หน้า 2 จากทั้งหมด 2

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 06, 2008 8:37 am
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
ค่าสถิติภาพรวมตลาดที่นำวิธีการใหม่มาคำนวณ จะสามารถสะท้อนมูลค่าภาพรวมตลาดได้ตามแนวทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยค่าพีอี ตามวิธีการคำนวณใหม่ที่นำผลการดำเนินงานของทุกหลักทรัพย์เข้าไปรวมคำนวณด้วย จะทำให้มีค่าพีอี อยู่ที่ประมาณ 15 - 17 ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์ใน เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี เป็นต้น นับเป็นการยกระดับความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ไทยให้เทียบเคียงกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
น่าจะใช้คำว่า นับเป็นการยกระคับความเป็นมาตรฐานสากล มากกว่านะครับ

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 06, 2008 11:03 am
โดย Linzhi
อืมม การพูดถึงว่าตลาดไทยว่ายังถูกอยู่นี่เป็นแพทเทิร์น หรือว่าเพราะอะไรครับ

เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวอีกว่า การบริหารพอร์ตลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ของกบข. ยังคงให้ความระมัดระวังการลงทุน เพราะต้องยอมรับว่าปัญหาซับไพร์มที่เกิดขึ้นในสหรัฐ

ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นโลกมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม  ที่ผ่านมาการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซีย เนื่องจากอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) อยู่ที่ระดับ 11-13 และผลตอบแทนเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 3.5

ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   06/03/08   เวลา   10:07:12

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 06, 2008 4:50 pm
โดย Juninho
ขอบคุณพี่  IH ครับสำหรับความรู้ดี ๆ

ถ้าพี่ IH ได้เข้ามาอ่านอีกอยากถามอีกนิดครับ

ว่า ตอนนั้น พี่ IH ทำอย่างไรครับ

ระหว่างออกจากตลาด หรือว่า
ลงทุนในหุ้น พีอี ต่ำ กิจการดี(ไม่ทราบว่าตอนนั้นยังมีเหลือไหม)

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 06, 2008 4:53 pm
โดย anakinnet
บ้า พูดมาได้ไงแบบนี้ ตลกอ่ะ

"โดยค่าพีอี ตามวิธีการคำนวณใหม่ที่นำผลการดำเนินงานของทุกหลักทรัพย์เข้าไปรวมคำนวณด้วย จะทำให้มีค่าพีอี อยู่ที่ประมาณ 15 - 17 ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์ใน เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี เป็นต้น นับเป็นการยกระดับความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ไทยให้เทียบเคียงกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ"

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 06, 2008 5:41 pm
โดย investment biker
เป็นวิทยาทานแก่คนรุ่นหลัง ๆ ได้ดีมากเลยครับ

ขอบคุณคุณ Invisible Hand มาก ๆ เลยครับผม  :D

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 3:01 am
โดย Ryuga
ขอบคุณพี่ IH มากเลยครับ :o
พี่ IH เขียน:LPN หรือ PS  ที่ว่าขายดีเทน้ำเทท่า    เปิดวันแรกจอง 100%  ผมว่าจำนวน unit ตอนนั้นต้องสู้โครงการแฟล็ตปลาทองกระรัตไม่ได้ครับ   ตอนนั้นเป็นโฆษณาเพลง  โดยใช้นักแสดงตลกชื่อดังๆ   มาร้องเพลงโฆษณา     ดาวน์ก็น้อยผ่อนนิดโอนสิทธิ์โฉนดเอาไปเลยง่ายดาย    ย้า ยา ยา หย่า ยา      จะไปจะไปใกล้หมด  สะดวกมีรถเมล์ผ่าน    มีสระว่ายน้ำและมีสวนหย่อมปลาทองมีพร้อมทุกสิ่ง      เพลงนี้เด็กอนุบาลยังจำไปร้องกันได้เลยครับ       ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าแฟล็ตปลาทองที่ว่านั้นอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยเลยครับ    แต่ได้ยินว่าสร้างเสร็จจนได้ครับ
ชอบจังเลยครับ  :rofl:

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 3:41 am
โดย crazyrisk
เรียนพี่ IH คับ

ตอน p/e ไป 30 เนี่ย

คนส่วนใหญ่ เขาไม่กลัวกันบ้างเหรอคับ

ลงทุนตั้ง สามสิบปีกว่าจะคืนทุน

หรือว่า ตอนนั้น คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก ว่าอะไรคือ

p/e คับ

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 9:21 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เรียนพี่ IH คับ 

ตอน p/e ไป 30 เนี่ย 

คนส่วนใหญ่ เขาไม่กลัวกันบ้างเหรอคับ 

ลงทุนตั้ง สามสิบปีกว่าจะคืนทุน 

หรือว่า ตอนนั้น คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก ว่าอะไรคือ 

p/e คับ
คนส่วนใหญ่คิดว่า p/e ยิ่งสูงยิ่งดีมั๊งครับ k

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 9:39 am
โดย crazyrisk
Jeng เขียน:


คนส่วนใหญ่คิดว่า p/e ยิ่งสูงยิ่งดีมั๊งครับ k
แสดงว่า  คนสมัยนั้นเชื่อว่า  การซื้อ premium ในหุ้นสมัยนั้น

เปรียบเสมือนการลงทุนในบ.ที่มี brand name กันไปหมดเลยสิคับ

แล้วสมัยนั้น มีหุ้น p/e ต่ำๆ  ( น้อยกว่า 8 )  ลงเหลืออยู่บ้างไหมคับ



เพราะว่าหาก  p/e เล่นสูงกันหมด แล้วอันตรายแบบนี้

หุ้นมีแบรนด์แข็งขัน ในอุตสาหกรรม ที่ growth ไม่ได้โตมากรวมไปถึงกำลังถดถอย

ก็ มีโอกาสที่จะเกิดอันตรายไหมคับ....

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 9:49 am
โดย HI.ผมเอง
anakinnet เขียน:บ้า พูดมาได้ไงแบบนี้ ตลกอ่ะ

"โดยค่าพีอี ตามวิธีการคำนวณใหม่ที่นำผลการดำเนินงานของทุกหลักทรัพย์เข้าไปรวมคำนวณด้วย จะทำให้มีค่าพีอี อยู่ที่ประมาณ 15 - 17 ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์ใน เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี เป็นต้น นับเป็นการยกระดับความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ไทยให้เทียบเคียงกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ"
คงหมายถึงระดับความน่าสนใจในการแต่งตัวเข้าตลาดของบมจ.นอกตลาดที่จะเข้ามาในตลาดครับ
เพราะส่วนใหญ่ราคาipoตอนคำนวนจะอ้างถึงpeของsectorในเวลานั้นๆครับ :D

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 10:21 am
โดย @DNA@
อย่าไปติ wording เล็กๆน้อยๆ ระหว่างบรรทัดเหมือนพยายามจับผิดเลยครับ ผมไม่แน่ใจว่าข่าวที่ได้นำมามาจากไหน นักข่าวหลายครั้งเวลาเขียนข่าวเขาไม่ได้มีความรู้จริง คำพูดที่นำมาเขียนก็ไม่ได้ถ่ายทอดทุกคำมา ใช้สรุป ๆ เอาบางทีก็ใส่สีเติมไข่อีก คนเขียนก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เขียนเท่าไร

ผมมีเพื่อนที่ทำงานเป็นนักข่าวอยู่คนครับ มันก็ยังบอกผมเลยว่าต้องแปลงให้คนทั่วไปเข้าใจและอยากอ่าน แต่พออ่านไปมันคนละเรื่องเลยครับ

และถ้าอยากรู้ว่านักข่าวส่วนใหญ่มั่วขนาดไหนลองไปตามงานแถลงข่าวใหญ่ ๆ ดูครับ พวกนักข่าวจะทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนมาก มาถึงไม่ยอมฟังว่าเขาแถลงอะไร บอกแต่ว่าเขาเป็นนักข่าวเวลาไม่มาก รีบให้เขาสัมภาษณ์คนที่เขาอยากสัมภาษณ์แล้วก็หนีกลับ เวลาเขาแถลงข่าวกันก็คุยกันเสียงดัง ไม่สนใจว่าในงานนั้นเขาเน้นอะไรให้เหตุผลอะไร แถมเวลาสรุปออกมามั่วมากๆ

สำหรับผมเวลาอ่านข่าวผมเอาแค่เนื้อหาหลักเท่านั้นแหละครับ

สุดท้ายก็รู้ว่า PE บ้านเราเป็นเท่าไหร่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 11:20 am
โดย econometrica
55 เพิ่งรุ้นะเนี่ยะว่าไทยไม่เอา บ ขาดทุนมารวม ที่จริงก็ได้ยินบ่อยแหล่ะว่าหุ้นไทยpe ต่ำเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่ตอนนั้นคิดว่า "อ่าวถ้ามันถูกจริงทำไมมันไม่ขึ้น(วะ)" ก็เลยไม่เคยสนใจคำพูดนี้