หน้า 2 จากทั้งหมด 2

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 04, 2004 11:08 pm
โดย Jeng
ขอบคุณครับ ดูจากกราฟแล้วเห็นประวัติศาสตร์เลย

อืม ตอนดัชนี 1700 นี่ ทำไมวอลลุ่มน้อยจัง และตอนมันขึ้นนี่กราฟก็ชันมากเลย และตอนมันลง กราฟก็ชันเหมือนกัน

อิอิ

สุดยอด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 05, 2004 2:47 pm
โดย Teerasak
สุดยอดมากเลยครับภาพนี้ แต่ถ้ามีใครช่วยอธิบายได้ว่าปีไหนหุ้นมันตกหนักเพราะอะไร จะรู้สึกขอบพระคุณมาก เช่นปีไหนสงครามอิรัก ปีไหนพฤษภาทมิฬ ปีไหนIMF ปีไหนราชาเงินทุน จากกราฟทำให้ผมรู้สึกว่าแทบไม่มีเลยมั้งครับที่หุ้นจะขึ้นแรงๆติดต่อกันถึง 2 ปี

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 05, 2004 8:43 pm
โดย chatchai
1. ช่วงกลางปี 87 นั้นเกิด Black Monday ครับ

2. ช่วงกลางปี 90 ซัดดัมบกคเวตครับ

3. และก็ปี 94 ฟองสบ่ตลาดแตกครับ รวมกับ FED เริ่มขึ้นดอกเบี้ย

อีกช่วงก็หลังจากที่ห้นตกลงต่ำสดที่ 204 จด แล้วฟื้นตัวขึ้นอย่างแรงเกิน 500 จด แต่หลังจากนั้นก็ตกลงต่ำกว่า 300 จดอีกครั้ง

เพื่อนๆว่าวันที่ดัชนีขึ้นเกือบจะสงสดในแต่รอบใหญ่ๆ บรรยากาศในสันเหล่านั้นก็คงจะอดมไปด้วยข่าวดี แนวโน้มที่สดใสรออย่ข้างหน้าทกครั้งละครับ ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยกันไปเรื่อยๆ

เมื่อเร็วๆนี้ ผมยังจำได้เมื่อท่านทักษิณชนะการเลือกตั้ง ห้นขึ้นถล่มทลาย หลังจากมาตรการซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน ห้นธนาคารและบริษัทเงินทนวิ่งกันฝ่นตลบเลยครับ สดท้ายเป็นอย่างไรครับ คงต้องรบกวนเพื่นๆช่วย Post กราฟให้ดด้วยครับ

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2004 8:35 pm
โดย chatchai
ปีนี้ผ่านไป 4 เดือนแล้ว ความสดใสยังไม่เห็นวี่แววเลย บรรยากาศช่างแตกต่างกับช่วงปลายปีที่พอราคาห้นขึ้น ตลาดก็มีแต่ข่าวดี ถึงมีข่าวร้ายก็ไม่สนใจ สำหรับมือใหม่จำเหตการณ์ช่วงปลายปีถึงปัจจบันเป็นประสบการณ์ให้ดีครับ

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2004 11:49 pm
โดย +++
อิอิ ...

ประสบการณ์ อิอิ

หมู่นี้ มิน่า ไม่ค่อยมีมาโพส ว่า จะออกมาประกอบอาชีพเล่นหุ้นเลยง่ะ

ไม่รู้ว่า คุณผู้หญิง คนที่จบปริญญาโท คนนั้น ตอนนี้เป็นไงบ้างและ
หวังว่าคงยังไม่ออกจากงานนะ เป็นห่วงจัง.... :D :D

ตลาด ช่วงนี้ โหดร้าย และ เกี้ยวกาด จิงๆ อิอิ

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2004 11:51 pm
โดย Jeng
ผมว่า ยังน้อยเมื่อเที่ยบกับรุ่นพี่ๆที่เจอ 1800 ลงมา 200 นะครับ

:D :D :D

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 30, 2004 2:44 pm
โดย เพื่อนมายู
เรื่องที่น่ากลัวกว่าก็คือ หลังจากหุ้นตก 1700 ลงมา 1500 ผมช้อนหัก ลงต่อมาที่1200 ความรู้สึกตอนนั้นคือ มันจะลงได้อีกก็ให้รู้กันไป ชัอนหักอีกรอบ
ยังครับ ยังไม่พอ 700 น่าจะต่ำสุดแล้ว หักหมดทั้งช้อนทั้งซ่อมทั้งทับพี เลิกสนใจไปเลยครับ ปล่อยที่เหลือตามยถากรรม ใครจะไปนึกว่ามันจะลงได้ถึง200กว่าจุด
ในช่วงนั้นยอมรับจริงๆว่า มีความรู้ในการลงทุนน้อยมาก หาข้อมูลตามอินเตอร์เนตก็ยังไม่มี การกำเนิดแนวVI ก็ยังไม่แพร่หลายให้ผมได้ศึกษา ทุกครั้งที่ซื้อหุ้นเกิดจากความโลภแท้ๆ มองเปรียบเทียบแต่ราคาก่อนหุ้นตกว่าเคยสูงเท่าไหร่ ตอนนี้ต่ำกว่ามาก แล้วก็ซื้อเข้าไป
แต่โชคของผมก็คือ ช่วงนั้นผมไม่ค่อยมีกะตังมาก เลยเจ็บน้อยกว่าคนอื่นๆ และเรื่องที่ผ่านมาคือค่าเล่าเรียน ที่ให้ผมรู้ว่า สิ่งที่นึกไม่ถึงยังมีสิ่งที่นึกไม่ถึงกว่าอีก ต้องศึกษาให้ดี ตัดความโลภออกไปบ้าง.....พิมพ์ต่อไม่ไหวแล้วครับ....น้ำตามันซึมๆ..นึกถึงฟามหลัง....อิอิอิ

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 30, 2004 8:30 pm
โดย Solo
รอบที่ peakที่ 550 จุด แล้วดัชนี ก็ไหลลงสู่ 247 จุดโดยประมาณ ครับ

โปรดระวังความสูง ของหุ้นดี หลายหลายตัว ที่ยัง ลงไม่มาก นะครับ คนซื้อ ควรคิดให้ดีดีนะครับ

ตัวอย่าง หนึ่งตัว คือ grammy ที่ เริ่ม ไหลลง ตอนต่ำสุดสุด ก่อนแตกพาร์ แถว 70 กว่าบาท เดิม นะครับ หรือเท่ากับ 7 บาท ปัจจุบัน รอบนี้ peak แถว 23 บาท หายไป 9 บาทแล้วครับ

ขอให้ ระมัดระวัง ในการซื้อหุ้น ดี แต่งบจะเริ่มออกมาไม่ดี เมื่อ เจ้าของหรือรายใหญ่ ต้องการให้หุ้นลง ด้วยครับ

บรรยากาศช่วงนี้คล้ายตอน 1700 จดจังเลย

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 01, 2004 4:00 am
โดย วันพีส
อยากแสดงความคิดเห็นบ้างครับ

ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าบรรยากาศคล้ายตอน 1700 เป็นอย่างไร
เมื่อวันนั้นผมยังเรียนหนังสืออยู่ ไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นหรอกครับ ว่าต้องดูพื้นฐาน
ว่าต้องตัดขาดทุนออกไปบ้าง ว่าต้องรู้รอบเรื่องข่าวสารบ้านเมือง ฯลฯ

แต่ให้วันนี้ผมคิดย้อนกลับไป ลองนึกดูสมัยนั้นเปรียบเทียบกับสมัยนี้

ผมว่าปัจจุบันนี้ คล้ายๆ สมัยท่านนายกชาติชายตอนกำลังเริ่มๆ บริหาร
ประเทศ ประเทศก็กำลังพัฒนาขึ้นเป็นลำดับเพราะผู้นำประเทศ
เก่งในการบริหารเรื่องต่างๆ เช่น หมุนเงิน, การจัดการข่าวสารทุกอย่าง,
การมีแนวคิดเดินหน้าต่อไปในเรื่องต่างๆ ฯลฯ ทำให้ภาพรวมโดยเฉลี่ย
ต้องถือว่าดีมากกว่าเสีย

หากอยู่ต่อได้อีกสมัยหรือใครได้เป็นนายกคงเข้าสู่ช่วง รุ่งเรืองขาขึ้น
ต่อไปได้ โดยเริ่มได้รับอานิสงฆ์จาก งานที่ทำในวันนี้
คล้ายๆ ที่ นายกชวน ได้รับช่วงต่อมา

แต่ผมกำลังคิดถึงว่าผู้สานต่อเป็นนายกคนถัดไปซิครับ

หากได้คนที่บริหารไม่เก่ง แล้วนายกปัจจุบันก็เอาเงินอนาคต
มาหมุนเวียนในปัจจุบันตั้งเยอะแล้ววันข้างหน้านั้นจะเป็นอย่างไร
แนวคิดต่างๆ จะเป็นอย่างไร เสียเงินทองไปมากมาย
แล้วประเทศเรา คนไทยเรา จะได้อะไรกลับขึ้นมาบ้าง
เศรษฐกิจจะกลับสู่ขาลงหรือเปล่า ???

หากได้คนเก่งก็คงประครองประเทศให้รอดฝั่งต่อไปได้
ในกระแสเศรษฐกิจที่แข่งขันกันสูงอย่างโลกปัจจุบัน

แล้วจะไม่ให้ผมคิดอย่างข้างต้นได้อย่างไรครับ
การเมืองไทยเป็นเรื่องไม่แน่นอน
ระยะเวลานากยกแต่ละท่านที่อยู่ในตำแหน่ง
สมัยหนึ่งๆ กี่ปีก็ไม่แน่นอน

ช่วงรุ่งเรืองทางขาขึ้นของเศรษฐกิจไทย
หรือการประครองให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไป
ก็จะไม่แน่นอนไปด้วย เพราะขาดความต่อเนื่อง

หากนายกท่านนั้นในอนาคต
เห็นว่าบ้านเมืองกำลังจะแย่
เกิดทิ้งปัญหา ประชาชนคนไทย
ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร ???

ไม่รู้ว่าผมแสดงความคิดเห็นอย่างนี้
จะเกี่ยวกันไหมก็ไม่รู้ครับ

และต้องขอโทษครับที่แสดงความเห็นไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องหุ้นเลย