มีกระทู้น่าสนใจจากเว็บเพื่อนบ้านครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 16, 2007 12:33 pm
ขอบคุณครับ ขอให้ติดตามอ่านเรื่อย ๆ นะครับ
เรื่อง :ตั้งคำถามเพื่อมีคำตอบ..ให้เอสเอ็มอี
คอลัมน์ กำหนดจุดแกร่ง SMEs ไทย โดย ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์
เรื่องที่ดิฉันกำลังจะเขียนในฉบับนี้น่าจะสามารถนำไปใช้ได้ทั้งธุรกิจใหม่ และธุรกิจที่ ดำเนินกิจการอยู่ แต่ต้องทบทวนถึงแนวคิดในการทำงานใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการและความอยู่รอดของเอสเอ็มอี เนื่องจากการทำงานด้วยการ ตั้งคำถามมากมาย เพื่อค้นหาคำตอบนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ด้วย ตัวเอง ดิฉัน จึงขอช่วยตั้งคำถามและค้นหาคำตอบบางส่วนให้นะคะ
-โอกาสในการขายสินค้าและบริการ ผู้ประกอบการจะต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนที่จะลงมือทำงาน ว่าอะไรคือโอกาสที่ทำให้สินค้าและบริการขายออก อย่าลืมว่าการมีโอกาสที่ดีและรู้จักแสวงหาโอกาส คือสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในทุกๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะขายสินค้าและบริการอะไรก็ตาม หากมีโอกาสที่ดีย่อมหมายถึงช่องทางที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น กระแสความต้องการของผู้บริโภคที่เห็นความสำคัญของสุขภาพตนเอง ทำให้ธุรกิจสปามีโอกาสในการเติบโต และสินค้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพรก็มีโอกาส ในการขายตามไปด้วย
-ใครคือลูกค้า คำถามนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการผลิตสินค้าแต่ละประเภทจะต้องทราบว่าลูกค้าเป็นใคร เพื่อจะได้ทำงานได้ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มีสินค้าและบริการมากมายในตลาดที่ไม่มีความชัดเจนเรื่องกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ไม่สามารถขายได้ดีนัก ตัวอย่างเช่น หากต้องการเปิดร้านขายกาแฟ ก็จะต้องรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร เมื่อทราบว่าเขาและเธอเป็นใคร สิ่งที่ต้องรู้ตามมาก็คือ ลูกค้าอยู่ที่ไหน จะเห็นได้ว่ามีร้านกาแฟสดขนาดย่อม เปิดตามปั๊มน้ำมัน เพราะเขารู้ว่าลูกค้าคือกลุ่มคนขับรถและนักเดินทางที่ต้องการความกระชุ่มกระชวยจากการดื่มนั่นเอง
-เหตุผลหลักที่ต้องตัดสินใจซื้อ เมื่อรู้แล้วว่าลูกค้าเป็นใครยังไม่เพียงพอ เพราะนักลงทุนจะต้องทราบต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะต้องซื้อสินค้าและสนใจเข้ามาใช้บริการ เพื่อจะได้ผลิตสินค้าและวางแผนการทำงานให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของลูกค้า ได้อย่างเต็มที่ เช่น กาแฟจะขายได้เมื่อลูกค้าที่ขับรถหรือเดินทางแล้วรู้สึกว่าง่วง ใช่หรือไม่ ? ถ้าคำตอบว่าใช่ก็ต้องคิดต่ออีกว่า หากลูกค้าเหล่านั้นไม่ง่วงนอนล่ะ ทำอย่างไรสินค้าจึงจะ ขายได้ ?
-ราคาขายที่เหมาะสม มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ผิดพลาดในเรื่องการตั้งราคาขาย บางคนตั้งราคาสูงเกินไปจึงทำให้ขายไม่ได้ แล้วจะต้องขายราคาเท่าไหร่ ? คำถามนี้ผู้ประกอบการจะต้องทำการสำรวจถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อจะได้รู้ว่าลูกค้าพึงพอใจกับราคาขายหรือไม่ เนื่องจากสินค้าบางอย่างลูกค้าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องแพง เพราะส่วนใหญ่ต้องการซื้อสินค้าราคาถูกเท่านั้น เพราะที่ผ่านมามีทั้งสินค้าที่คุณภาพเหมาะสมกับราคา และสินค้า ที่ค้ากำไรเกินควร
-ศึกษาคู่แข่ง สำหรับธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงจะต้องมีการตั้งคำถามเสมอว่าคู่แข่ง เป็นใคร การทำความรู้จัก กับคู่แข่งจะช่วยให้นักลงทุนเรียนรู้ถึงทิศทางการทำงาน เพื่อสร้างความแตกต่าง หรือแม้แต่การคิดค้นและผลิตสินค้า ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ตัวอย่างเช่น การตั้งราคาขายก็จะต้องทราบว่าในจำนวนสินค้าประเภทเดียวกัน คู่แข่งแต่ละรายขายเท่าไหร่ การที่จะตั้งราคาขายเท่ากัน ต่ำกว่า หรือสูงกว่า ผู้ประกอบการจะต้องรู้ว่ามีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบอย่างไรบ้าง
-ช่องทางการขาย การค้นหาคำตอบว่าช่องทางการขายที่สำคัญอยู่ตรงไหน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของยอดขาย เนื่องจากช่องทางการขายคือสื่อที่สำคัญในการทำให้สินค้าและบริการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค หากธุรกิจใดไม่มี ความชัดเจนเรื่องดังกล่าว ก็อย่าหวังว่า จะอยู่รอดในสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงดังเช่นทุกวันนี้
นอกจากคำถามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ดิฉันขอย้ำว่ายังมีคำตอบอีกมากมายที่จะต้องเร่งค้นหา ซึ่งล้วนแต่เป็นวิธีในการสร้างแนวคิดของสินค้าให้มีจุดขาย ดังนั้น หากต้องการอยู่รอด อย่างยั่งยืนดิฉันขอเเนะนำว่าควรฝึกตั้งคำถามและค้นหาคำตอบกันได้แล้วค่ะ!
เรื่อง :ตั้งคำถามเพื่อมีคำตอบ..ให้เอสเอ็มอี
คอลัมน์ กำหนดจุดแกร่ง SMEs ไทย โดย ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์
เรื่องที่ดิฉันกำลังจะเขียนในฉบับนี้น่าจะสามารถนำไปใช้ได้ทั้งธุรกิจใหม่ และธุรกิจที่ ดำเนินกิจการอยู่ แต่ต้องทบทวนถึงแนวคิดในการทำงานใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการและความอยู่รอดของเอสเอ็มอี เนื่องจากการทำงานด้วยการ ตั้งคำถามมากมาย เพื่อค้นหาคำตอบนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ด้วย ตัวเอง ดิฉัน จึงขอช่วยตั้งคำถามและค้นหาคำตอบบางส่วนให้นะคะ
-โอกาสในการขายสินค้าและบริการ ผู้ประกอบการจะต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนที่จะลงมือทำงาน ว่าอะไรคือโอกาสที่ทำให้สินค้าและบริการขายออก อย่าลืมว่าการมีโอกาสที่ดีและรู้จักแสวงหาโอกาส คือสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในทุกๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะขายสินค้าและบริการอะไรก็ตาม หากมีโอกาสที่ดีย่อมหมายถึงช่องทางที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น กระแสความต้องการของผู้บริโภคที่เห็นความสำคัญของสุขภาพตนเอง ทำให้ธุรกิจสปามีโอกาสในการเติบโต และสินค้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพรก็มีโอกาส ในการขายตามไปด้วย
-ใครคือลูกค้า คำถามนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการผลิตสินค้าแต่ละประเภทจะต้องทราบว่าลูกค้าเป็นใคร เพื่อจะได้ทำงานได้ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มีสินค้าและบริการมากมายในตลาดที่ไม่มีความชัดเจนเรื่องกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ไม่สามารถขายได้ดีนัก ตัวอย่างเช่น หากต้องการเปิดร้านขายกาแฟ ก็จะต้องรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร เมื่อทราบว่าเขาและเธอเป็นใคร สิ่งที่ต้องรู้ตามมาก็คือ ลูกค้าอยู่ที่ไหน จะเห็นได้ว่ามีร้านกาแฟสดขนาดย่อม เปิดตามปั๊มน้ำมัน เพราะเขารู้ว่าลูกค้าคือกลุ่มคนขับรถและนักเดินทางที่ต้องการความกระชุ่มกระชวยจากการดื่มนั่นเอง
-เหตุผลหลักที่ต้องตัดสินใจซื้อ เมื่อรู้แล้วว่าลูกค้าเป็นใครยังไม่เพียงพอ เพราะนักลงทุนจะต้องทราบต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะต้องซื้อสินค้าและสนใจเข้ามาใช้บริการ เพื่อจะได้ผลิตสินค้าและวางแผนการทำงานให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของลูกค้า ได้อย่างเต็มที่ เช่น กาแฟจะขายได้เมื่อลูกค้าที่ขับรถหรือเดินทางแล้วรู้สึกว่าง่วง ใช่หรือไม่ ? ถ้าคำตอบว่าใช่ก็ต้องคิดต่ออีกว่า หากลูกค้าเหล่านั้นไม่ง่วงนอนล่ะ ทำอย่างไรสินค้าจึงจะ ขายได้ ?
-ราคาขายที่เหมาะสม มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ผิดพลาดในเรื่องการตั้งราคาขาย บางคนตั้งราคาสูงเกินไปจึงทำให้ขายไม่ได้ แล้วจะต้องขายราคาเท่าไหร่ ? คำถามนี้ผู้ประกอบการจะต้องทำการสำรวจถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อจะได้รู้ว่าลูกค้าพึงพอใจกับราคาขายหรือไม่ เนื่องจากสินค้าบางอย่างลูกค้าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องแพง เพราะส่วนใหญ่ต้องการซื้อสินค้าราคาถูกเท่านั้น เพราะที่ผ่านมามีทั้งสินค้าที่คุณภาพเหมาะสมกับราคา และสินค้า ที่ค้ากำไรเกินควร
-ศึกษาคู่แข่ง สำหรับธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงจะต้องมีการตั้งคำถามเสมอว่าคู่แข่ง เป็นใคร การทำความรู้จัก กับคู่แข่งจะช่วยให้นักลงทุนเรียนรู้ถึงทิศทางการทำงาน เพื่อสร้างความแตกต่าง หรือแม้แต่การคิดค้นและผลิตสินค้า ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ตัวอย่างเช่น การตั้งราคาขายก็จะต้องทราบว่าในจำนวนสินค้าประเภทเดียวกัน คู่แข่งแต่ละรายขายเท่าไหร่ การที่จะตั้งราคาขายเท่ากัน ต่ำกว่า หรือสูงกว่า ผู้ประกอบการจะต้องรู้ว่ามีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบอย่างไรบ้าง
-ช่องทางการขาย การค้นหาคำตอบว่าช่องทางการขายที่สำคัญอยู่ตรงไหน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของยอดขาย เนื่องจากช่องทางการขายคือสื่อที่สำคัญในการทำให้สินค้าและบริการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค หากธุรกิจใดไม่มี ความชัดเจนเรื่องดังกล่าว ก็อย่าหวังว่า จะอยู่รอดในสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงดังเช่นทุกวันนี้
นอกจากคำถามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ดิฉันขอย้ำว่ายังมีคำตอบอีกมากมายที่จะต้องเร่งค้นหา ซึ่งล้วนแต่เป็นวิธีในการสร้างแนวคิดของสินค้าให้มีจุดขาย ดังนั้น หากต้องการอยู่รอด อย่างยั่งยืนดิฉันขอเเนะนำว่าควรฝึกตั้งคำถามและค้นหาคำตอบกันได้แล้วค่ะ!