นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"

[เพื่อน]

กลุ่มวัสดุนี่ มีอีกตัวที่น่าจะได้กำไรเพิ่มนะครับ

TCMC อุตสาหกรรมพรมไทย (ไทปิง)
รับออร์เดอร์แถบMiddle East เยอะมาก โดยเฉพาะทางดูไบ
ได้ข่าวว่าผลิตไม่ทันครับ เพราะไปเปิดตลาดที่นั่น

แต่ราคาหุ้นกับพฤติกรรมการซื้อขายและการงดจ่ายปันผล ทำให้ไม่น่าสนใจซื้อเลยครับ ช่วงนี้คงขอดูไปเรื่อยๆก่อน

[คนขายของ]

เรื่องของ TCMC ผมก็ว่าคล้ายคุณเพื่อนครับ ดูดีขึ้นหลังจากหาผู้ร่วมทุนได้

แม้งบการเงินจะดูอ่อนแอไปหน่อย ถ้ามีพัฒนาการให้เห็นสัก 2-3 ไตรมาส

น่าจะสร้างความมั่นใจได้ดีขึ้นครับ

วันนี้มาอีกตัวครับ PAP

ประกาศออกมาโตขึ้น รู้สึกว่าเป็นตัวแรกใน CONMAT นะครับที่โตขึ้น

2006 Profit = -4,871,000 EPS = -0.04
2007 Profit = 36,763,000 EPS = 0.28

แต่เห็นทางบริษัทเขาแจ้งว่า....

"เนื่องจากภาวะราคาเหล็กในตลาดโลกช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2550
มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาขายภายในประเทศปรับราคาเพิ่มขึ้นในขณะที่บริษัทมีวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำอยู่"

เออว่าแต่มี สต็อกเก่าอยู่เยอะไหมครับนี่ เราจะดูจากงบการเงินได้ไหมครับ[/b]

[คนขายของ]

ดูเรื่อง PAP ต่อนิดนึงครับ เห็นว่างบเริ่มมีหนี้ระยะยาวเข้ามาแล้วนะครับ

เริ่มเมื่อ Q1 นี่เพิ่มขึ้นมา 123 ล้านบาท เห็น สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นนะครับ

จาก 949 ล้านเมื่อปลายปีที่แล้วมาเป็น 1,062 ในปลายไตรมาสนี้

สินค้าคงเหลือสี่ไตรมาสย้อนหลัง ประมาณ 968 ล้านบาทครับ

เออ...นี่กู้หนี้ระยะยาวมาออกของก่อนหรือเปล่าครับนี่ ผมว่าตัวนี้นี่ถ้ารักจริง

ต้องตามราคาเหล็กโลกใกล้ชิดเลยครับ

[คนขายของ]

ตอนนี้ก็คงจะทราบผลของกลุ่มวัสดุแล้วนะครับว่าใครเป็นอย่างไร

หุ้นที่นั่งร่อน เหลือไว้ 3 ตัวตอนก่อนผลประกอบการ Q1 ประกาศ 3 ตัวคือ

DRT, MCS และ PAP ปรากฎว่า เพิ่มขึ้นสองตัว และ ลดลงหนึ่งตัวโดยสรุปเป็นดังนี้ครับ

DRT  Profit 07Q1 = 107.9 Profit 06Q1 = 77.8 Chnage +39%
MCS Profit 07Q1 = 34.3 Profit 06Q1 = 89.3 Change -62%
PAP  Profit 07Q1 = 36.7 Profit 0Q1 = -4.80 Change หลายเปอร์เซ็น

โดยรวมแล้วกลุ่มวัสดุ ยังมีหุ้นที่กำไรโตใน 07Q1 เรียงจากน้อยไปมากมีดังนี้
(หมายเหตุ : ตัวเลขแสดงการเปลี่ยนแปลงของกำไร ไม่ใช่กำไรต่อหุ้น)

1) PAP หลายเปอร์เซ็น
2) TASCO 56%
3) VNG 47%
4) DRT 39%
5) EWC 1%

ในกลุ่มวัสดุแยกคร่าวๆ โดยประเภทวัสดุ ได้ดังนี้

1) อิฐ และ วัสดุผสมคอนกรีต
CCP -5 ล้าน, QCON -21 ล้าน, SUPER -27 ล้าน ขาดทุนหมด
มีกำไรสองตัวคือ DCON แต่กำไรลดลง 33% SCP กำไรลด 43%

2) กระเบื้อง
ปูพื้น และ ผนัง DCC กำไรลด 11% RCI กำไรลด 80%
TGCI ขาดทุน 169 ล้าน และ UMI ขาดทุน 55 ล้าน โดยขาดทุนเพิ่มขึ้นทั้งคู่

ปูหลังคา DRT เป็นดังที่กล่าวมาแล้ว

3) เหล็ก และ ท่อ
BSBM -33%
KWH จาก กำไร 15 ล้านเป็นขาดทุน 1.8 ล้าน
MCS -62%
TSTH -45%
PAP จากขาดทุน 4.8 เป็นกำไร 36.7 ล้าน
RICH -87%
SAM จากกำไร 9.7 ล้าน เป็นขาดทุน 54 ล้าน
STPI -87

ยังไงก็อย่าลืมศึกษาประวัติผู้บริหาร พื้นฐานกิจการ และ ลักษณะการประกอบกิจการ ก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี  :D  :D  :D

[คนขายของ]

แต่รู้สึกว่าถ้าดูจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการใน 07Q1 แล้ว

ที่ร่อนมา 3 ตัวนั้น มีที่เพิ่มขึ้นแค่ตัวเดียวเองครับ  :D  :D  :D

[Oatarm]

ไม่มี comment เรื่อง MDF กับ ปาร์ติเกิลบอร์ด บ้างหรือ  ปีนี้ขยายกำลังการ

ผลิตแล้ว  ราคาก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะ MDF  ส่วนปาร์ติเกิล ก็ดีขึ้น แต่

เหมือนกับนักลงทุนยังไม่มั่นใจ  ปันผลของ VNG  ก็ โอเค นะ ประมาณ

5.xx%

[คนขายของ]

ในส่วนของ VNG นี่ผมว่าตอนนี้ดูดีเหมือนกันครับ วอลุ่มเข้า Broke เชียร์กัน

มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วได้ ผลประกอบการไตรมาส 1 เข้าตากรรมการ

เป็นอย่างมาก วอลุ่มเมื่อ 22 พค สูงถึง 45 ล้านบาท ทั้งที่ปกติเทรดกัน ล้าน

สองล้านครับ วันนี้ วันที่ 23 วอลุ่มก็ยังโตที่ 15 ล้าน

โรงงาน MDF เพิ่งเสร็จหมาดๆปลายปีที่แล้ว ราคาในตลาดโลก

เป็นขาขึ้น ส่งออกในเอเซีย กับ ยุโรปซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้รับผลจากการที่

Dollar อ่อนค่า และ บาทแข็งค่า เพราะสกุลเงินคู่ค้าแข็งตามไปด้วยเช่นกัน

โชคสองชั้นในไตรมาสที่ผ่านมาเพราะ ไม้ยางเป็นขาลง ทำให้ซื้อวัตถุดิบ

ได้ถูกลง ข้อกังวลใจสำหรับตัวนี้คือ ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ราคาไม้

ยางจะสูงหรือต่ำดำขาวประการใด Demand ในตลาดโลก ไม่รู้ว่าไตรมาส

ต่อๆไปจะเป็นอย่างไรครับ

ผมว่าใน web นี้มีผู้รู้เรื่องไม้ยาง และ MDF + ปาติเกิ้ลบอร์ด มากมาย คงมี

บางท่านที่สามารถทำกำไรจากตัวนี้ได้ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นคุณ เสก

ส่วนผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ครับ ขอเอาใจช่วยอยู่ห่างๆแล้วกันครับ

[Oatarm]

ข้อกังวลใจสำหรับตัวนี้คือ ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ราคาไม้

ยางจะสูงหรือต่ำดำขาวประการใด Demand ในตลาดโลก ไม่รู้ว่าไตรมาส

ต่อๆไปจะเป็นอย่างไรครับ

 แทนคำอธิบายการเคลื่อนไหวของราคา VNG ได้อย่างตรงประเด็น ..

ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อน  ทำสวนยางอยู่แถว  อ.วังจันทร์  ระยอง  ราคายางยังคงสูง  ถามถึงไม้ยางได้ความว่ามีบริษัทมาแย่งกันรับซื้อ  แต่ไม่ได้ถามราคาปีนี้ว่าไร่ละเท่าไร  ปีก่อนจำได้ว่า ไร่ละ 50000 บ.

 ปลูกยางเดี๋ยวนี้ปลูกกันทั่วประเทศกันแล้วทั้ง เหนือ อิสาน   (ว่ามาอย่างนั้น  ใครมีข้อมูลยืนยันกันหน่อยก็ดี )    ที่เห็นกับตา คือ ที่ จ.อุทัยธานี  ปลูกกันเป็นพันไร่    ผมเองก็เคยให้เจ้าเพื่อนคนนี้มาดูที่ของผม แถบ อ.นาดี  ว่าจะปลูกยางกับเขาเหมือนกัน  แต่ปรากฏว่า แถบนั้นดินเหนียว ยามแล้งดินแข็งรากยางไชไม่คล่อง หน้าฝนน้ำท่วมอีก เลยพับโครงการไป

 Long term ไป ราคาไม้ยางอาจถูกลงก็ได้นะครับ  เพราะ ถ้ารีดยางแบบไม่ถนอมต้นอายุยางก็สั้นลง  บวกกับการเร่งปลูกยางอย่างถล่มทลายในช่วง3-4 ปีมานี้  น่าจะทำให้ต้นทุน VNG มีแนวโน้มลดลง

 อีกประเด็น  VNG เป็นประเภท ขุนเข่าไร้น้ำใจ  เพิ่มกำลังการผลิต  เล่น economy of Scale อัดผู้ประกอบการรายเล็ก  ไม่เหลือที่ว่างให้ยืนเลย  ตัดอุปทานไปได้อีก  

 อีกอย่างเกี่ยวกับไม้ยาง  คือ มันจะเจริญเติบโตได้ดีแถบร้อนชื้น แบบ บ้านเรา มาเลย์  อินโด นี่แหละ  เป็นข้อได้เปรียบในเรื่องการหาวัตถุดิบ  ซึ่งคู่แข่งต่างชาติ ก็น่าจะเป็นผู้ผลิตในภูมิภาคนี้แหละ  น่าจะพอฟัดกันไหวอยู่