแล้วหัก ณ ที่จ่าย 10% ยังจะมาขูดรีดจากประชาชนตาดำๆเพิ่มอีกหรือ เห็นใจกันบ้างซิครับ ?

อา... idea เริ่มบรรเจิดแล้ววว

เพิ่มไปด้วยว่า ตอนแรกผมกะจะเอาเงินที่ได้จากการเครดิตภาษีไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อให้สอดคล้องกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของท่านนายก

ถ้าสรรพากรเอาเงินส่วนนี้ไปโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในขณะที่รัฐบาลกำลังจะเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชนมันไม่ขัดกันหรอครับ :lol:

ถามแบบคนไม่รู้นะครับว่า ถ้าเราไม่อยากขอคืนเครดิตภาษีเพราะยุ่งยาก และไม่เอาปันผลมารวมเป็นรายได้และยื่นภาษีเฉพาะส่วนที่เป็นรายได้หลักจริงๆ (เงินเดือน โบนัส) จะผิดกติกาอะไรไหมครับ  

IWILLBEVI เขียน:ถามแบบคนไม่รู้นะครับว่า ถ้าเราไม่อยากขอคืนเครดิตภาษีเพราะยุ่งยาก และไม่เอาปันผลมารวมเป็นรายได้และยื่นภาษีเฉพาะส่วนที่เป็นรายได้หลักจริงๆ (เงินเดือน โบนัส) จะผิดกติกาอะไรไหมครับ  

ถูกกฏหมาย 100% ครับ ไม่ต้องตี(ไม่มาก)ความด้วย :lol:

ยื่นแบบก็สะดวก ภ.ง.ด. 91

เป็นทางเลือกที่สรรพากรชอบสุดๆ

คนดอย เขียน:
ตามนี้ครับ สรุปแล้วสรรพากรสมควรนำเงินได้ตาม ข้อ 2.2 มารวมคำนวน ฐานเราหรือ เพราะในนั้นก็เขียนอยู่ว่า "ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณ"

สรรพากรเขาอธิบายว่าเขายกเว้นให้นิติบุคคล เราเป็นแค่"บุคคลธรรมดา"ครับ เลยไม่ยกเว้นให้
แบบนี้ละครับ ถ้าถกกับสรรพากรเราก็ต้องเข้าเนื้ออยู่ตลอดล่ะ

เพิ่มไปด้วยว่า ตอนแรกผมกะจะเอาเงินที่ได้จากการเครดิตภาษีไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อให้สอดคล้องกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของท่านนายก

ถ้าสรรพากรเอาเงินส่วนนี้ไปโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในขณะที่รัฐบาลกำลังจะเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชนมันไม่ขัดกันหรอครับ

"ตอนนี้มีตำราเดียวเท่านั้นที่รัฐบาลคำนึงถึงคือ  ตำราที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะนำเงินให้ถึงมือประชาชนมากที่สุด" นายกอร์ปศักดิ์กล่าว อ่านเต็มๆ ได้ที่นี่
http://www.google.co.th/url?sa=t&source ... SC3P_AWLyw

อ่านกระทู้นี้คิดได้อีกวิธีหนึ่งคือ ผู้มีเงินได้ปี 51 ไม่ต้องจ่ายภาษี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษกิจ :lol:

[quoteIWILLBEVI wrote:
ถามแบบคนไม่รู้นะครับว่า ถ้าเราไม่อยากขอคืนเครดิตภาษีเพราะยุ่งยาก และไม่เอาปันผลมารวมเป็นรายได้และยื่นภาษีเฉพาะส่วนที่เป็นรายได้หลักจริงๆ (เงินเดือน โบนัส) จะผิดกติกาอะไรไหมครับ    

ถูกกฏหมาย 100% ครับ ไม่ต้องตี(ไม่มาก)ความด้วย  

ยื่นแบบก็สะดวก ภ.ง.ด. 91

เป็นทางเลือกที่สรรพากรชอบสุดๆ
][/quote]
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ  เคยมีวิเคราห์กันไว้ไหมครับ ว่า ณ.ที่รายได้ระดับหนึ่ง บวกกับเงินปันผลที่มากระดับหนึ่ง  จึงจะได้ประโยชน์เต็มที่จากการขอคืนเครดิตภาษีปันผล  ผลยังไม่แน่ใจว่าควรยื่นดีหรือไม่ในปีนี้ (ฐานภาษีผมอยู่ที่ 30% ครับ)  

[quote="IWILLBEVI"]ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

คุณ IWILBVI ลองเข้าไปใส่ตัวเลขในระบบของสรรพากรดูเลย ใส่ให้ครบ จนได้ตัวเลข แต่ไม่ต้องกดยื่นภาษีในขั้นตอนสุดท้าย

ผมจำได้ว่า เคยมีคนลองคำนวนดูแล้ว แม้ว่าฐานภาษีที่ 30%  ก็ยังได้รับประโยชน์จากการขอคืนภาษีอยู่

คุณ IWILBVI ลองเข้าไปใส่ตัวเลขในระบบของสรรพากรดูเลย ใส่ให้ครบ จนได้ตัวเลข แต่ไม่ต้องกดยื่นภาษีในขั้นตอนสุดท้าย

ผมจำได้ว่า เคยมีคนลองคำนวนดูแล้ว แม้ว่าฐานภาษีที่ 30%  ก็ยังได้รับประโยชน์จากการขอคืนภาษีอยู่

ไม่ทราบว่ามี Excel ช่วยคำนวนในส่วนนี้บ้างไหมครับ ถ้าต้องไปที่เวป รบกวนขอLink ด้วยครับ ขอบคุณครับ

[quote="IWILLBEVI"][quote]คุณ IWILBVI ลองเข้าไปใส่ตัวเลขในระบบของสรรพากรดูเลย ใส่ให้ครบ จนได้ตัวเลข แต่ไม่ต้องกดยื่นภาษีในขั้นตอนสุดท้าย

ผมจำได้ว่า เคยมีคนลองคำนวนดูแล้ว แม้ว่าฐานภาษีที่ 30%

Link สำหรับยื่นแบบ http://rdserver.rd.go.th/cgi-bin/main/m ... d_pnd90.pl

คือต้องการจะบอกว่าให้ลองเข้าระบบ ภงด.90 ของสรรพากร แล้วกรอกข้อมูลทุกอย่างให้ครบแล้วไปดูหน้าสรุปภาษี ก็จะรู้เองว่าต้องเสียเพิ่มหรือได้คืน

จากนั้นก็แค่ กด ยกเลิก ออกมา ไม่ต้องไปเสียเวลาทำใน excel แล้วครับ

ขอบคุณทุกท่านมากครับสำหรับข้อมูล

ผมเองยื่นแบบทาง net ไปวันที่ 4 มค 52 โดยไม่ได้รวมเงินปันผลบริษัท
ที่ไม่ได้เครดิตภาษีไปด้วย

ทางสรรพากรก็ขอเอกสารเพิ่มเติมมาทั้งหมด ทั้งหนังสือรับรองรายได้ เงินปัน
ผล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันชีวิต
(ส่วนบริษัทที่ไม่ได้เครดิตภาษีและไม่ได้ยื่น ก็ไม่มีอะไรทักท้วงมาเลยครับ)

ผมก็จัดส่งทาง Fax กว่าจะติดก็ตั้ง 10 รอบ (อิอิ ด้วยความอยากได้ตังค์คืน)
พอวันรุ่งขึ้น(29 มค) ก็ได้รับ SMS แจ้งเตือนว่า เช็คที่รอคอยของคุณ ส่งมา
ให้แย้วนะ ดีใจสุดๆดิครับ เร็วดีเหมือนกันนะ

ปล ที่ช้าจนถึงวันที่ 29 เพราะว่าผมต้องขอให้บริษัทออกเอกสารรับรองรายได้
ให้ กว่าจะได้ก็เกือบ 2 อาทิตย์

tum_H เขียน:ขอบคุณทุกท่านมากครับสำหรับข้อมูล

ผมเองยื่นแบบทาง net ไปวันที่ 4 มค 52 โดยไม่ได้รวมเงินปันผลบริษัท
ที่ไม่ได้เครดิตภาษีไปด้วย

ทางสรรพากรก็ขอเอกสารเพิ่มเติมมาทั้งหมด ทั้งหนังสือรับรองรายได้ เงินปัน
ผล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันชีวิต
(ส่วนบริษัทที่ไม่ได้เครดิตภาษีและไม่ได้ยื่น ก็ไม่มีอะไรทักท้วงมาเลยครับ)

ผมก็จัดส่งทาง Fax กว่าจะติดก็ตั้ง 10 รอบ (อิอิ ด้วยความอยากได้ตังค์คืน)
พอวันรุ่งขึ้น(29 มค) ก็ได้รับ SMS แจ้งเตือนว่า เช็คที่รอคอยของคุณ ส่งมา
ให้แย้วนะ ดีใจสุดๆดิครับ เร็วดีเหมือนกันนะ

ปล ที่ช้าจนถึงวันที่ 29 เพราะว่าผมต้องขอให้บริษัทออกเอกสารรับรองรายได้
ให้ กว่าจะได้ก็เกือบ 2 อาทิตย์

น่าอิจฉามากครับ ของผมยื่นตั้งแต่วันที่ 1 มกรา รอจนเขาขอเอกสาร ก็ mail ไปให้เขาวันที่ 12 มกรา โทรไปเมื่อวันที่ 29 มกรา เจ้าหน้าที่บอกว่ากำลังทำอยู่....