หน้า 2 จากทั้งหมด 4
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 8:30 am
โดย Viewtiful Investor
ปีนี้ผมก็โลภมากเหมือนกันครับ อยากได้มากกว่าปีที่แล้ว
เลยเล่นหุ้น Cylicle ซะเลย ตีหัวเข้าบ้านก็ทำมาแล้ว ขอบคุณที่เตือนสติครับ
จริงๆเก็งกำไรก็เหมือนเล่นการพนัน ถ้าไม่มากเกินไปก็เสียหายไม่มาก แต่ต้องระวังไม่ให้ถลำลึกครับ ซึ่งคนมักจะติดหล่มออกกันไม่ได้ซะที
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 9:10 am
โดย thawattt
คุณ bigshow
[quote] แล้วทำไมขาย cp 7-11 ล่ะคับ แปลกใจ เป็นผมต่อให้ซื้อตอน 8 บาท ก็ไม่ขายคับquote[quote]
ขออนุญาตคุณนริศ ตอบเบื้องต้นให้ก่อนนะครับ
คุณนริศเฉลยไว้ว่า
1. หุ้น Cp7-11 คุณนริศเล่นแบบการเก็งกำไร โดยการเก็งกำไรจากงบที่ว่า ไตรมาท4ทาง7-11จะไม่เอาบ.ย่อย(โลตัสเมืองจีน)มารวมในงบ ทำให้กำไรจะก้าวกระโดด แต่หลังจากประกาศงบยังคงยึดหลักรวมงบเหมือนเดิมผมก็ทยอยขาย และตั้งใจว่าเราควรหยุดการกระทำที่เป็นนักเก็งกำไรรายไตรมาทของปีนี้ไว้
2. การสร้างสนามรบของผมก็เปรียบเสมือนการสร้างขอบเขตของการเรียนรู้ จงเรียนรู้ธุรกิจที่เราจะลงทุนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จงอย่ามักง่ายในการลงทุน อันนี้หมายความว่า ตามวินัยการลงทุนของนริศ แต่เดิมจะลงทุนหุ้นตัวใด จะต้องศึกษาให้ทะลุให้มากที่สุด หากไม่เข้าใจตัวธุรกิจอย่างถ่องแท้ เหมือนไปรบ ไม่รู้เขารู้เรา ก็เป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง
ดังนั้น คุณนริศจึงตัดสินใจขายออกไปก่อน เพราะเป็นความเสี่ยงที่มาจากเบื้องต้นของการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรจากงบไตรมาสครับ เมื่อผลไม่ได้ออกมาตามนั้น ซื้อด้วยตรรกระอะไร เมื่อไม่เป็นไปตามตรรกระนั้น ก็ต้องขายออกไปเพื่อลดความเสี่ยงครับ
ในความเห็นของผมก็คือ คุณนริศก็ยังมีหลักคิดก็คือ ซื้อเพราะเหตุผลอะไร และถ้าจะขายก็เพราะเหตุผลอะไร อันนี้ผมคิดว่าเป็นหลักการบริหารความเสี่ยงที่ดีเหมือนกัน เพราะหลาย ๆ คนนั้น ตอนซื้อก็มีหลักคิดแบบหนึ่ง แต่พอ ๆ เวลาผ่านไป ก็อาจไม่ได้ทำตามหลักคิดตรงนี้ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงการลงทุนแบบไม่รู้ตัวครับ
ยังไงก็รอคุณนริศมาตอบด้วยนะครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 9:26 am
โดย ply33
ขอบคุณ พี่นริศ มากครับ
เป็นบทความเตือนใจ VI คนอื่นๆ รวมทั้งผมด้วยครับ
ในความคิดผมพี่เป็น "คนที่ยิ่งใหญ่" มากครับ
เพราะว่าน้อยคนนักที่จะนำอดีตมาเป็นบทเรียนของอนาคต
และยิ่งกว่าน้อยที่จะนำบทเรียนของเรามาเล่าสู่กันฟังเพื่อไม่ให้คนอื่นหลงทางแบบที่เราผ่านมา
น่านับถือคับ 8)
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 9:44 am
โดย HI.ผมเอง
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 10:27 am
โดย Groundhog
ขอบคุณเซียนนริศที่ให้คำแนะนำจากบทเรียนอันมีค่านี้ครับ บทเรียนนี้มีค่าสำหรับ vi มากกว่าเงินที่คุณเสียไปหลายเท่าครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 10:31 am
โดย itti_peak
ขอบคุณมากครับ สำหรับประสบการณ์
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:21 am
โดย alexx
ขอบคุณครับ เป็นบทความที่ดีมากๆ เพื่อเตือนสติทุกคน ตอนนี้ผมกำลังโลภมากกว่าความรู้ที่เรามี พอมาอ่านทำให้สติเรากลับมาอีกครั้งนึงครับ
ปล มอรอฟังภาค 4 ต่อครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:31 am
โดย naris
ขอตอบคำถามเรื่องเซเว่นนะครับ
อย่างที่คุณthawatttตอบนั่นโดนเลยครับ ขายเพราะผมเก็งกำไรงบว่าไม่รวมเอาโลตัสจีนมารวมงบ หรือถ้า7มีการขายโลตัสจีนไปผมก็จะซื้อลงทุนใน7เหมือนกัน คำตอบง่ายๆคือ เพราะผมหางบของโลตัสเมืองจีนมาดูไม่ได้ว่าขาดทุนจากสาเหตุใด มีทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง ถ้าผมตามหางบโลตัสเมืองจีนได้ทุกไตรมาทเมื่อไหร่ก็จะรู้มูลค่าของกิจการครับ
ส่วนมีคนถามว่าจะมีภาค4หรือเปล่า ก็น่าสนุกดีนะครับผมว่า ไว้เป็นโจทย์ไว้ในพี่ๆเพื่อนๆ ลองเติมเต็มความคิดตัวเองดูนะครับ ว่าใครใคร่จะชอบไปทางไหน และบทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เพราะผมว่าแนวทางการลงทุนต้องขึ้นกับนิสัยเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าใครคนอื่นทำแบบผมจะขาดทุนเช่นผม แต่คนอย่างผมเก็งกำไรเมื่อไหร่ใจมันเท่าปลาซิว แต่สำหรับบางท่าน จิตเขาแข็งพอ และมีหลักคิดอีกอย่าง เขาก็เหมาะกับแนวนั้น แต่ที่เขียนสิ่งที่ตนเองพลาดให้คนอื่นรับรู้ในเวบนี้ เป็นเพราะ เห็นเวบนี้มีดักแด้พันธุ์ทางเช่นผมอยู่พอสมควรครับ เผื่อซักวันพวกเราจะได้เป็นผีเสื้อVIเต็มตัวซักที:D
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:36 am
โดย metro
ขอบคุณมากๆครับสำหรับบทความดีๆ
ผมว่าประสพการณ์การลงทุนที่ประสพผลสำเร้จหาอ่านได้ไม่ยากนะครับ
แต่ประสพการณ์ที่ผิดพลาดนี่หาอ่านได้ยากครับ :D
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:37 am
โดย tt
เออ ผมก็เป็นเหมือนกันแฮะ ปีนี้เป็นปีที่ความคิดแตกซ่านมาก จนรู้สึกว่าปีนี้
ทำไมมันยากอย่างนี้ ตอนนี้ผมกลับมาเท่าตอนต้นปีแล้วก็เลยตั้งสติใหม่ด้วยการขายออกไปก่อนเหมือนกันเลย แล้วไปอ่านหนังสือก่อนดีกว่าเผื่อว่าสติสตังจะได้กลับมา
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 12:00 pm
โดย leksmile
ส่วนใหญ่อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้มันจะมาหลังจากที่เราได้กำไรมาเยอะๆ
เมื่อ 3-4 ปีก่อนผมก็เป็นเหมือนกัน
ให้กำลังใจพี่นริสครับ 8)
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 12:20 pm
โดย arica
:P :P :P :P
ตามอ่าน แนวคิดอยู่เสมอครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 12:29 pm
โดย ForrestGump
เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง
แต่ถ้าจะให้ย้ายไปห้องบทความ ผมคิดว่า ที่คุณนริศโพสต์ สามภาคแรก ถ้าสามารถย้ายขึ้นข้างบน ให้อยู่ติดกัน โดยไม่มีความเห็นคนอื่นแทรก น่าจะทำให้อ่านติดต่อกันง่ายกว่า ได้อรรถรสกว่าครับ
ไม่ทราบว่า webmaster สามารถทำได้หรือไม่ และเพื่อนๆ คิดว่า เหมาะสมหรือไม่ครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 12:36 pm
โดย beammy
แวะเข้ามาอ่านครับ
ขอบคุณพี่นริศครับ
...
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 1:06 pm
โดย nuy35
ขอบคุณ คุณนริศครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 1:50 pm
โดย opal
ผมว่าคุณนริศกล้ามากๆเลยที่กล้าเขียนสารภาพแบบนี้(ตอนขาดทุน)
ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่กล้าเขียนหรอกครับ(ผมก็ไม่กล้าเขียน)
นี่แสดงว่าคุณนริศน่าจะก้าวข้ามขั้นอะไรซักอย่าง
ผมอยากกล้าแบบนี้จังเลยครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 2:24 pm
โดย Linzhi
ขอบคุณมากครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 3:05 pm
โดย Saran
ขอบคุณที่คอยมาเตือนสติครับ :D
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 3:39 pm
โดย 007-s
ขอบคุณมากค่ะ เป็นกระทู้ที่ดี เป็นการแชร์ประสบการณ์ด้วยกัน แบบมีสาระ
อ้อ ขออนุญาติถามนอกเรื่องนิดนึงนะคะ
และไปอ่านเจอคนกล่าวอ้างคำพูดของหลวงพ่อจรัญว่าปี51เมืองไทยจะตกเป็นทาสของต่างชาติ
ใช่หลวงพ่อจรัญ ที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี "พระธรรมสิงหบุราจารย์"....ใช่หรือเปล่าคะ
ไม่ทราบใครพอจะมีข้อมูลคำทำนายไว้หรือไม่คะ
ขอบคุณค่ะ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 4:22 pm
โดย Golden Stock
ยังดีครับ ที่สามารถค้นพบข้อผิดพลาดของตัวเองได้เร็ว
ทำให้มีเวลาอีกเยอะในการแก้ตัวในปีนี้ ซึ่งยังเหลืออยู่อีกตั้ง 8 เดือนกว่า :D
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 10:25 pm
โดย SupachaiZ594
สุดยอดวิชาครับ
ขอปรบมือดัง ๆ ให้พี่นริสอีกคนครับกับสิ่งดี ๆ ที่มอบให้สมาชิกเสมอมา
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 10:32 pm
โดย miracle
ใจเย็นๆครับ
ดูแบบเอี้ยก้วยในมังกรหยกสองก็ได้ครับ
สู้กับราชครูหลายต่อหลายรอบ
กว่าจะชนะได้ ต้องใช้กระบี่อยู่ที่ใจ ถึงจะชนะได้ในตอนท้ายๆ
แสดงว่าอะไรครับ กว่าจะฝึกสำเร็จต้องผ่านอะไรมากมาย ไม่ใช่ว่าผ่านสิ่งเดียวแล้วจะไม่มีอุปสรรค หรือ อาจจะเจออุปสรรคเดียวกันหลายรอบก็ได้ครับ มาทดสอบครับ
ถ้าผ่านได้ถือว่าผ่านครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:04 pm
โดย boonprak
นับถือครับ
คุณนริศ ลูกผู้ชายกล้าเปิดอกพูด ขอให้กำลังใจครับ
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้นครับ อะไรๆ ก็มีพลาดกันได้ ผู้ประสบความสำเร็จผมว่าน้อยคนไม่เคยพบอุปสรรคครับ :D
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:21 pm
โดย Pupto
คุณ 007-s
ผมเคยอ่านเจอในหนังสือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ของ สุทัศสา อ่อนค้อม (ไม่รู้สะกดชื่อนามปากกาของท่านถูกมั้ย สุทัศสา หมายถึง พรหมชั้นสุทัศสา) ในเรื่อง ท่านอาจารย์เขียนบรรยายถึง พลวงพ่อ "เจริญ" แห่งวัดป่ามะม่วง ซึ่งคิดว่าท่านก็คงจะหมายถึง หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี นั่นแหละครับ ตอนผมอ่านจำได้ว่า เหตุการนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อผมอายุครบ 35 แต่ตอนนี้ผมเพิ่งอายุ 31 ผมไม่แน่ใจว่าจำถูกรึเปล่านะครับเพราะว่าอ่านหลายปีแล้ว
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:30 pm
โดย tanapol
ขอบคุณพี่นริศมากๆครับ
ผมขอยกมือสนับสนุนเรื่องการดูหมอด้วยคน
ศาสนาพุทธ มีแต่พระธรรมให้ศึกษานะคับ
แต่พุทธศาสนาส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้งมงาย
หมอดู ปลุกเสก แล้วก็จตุ...ราม.......
เมื่อก่อนเทพ(พระพรหม) ท่านลงมาอารธนา...กราบ...พระพุทธเจ้านะคับ
แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยน มากราบเทพ แทนที่จะกราบพระพุทธเจ้าและพระธรรม
โดนผู้สร้างเทพก็คือ คนธรรมดานี่เอง
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:31 pm
โดย Pupto
ส่วนข้อความในหนังสือนั้น ผมไม่มั่นใจว่าท่านอาจารย์เขียนไว้ว่า " ปี51เมืองไทยจะตกเป็นทาสของต่างชาติ " หรือไม่ เพราะอ่านนานแล้ว แต่จำได้ว่าเกี่ยวกับคนไทย ถ้าสนใจเนื้อความที่ถูกต้องคงต้องไปอ่าน ในหนังสือ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:51 pm
โดย Pupto
ในเนื้อความของเรื่อง ไม่ใช่การดูหมอครับ แต่เนื้อความนั้น ผู้เล่าจะเล่าในทำนองที่ว่าพระครู"เจริญ" สำเร็จอรหันต์ โดยมี เป็นอรหันต์ทีมี
" อภิญญา 6 "
1. อิทธิฤทธิญาณ มีความรู้ในการแสดงฤทธิ์ได้ต่าง ๆ
2. ทิพโสตญาณ มีความรู้เหมือนหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ รู้วาระจิตของคนและสัตว์
4. จุตูปปาตญาณ รู้ว่าสัตว์ที่ตายแล้วไปเกิด ณ ที่ใด
5. ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ ระลึกชาติหนหลังได้
6. อาสวักขยญาณ ทำอาสวะกิเลสให้สิ้นไป
ซึ่งการกำหนดรู้จากญาณครับ ไม่ได้เกิดจากการผูกดวง อันนี้อ่านตามหนังสือนะครับ จะถูกผิดประการใดไม่ทราบได้ เพราะผมยังไม่ได้บรรลุ แต่ประการใด
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 10, 2007 9:15 am
โดย 007-s
Pupto เขียน:คุณ 007-s
ผมเคยอ่านเจอในหนังสือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ของ สุทัศสา อ่อนค้อม (ไม่รู้สะกดชื่อนามปากกาของท่านถูกมั้ย สุทัศสา หมายถึง พรหมชั้นสุทัศสา) ในเรื่อง ท่านอาจารย์เขียนบรรยายถึง พลวงพ่อ "เจริญ" แห่งวัดป่ามะม่วง ซึ่งคิดว่าท่านก็คงจะหมายถึง หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี นั่นแหละครับ ตอนผมอ่านจำได้ว่า เหตุการนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อผมอายุครบ 35 แต่ตอนนี้ผมเพิ่งอายุ 31 ผมไม่แน่ใจว่าจำถูกรึเปล่านะครับเพราะว่าอ่านหลายปีแล้ว
ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ พี่ Pupto
ว่าแต่ งงๆจังค่ะ ทำไมถึง หลวงพ่อเจริญ ไปหมายถึง หลวงพ่อจรัญไปได้ล่ะคะ
หรือชื่อเดิมท่านชื่อเจริญคะ เอ สงสัยคงต้องไปหามาอ่าน
ที่สะดุดใจสงสัยนี่ไม่มีอะไรมากค่ะ เพียงแต่แค่เพิ่งจะกลับมาจากไปฝึกเรียนการปฏิบัติสมาธิมา ที่วัดหลวงพ่อจรัญนี่อ่ะค่ะ
แล้วก้ไม่สังเกตุเห็นว่าจะมีคำทำนายอะไรที่ว่าเลย(หรือดิฉันเดินดูไม่ทั่วก็ไม่ทราบได้)
แล้วก็ยังสงสัยต่อไปอีกว่า หลวงพ่อเนี่ย ท่านเป็นที่รู้จักโด่งดังมาจาก สายปฏิบัติภาวนาโดยเฉพาะ เลยงงว่าท่านนิยมด้านทำนายทายทัก(ชนิดผูกดวง)ด้วยหรือ ...แต่พี่ Pupto ก็ได้เฉลยไว้ย่อๆแล้ว
ในเนื้อความของเรื่อง ไม่ใช่การดูหมอครับ แต่เนื้อความนั้น ผู้เล่าจะเล่าในทำนองที่ว่าพระครู"เจริญ" สำเร็จอรหันต์ โดยมี เป็นอรหันต์ทีมี
" อภิญญา 6 "
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 10, 2007 9:53 am
โดย wj
นับถือครับ
คงเป็นบทเรียนให้กับคนที่ซื้อหุ้นตามคนดัง
ผมคิดว่าคนที่มั่นใจ ตอนซื้อ จะไม่บอกใครก่อน.. และตอนขาย คนที่ซื้่อตามก็ไม่รู้เช่นกัน
ผมได้ติดตามการโพสต์ cp7-11 ของคุณ นริสมาพอสมควร เลยคิดไปเองว่าคุณนริสยังถืออยู่
คำสารภาพ
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 10, 2007 11:26 am
โดย Pupto
คือ หนังสือเรื่องสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ที่ท่าน รศ. ดร. สุจิตรา รณรื่น (สุทัศสา อ่อนค้อม นามปากกา) แต่งนั้น เป็น"นิยายเชิงธรรมะ" ที่แต่งให้สนุก "อิงชีวประวัติ" ของหลวงพ่อจรัญครับ เพียงแต่ท่าน"อาจจะเติมแต่ง"เนื้อหาบางส่วนให้สนุกสนาน เพราะหนังสือธรรมะทั่วไปมันน่าเบื่อครับ เนื่องจากเนื้อหาไม่ใช่ชีวะประวัติล้วนๆมีสิ่งที่อาจเติมแต่ง จึงใช้ชื่อ "พระครูเจริญ" แทน หลวงพ่อจรัญครับผม
ในชุดหนังสือ ยังมีอีกหลายเรื่องนะครับ มี มักรีผล ,นารีผล ,ไฟไหนจะร้อนเล่าเท่าไฟนรก และอื่นๆ ผมจำไม่ได้แล้วครับตอนนี้อ่านมักรีผลอยู่ สนุกดีครับ แต่อ่านไม่จบซะที งานเยอะน่ะครับ แฮะแฮะ
ในเนื้อความเรื่องการทำนายนั้น หลวงพ่อจะพูดจริงหรือไม่ผมไม่ทราบครับ เอาไว้ ผมมีโอกาสไปกราบ รศ. ดร. สุจิตรา เมื่อไหร่จะลองถามดูครับ
จริงๆแล้วเพื่อนผมที่จบมาทางปรัชญา บอกว่าในศาสนาพุทธมี Gab ให้เราเลือกที่จะกระทำกรรมใหม่ครับ เพราะฉะนั้นอะไรที่มันอาจเกิดขึ้นในอนาคตถ้าเราช่วยกันทำกรรมดีก็อาจ จะผ่อนหนักเป็นเบา หรือ เบาให้กลายเป็น หายไปได้ครับ
ที่วัดไม่มีคำทำนายนั้น อาจเป็นเพราะ
1. หลวงพ่อท่านอาจไม่ได้พูดไว้ ท่านอ.อาจแต่งเนื้อความให้สนุกสนาน
ซึ่งความหมายในข้อความที่ว่า " ปี51เมืองไทยจะตกเป็นทาสของต่างชาติ " (ไม่แน่ใจว่าปีไหนนะครับ) ซึ่งก็ตีความได้หลายลักษณะ เช่น คนเลิกทานอาหารไทย ไปทานแต่ขนมปังหรืออาหารชาติอื่น อะไรแบบนี้ ก็ได้ครับ
ซึ่งท่าน " อ. อาจเขียนเพื่อเตือนใจ "
หรือ
2. หลวงพ่อท่านอาจกล่าวไว้ แต่ที่วัดอัมพวันเน้นปฏิบัติธรรม เจริญสติปัฏฐาน ที่วัดเลยไม่ได้เปอะเอาไว้ทำให้ผู้มารับการปฏิบัติไขว้เขว ระหว่าง การปฏิบัติธรรมกับคุณวิเศษของญาณครับ อีกทั้ง ผู้เขียนก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ มาตั้งแต่วัดยังไม่ดังครับ อาจได้รับฟังมาบ้างเรื่องราวมาเยอะครับ
พูดก็พูดนะครับ ผมเคยไปที่วัดเวลา เรามีปัญหาอะไร อธิฐานในใจถึงหลวงพ่อ ท่านตอบมาเด๋วนั้นเลยครับ โดยเรายังไม่ได้ออกเสียงเลย เจอมาบ่อยครับ
เอ่อ......... ต้องขอโทษพี่นริศด้วยนะครับทำให้กระทู้กลายเป็นกระทู้ธรรมะซะแล้ว
ผมมีโอกาสได้ไปงาน oppday ของ 7-11 ที่ผ่านมาเค้าบอกว่าแรกๆ 7-11 ก็ขาดทุนเหมือนโลตัสในจีน ซึ่งเค้าก็คาดหวังว่าโลตัสในจีนจะกลับมาทำกำไรได้เหมือนกรณี 7-11 ในไทย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับความต้องการของคนท้องถิ่นอยู่ครับ และ ถ้าโลตัสต้องการความช่วยเหลือก็คงอยู่ในวงเงินจำกัดที่ได้กล่าวไว้ก่อนแล้ว จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ซึ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้ช่วยโลตัสเลย แต่ส่งจ.ม.ไปช่วย เท่านั้น ไม่แน่ใจว่าจม.แนะนำกะทางธนาคารรึเปล่า แต่ไม่ใช่ค้ำประกันครับ
ส่วนตัวแล้วผมว่า มันเป็นกรณีที่วิเคราะห์ยาก เพราะโลตัส มันอยู่ตั้งจีนจะเดินไปดูบ่อยๆก็ไม่ได้ และการทำธุรกิจในจีนเท่าที่เคยฟังๆมาไม่หมูครับ แต่ธรุกิจค้าปลีกถ้าจับจุดได้ถูกก็รวยเละแน่นอนครับ คงต้องคอยตามดูงบไปเรื่อย ตัวเลขดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อไหร่ คงจะเข้าซื้อเต็มที่ครับ แต่ถ้าไม่ดีก็คงดูๆอยู่แบบนี้