Thai VI

การลงทุนแนวVI(ที่ถูกต้อง) เป็นแบบใหนครับ
และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ลงทุนในตัวเองก่อนสิครับ นี่แหละ VI เลยล่ะ อย่างพี่นริศแนะนำเลยครับ (จองซื้อ DVD )
คิดดีนำมาซึ่งการกระทำที่ดี
การกระทำที่ดีนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี๊ดี :lol:

Ryuga
ลงทุนในตัวเองก่อนสิครับ  นี่แหละ VI เลยล่ะ อย่างพี่นริศแนะนำเลยครับ (จองซื้อ DVD  )
คิดดีนำมาซึ่งการกระทำที่ดี
การกระทำที่ดีนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี๊ดี

รับทราบครับ

----------------------------------------

BHT เขียน:อ่านหนังสือ the intelligent investor ครับ หนังสือที่ถือว่าดีที่สุดในโลกสำหรับผู้ที่คิดจะเป็นนักลงทุน

แล้วจะได้เป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด

ผมเสนอครับว่า ลงทุนแบบอาจารย์นิเวศน์กับพี่ฉัตรชัยครับ
ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดในเมืองไทย

แบบไหนก็ช่างเหอะครับ แบบของตัวเองนั่นแหละดีที่สุด

มัวแต่เลียนแบบคนอื่น เราก็เป็นแบบคนอื่นไม่ได้ พื้นฐานความรู้ ความสนใจ นิสัยไม่เหมือนกัน คนเราจึงออกมาแตกต่างกัน

ผมก็คิดว่าตัวเองเป็น VI นะ (เพื่อเข้าพวกเท่านั้น) แต่การลงทุนก็เป็นไปตามแนวทางของตัวเอง

แม้จะได้กำไรน้อย ผมก็พอใจ แค่ไม่ขาดทุนก็ดีใจแล้ว

อ่านดูความเห็นของท่านอื่นๆ (รวมทั้งในกระทู้อื่น) ก็ไม่เห็นว่าเราจะคิดเหมือนเขา หรือตัดสินใจเหมือนเขาได้เลย

สรุปจาก how buffet does it -ตามรอย วอเร็น บัฟเฟตต์ เขียนโดย james pardoe สนพ.ฟิเดลลิตี้ ซีเอ็ด จัดจำหน่าย

ตามหนังสือ เขาบอกว่า มี 24 ข้อ ผมพยายามสรุปเพื่อเอาไปใช้ได้จริงๆ  ท่านอาจต้องไปสรุปใหม่ให้เหมาะกับตัวเอง

การเลือกหุ้น
1 ฟรานไชส์เศรษฐกิจ มีสิทธิพิเศษ และรับประกันความสำเร็จของธุรกิจ
1.1 ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ จำเป็นหรือตอบสนองความต้องการ (ความโลภ)
1.2 ไม่ต้องการเงินลงทุนที่มากเกินไป
1.3 เป็นผู้นำตลาด และ ไม่มีคู่แข่งที่ใกล้เคียง
1.4 สามารถขึ้นราคาได้อย่างอิสระ (ผลักภาระให้ผู้ซื้อได้)

2 สามารถเข้าใจธุรกิจนั้นได้  มองเห็นอนาคตของตัวธุรกิจ
3 มีประวัติการดำเนินงานที่ดี เป็นระยะเวลายาวนาน
4 ผู้บริหารมีความสามารถ และมีความซื่อสัตย์สุจริต
5 ราคาหุ้นน่าสนใจ

6 จับจ้องมองการบริหาร
6.1 ทีมผู้บริหารทำงานเพื่อผู้ถือหุ้น หรือ เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง
โดยใช้ทรัพยากรของผู้ถือหุ้น เช่น เงินเดือนก้อนโต,โบนัสก้อนใหญ่,สิทธิในการ
ซื้อหุ้น และค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ
6.2 ผู้บริหารใช้งบประมาณของบริษัทอย่างรอบคอบ หรือ ใช้เงินสิ้นเปลือง
6.3 ผู้บริหารทุ่มเทเพื่อเพิ่มมูลค่าของบริษัทให้กับผู้ถือหุ้น และใช้จ่ายเงินลงทุนอย่าง
เหมาะสมหรือไม่
6.4 ผู้บริหารมีโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
6.5 หลีกเลี่ยงการออกหุ้นใหม่ที่จะทำให้มูลค่าของหุ้นลดลง
6.6 ผู้ถือหุ้นถูกปฏิบัติอย่างหุ้นส่วน หรือเป็นเพียงแค่หุ่นไล่กา
6.7 รายงานประจำปีของบริษัทเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา หรือว่า
มีแต่เรื่องไร้สาระ
6.8 ผู้บริหารรายงานข้อมูลทางบัญชีที่ถูกต้อง หรือพยายามปกปิดข้อมูลความเป็นจริง

7 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
8 สร้างผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี ในขณะที่หนี้น้อย หรือไม่มี
9 MARGIN OF SAFETY ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าของธุรกิจนั้นมากๆ
ซื้อหุ้นมูลค่า 1 บาท ในราคา 40 สตางค์
วัตรปฎิบัติ
1 ได้ทำการบ้านมากพอและประเมินบริษัทอย่างละเอียดก่อนที่จะซื้อหุ้นหรือไม่
2 ตรวจสอบราคาหุ้นนานๆครั้ง แล้วไม่สนใจในเสียงรบกวนรายวันและคำพูด
เหลวไหล หรือไม่?
3 ไม่สนใจในหุ้นเด็ด โดยไม่สนใจว่ามันจะมาจากไหนหรือไม่
4 หลีกเลี่ยงการลงทุนตามฝูงชนและแทนที่ด้วยการตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง
(บนพื้นฐานของการคิดอย่างอิสระ)
5 ได้แสดงออกถึงความอดทน โดยการอดทนรอให้บริษัทที่เลือกนั้นบ่มเพาะ
มูลค่าที่แท้จริง
6 ได้หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัท ,ธุรกิจ หรือ อุตสาหกรรมที่ไม่เข้าใจ
7 ได้โจมตี(ซื้อหุ้น) ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังตื่นกลัวและขายหุ้นเมื่อคนอื่นกำลังโลภ
8 ได้จำกัดขอบเขตการลงทุน โดยการเลือกถือหุ้นบริษัทน้อยแห่ง ด้วยวิธีนี้จะไม่
ทำให้ศักยภาพในการทำกำไรลดลง
9 ได้เข้าใจกฎของ นายฉลาด และ MARGIN OF SAFETY
10 ได้อ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารการเงินสำคัญๆ อย่างสม่ำเสมอด้วยความ
หนักแน่นและรอบคอบ
หลักการพื้นฐาน
1 ชอบความเรียบง่ายมากกว่าความซับซ้อน
2 อดทน
3 มีสติ และสามารถควบคุมอารมณ์ได้
4 คิดอย่างอิสระ ไม่ขึ้นกับคนอื่น หรือคนหมู่มาก
5 ไม่สนใจ ไม่วอกแวกจจากภาพรวมภายนอก    (เพราะธุรกิจนั้นเป็นฟรานไชส์)
6 ไม่ลงทุนด้วยสัญชาติญาณ
7 อยู่นิ่งๆ ไม่ซื้อหรือขายมากเกินไป
8 ซื้อหุ้นและถือไปตลอดชีวิต
9 สนใจแต่มูลค่าและผลประกอบการของธุรกิจ ไม่สนใจในราคาหุ้น
10 เป็นนักฉวยโอกาส เมื่อตลาดหุ้นทำอะไรโง่ๆ

สวีทสปอต =ธุรกิจที่ดี ที่มาพร้อมกับกำไรในอนาคตที่เข้มแข็ง
บริหารโดยผู้มีความสามารถและจริยธรรม
ซึ่งหาซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม

ผมจะทำเป็น check list เป็นข้อๆ ในแต่ละข้อว่า ใช่ อาจจะใช่  อาจจะไม่ใช่   ไม่ใช่ (เหมือนตอบแบบสอบถาม)

เวลาจะลงทุนใหม่ หรือคัดเลือกตัวหุ้น หรือเวลาจะ switchหุ้น ก็จะอ่านหลักการพื้นฐาน กับ การคัดเลือกหุ้น
(เหตุที่ switch หุ้น เพราะหาหุ้นที่ครบตามนี้ไม่เจอครับ เจอแต่ที่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆ เมื่อเงื่อนไขในช่วงเวลานั้นเปลี่ยนไป จึงต้องมีการswitch)

เวลาที่สับสนกับตลาด ก็จะอ่าน วัตรปฏิบัติ

เพิ่มเติมอีกนิดครับ
มาจากหนังสือของ ดร.ก้องเกียรติ  เรื่อง หลักการเก็งกำไรของนักลงทุนชาวสวิส

จะเห็นว่า วัตรปฏิบัติ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทน(ผมจึงเรียกว่าวัตรปฏิบัติ) ถ้าอดทนไม่พอ ก็จะหันไปเก็งกำไร ในหนังสือ เขาแนะนำให้ลงทุนในระดับที่ "มีผล" เช่น ถ้าพลาดอาจจะทำให้จ่ายค่าเทอมลูกไม่ได้ จะเป็นการบังคับให้ต้องทำงานหนักก่อนที่จะลงทุน

การลงทุนในแนวทาง vi มีหลักการที่เป็น แก่นแกน ดำรงอยู่จริง แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช่เป็นสูตรตายตัวเหมือนสูตรคณิตศาสตร์ เช่น A2-B2= (A-B)(A+B) เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ใครพบสูตรสำเร็จดังกล่าวแล้ว ก็คงมั่งคั่งแบบไม่มีที่สิ้นสุด หากแต่การลงทุนแนว vi เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง เกรแฮมอาจเป็นบุคคลแรกๆที่นำเสนอแนวทางนี้ บัฟเฟตต์ผู้เป็นลูกศิษย์ก็นำเอา แก่นความรู้ นั้นมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับตัวเอง ดร.นิเวศน์ก็นำหลักการดังกล่าวมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับตัวเองและสถานการณ์ในประเทศไทย บัฟเฟตต์ในอดีตก็อาจแตกต่างกับบัฟเฟตต์ในปัจจุบันบ้างเพราะสิ่งที่เรียกว่า วิวัฒนาการ (สังเกตได้จากที่เขาพูดและคุณพรชัยนำมาถ่ายทอดไว้ในเอกสารประกอบการสัมมนา tvi meeting) ดร.นิเวศน์เมื่อปี 40 กับดร.นิเวศน์ในวันนี้ซึ่งผมติดตามงานเขียนของท่านมาตลอด ก็มีวิวัฒนาการตามประสบการณ์ของท่าน และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึง vi รุ่นพี่หลายท่านไม่ว่าจะเป็นพี่มน พี่วิบูลย์ พี่นริศ พี่ลูกอีสาน ท่านแม่ทัพสุมาอี้ คุณโยโย่ ก็คงจะประยุกต์หลักการของการลงทุนแนว vi  ให้เข้ากับบุคลิก อารมณ์ สถานการณ์และประสบการณ์ของแต่ละคน บทสรุปของผมก็คือ คงไม่มีพี่คนไหนมาบอกสูตรสำเร็จได้ เราคงต้องลงมือศึกษาด้วยการอ่านครับ อ่านให้มากๆ จนความคิดตกผลึก บางครั้งอาจต้องอ่านหลายๆรอบด้วย หนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแนว vi มีมากมาย รวมถึงบทความและความเห็นในเว็บนี้ และการเฝ้าสังเกตรุ่นพี่ที่เขามีมุมมองต่อหุ้นต่างๆอย่างไรในร้อยคนร้อยหุ้น พร้อมกับลองลงมือปฏิบัติ ลองวิเคราะห์ด้วยมุมมองของตัวเองแล้วเข้ามาถามรุ่นพี่ ผมเชื่อว่ามีคนที่มีน้ำใจมากเสมอในเว็บนี้ด้วยวิธีการเช่นนี้เราจะได้คำตอบสำหรับตัวเองครับ ผมเองก็กำลังศึกษา กำลังฝึกหัด และใช้ความพยายามอยู่ ขอให้ผู้ถามประสบความสำเร็จครับ

samart เขียน:การลงทุนในแนวทาง vi มีหลักการที่เป็น แก่นแกน ดำรงอยู่จริง แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช่เป็นสูตรตายตัวเหมือนสูตรคณิตศาสตร์ เช่น A2-B2= (A-B)(A+B)

แก่นแกน หรือ แก่นความรู้ ของ VI คืออะไรครับ
และถ้าเราไม่รู้แก่น แล้วเราจะไปประยุกต์ได้อย่างไร
ผมยังไม่รู้แก่นความรู้นั้น ---- จึงอยากเรียนรู้
หนังสือต่างๆ ประสบการณ์ต่างๆ ที่เขาถ่ายทอดออกมา เขาถ่ายทอดออกมาตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคลเหล่านั้น ซึ่งก็ยังไม่ใช่แก่นอยู่ดี...ถ้าแก่นนั้นมีอยู่ ไม่ว่าเวลาผ่านไป 10 ปี หรือ 100 ปี 200 ปี มันก็ต้องเป็นแก่น ...แก่นไม่ใช่สูตรตายตัว แต่เป็นแนวทางที่ถูกต้อง เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว จนกว่าจะมีข้อพิสูจน์อื่นมาหักล้าง

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านครับ...ผมขอปิดกระทู้ไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ

ลองเล่น asl thl ดูสิครับ
แกะงบให้ดี
แล้วจะรู้ว่าแก่นของ vi คืออะไร

ที่ผมรู้ก็จาก 2 ตัวนี้แหละ

 :o  :o  :o  :o

ผมว่าศึกษาเรื่องพวกนี้ดูจะง่ายกว่านะ

fade
fasion
self justification

แวะมาดู  8)  ...

[quote="CEO"]ผมว่าศึกษาเรื่องพวกนี้ดูจะง่ายกว่านะ

fade
fasion
self justification[/quote

ผมผิดครับ
ตามมาแก้

fashion