Thai VI

Boring Stock Lover เขียน:ขอบคุณครับ

ตอนนี้เริ่มงงๆหลายอย่าง อย่าง AOT ที่ทางบอร์ดออกมาสั่งให้ดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้

เริ่มงงๆว่า
-. เป็นหน้าที่ที่ควรจะเป็นหรือไม่
-. เกิดตัดสินใจแล้ว ทางผู้บริหารนำไปปฏิบัติตาม เกิดผลเสียขึ้นมา ใครเป็นผู้รับผิด

ในแง่กฏหมายนะคะ ผู้บริหารทำตามคำสั่งคณะกรรมการ ยังไงๆก็ผูกพันบริษัท
แต่เรื่องการใช้อำนาจของคณะกรรมการนี่ แล้วแต่คะ ขออนุญาตไม่มีความเห็น
แต่ในทางกฏหมาย การตัดสินใจของคณะกรรมการมีผลผูกพันบริษัทเสมอคะ

อย่างถ้ากรรมการตัดสินใจอะรไปแล้วขาดทุน สมมตินะคะ อย่างเรื่องให้ใช้ดอนเมือง สมมติว่าขาดทุน ผลขาดทุนนี่ก็เป็นเรื่องของบริษัท กรรมการจะต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวต่อเมื่อกรรมการไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือไม่ได้ใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจ

อิอิ เดี๋ยวเขียนหนังสือเรื่องความรับผิดกรรมการกะสิทธิผู้ถือหุ้นขายดีกว่าคะ คนงงตรงนี้กันเยอะ แม้แต่นักกฏหมายเอง

เท่าที่เคยได้คุยกะ ดร. มา(แต่ท่านคงจำผมไม่ได้หรอก)ผมว่าท่านเป็นคนดีคนนึงครับ อย่างน้อยๆ ท่านก็ไปวัด ไปโบสถ์ทุกเกือบอาทิตย์ คนที่ว่าท่านนะถามจิงปีๆนึงไปวัดกี่ครั้ง

ในแง่กฏหมายนะคะ ผู้บริหารทำตามคำสั่งคณะกรรมการ ยังไงๆก็ผูกพันบริษัท
แต่เรื่องการใช้อำนาจของคณะกรรมการนี่ แล้วแต่คะ ขออนุญาตไม่มีความเห็น
แต่ในทางกฏหมาย การตัดสินใจของคณะกรรมการมีผลผูกพันบริษัทเสมอคะ

อย่างถ้ากรรมการตัดสินใจอะรไปแล้วขาดทุน สมมตินะคะ อย่างเรื่องให้ใช้ดอนเมือง สมมติว่าขาดทุน ผลขาดทุนนี่ก็เป็นเรื่องของบริษัท กรรมการจะต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวต่อเมื่อกรรมการไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือไม่ได้ใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจ

อิอิ เดี๋ยวเขียนหนังสือเรื่องความรับผิดกรรมการกะสิทธิผู้ถือหุ้นขายดีกว่าคะ คนงงตรงนี้กันเยอะ แม้แต่นักกฏหมายเอง

เรื่องการใช้อำนาจคงไม่อยู่ในมุมของกม. ผมมองด้วยสายตาของคนนอกที่ถือหุ้นแล้ว บอร์ดบริษัททำหน้าที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็นมา ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อดีหรือไม่ดี ปกติที่เห็นมาทีมผู้บริหารจะเป็นผู้นำเสนอแผนงานทิศทาง บอร์ดเป็นผู้กลั่นกรอง อนุมัติ ติดตาม ประเมินผล ในทางปฏิบัติบอร์ดและผู้บริหารมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนอยู่ระดับหนึ่งในเรื่องทิศทางและกรอบใหญ่ๆ

แต่การที่บอร์ดเริ่มลงมาสั่งตรงในทางปฏิบัติ ซึ่งอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่ผมเริ่มหวั่นไหวว่าผู้บริหารไม่มีฝีมือ และองค์กรนี้คงจะเจอกับ too many bosses

ผมไม่มีหุ้น AOT นะครับ

เรื่องหนังสือ เห็นด้วยครับ ลองดูเรื่องความรับผิดทางกม.สำหรับคนที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวด้วยก็ดี

ขอบคุณอีกครั้ง

เขาถึงบอกว่า VI ต้องดูธรรมาภิบาลบวกฝีมือผู้บริหารด้วยไงคะ

รู้สึกว่าท่านเคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเล่นหุ้นเอง เจ๊งทุกที คิดว่าคงเล่นเองไม่รุ่งก็เลยใช้บริการกองทุนรวมเอา พอร์ตส่วนตัวก็คงเหลืออยู่แต่ไม่รู้ว่าใหญ่ขนาดไหน :lol:

ไปๆ มาๆ หลุดจากเจ้าของกระทู้ไปเยอะเลย  :lol:

เท่าที่ผมทราบนะครับ ในสมัยก่อนดร.ซื้อกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ และที่ลงทุนในหุ้นของทหารไทย พอช่วงไหนหุ้นขึ้น ก็ย้ายเงินไปกองทุนห้น ช่วงไหนหุ้นไม่ดีก็ย้ายไปกองทุนตราสารหนี้ ทำอย่างนี้อยู่หลายปี

ได้ยินดร.พูดให้ฟัง อาจจะมีอย่างอื่นอีก ไม่รู้เหมือนกัน

เคยพบตัวจริง ท่านใจดีมาก
อารมณ์ดี ดูมีความสุขกับ ชีวิต

เเต่คิดว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่ได้มาจาก การทำงาน
ด้านกฎหมาย มา ก่อน ไม่ได้ มาจากการลงทุน

ท่านเคยเเนะนำให้ซื้อ ทอง เเท่ง  ว่างๆ ก็หยิบ ทอง มาดูเล่น จะมีความสุข


เสาร์ อาทิตย์ เช้าๆ ก็ จะ ขับ รถ สปอร์ต เล่น บนทางด่วน
เเกขับ อยู่ดีๆ มีรถ มาขับไล่ ท่านก็ขับ เเซง ทิ้งไปเลยยยยยย


คนฟัง ฟัง เเล้วได่เเต่ อิจฉา ตาร้อนนนนนน
8)  8)  8)

ดร คนนี้ ตอนทำหน้าที่เป็นโฆษกแถลงข่าวเรื่องการขายชินคอป บอกว่าตัวเองเป็นที่ปรึกษาด้านกฏหมายของครอบครัวชินวัตรนานนับสิบๆปีมาแล้ว และตอบคำถามนักข่าวว่า ขายหุ้นคราวนี้ไม่ต้องเสียภาษี

...........ต่อมา

ทักษิณถูกโค่นและถูกดำเนินคดีหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องเลี่ยงภาษี ทีนี้ ดร คนนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที บอกว่า ตัวเองแค่รับจ้างแถลงข่าวชั่วคราว ที่บอกว่าไม่เสียภาษีเป็นการพูดตามคำสั่งเท่านั้น........

อ้าว...........ไงเป็นสะอย่างงี้...จริยธรรม ธรรมภิบาลหายไปไหนหมด ตัวเองถึงขนาดเป็น ดร ใครเอาเงินจ้างให้พูดอะไรก็พูดงั้นหรอ โดยไม่คำนึกถึงถูกผิดและข้อเท็จจริงเลยหรือยัง...............

***************************

อนึ่ง........การเข้าวัดเข้าโบสบ่อยไม่ได้บ่งชี้ว่าคนนั้นเป็นคนดี บอกได้เพียงอย่างเดียวว่าเขานับถือศาสนานั้นเคร่งครัดเท่านั้น บางครั้งก็เป็นการสร้างภาพ.............นักการเมืองที่ฉ้อโกงของไทยไม่มีคนไหนไม่เข้าวัด ............