Thai VI

เกือบลืม ถ้าคุณขายแล้วหุ้นมันขึ้น อย่ามาโทษผมนะ ผมแนะนำให้ขาย เพราะว่าจิตใจคุณยังไม่พร้อมกับความผันผวนระยะสั้นของราคา ไม่ได้แนะนำให้ขายเพราะว่าบริษัทดีหรือไม่ดี

ที่สำคัญที่สุดคือ คนส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เป็นตัวคุณเองนะครับ ไม่ใช่ใคร

พี่ครับ ผมซื้อเพราะไม่มีเจ้าใหญ่ครับ แต่มันมามีทีหลัง

x-chevy เขียน:พี่ครับ ผมซื้อเพราะไม่มีเจ้าใหญ่ครับ แต่มันมามีทีหลัง

เหตุผลมันฟังดูแปลกๆนะครับ ซื้่อเพราะไม่มีเจ้าใหญ่  คือ ถ้าธุรกิจที่คุณเข้าไปลงทุนมันดีจริงๆ โตขึ้นเรื่อยๆอย่างยั่งยืนจะมีเจ้าใหญ่หรือไม่มี ผมว่าราคากับผลประกอบการ มันก็น่าจะไปด้วยกันนะครับ
ไม่มีใครปล่อยให้กำไรโตวันโตคืนแล้วราคาต่ำลงๆมั้งครับ

สำหรับผม มีเจ้าใหญ่หรือไม่มี ไม่เคยเป็นประเด็นเวลาเลือกหุ้นเลยครับ เพราะ ผมคิดถึงการลงทุนในตัวบริษัทมากกว่ามั้งครับ

x-chevy เขียน:พี่ครับ ผมซื้อเพราะไม่มีเจ้าใหญ่ครับ แต่มันมามีทีหลัง

ผมเดาว่า เดานะครับ ตอนที่คุณ X ซื้อนั่นแหละเจ้ากำลังสิงเต็มตัวเลย เริ่มจะอิ่มแล้วด้วย หลังจากมีคนมาร่วมพิธีเยอะ

งั้นต้องถามว่า ที่คุณซื้อ เพราะคุณมองว่า บริษัทนี้ดี มีอนาคต ราคาหุ้น ณ เวลาที่ซื้อ คุ้มค่าการลงทุน ใช่เปล่าครับ

หรือว่า คุณซื้อเพราะ บทวิเคราะห์บอกว่าดี? หรือคุณรู้สีกว่าดี หรือคุณเห็นว่าช่วงก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นมันเขียวรายวัน เผอิญคุณเจอบทวิเคราะห์ตัวนี้ ก็เลยซื้อซะเลยเพราะกลัวไม่มีหุ้น

จะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ถือซะว่าที่แล้วมาเป็นค่าเล่าเรียนละกัน คุณต้องชั่งน้ำหนักว่า อยากถือต่อ เพราะคิดว่ามันลงมาพอแล้ว (แต่ก็มีโอกาสลงอีก) หรือว่าจะขายออก เพราะคิดว่าตัดสินใจเร็วไปที่ซื้อไม่ดูหน้าดูหลัง หรือคิดจะร่วมเป็นร่วมตายกับหุ้นตัวนี้ มันก็สุดแล้วแต่คุณนะครับ

เพียงแต่เท่าที่เห็น ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่นี่ มองว่าคุณยังไม่พร้อมสำหรับตลาดหุ้น ถอยหลังซักก้าวกลับไปหาความรู้ หรือลองเล่นหุ้นในกระดาษดู อ่านข้อมูลในนี้ไปเรื่อย ๆ เก็บประสบการณ์ ค่อยกลับมาใหม่เมื่อพร้อม ก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอครับ เสียไป 10% เวลาจะเอากลับคืนมาเท่าเดิม มันต้องทำให้ได้ 11-12% นะครับ ถึงจะเท่าทุน

ผมเพิ่งกลับไปดูกราฟของ samart นะ ผมมั่นใจมากเลยว่าคุณเพิ่งซื้อเมื่อวันที่ 5-7 ที่ผ่านมาใช่เปล่าครับ และเหตุผลที่คุณซื้อก็คือ คุณเห็นว่าหุ้นตัวนี้ขึ้นติดกันมาหลายวัน ใช่เปล่าครับ??? ถ้าใช่ละก็ คุณพลาดมหันต์แล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขออภัยด้วยครับ

x-chevy เขียน:พี่ครับ ผมซื้อเพราะไม่มีเจ้าใหญ่ครับ แต่มันมามีทีหลัง

พี่ๆเขาชักออกอาการเหนื่อยแล้วนะคะ สัญญานเตือนเริ่มปรากฏประปราย  :lol:  :lol:  :lol:

แนะนำอีกครั้งค่ะ ลองไปห้องเทคนิค

เพราะ...รู้สึกว่า.....
ทีมคุมห้องเทคนิคเริ่มว่างงานมากแล้ว วววว ววว
(หางานให้พี่ห้องนู้นทำหน่อยค่ะ  :mrgreen: )

จะว่าไปราคาปัจจุบันก็แทบจะ New low ในรอบ 8 เดือนแล้วนะครับ เผอิญผมไม่ได้สนใจตัวนี้ เลยดูแค่กราฟคร่าว ๆ จะซื้อจะเก็บหรือจะขาย ผมว่าคุณไปถามที่ สินธรดีกว่า น่าจะได้คำตอบที่ดี (จริง ๆ)

[quote="007-s"]
ทีมคุมห้องเทคนิคเริ่มว่างงานมากแล้ว วววว ววว
(หางานให้พี่ห้องนู้นทำหน่อยค่ะ

ครับ ผมถือมาเดือนกว่าแล้วครับ ตั้งแต่ยังไม่มีวอลลุ่มเลย

x-chevy เขียน:ครับ ผมถือมาเดือนกว่าแล้วครับ ตั้งแต่ยังไม่มีวอลลุ่มเลย

เอ หรือว่าอยากได้หุ้นที่ไม่มี Volume เหรอครับ ลองซื้อหุ้นที่ติด CM ดูครับ รับรองว่าไม่มีเจ้าืที่ไหนมาปั่นแน่นอนครับ

เข้ามาป่วน    :twisted:  :twisted:  :twisted:

ตัวนี้เพื่อนเราคุณริวกะ น่าจะพอทราบพื้นฐานบ้างนะครับ เห็นเคยพูดถึง


บางทีเราพอเราซื้อหุ้น ก็หวังให้หุ้นขึ้นอย่างเดียว ไม่ได้เผื่อใจว่ามันจะลง ทั้งที่ถ้าระยะสั้นๆความเป็นไปได้ที่จะลงหรือขึ้นมันพอๆกัน

ถ้าถือแล้วมีทุกข์ ก็ปล่อยสิครับ

เหมือนพี่ถือกล่องร้อน ๆเอาไว้ในมือและหาลูกกุญแจไปด้วย ผมว่ามันจะยิ่งลวกมือ และเปิดมันไม่ออก

แค่ปล่อยคนอื่นได้กล่องไป ถ้าเค้าเปิดได้สมบัติ ก็แค่แสดงความยินดีกับเค้า
และผมว่าตอนนี้มันยังไม่ลวกมือพี่เท่าไหร่นะครับ

และอย่าไปหาความทุกข์อีก(ซื้อหุ้นตัวอื่น) หาเหตุและวิธีดับทุกข์ดีกว่า(หาความรู้ และทำตามพี ๆ ในนี้แนะนำ)

ปล ผมห่างจากตัวธุรกิจของ SAMART ครับ imobile, bug อะไรก็ไม่เคยลองใช้บริการ เลยไม่แน่ใจคุณภาพธุรกิจเค้าเท่าไหร่ และอีกอย่างหุ้นที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี หวือหวาครับ ดูคร่าว ๆ ผมว่า margin น้อยเกินไป แต่หาผู้เชี่ยวชาญดีกว่าครับ

ถ้า ซื้อ 8.6 บาท จะตัดขาดทุนก็ได้นี่ ครับ (แต่ถ้าขายแล้วมันขึ้นต่อก็อย่ามาว่าผมนะ) แต่ผมว่าถ้าถือก็ไม่เลวร้ายนะครับ(แต่ถ้าถือแล้วมันลงก็อย่าโทษผมนะ)

ผมว่า ก่อนจะมาลงทุนในตลาดหุ้น ต้องรู้ธรรมชาติของตลาดหุ้นก่อน 2 ข้อ

1) ตลาดหุ้นไม่เคยขอโทษใคร แปลว่า ต่อให้คุณขาดทุนจากหุ้นจนหมดตัว ก้โทษตลาดหุ้นหรือโทษใครไม่ได้

2) ตลาดหุ้นไม่มีคำว่า ถ้ารู้อย่างนี้  เพราะว่า เวลาที่คุณขายมันอาจขึ้นต่อ เวลาที่คุณซื้อมันอาจลงเลย ก็ได้  แทบจะไม่มีใครซื้อต่ำสุดขายสูงสุดได้
ดังนั้น ถ้าอยากเป็นนักลงทุน ควรจะรู้มูลค่าของหุ้นหรือบริษัทที่คุณจะลงทุน แล้วเทียบกับราคา นะครับ

ทุกอย่างต้องตัดสินใจด้วยตนเอง และโทษใครไม่ได้ ครับ

                                                                           ด้วยความปรารถนาดี
                                                                                  ขอให้โชคดีครับ

จริงๆ ซื้อหรือขายนี่ค่อนข้างเป็นเรื่องของความคิดส่วนตัวนะครับ แต่ถ้าถือแล้วไม่สบายใจขนาดหนัก ก็ขายออกมาก็ได้ครับ แล้วก็นั่งศึกษาหุ้นไปเรื่อยๆ มั่นใจแล้วค่อยกลับไปใหม่ อย่าทำอะไรโดยที่ไม่รู้เลยครับ มานั่งถาม คนในนี้ว่าซื้อหรือขายก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่หรอกครับ ถ้าบอกว่าขายแล้วราคามันขึ้นไปจะทำยังไงล่ะครับ ถ้าบอกให้ถือแล้วราคามันตกไปจะเป็นไงล่ะครับ อยู่เฉยๆซักพักนั่งอ่านหนังสือหาความรู้ดีกว่า ลงทุนให้เป็นไม่มีทางลัดหรอกครับ

ขอบคุณทุกคำตอบครับ

คือผมเล่นหุ้นสะเปะสะปะครับ เลยอยากลงทุนในตัวที่พอมีวอลลุ่มบ้าง เผื่อขาย และอยากได้หุ้นที่ราคาเสถียร จะได้หยุดเล่นเสียที ยอมรับอย่างไม่อายครับ เล่นหุ้นมาปีครึ่ง ปีที่แล้วขาดทุนไป280000 ส่วนปีนี้มีกำไร100000บาท ถ้าไม่นับรวมไอ้ตัวปัจจุบัน(ขาดทุนเกือบ30000) พอร์ทผม1200000 ปีนี้(6เดือน)เทรดไป36ล้านบาท เล่นมา40ตัวได้ รู้สึกเหมือนติดการพนันครับ เลยอยากจะเลิกแต่ก็กลัวหุ้นขึ้นครับ จุดประสงค์คือต้องการหุ้นปันผลดีกว่าเงินฝาก ราคาคงที่ไม่ไปไหน ก็เลยเลือกsamartครับ

ทีแรกนั่งดูหลายเดือนย้อนหลัง เทรดวันละเล็กน้อยเท่านั้น พอผมซื้อก็เทรดวันละเล็กน้อย(ซื้อขายกันวันละไม่กี่ล้านบาทเอง) ได้ปันผลมา1รอบครับ แต่มาระยะ2-3สัปดาห็นี้ ไม่รู้ทำไมเล่นกันแรง มีการจัดของมาขาย ซื้อเท่าไรก็ไม่มีหมด บางวันซื้อกันเป็นกว่า100ล้าน แรงซื้อ80% แต่ทำไมราคาลงก็ไม่รู้ครับ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยไม่สบายใจ จึงมาลองถามชาวviเพื่อจะถามข้อมูลของหุ้นตัวนี้ ถ้าไม่ดีก็จะเปลี่ยนถือหุ้นตามสเป็คที่ต้องการครับ โดยรวมปีนี้ยังมีกำไร กะจะขายตัวนี้ไปก่อนแล้วหาซื้อหุ้นที่ต้องการล่ะครับ ซึ่งได้หลายตัวแล้วจากการคุยmsnกับสมาชิกหลายๆท่านในนี้ครับ

x-chevy เขียน: กะจะขายตัวนี้ไปก่อนแล้วหาซื้อหุ้นที่ต้องการล่ะครับ ซึ่งได้หลายตัวแล้วจากการคุยmsnกับสมาชิกหลายๆท่านในนี้ครับ

8) แหะ แหะ คุยได้ ขอข้อมูลได้ แต่อย่าเชื่อนะครับ จนกว่าจะได้ไปทำการบ้านต่อ
จะเป็น vi ต้องขยันเท่านั้น ไม่มีปาฏิหารครับ ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ คุณอาจจะฟลุกได้ครั้งสองครั้ง
แต่ไม่มีทางทำได้ตลอด พลาดหนึ่งครั้งอาจดูไม่จืดครับ

แหะ แหะ ว่าแต่เขาแนะตัวไหนเหลอครับ อยากรู้อ่ะ

ลูกอิสาน เขียน:ตัวนี้เพื่อนเราคุณริวกะ น่าจะพอทราบพื้นฐานบ้างนะครับ เห็นเคยพูดถึง

ใช้สิทธิพาดพิงครับ  ที่จริงถามผมนี่อาจจะผิดคนเพราะอาจทำให้พี่ x-chevy วิตกจริตมากกว่าเดิม  เมื่อก่อนจำได้ว่ามีพี่อีกคน คงจะพี่ TB มั้งครับที่ตามหุ้นทั้งกลุ่มของ samart และก็ถือหุ้นเขาทั้งกลุ่มเลยด้วย ตอนที่ท่านแม่ทัพตั้งกระทู้ SAMART & SIM ก็คงเพราะไม่มีในร้อยคนร้อยหุ้น ตอนนี้ก็ยังไม่มี น่าแปลกใจจัง ไม่มีเจ้าภาพตั้งกระทู้เค้าเลยอ่ะครับ พอตั้งกระทู้เป็นกิจจะลักษณะแล้วเดี๋ยวผู้รู้ก็คงเข้ามา พวกข่าวสารข้อมูลพี่ chartchai madman ต้องรู้แน่เลย

x-chevy เขียน:เล่นหุ้นมาปีครึ่ง ปีที่แล้วขาดทุนไป 280000 ส่วนปีนี้มีกำไร 100000 บาท ถ้าไม่นับรวมไอ้ตัวปัจจุบัน(ขาดทุนเกือบ30000) พอร์ทผม1200000 ปีนี้(6เดือน)เทรดไป36ล้านบาท เล่นมา40ตัวได้ รู้สึกเหมือนติดการพนันครับ

ผมว่าคุณถอยออกมา เอาเงินไปฝากประจำ 3-6 เดือนก่อนดีกว่า (กลัวว่าถ้ายังเทรดอยู่อย่างนี้อาจเหลือไม่กี่แสน) แล้วใช้เวลา 3-6 เดือนนี้ศึกษาการลงทุนในหุ้นให้ดีขึ้นกว่านี้หน่อย (อ่านหนังสือแนว VI หรือการลงทุนในหุ้นเยอะๆ ลองเข้าไปที่ห้อง ร้อยคนร้อยเล่น ดูก็ได้) ถ้าคุณตั้งใจศึกษาเรืองหุ้นอย่างจริงจัง ไม่ใช่คอยแต่ถามหาหุ้นจากคนอื่น หลังจาก 3-6 เดือนแล้วคุณน่าจะลงทุนได้อย่างมั่นใจขึ้น (โดยเฉพาะกับการวิ่งขึ้นลงของราคาหุ้นในระยะสั้นคุณจะไม่ตื่นเต้นมากขนาดนี้)

x-chevy เขียน:(เคยอ่านเมื่อปีที่แล้วครับ และเคยหาเบอร์โทรของพี่มนตรีจนเจอ ได้โทรไปรบกวนพี่เค้า2ครั้ง และไม่เคยมาเว็บนี้อีกเลยเป็นปีครับ)

พูดจริงๆนะครับ ผมว่าคุณมีอนาคตไกลแน่กับการลงทุนแบบเน้นข่าวสาร

ผมเข้า web มาตั้งนาน ยังไม่รู้จะหาเบอร์พี่มนยังงัย จนกว่าจะได้เจอตัวจริง และรู้จักกับผู้กว้างขวางแห่งห้องนั่งเล่นนั่นละ

ถ้าคุณเอาความสามารถตรงนี้ค้นหาหุ้นดีๆ พร้อมข่าวสาร และพื้นฐาน คุณรุ่งแน่ครับ
ฟันธง...    

ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ

อ่านแล้วฮาดีครับ

มีเงินเก็บ เอามาซื้อหุ้นแบบไม่ใช้สมอง บอกว่าอยู่ต่างจังหวัดห่างไกลความเจริญกลัวสู้คนในเมืองไม่ได้ ซื้อหุ้นไปแล้วราคาลงเยอะ ขาดทุนบานเบอะ ทำงัยดี

ถ้าเป็นผมนะ ขายทันทีครับ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินต่อไป แล้วทบทวนตัวเองว่าต้องรู้อะไรเพิ่มเติม ผมรู้แล้วว่าตอนนี้ต้องหาหนังสือด้านการเงิน การลงทุนมาอ่าน หนังสือดีๆมีเยอะ สำนักพิมพ์ wisdom work press มีแต่หนังสือดีๆไปซื้อเลยครับ อ่านแล้วก็ค่อยๆกรั่นกรองว่าจะลงทุนในหุ้นอย่างไรถึงจะมีกำไร สบายใจ

ผมถือหุ้นตัวหนึ่งขาดทุน 50% แต่ผมยังถืออยู่อย่างสบายใจ เพราะผมเข้าใจธุรกิจ แต่ดันซื้อแพงก็เท่านั้นเอง ก็ถือต่อไป ถ้าเจออะไรไม่ดี ก็ขายทันทีครับ ก่อนหน้านี้ก็ขาดทุนไปเยอะกับหุ้นอีกตัวเหมือนกัน

พี่ๆหลายคนในเว็บนี้อยู่ต่างจังหวัดทั่วไทยเลย คุณ x-chevy อยู่จังหวัดไหนครับ เผื่อไปตั้งกลุ่มเล็กๆกับพี่ๆจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

ไอเดียอีกอย่างง่ายๆก็คือ คิดว่าอยากทำธุรกิจอะไรครับ เช่น ชอบทำร้านอาหาร อยากเปิดร้านอาหาร ก็ลองดูสิครับว่าบริษัทในตลาดหุ้น มีตัวไหนทำร้านอาหารบ้าง ร้านไหนขายดี กำไรดี ก็ไปดูเจาะลึก ผมว่าการชอบทำร้านอาหาร จะทำให้เข้าใจธุรกิจนี้ได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ซื้อหุ้นธุรกิจร้านอาหารที่เลือกมาอย่างดีไปเลยครับ ผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เลยถือหุ้นอยู่แค่สองสามตัวเท่านั้น

ผมแนะนำให้อ่าน หนังสือ " จิตวิทยาการลงทุน " ด้วยอีกเล่มนึงนะครับ

แล้วเรื่องซื้อตาม มาร์ ผมว่า อย่างไปฟังเลยครับ ยิ่งเราซื้อคนที่รวยคือ มาร์ครับไม่ใช่เรา ผมก็เคยมีประสบการณ์ซื้อ ตาม มาร์ แล้วมันตก จนผมขายขาดทุนไป 50% ได้ แต่ตอนนั้นซื้อไม่เยอะครับ เลยจำเป็นบทเรียนว่า ซื้อตามมาร์ไปก็ไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้น ถ้าทำให้รวยจริง มาร์เค้าคงเป็นขาใหญ่กันหมดแล้วครับ

เรื่อง SAMART ผมไม่รู้นะครับ ผมเคยคิดจะซื้อตอนปีที่แล้วที่มันราคา 8 บาท แต่ มาร์ผมห้ามเอาไว้บอกว่า หุ้นตัวนี้มีคนคุมครับ ตอนนั้นผมก็มือใหม่ด้วยเชื่อมาร์อย่างเดียวเพราะพี่เค้าก็ทำ มา 20 ปีได้แล้ว น่าจะรู้เยอะครับ แต่เรื่องมีเจ้าจริงหรือเปล่าผมไม่รู้นะครับ

ในความเห็นของผมว่า คุณ น่าจะลงทุนโดยตั้งเป้าไว้ก่อนว่า อยากได้ return ปีหละกี่ % และพยายาม หาหุ้นที่มีโอกาสทำให้ได้ตามเป้า หรือไม่ก็จะเป็นการวิเคราะห์ในตัวธุรกิจ ระยะยาวแบบเราถือไว้ได้นานๆ อันนั้นก็จะดีไปครับเราจะได้ไม่ต้องเครียดมากด้วย แต่ผมเตือนอย่างว่า อย่าโลภมากครับ ยิ่งโลภเราจะยิ่งเสี่ยงแล้วอาจจะเจ๊งก่อนได้นะครับ

สู้ๆครับ

ผมไม่รู้ว่าคุณ X อ่านแล้วเข้าใจคำแนะนำ ของท่านต่างๆที่แนะนำมาแค่ไหน หรืออ่านแล้วแค่รู้แต่อารมณ์ยังไม่พร้อมที่จะทำความเข้าใจ

ลองไปทำความเข้าใจเหตุผลของท่านต่างๆข้างต้น ให้ดีๆก่อนนะครับคำตอบอยู่ในนั้นแล้วจริงๆ

แนะนำว่าอย่าเพิ่งดูราคา ครับ

ใจมันจะสั่นครับ ฝึกวิชาลำบาก

มันแล้วแต่คนละครับ
เพราะทุกคนเข้ามาในการลงทุนตลาดหุ้นนั้น เริ่มกันมาที่เป็นซื้อมาขายไป ขึ้นนิดหน่อยก็ขาย แต่ลงมากก็ถือยาว
กว่าจะรู้สึกตัวได้ ก็เสียค่าครูบาอาจารย์ในตลาดหลักทรัพย์ไปไม่ใช่น้อย

ในส่วนตัวแล้ว ผมก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน แต่ยังดีที่ว่า
ได้คนไกด์ให้หลายต่อหลายคน เช่น พี่มนตรี เฮียคลายเครียดแห่งสินธร พี่นางฟ้าทะเลของสินธร เป็นนต้น
ทำให้ถึงมีได้ทุกวันนี้ครับ

ผมว่าโอกาสทำกำไรปีนึงมีแค่ 2-3 ครั้ง แต่ขาดทุนมีนับไม่ถ้วน ( ประโยคเด็ดจากหนังสือ )
ผมแนะนำหนังสือประเมินมูลค่าหุ้นของท่านแม่ทัพ สุมาอี้

ของเค้าดี  จิง ๆ

ผมแนะนำให้คุณขายออกครึ่งนึงครับ
เพื่อลดความไม่สบายใจ ผมเชื่อว่าจะทำให้สบายใจขึ้น
ยิ่งช่วงนี้ตลาดปรับฐานมา หุ้นที่น่าสนใจหลายตัวราคา
ลงมาพอสมควร การที่คุณขายแล้วมีกระสุนอยู่บ้าง
จะทำให้คุณ มีสติในการตัดสินใจเลือกที่จะซื้อขาย ต่อไปจากนี้
มากขึ้น ลองดูน่ะครับ

8) เห็นแนะนำแต่ทางโลก

    ผมเองเวลาอยากได้สติ มากๆ

    ต้องฝึกสมาธิก่อนครับ

คิดว่ารู้เหตุผลแล้วครับว่าทำไม SAMART จึงขยับลงมาในตอนนี้

บอร์ดทีโอทีขึ้นบัญชีดำ45บ.ทำงานช้า

โดย มติชน วัน เสาร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2550

ดีเดย์1ก.ค.ห้ามเข้าประมูลงานใหม่ เล็งขึ้นเงินเดือนพนง.ตามข้าราชการ

บอร์ดทีโอทีชิงสนองนโยบายตัดหน้า กสท-ไปรษณีย์ เตรียมขึ้นบัญชีดำ 45 บริษัทที่ทำงานช้ากว่ากำหนด ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ พร้อมขึ้นเงินเดือนเอาใจพนักงาน อ้างเหตุขึ้นตามข้าราชการ วอนอย่ามองว่า ได้เงินเดือนสูงกว่ารัฐวิสาหกิจอื่น

นายชิต เหล่าวัฒนา โฆษกคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดที่มี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้เตรียมขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) บริษัทเอกชนที่เข้าประมูลงานของทีโอที แล้วไม่สามารถดำเนินงานได้สำเร็จตามที่กำหนด ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าบริษัทที่เข้าข่ายดำเนินงานล่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญา มีทั้งหมด 45 บริษัท รวม 69 สัญญา แต่ละสัญญามีมูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านบาท จนถึง 2,000 ล้านบาท โดยมติดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

การขึ้นแบล็คลิสต์บริษัทเอกชนดังกล่าว จะเป็นการขึ้นบัญชีเฉพาะภายในหน่วยงานของ ทีโอที เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ เพราะต้องการให้การดำเนินโครงการของทีโอที เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในระหว่างนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ บริษัททั้งหมดยังสามารถเข้าร่วมประกวดราคาในโครงการต่างๆ ได้ แต่หลังจากครบกำหนดแล้วบริษัทไหนยังไม่สามารถดำเนินงานได้สำเร็จตามที่กำหนด ก็จะไม่ได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมประมูลงาน จนกว่าโครงการนั้นๆ จะดำเนินการได้แล้วเสร็จ จึงจะได้รับสิทธิเข้าประมูลงานตามปกติ

อย่างไรก็ตาม การขึ้นแบล็คลิสต์เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามนโยบายของนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ที่ได้ส่งหนังสือมายัง ทีโอที ให้ดำเนินการ เพราะเห็นว่าหากปล่อยให้บริษัทเอกชนที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ ทีโอที ได้ ซึ่งทีโอทีมีมติก่อนบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ยังไม่มีความคืบหน้าในการแบล็คลิสต์บริษัทเอกชนที่ทำงานล่าช้า

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับรายชื่อบริษัทที่ ทีโอที ขึ้นบัญชีไว้ มีดังนี้ บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็ม จำกัด (มหาชน) กิจการร่วมค้าซีเมนส์-ไทมาร์ก บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็นอีซี คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด บริษัท ทีทีแอนด์ที ซัพสครายเบอร์ จำกัด เป็นต้น