รถอเนกประสงค์เดือดค่ายรถแห่เปิดตัวตรึม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 สิงหาคม 2550 11:14 น.
ข่าวในประเทศ - บรรดาค่ายรถยนต์หน้าใหม่-เก่า ทยอยเปิดตัวรถอเนกประสงค์ ทั้งแบบเอสยูวีและพีพีวีท้าชนกันอย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่โฉมใหม่ของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ตามมาด้วยน้องใหม่ เชฟโรเลต แคปติวา ที่ค่อยๆ เรียกกระแสจากเครื่องยนต์เบนซิน แล้วมาล่าสุดกำลังจะส่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ช่วยเติมกำลังรบให้เต็มรูปแบบ จนยักษ์ใหญ่โตโยต้าทนไม่ได้ ต้องส่งรถอเนกประสงค์ประเภทพีพีวี หรือเอสยูวีพันธุ์ทาง ฟอร์จูนเนอร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 2.7 ลิตร มาเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ส่งผลให้การแข่งขันของรถอเนกประสงค์ในไทยร้อนแรงขึ้นมาทันที แม้ปริมาณตลาดจะไม่หวือหวาเหมือนในอดีต เท่านั้นไม่พอภายในสิ้นปี ฟอร์ด เอสเคป ใหม่ น่าจะเติมความดุเดือดเข้าไปอีก เมื่อประธานฟอร์ด ประเทศไทย แย้มออกมาว่าเร็วๆ นี้ได้เจอกันแน่ แต่ที่โหมโรงล่วงหน้าเห็นจะเป็นค่าย ฮุนได ที่ประกาศหวนตลาดรถไทย ด้วยการชูเอสยูวีรุ่น ซานตาเฟ่ เป็น 1 ใน 3 รถธงหวังกู้ชีพในไทยช่วงปลายปีนี้ ส่วนอีกค่ายที่จองคิวออกมาแล้วเช่นกัน มิตซูบิชิ ที่เตรียมจะส่งพีพีวีรุ่นใหม่ ซึ่งพัฒนามาจากปิกอัพไทรทัน เพื่อทำตลาดแทนรุ่นจี-แวกอนในช่วงไตรมาสสามปีหน้า
ว่าที่ ฟอร์ด เอสแคป ใหม่ในเมืองไทย
รถยนต์อเนกประสงค์แบบเอสยูวี (SUV: Sport Utility Vehicle) แม้ปัจจุบันจะไม่ได้หวือหวาเหมือนกับเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ชื่นชอบในสมรรถนะ และความอเนกประสงค์ของรถประเภทนี้อยู่ เหตุนี้จึงยังมีเอสยูวีรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า ซีอาร์- วี โฉมใหม่ เมื่อปลายปีที่แล้ว และมาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จีเอ็ม ส่ง เชฟโรเลต แคปติวา สู่ตลาดอย่างเป็นทางการ
ล่าสุดก็จะมีเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2000 ซีซี ฝาสูบเดี่ยว SOHC 16 วาล์ว 1,991 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศ เทอร์โบ ชาร์เจอร์ แบบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ 320 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที แนะนำสู่ตลาด ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD (All Wheel Drive) เคาะราคา 1.27-1.56 ล้านบาท ตามลำดับ
เท่านั้นไม่พอการขยับตัวของเหล่าเอสยูวีพันธุ์แท้ ยังทำให้เอสยูวีพันธุ์ทางอย่าง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่พัฒนามาจากพื้นฐานปิกอัพ หรือที่เรียกว่า พีพีวี (PPV : Pick-Up Passenger Car ) ต้องขยับรับมือบ้าง แม้จะไม่ใช่คู่แข่งกันโดยตรง แต่ก็มีลูกค้าบางส่วนที่คาบเกี่ยวกัน เพราะด้วยลักษณะการใช้งานแล้วแทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก
เหตุนี้โตโยต้าจึงทำการเปิดตัว ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์เบนซิน 2700 ซีซี VVT-i เกียร์อัตโนมัติเข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า จากเดิมที่มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งลูกค้าบางคนชื่นชอบอรรถประโยชน์ในการใช้สอยของรถยนต์รุ่นนี้ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้สมรรถนะการขับเคลื่อนในแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ที่แนะนำสู่ตลาดจึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าดังกล่าวได้ ในราคาเพียง 1.096 ล้านบาท
นั่นคือความเคลื่อนไหวบรรดารถอเนกประสงค์ที่ได้โชว์ตัวกันไปแล้ว และก็ทำให้ตลาดกลับมาคึกคักพอสมควร แต่ก็ยังมีบางยี่ห้อที่โหมโรงประโคมข่าวออกมาแล้ว ก่อนที่จะเปิดตัวทำตลาดจริงช่วงปลายปีนี้ นั่นก็คือ ฮุนได ซานตาเฟ่ รถยนต์ 1 ใน 3 รุ่น ที่จะชี้ชะตาว่า แบรนด์ฮุนไดจะฟื้นชีพในตลาดไทยได้หรือไม่?
ฮุนได ซานตาเฟ จริงๆ แล้วไม่ใช่รถใหม่ในตลาดไทย เพราะสมัยที่กลุ่มพระนครยนตรการเป็นผู้แทนจำหน่าย ได้เคยนำเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว แต่ที่สุดก็หายไปจากตลาด เมื่อกลุ่มพระนครยนตรการยุติบทบาทการเป็นผู้แทนจำหน่ายฮุนไดในไทย
ฮุนได ซานตาเฟ่ พบกันแน่ปลายปีนี้
ส่วนฮุนได ซานตาเฟ รุ่นที่จะนำเข้ามาทำตลาดปลายปีนี้ ภายใต้การทำตลาดของกลุ่มโซจิทสึ ในนามฮุนได ไทยแลนด์ เป็นเวอร์ชั่นสายพันธุ์ที่ 2 ซึ่งได้ทยอยแนะนำสู่ตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกาเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยพัฒนามาจากพื้นฐานเดียวกับรุ่นโซนาต้า รูปลักษณ์ภายนอกดูดุดัน แต่ก็ล้ำสมัยสามารถดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรา แต่ก็เพียบพร้อมด้วยความอเนกประสงค์สไตล์เอสยูวีทั่วไป ซึ่งรุ่นมาตรฐานจะมากับเบาะนั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง
เครื่องยนต์มีให้เลือกหลักๆ เป็นบล็อกเบนซินรุ่น วี6 ทวินแคม 24 วาล์ว 2700 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VTC ให้กำลังสูงสุด 189 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และน่าจะเป็นรุ่นที่จะเปิดตัวในไทย แต่ในยุโรปจะมีรุ่นเทอร์โบดีเซลแบบคอมมอนเรล CRDi บล็อก 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบมีครีบแปรผัน (VGT) ขนาด 2200 ซีซี 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที มาเป็นอีกทางเลือก
แน่นอนความเคลื่อนไหวในการเปิดตัวเอสยูวีสู่ตลาดของแต่ละค่าย ได้สร้างความกดดันให้กับ ฟอร์ด เอสเคป รถเอสยูวีที่ทำตลาดในไทยมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ถือว่า มียอดขายเป็นกอบเป็นกำพอสมควร ฉะนั้นฟอร์ดคงไม่ยอมปล่อยให้คู่แข่งคว้าพุงปลาไปกินแต่เพียงฝ่ายเดียว ที่สำคัญโฉมใหม่ของ ฟอร์ด เอสเคป หรือเวอร์ชั่น 2008 ก็ได้เปิดตัวทำตลาดในสหรัฐอเมริกาไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง
ส่วนเมืองไทยคาดว่าอีกไม่นาน หรืออย่างช้าไม่เกินสิ้นปีนี้ น่าจะแนะนำสู่ตลาดเช่นกัน เพราะประธานฟอร์ด ประเทศไทย ทอม บริวเออร์ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงแผนรับมือเชฟโรเลต แคปติวา ตั้งแต่เมื่อคราวเปิดงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2007 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า อีกไม่นานจะเปิดตัว ฟอร์ด เอสเคป โฉมใหม่ เพียงแต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอการเปิดตัวจริงอย่างเป็นทางการเสียก่อน
สำหรับฟอร์ด เอสเคป ใหม่ ที่ได้แนะนำสู่สหรัฐอเมริกา จากการเปิดเผยของฟอร์ด มอเตอร์ บอกว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของสายพันธุ์เอสเคป โดยเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ บนพื้นฐานทางโครงสร้างตัวถังหลักและวิศวกรรม ร่วมกับรุ่นเดิมที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2001
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เส้นสายบนโครงสร้างตัวถังหลักของเอสเคปใหม่ จะเหมือนกับรุ่นเดิมอย่างชัดเจน แต่ว่ามีการเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าและหลังใหม่หลายจุด โดยเฉพาะด้านหน้ามีการปรับรูปลักษณ์ให้มีความบึกบึน และดุดันตามสไตล์ของฟอร์ด ซึ่งมีความโดดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าทรงตั้งสูง ขณะที่ภายในห้องโดยสารน่าจะเป็นส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า พลิกโฉมจากของเดิม เพราะได้มีการออกแบบแผงหน้าปัด และแผงมาตรวัดใหม่หมด
เครื่องยนต์ที่วางมาใน ฟอร์ด เอสเคป ใหม่ ยังเหมือนเดิมมีให้ 3 ทางเลือก แบ่งเป็นเบนซิน 4 สูบ 2300 ซีซี 153 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.9 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ตามด้วยเครื่องยนต์ วี6 ทวินแคม 24 วาล์ว 3000 ซีซี 200 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 26.6 กก.-ม. ที่ 4,850 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ซึ่งจะเป็นตัวหลักทำตลาดในไทย
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เปิดตัวออกมาในช่วงเวลาที่ตลาดเอสยูวีกำลังพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
ส่วนสุดท้ายเป็นเครื่องไฮบริดแบบ Fully Hybrid ที่ในบางช่วงจังหวะมอเตอร์ไฟฟ้า 70 กิโลวัตต์ที่ 3,000 รอบ/นาทีสามารถขับเคลื่อนแบบเดี่ยวๆ ได้ ส่วนตัวเครื่องยนต์ของระบบเป็นบล็อก 2300 ซีซี ที่ถูกปรับลดกำลังลงเหลือ 133 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 17.1 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT โดยเครื่องยนต์ไฮบริดนี้ไม่น่าจะทำตลาดในไทย ตราบใดที่ยังไม่ลดภาษีนำเข้าให้กับรถยนต์พลังงานทดแทน
ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเอสยูวีพันธุ์ทางของค่าย มิตซูบิชิ ที่ได้จองคิวเตรียมส่งรถอเนกประสงค์แบบพีพีวีรุ่นใหม่ลงบุกตลาดเช่นกัน โดยเป็นการเปิดเผยจาก มิจิโร่ อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่แย้มออกมาว่า ในช่วงไตรมาสสามปีหน้า จะมีการแนะนำรถยนต์อเนกประสงค์พีพีวีรุ่นใหม่สู่ตลาด ซึ่งจะมาแทนรุ่นจี-แวกอนที่หยุดทำตลาดไป
ทั้งนี้ ผู้จัดการายวัน ได้รายงานไปแล้วว่า พีพีวีรุ่นใหม่ของมิตซูบิชิ มีรหัสเรียกในหมู่ซัพพลายเออร์ว่า 3E45 ซึ่งจะขึ้นไลน์ผลิตในช่วงต้นปีหน้า แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ออกมา และรถยังอยู่ในช่วงของการทดลองผลิต แต่แน่นอนว่าต้องพัฒนามาจากพื้นฐานของปิกอัพรุ่นไทรทัน ตามนิยามของรถพีพีวี จึงจะได้อัตราภาษีพิเศษตามข้อกำหนดของกรมสรรพสามิต
เชฟโรเลต แคปติวา น้องใหม่ล่าสุดของวงการเอสยูวีในเมืองไทย มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ เบนซินและดีเซล
ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นจุดขายหลักของรถประเภทนี้ ด้านหน้าคงไม่หนีจากไทรทันมากนัก และที่ดูใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็นเอสยูวีรุ่น เอาต์แลนเดอร์ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะที่ห้องโดยภายในคงต้องยึดแบบมาจากปิกอัพไทรทันเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่จะต้องปรับเบาะนั่งข้างหลัง ให้มีความอเนกประสงค์เป็นรถ 7 ที่นั่งแทน
ในส่วนของเครื่องยนต์แน่นอนคงต้องยืนพื้นทำตลาดกับบล็อก 3.2 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 140 แรงม้า ส่วนจะมีรุ่น 2.5 DI-D เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 140 แรงม้า เสริมหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป เช่นเดียวกับรูปร่างหน้าตาที่ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ระบุได้แน่ๆ และปรากฏออกมาแล้ว นั่นก็คือตลาดรถอเนกประสงค์ ทั้งแบบเอสยูวีและพีพีวี แม้จะไม่มีปริมาณมากมายนัก แต่ค่ายรถก็เตรียมส่งรถรุ่นใหม่ จ่อคิวบุกตลาดลากยาวไปจนถึงปีหน้าโน้น!!
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewN ... 0000092840